Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วย ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก, image, image, image, image, image,…
การพยาบาลผู้ป่วย
ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
ภาวะแทรกซ้อนในระยะ 2-3 วันแรก
การติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นหลังจากมีบาดแผล 2-3 วันไปแล้ว (หรือหลัง 1 สัปดาห์ถ้าบาดแผลมีขนาดกว้างก็จะมีโอกาสติดเชื้อรุนแรง และโดยทั่วไป ถือว่าบาดแผล)ระดับที่ 2 ที่มีขนาดมากกว่า 30% และบาดแผลระดับที่ 3 ที่มีขนาดมากกว่า 10%ถือเป็นบาดแผลรุนแรง รักษาได้ยากและผู้ป่วยมักมีอัตราการเสียชีวิตสูง
ภาวะขาดน้ าและช็อก ถ้าผู้ป่วยมีบาดแผลกว้าง แพทย์จะให้สารน้ำ ได้แก่ ริงเกอร์แลกเตท (Ringer's lactate)
การประเมินความกว้างขนาดของแผล (Burn size)
การคำนวณ Burn size จะไม่ใช่ Frist degree burn ในการประมาณค่าด้วย เนื่องจาก ไม่มีผลต่อ Capillary leakage
การประเมิน Burn size จะใช้ Rule of nine โดยแต่ละ Upper limb และศรีษะคิดเป็น 9% TBSA ส าหรับ Lower limb แต่ละข้าง ด้านหน้าด้านหลังของลำตัว คิดเป็น 18 % ส่วน Perineum และ Genitalia คิดเป็น 1% Total body surface area
การประเมินความลึกของแผล
(Degree of burn assessment)
ระดับที่ 2
ชนิดลึก (Deep partial-thickness burns)จะไม่ค่อยมีตุ่มพอง แผลเป็นสีเหลืองขาว แห้ง และไม่ค่อยปวดบาดแผลชนิดนี้มีโอกาสท าให้เกิดแผลเป็นได้แต่ไม่มาก ถ้าไม่มีบาดแผลชนิดนี้มีโอกาสทำให้เกิดแผลเป็นได้แต่ไม่มาก ถ้าไม่มี
ชนิดตื้น (Superficial partialthickness burns) บาดแผลที่มีการทำลายของหนังกำพร้าทั้งชั้นผิวนอก (Dermis) และชั้นในสุด (Epidermis)และหนังแท้ส่วนที่อยู่ตื้น ๆ (Superficial dermis) ใต้หนังกำพร้า
ระดับที่ 3 (Third degree burn) บาดแผลที่มีการทำลายของหนังกำพร้าและหนังแท้ทั้งหมด รวมทั้งต่อมเหงื่อ รูขุมขน และเซลล์ประสาท และอาจกินลึกจนถึงชั้นกล้ามเนื้อหรือ กระดูก ผู้ป่วยจึงมักไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดที่บาดแผลเนื่องจากเส้นประสาทที่อยู่บริเวณหนังแท้ถูกทำลายไปหมดมักเกิดจากไฟไหม้ หรือถูกของร้อนนาน ๆ หรือถูกไฟฟ้าช็อต ถือเป็นบาดแผลที่ร้ายแรง เพราะอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำและติดเชื้อรุนแรงได
ระดับที่ 1 (First degree burn)
บาดแผลที่มีการทำลายของเซลล์หนังกำพร้าชั้นผิวนอก (Dermis) เท่านั้น หนังบาดแผลที่มีการทำลายของเซลล์หนังกำพร้าชั้นผิวนอก (Dermis) เท่านั้น หนังและสนิท และไม่ทำให้เกิดแผลเป็นยกเว้นในรายที่มีการติดเชื้ออักเสบ
การรักษาแผลระดับที่ 1 และระดับที่ 2
ล้างด้วย 0.9% NSS
เจลว่านหาง
1% ซิลเวอร์ซัลฟาไดอะซีน (Silver sulfadiazine)เพราะมีฤทธิ์ครอบคลุมเชื้อแบคทีเรีย
ใช้เจนตามัยซินครีม (Gentamicin cream) ถ้าเป็นเชื้อแบคทีเรียแกรมลบ
ใช้ฟูซิดินครีม (Fucidin cream) ถ้าเป็นเชื้อแบคทีเรียแกรมบวก
ACTICOAT, AQUACEL® Ag, Askina® Calgitrol® Ag, Mepitel®, Urgotul® SSD
Burn wound dressing product
โพวิโดน-ไอโอดีน (Povidone-iodine) หรือทิงเจอร์เมอไทโอเลต (Merthiolate)
อาการ
บาดแผลระดับที่ 2 ชนิดตื้น (Superficial partialthickness burns)
รู้สึกปวดแสบปวดร้อนมาก
มีลักษณะแดง และ พุพองเป็นตุ่มน้ำใสขนาดเล็กและใหญ่ิวหนังอาจหลุดลอกออกเห็นเป็นเนื้อสีชมพูหรือสีแดง ๆ มีน้ าเหลืองซึม
บาดแผลระดับที่ 2 ชนิดลึก (Deep partial-thickness burns)
ไม่ค่อยปวดแผล
ระดับที่ 1 (First degree burn)
แดงบวมเล็กน้อย และมีความรู้สึกปวดแสบปวดร้อน
Red Dry Painful Blanch
ระดับที่ 3 (Third degree burn)
มักไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดที่บาดแผล
อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ
การพยาบาล
ตรวจปัสสาวะและจดบันทึกทุกชั่วโมงถ้าจำนวนปัสสาวะออกน้อยกว่า 30 มิลลิลิตรต่อชั่วโมงและความถ่วงจำเพาะของปัสสาวะมากกว่า 1.025รายงานแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาต่อไป
จดบันทึกสัญญาณชีพทุก 1 ชั่วโมง ใน 4 ชั่วโมงแรก และทุก 2ชั่วโมงใน 8 ชั่โมงต่อมาเพื่อประเมินระบบการไหลเวียน โลหิตถ้าชีพจรมีอัตราการเต้นเร็วมากกว่า 120 ครั้งต่อนาที ความดันโลหิต ต่ำกว่า 90/50 มิลลิเมตรปรอทร้ายงานแพทย์ให้ทราบอาการเปลี่ยนแปลง
ติดตามผลปริมาณเม็คเลือดแดงอัดแน่นและอิเล็กโทรไลต์เพื่อประเมินภาวะการขาดสมดุลของสารน้ำหรือขาดสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ในร่างกายเป็นระยะอย่าต่อเนื่อง
ดูแลให้สารน้ำทดแทนทางหลอดเลือดคำ
บันทึกจำนวนน้ำเข้าสู่ร่างกายและน้ำที่ขับออกจากร่างกาย เพื่อติดตามภาวะน้ำเกิน
ประเมินภาวะร่างกายขาดน้ำ ได้แก่ ระดับความรู้สึกตัวลดลง กระสับกระส่าย ริมฝีปากแห้ง
การประคับประคองด้านจิตใจ เพื่อลดความวิตกกังวลของผู้ป่วยและญาติ
การสร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วยและญาติตั้งแต่ แรกรับ ให้เกิดความไว้วางใจ
ให้ข้อมูลการดูแลรักษา การพยาบาลและระยะเวลาการหายของแผล โดยประมาณ
กาารักษาแผลระดับที่ 2
การให้ยาแก้ปวด มอร์ฟีน
ปิดแผลด้วย Biologic dressing แล้วใช้ผ้าก๊อซหลาย ๆ ชั้น
ยาลดการอักเสบ (NSAIDs)
ยาปฏิชีวนะที่มีทั้งชนิดกินและทา