Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลผู้ป่วย ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมประเทศสิงคโปร์ กลุ่ม 2 -…
การดูแลผู้ป่วย
ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมประเทศสิงคโปร์ กลุ่ม 2
ภาพรวม
ถิ่นก าเนิด
ในพ.ศ.2434 เซอร์ สแตมฟอร์ด ราฟเฟิ ลส์(Sir Stamford
Raffles) ตัวแทนของบริษัทบริติชอินเดีย
ตะวันออก (The British East India Company) เดินทางมาตกลงการค้ากับสุลต่านผู้ปกครองสิงคโปร โดยมีการลงนามท าข้อตกลง
เพื่อใหส้ิทธิ์แกอ่ งักฤษในการกอ่ ตงั้ สถานกีารคา้ที่สิงคโปร์และ
จัดตั้งเป็ นท่าเรือปลอดภาษ๊
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สิงคโปร์ตกเป็ นเมืองขึ้นของ
ญี่ปุ่ นแต่หลังจากสิ้นสุดสงครามสิงคโปร์ก็กลายเป็ นเมืองขึ้นของอังกฤษอีกครั้ง
ในพ.ศ.2054 สิงคโปร์ตกเป็ นเมืองขึ้นของโปรตุเกส
ในพ.ศ.2506 สิงคโปร์ได้รับเอกราชจากอังกฤษและเข้า
เป็ นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐมลายา หรือมาเลเซีย
ในศตวรรษที่ 13 เจ้าชายแสง นิลา อุตามา (Sang Nila Utama)
แห่งปาเลมบัง (Palembang) (นครพระราชอาณาจักรศรีวิชัยประเทศอินโดนีเซีย) เดินทางออกมาแสวงหาสถานที่ส าหรับสร้างเมืองใหม่ และได้สร้างเมืองขึ้นที่บริเวณเกาะเทมาเส็กและเปลี่ยนชื่อเป็ น สิงหปุระ (Singapura)
ในพ.ศ.2508 สิงคโปร์แยกตัวออกจากมาเลเซีย และ
ประกาศตัวเป็ นเอกราช ตั้งแต่นั้นมาสิงคโปร์ก็พยายาม
พัฒนาและปรับปรุงประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าและ
ประชากรมีมาตรฐานคุณภาพชีวิตที่สูงสุด
นศตวรรษที่ 3 ของประวัติศาสตร์จีนมีการกล่าวถึงสิงคโปร์
เป็ นครั้งแรก ในชื่อของ โปหลัวชาง
(Pu-Luo-Chung) ที่หมายถึงปลายสุดของคาบสมุทรเดิมสิงคโปร์เป็ นที่รู้จักกันในชื่อว่า เทมาเส็ก (Temasek) หรือ ทูมาสิก (Tumasik)
มีกษัตริย์เป็ นผู้ปกครอง
ลักษณะทางภูมิศาสตร์
สิงคโปร์เป็ นนครรัฐที่ตั้งอยู่บนเกาะ มีพื้นที่ทั้งหมด
ประมาณ 697 ตารางกิโลเมตร(มีขนาดเท่ากับ
เกาะภูเก็ตของไทย)) โดยจะเป็ นเกาะใหญ่หนึ่งเกาะ
(เกาะสิงคโปร์) และเกาะเล็กๆ อีกมากกว่า 60 เกาะ
ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของคาบสมุทรมลายู ทางทิศเหนือ
ติดกับช่องแคบยะโฮร์ทิศใต้ติดกับช่องแคบสิงคโปร์
ทิศตะวันออกติดกับทะเลจีนใต้ และทิศตะวันตกติด
กับช่องแคบมะละกา
ภูมิประเทศ
ในภาคตะวันตกและภาคกลางของประเทศจะ
เป็ นเนินเขาโดยภาคกลางจะมีเนินเขาที่เป็นต้น
ก าเนิดของแม่น ้าทส าคัญของสิงคโปร์ พื้นที่
บริเวณชายฝั่งของสิงคโปร์จะมีลักษณะ
เว้าแหว่งเหมาะที่จะเป็ นท่าเรือ
ภูมิอากาศ
สิงคโปร์อยู่ในเขตอากาศร้อนชื้นและมีฝนตกชุก
ประเทศนี้มีอุณหภูมิคงที่ ไม่มีการแบ่งแยกฤดูกาลที่
ชัดเจน ในช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม จัดเป็น
เดือนที่ร้อนที่สุด และในช่วงเดือนพฤศจิกายน–
มกราคมจะเป็ นช่วงมรสุม
สิทธิมนุษยชน
สิทธิมนุษยชนในสิงคโปร์ถูกจ ากัดอย่างมาก
ทั้งในการควบคุมสื่อและกฎหมายที่เข้มงวด
สถานการณ์เศรษฐกิจ
แต่มีฐานะทางเศรษฐกิจดี เพราะสิงคโปร์
พัฒนาเศรษฐกิจด้านการค้าโดยเป็น
ประเทศพ่อค้าคนกลางในการขายสินค้าเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าปลอดภาษี
สิงคโปร์มีประชากรน้อยจึงต้องพึ่งพา
แรงงานจากต่างชาติในทุกระดับ
สิงคโปร์เป็นประเทศที่เล็กที่สุดประเทศ
หนึ่งในโลก ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติมาก
เหมือนประเทศอื่น
สิงค์โปร์เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วประเทศ
เดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมี
ฐานะทางเศรษฐกิจและการเงินที่มั่งคั่งที่สุดประเทศนึงในโลก
วัฒนธรรม
วัฒนธรรมของสิงคโปร์ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงหลายปี วัฒนธรรมร่วมสมัยร่วมสมัยประกอบด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมเอเชียและยุโรปโดยส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากมาเลย์เอเชียใต้เอเชียตะวันออกและยูเรเชีย สิงคโปร์ได้รับการขนานนามว่าเป็ นประเทศที่ “ตะวันออกพบตะวันตก” “ประตูสู่เอเชีย” และ “เมืองแห่งสวน” และที่ส าคัญวัฒนธรรมพื้นเมืองของสิงคโปร์มีต้นก าเนิดมาจากชาวออสโตรนีเซียนที่เดินทางมาจากเกาะไต้หวันโดยตั้งถิ่นฐานระหว่าง 1,500 ถึง 1,000 ก่อนคริสต์ศักราช จากนั้นได้รับอิทธิพลในช่วงยุคกลางโดยส่วนใหญ่มาจากราชวงศ์ของจีนหลายราชวงศ์เช่นราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงรวมถึงประเทศอื่นๆ ในเอเชียเช่นอาณาจักรมาจาปาหิตผู้ส าเร็จราชการแทนพระองค์โทคุงาวะและอาณาจักรริวกิว ในประวัติศาสตร์ร่วมสมัยอันใกล้หลังจากที่อังกฤษเข้ามาสิงคโปร์ก็ได้รับอิทธิพลจากประเทศตะวันตกเช่นกัน อิทธิพลซ ้าๆ การดูดซึมและการเลือกในรูปแบบต่าง ๆ ได้
เพิ่มการพัฒนาวัฒนธรรมที่แตกต่างและเป็ นเอกลักษณ
การเมืองปกครอง
ในฐานะที่เป็ นอาณานิคมแบบเอกเทศนั้น สิงคโปร์มีอ านาจ
ปกครองกิจการภายในของตนเองแต่ไม่มีอ านาจดูแลกิจการ
ทหารและการต่างประเทศ และยังมีผู้ว่าราชการจากส่วนกลาง
มาปกครองอยู่ ในสภานิติบัญญัต(Legislative Council) และ
ระบอบการปกครองของสิงคโปร คือ ระบอบประชาธิปไตย มี
ประธานาธิบดีเป็ นประมุข
การสื่อสาร
โดยมีภาษาอังกฤษเป็ นภาษาหลักในการติดต่อธุรกิจ เป็ นภาษากลางในการสื่อสารระหว่างคนต่างเชื้อชาติและเป็ นภาษาหลักที่ใช้ในโรงเรียน โดยเป็ นภาษาแรกที่สอนในโรงเรียนสิงคโปร์ตั้งแต่ พ.ศ. 2530 ประชากรส่วนใหญ่ของสิงคโปร์พูดได้ 2 ภาษา เพราะรัฐบาลเล็งเห็นความส าคัญภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็ นภาษาสากล และ
ภาษาแม่ของประชากรแต่ละเชื้อชาติติดังนั้นคนสิงคโปร์เชื้อสายจีนจึงพูดได้ทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ ชาวมาเลย์็เรียนรู้ภาษาคู่ไปกับภาษามลายู เช่นเดียวกับชาวอินเดียซึ่งประเทศสิงคโปร
จะใช้ท่าทางประกอบการทักทายเป็ นแบบจับมือกันเบาๆ
รัฐบาลก าหนดให้ภาษาราชการมี4 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ จีนกลาง มลายูและทมิฬ
เนื่องจากประชากรชาวสิงคโปร์มีหลายเชื้อชาติ ความหลากหลายทางภาษาจึงมีมากตามไปด้วย
บทบาทและสถาบันครอบครัว
คนสิงคโปร์ชอบด าเนินชีวิตอยู่ในระเบียบกฎเกณฑ์ชอบความเป็ นระบบและเป็ นประเทศที่ต้องการประชากรที่มีคุณภาพเยอะจึงมีการรณรงค์การมีบุตร ซึ่งบทบาทการเลี้ยงดูของพ่อแม่ค่อนข้างเป็ นระบบและขั้นตอนเพื่อให้บุตรของตนเองเป็ นประชากรที่มีคุณภาพท าให้ส่วนมากครอบครัวในสิงคโปร์จะจัดแจงวางแผนการด าเนินชีวิตของบุตรตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งจะค่อนข้างเน้นด้านการศึกษาเป็ นส่วนใหญ่จึงท าให้ประเทศสิงคโปร์ขึ้นชื่อด้านการศึกษาว่ามีคุณภาพสูงแห่งหนึ่งของโลก เพราะความเชื่อที่ว่าประชากรของตนคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในประเทศ
พฤติกรรมเสี่ยง
สำหรับปัญหาสุขภาพของผู้ใหญ่อายุ 18-69 ปีคือ ภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน โคเรสเตอรอ
ลสูง อ้วนเนื่องจากสภาพความเป็ นอยู
การไม่มีเวลาออกก าลังกาย และอาหารการกินประเทศสิงคโปร์จึงพบกับปัญหาโรคอ้วนเป็ นส่วนมาก
ประชากรของประเทศสิงโปร์มีอายุเฉลี่ยใน
ผู้ชาย 80.7 ปี ผู้หญิง 85.2 ปี
ปัญหาการสูบบุหรี่แต่ก็สามารถควบคุมสถานะการไว้ได้เพราะมีกฎหมายควบคุมการสูบบุหรี่ที่เข้มงวดที่สุดในโลก และการสูบบุหรี่ในทสาธารณะส่วนมากก็เป็ นเรื่องผิดกฎหมายอีกด้วยซึ่งโทษปรับอาจสูงสุดถึง 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์(ราว 24,000 บาท) หากถูกจับได้ ขณะที่บุหรี่ไฟฟ้ านั้นถูกสั่งห้ามใช้อย่างสิ้นเชิง
นิเวศวิทยาทางชีววัฒนธรรม
สิงคโปร์เปลี่ยนเมืองให้เป็ นสีเขียวเริ่มต้นเมื่อปี 1965
การพัฒนาที่คุณภาพชีวิตของคนเชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อม ‘เมืองในสวน’ หรือ A City in a Garden
คือสิ่งที่การปลูกต้นไม้ทุกพื้นที่ในสิงคโปร์
โดยมีความเชื่อว่าเมืองที่มีภูมิทัศน์เสื่อมโทรมและป่ า
คอนกรีตท าลายจิตวิญญาณของมนุษย์ มนุษย์ต้องการพื้นที่สีเขียวของธรรมชาติเพื่อยกระดับจิตวิญญาณ
สิงคโปร์ได้เป็ นเมืองที่ทั้งมีสิ่งแวดล้อมระบบดีนิเวศเป็ นอันดับต้นๆของโลก โดยมีวัฒนธรรมการพัฒนากับการ
รักษาต้นไม้ใหญ่ คือสิ่งที่ด าเนินไปด้วยกันได
การตั้งครรภ์และการคลอดบุตร
นโยบายให้เงินช่วยเหลือการตั้งครรภ์และการเลี้ยงดูบุตรึ่งเป็ นไปตามกฎหมาย The Children Development Co-Savings Actก าหนดให้รัฐบาล
จ่ายเงินช่วยเหลือการตั้งครรภ์และการเลี้ยงดูบุตรเป็ นระยะเวลา 12 สัปดาห์ แต่ไม่
เกิน 30,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อการคลอดบุตร 1 คน
การให้เงินอุดหนุนค่าธรรมเนียมการฝากลูกในสถานเลี้ยงเด็กหรือInfant Care
Subsidy ซึ่งเป็ นเงินช่วยเหลือพ่อแม่ในการเลี้ยงดูบุตรตั้งแต่ 2 เดือน ถึง 7 ปี ทั้งที่
ท างานและไม่มีงานท า
นโยบาย Working Mother’s Child Relief เป็ นนโยบายที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้หญิงที่มีบุตรในตลาดแรงงานให้สิทธิลดหย่อนภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้มีบุตร
พิธีกรรมเกี่ยวกับความตาย
การเข้าร่วมงานศพการจัดงานศพในสิงคโปร์
ส่วนมากนิยมจัดงานศพกันใต้แฟลตเนื่องจากสาธารณรัฐ
สิงคโปร์เป็ นประเทศที่ไม่มีพื้นที่ที่มากนักและชาวสิงคโปร์ส่วน
ใหญ่จะอยู่แฟลตอีกทั้งวัดก็ไม่มีมากด้วยเช่นกัน
จิตวิญญาณ
เทศกาลวิสาขบูชา เป็ นวันส าคัญทางพระพุทธศาสนา
เทศกาล Hari Raya Puasa เป็ นเทศกาลส าคัญของชาวสิงคโปร์เชื้อสายมุสลิมจัดขึ้นในเดือนตุลาคม (เดือน 10)ของทุกปี ตามปฏิทินอิสลาม โดยที่ช่วงเช้าชาวมุสลิมจะพร้อมใจกันเข้าสุเหร่าเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา)
เทศกาล Good Friday ของชาวคริสต์ในช่วงประมาณเดือนเมษายนจะมีการจัดขึ้นเพื่อระลึกถึงการสละชีวิตของพระเยซูบนไม้กางเขน
Animessime เทศกาลเลี้ยงผี เกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงสุดปลายแหลมอย่างสิงคโปร์ซึ่งถูกใช้เป็ นศูนย์กลางทางธุรกิจมากมายและเต็มไปด้วยความทันสมัยในทุกด้านจนได้รับสมญานามว่า “เสือแห่งเอเชีย”แห่งนี้ใครจะคิดว่าท่ามกลางความเจริญเหล่านั้นความเชื่อในเรื่องผีสางเทวดายังคงฝังลึกอยู่ในสังคม
เทศกาลตรุษจีนเป็ นเทศกาลหนึ่งที่ส าคัญของคนสิงคโปร์ ด้วยประชากรส่วนใหญ่ของประเทศมีเชื้อสายจีนถือว่าเป็ นเทศกาลที่มีวันยุดยาวเทศกาลหนึ่ง โดยส่วยใหญ่ผู้คนจะหยุดงานกันเกือบหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งคล้ายคลึงกับบ้านเราที่มีวันหยุดยาวในช่างเทศกาลสงกรานต ในช่วงเทศกาลตรุษจีน คนสิงคโปร์เชื้อสายจีนจะนิยมซื้อเสื้อผ้าใหม่ ตัดผมใหมท าความสะอาดบ้านให้เอี่ยมอ่อง ด้วย
ความเชื่อที่ว่า จะขจัดสิ่งเลวร้ายออกไป และต้อนรับสิ่งดีๆและโชคด
ปฏิบัติการด้านการดูแลสุขภาพ
สถานบริการที่ดูแลผู้ป่ วยที่ต้องดูแลเป็ นระยะเวลานาน (Long term care) ประกอบด้วยรพ.ชุมชน รพ.ที่
ดูแลผู้ป่ วยเรื้อรัง สถานพยาบาล (Nursing home) และสถานดูแลแบบไปกลับ (Day care)
สถานบริการด้านทันตกรรม (Dental clinics)
ระบบบริการขั้น Secondary and Tertiary Care มีโรงพยาบาล ประกอบด้วยโรงพยาบาลทั่วไป 6 แห่งรพ.
ด้านผู้หญิงและเด็ก 1 แห่ง รพ.จิตเวช 1 แห่ง และศูนย์ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง 1 แห่ง
ระบบบริการปฐมภูมิ (Primary Health Care) ประกอบด้วย Polyclinic และ General Practitioner Clinic เป็ นสถานบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิของประเทศสิงคโปร์ ประชาชนส่วนใหญ่จะมารับบริการที่นี่ก่อน มี เครือข่ายกระจายทั่วประเทศ ให้บริการตรวจรักษาผู้รับบริการในทุกช่วงวัย ตรวจรักษาทั้งภาวะฉุกเฉินจัดการโรค เรื้อรัง ส่งเสริมสุขภาพในชุมชน และเป็ นผู้ประสานการดูแลผู้ป่ วยกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
บุคลากรด้านสุขภาพ
Medshield เป็ นระบบประกันสุขภาพสมัครใจที่ครอบคลุมโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงโดยจะสามารถหักเงินจากบัญชีออมเพื่อสุขภาพมาซื้อประกันในส่วนนี้ได้
Medi fund เป็ นระบบสังคมสงเคราะห์ของรัฐบาลในกรณีที่ประชาชนไม่มีเงินพอซึ่งเมื่อเจ็บป่ วยประชาชนก็จะน าเงินมาจ่ายให้กับโรงพยาบาล
Medisave หรือการใช้บัญชีออมสุขภาพ ซึ่งเป็ นภาคบังคับที่ประชาชนใช้เงิน
ออมในบัญชีของตนเอง
โภชนาการ
ิทธิพลทางวัฒนธรรมที่สิงคโปร์ได้รับหลังจากการก่อตั้ง
ประเทศขึ้นคือวัฒนธรรมของจีนอาหารก็เป็ นส่วนหนึ่งใน
วัฒนธรรมนี้ด้วยเช่น หมูสะเต๊ะ ข้าวมันไก่ ขนมจีบ เป็นต้นลักซา (Laksa) อาหารขึ้นชื่อของประเทศสิงคโปร์ ลักซามี
ลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยวต้มย าใส่กะทิ ท าให้รสชาติเข้มข้น
คล้ายคลึงกับข้าวซอยของไทย โดยลักซาจะมีส่วนผสมของ กุ้งแห้ง พริก กุ้งต้ม และหอยแครง เหมาะส าหรับคนที่ชอบ
รับประทานอาหารทะเลเป็ นอย่างยิ่งอย่างไรก็ตาม ลักซามีทั้ง
แบบที่ใส่กะทิ และไม่ใส่กะทิ ทว่าแบบที่ใส่กะทิจะเป็ นที่นิยม
มากกว่า