Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วิวัฒนาการของแนวคิดและทฤษฎีการบริหาร, นางสาวศศิกานต์ วังคะวงศ์ 62110050 -…
วิวัฒนาการของแนวคิดและทฤษฎีการบริหาร
ทฤษฎีการบริหารยุคคลาสสิก (Classical organizational theory)
หลักการบริหารตามหลักวิทยาศาสตร์
Frederick Winlow Taylor
3) Management Cooperation คือการสร้างความร่วมมือระหว่างผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานเพื่อให้แน่ใจว่างานที่ทำอยู่นั้นเป็นไปตามหลักการทางวิทยาศาสตร์
4.) Functional Supervising คือการกำกับดูแลการทำงานโดยผู้บริหารทำหน้าที่วางแผน (planning) จัดองค์การ (organizing) และตัดสินใจ (decision-making) ในขณะที่ผู้ปฏิบัติงานปฏิบัติหน้าที่ของตน
1) Scientific Job Analysis คือการวิเคราะห์งานตามหลักวิทยาศาสตร์โดยผ่านการสังเกตการรวบรวมข้อมูลและการวัดอย่างรอบคอบจนเกิด“ วิธีที่ดีที่สุดหรือ one best way” ในการทำงานแต่ละงานซึ่งในปัจจุบันเรียกว่า Time-and motion study
2) Selection of Personnel คือการคัดเลือกบุคลากรที่เหมาะสมกับงานแต่ละงาน
หลักการจัดการตามระบบราชการ
Max Weber
4) บุคคลทําหน้าที่ที่กําหนดไว้อย่างเป็นทางการโดยไม่ยึดความเป็นส่วนตัว
5) การจ้างงานใช้หลักคุณสมบัติทางวิชาชีพ (professional qualities)
3) การกําหนดกฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับ และขั้นตอนการปฏิบัติงาน
6) มีความก้าวหน้าในอาชีพ (career aspects)
2) การจัดตําแหน่งตามสายบังคับบัญชา (scalar chain) จากระดับสูงมายังระดับรอง
7) มีอํานาจตามกฎหมาย (legal authority)
1) การแบ่งงานกันทํา (division of work) ตามความรู้ ความชํานาญ (specialization)
หลักการจัดการตามหลักการบริหาร
Henri Fayol
การจ่ายค่าตอบแทน (remuneration)
การรวมอํานาจ (centralization)
เอกภาพในการบังคับบัญชา (unity of command
ความมีระเบียบ (order)
การให้อํานาจ (authority)
หลักการมีทิศทางเดียวกัน (unity of direction)
สายการบังคับบัญชา (scalar chain)
การถือประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนบุคคล (subordination of individual interest to general interest)
ความมีวินัย (discipline)
การแบ่งงานกันทํา (division of work)
ความเท่าเทียมกัน (equity)
ความมั่นคงของบุคลากร (stability of personnel)
ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ (initiative)
หลักความสามัคคี (esprit de corps)
ทฤษฎีการบริหารตามแนวมนุษยสัมพันธ์ (Human Relations)
การศึกษาHawthorne
Elton Mayo และ Fritz Roethlisberger
1) ปทัสถานสังคม (ข้อตกลงเบื้องต้นในการทำงาน)
4) การควบคุมบังคับบัญชาการบังคับบัญชาจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด
5) การบริหารแบบประชาธิปไตย
3) การให้รางวัลและการลงโทษของสังคมในหมู่คนงาน
2) กลุ่มพฤติกรรมของกลุ่มมีอิทธิพลจูงใจและสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของแต่ละบุคคลได้
ทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงของลีวิน
Kurt Lewin
1) ระยะการละลายพฤติกรรม (Unfreezing) เป็นระยะเริ่มแรกที่บุคคลรับรู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
2) ระยะการการเปลี่ยนแปลง (Changing) เป็นระยะที่บุคคลเข้าใจความจําเป็นที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง
3) ระยะรักษาดุลยภาพการเปลี่ยนแปลง (Refreezing) เป็นระยะที่บุคคลเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลง
ทฤษฎีการบริหารเชิงพฤติกรรมศาสตร์ (Behavioral Theory)
ทฤษฎีแรงจูงใจของมาสโลว์
Abraham Maslow
1) มนุษย์มีความต้องการไม่สิ้นสุด
2) มนุษย์พยายามหาวิธีการต่างๆที่จะทำให้ตนเองได้รับในสิ่งที่ตนเองต้องการ
3) ลำดับขั้นความต้องการของมนุษย์มี 5 ลำดับขั้น
ขั้นที่ 2 ความต้องการความมั่นคงและปลอดภัย
ขั้นที่ 3 ความต้องการความรักและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
ขั้นที่ 1 ความต้องการทางกายภาพ
ขั้นที่ 4 ความต้องการการยอมรับนับถือ
ขั้นที่ 5 ความต้องการเติมความสมบูรณ์ให้ชีวิต
ทฤษฎีสองปัจจัย
Frederick Herzberg
1) ปัจจัยจูงใจ
5) ความสัมพันธ์กับผู้ใต้บังคับบัญชา
6) ตำแหน่งงาน
4) ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
7) ความมั่นคงในการทำงาน
8) ชีวิตส่วนตัว
9) สภาพการทำงาน
3) ความสัมพันธ์กับหัวหน้างาน
10) ค่าตอบแทนและสวัสดิการ
2) การบังคับบัญชาและการควบคุมดูแล
1) นโยบายและการบริหารขององค์การ
2) ปัจจัยอนามัย
5) ความรับผิดชอบ
4) ลักษณะงานที่ทำ
1) ความสำเร็จในการทำงาน
3) ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
2) การได้รับการยอมรับ
ทฤษฎีการบริหารยุคการจัดการร่วมสมัย (Contemporary Management Era)
ทฤษฎีระบบ
Ludwig von Bertalanffy
1) สิ่งนำเข้า (input) หมายถึงทรัพยากรที่นำมาใช้ประโยชน์ในกระบวนการจัดการเช่นเงินคนวัสดุอุปกรณ์เครื่องจักรวิธีการทำงานเป็นต้น
2) กระบวนการจัดการ (process) หมายถึงกระบวนการนำสิ่งนำเข้ามาใช้ในการจัดการเช่นการวางแผนการจัดการองค์การการอำนวยการการควบคุมเป็นต้น
3) ผลผลิตหรือผลลัพธ์ (output) หมายถึงผลลัพธ์โดยตรงที่เป็นผลจากกระบวนการจัดการโดยวัดหรือประเมินจากสิ่งต่างๆเช่นประสิทธิผลประสิทธิภาพคุณภาพความพึงพอใจของผู้ปฏิบัติงานความพึงพอใจของผู้รับบริการเป็นต้น
4) ข้อมูลย้อนกลับหรือการป้อนกลับของข้อมูล (feedback) เป็นการนำข้อมูลจากผลผลิตหรือผลลัพธ์ย้อนกลับไปยังสิ่งนำเข้าเพื่อนำไปใช้ในการปรับปรุงกระบวนการบริหารอย่างต่อเนื่อง
ทฤษฏีการบริหารเชิงสถานการณ์
Fiedler’s Contingency
Model
5) คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความต้องการของบุคคลในหน่วยงานเป็นหลักมากกว่าที่จะแสวงหาวิธีการอันดีเลิศมาใช้ในการทำงานโดยใช้ปัจจัยด้านจิตวิทยาในการพิจารณาด้วย
1) การบริหารจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
2) ผู้บริหารจะต้องสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ให้ดีที่สุด
3) สถานการณ์จะเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจและรูปแบบการบริหารที่เหมาะสม
4) เป็นการผสมผสานแนวคิดระหว่างระบบปิดและระบบเปิดและยอมรับหลักการของทฤษฎีระหว่างทุกส่วนของระบบจะต้องสัมพันธ์และมีผลกระทบซึ่งกันและกัน
6) การออกแบบองค์การต้องสอดคล้องกับสถานการณ์
7) ผู้บริหารต้องรู้จักการพิจารณาความแตกต่างที่มีอยู่ในหน่วยงาน
นางสาวศศิกานต์ วังคะวงศ์ 62110050