Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 7 การขับถ่ายปัสสาวะการเสียสมดุลน้ำและเกลือแร่, นางสาวจารุวรรณ…
บทที่ 7 การขับถ่ายปัสสาวะการเสียสมดุลน้ำและเกลือแร่
หน้าที่
รักษาสมดุลของน้ำและเกลือแร่
รักษาสมดุลกรด-ด่าง
ขจัดของเสียที่ได้จากการเผา
ผลาญอาหาร
สร้างฮอร์โมน
ERYTHROPOIETIN, RENIN, ANGIOTENSIN, PROSTAGLANDIN, VITAMIN D3
ระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง
กระเพาะปัสสาวะ
โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
สาเหตุ
สารก่อมะเร็งในน้ำปัสสาวะ การติดเชื้อเรื้อรังหรือการระคายเคืองเรื้อรังที่กระเพาะปัสสาวะ พาราไซด์ บุหรี่
ระยะ
STAGE O
เป็นเนื้องอกในระยะเริ่มแรก ซึ่งเกิดขึ้นที่ชั้น MUCOSA
STAGE A
เป็นระยะที่เนื้องอกลุกลามไปถึงชั้น SUBMUCOSA
STAGE B1
เป็นระยะที่เนื้องอกลุกลามไปถึงครึ่งในของชั้นกล้ามเนื้อ (SUPERFICIAL)
STAGE B2
เป็นระยะที่เนื้องอกแทรกลึกไปถึงครึ่งนอกของกล้ามเนื้อ
STAGE C
เป็นระยะที่เนื้องอกลุกลามออกนอกชั้นของกล้ามเนื้อไปถึงชั้น SEROSA
STAGE D
เป็นระยะสุดท้ายของเนื้องอกที่ลุกลามออกนอกผนังกระเพาะปัสสาวะ
อาการ
ปัสสาวะปนเลือดโดยไม่เจ็บปวด ถ่ายปัสสาวะบ่อย ถ่ายปัสสาวะลำบาก ปวดบั้นเอว
การวินิจฉัย
การซักประวัติและการตรวจร่างกาย
การตรวจปัสสาวะUA พบเม็ดเลือดแดงและอาจพบเซลล์ของเนื้องอก
การตรวจเลือด CBC พบภาวะซีด
cystoscopy
plain KUB จะเห็นเงาเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ
cystography จะได้ filling defect of bladder
IVP เพื่อดูความผิดปกติของทางเดินปัสสาวะส่วนบน
chest X – ray, lymphangiography เพื่อดูการแพร่กระจายของมะเร็ง
การรักษา
การรักษาโดยการผ่าตัด
การตัดกระเพาะปัสสาวะออกทั้งหมด(TOTAL CYSTECTOMY) , การผ่าตัดเอาหลอดไตมาเปิดที่หน้าท้องทั้งสองข้างเป็นการรักษาแบบ PALLIATIVE ในรายที่เป็นมากและมีเลือดออกมาก (BILATERAL CUTANEOUS URETEROSTOMY)
การรักษารังสี (RADIATION THERAPY)
การใช้เคมีบำบัด (CHEMOTHERAPY)
การรักษาด้วยเลเซอร์
การพยาบาล
การพยาบาลก่อนผ่าตัด
การดูแลทางด้านจิตใจ การเตรียมความสะอาดของลำไส้ สำหรับผู้ป่วยที่ต้องทำผ่าตัดโดยใช้ลำไส้มาเกี่ยวข้อง การเตรียมผิวหนังสำหรับทำผ่าตัด
การพยาบาลหลังผ่าตัด
ความสมดุลของน้ำและอิเลคโตรไลต์เนื่องจากผู้ป่วยต้องงดน้้ำอาหารและเตรียมความสะอาดของลำไส้โดยการทำการสวนล้างลำไส้ให้ว่างก่อนผ่าตัด , การดูแลให้มีการไหลของปัสสาวะหรือสารเหลวที่ออกมาทางสายยางชนิดต่าง ๆ ตลอดเวลา
โรคการเพาะปัสสาวะอักเสบ
สาเหตุ
มีการติดเชื้อแบคที่เรีย โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียอีโคไล (Escherichia coli: E. coli)
อาการ
ปวดปัสสาวะบ่อย ปวดแสบขณะปัสสาวะ ปวดท้องน้อย ปัสสาวะมีปริมาณน้อย สีขุ่น กลิ่นเหม็นผิดปกติ มีเลือดปนออกมา
การวินิจฉัย
ประวัติการเจ็บป่วย
ตรวจร่างกาย
ตรวจปัสสาวะ
การส่องกล้อง (Cystoscopy)
การถ่ายภาพทางรังสี (Imaging Tests)
การรักษา
รับประทานยาปฏิชีวนะเป็นหลัก มีการใช้ยาทาช่องคลอดในวัยหมดประจำเดือน
คำแนะนำในการดูแลไม่ให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม 6 -10 แก้ว
ห้ามกลั้นปัสสาวะ
ปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง
ท่อปัสสาวะ
ในผู้ชายยาว 20 ซม.
ในผู้หญิงยาว 4 มม.
โรคต่อมลูกหมากโต
สาเหตุ
ไม่มีสาเหตุที่แท้จริง แต่สัมพันธ์กับระดับเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศชายที่ชื่อว่า ไดไฮโดรเทสโทสเทอโรนซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ต่อมลูกหมากโต
อาการ
อาการระคายเคืองทางเดินปัสสาวะ
ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะเร่งรีบ ต้องตื่นมาปัสสาวะตอนกลางคืน
อาการอุดกั้นทางเดินปัสสาวะ
ปัสสาวะไม่พุ่ง ปัสสาวะออกช้า ลำปัสสาวะสะดุด ปัสสาวะหยดตอนท้าย เบ่งปัสสาวะ ปัสสาวะค้าง
การวินิจฉัย
ซักประวัติคนไข้โดยละเอียด
ตรวจร่างกาย
ตรวจเพาะเชื้อจากปัสสาวะ
ทดสอบวัดอัตราการไหลของปัสสาวะและปริมาณปัสสาวะที่สามารถปัสสาวะออกมาได้
การตรวจคัดกรองหามะเร็งต่อมลูกหมาก
การส่องกล้องผ่านทางท่อปัสสาวะ
การรักษา
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น งดดื่มชา กาแฟ หลีกเลี่ยงการดื่มน้ ามากเกินไป
รักษาโดยการใช้ยา
ยาคลายกล้ามเนื้อเรียบในต่อมลูกหมากให้คลายตัวลง ยาช่วยลดขนาดต่อมลูกหมาก ยาในกลุ่มสมุนไพร
รักษาโดยการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องคว้านต่อมลูกหมาก
การพยาบาลผู้ป่วยหลังผ่าตัด
CBI ผู้ป่วย เพื่อล้างกระเพาะปัสสาวะ ช่วยห้ามเลือดในต าแหน่งที่คว้านเนื้อต่อมลูกหมาก
จัดท่านอนราบ 8 ชั่วโมง ภายหลังการท า SPINAL BLOCK วางขาราบ
ประเมินภาวะตกเลือดโดยบันทึกสัญญาณชีพ สังเกตลักษณะ จ านวน สีของปัสสาวะ และบีบรูดสายยาง
ดูแลให้ I.V. FLUID และน้ าดื่มวันละ 40 ML X น้ าหนักตัวเป็นกิโลกรัม ตามแผนการรักษา
เมื่อผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว สอนเรื่องการปฏิบัติตัว
การขมิบหูรูด กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ถ้ามีการตกเลือด ปัสสาวะล าบาก หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ รีบพบแพทย์ หลีกเลี่ยงการกระแทกบริเวณอวัยวะเพศ ไม่ยกของหนัก ไม่ขี่หรือซ้อนรถจักรยาน อย่าให้ท้องผูก รับประทานผัก ผลไม้สด
ความผิดปกติในการขับถ่ายปัสสาวะ
โรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ
สาเหตุ
กรรมพันธุ์
ความผิดปกติของต่อมพาราไทรอยด์
ความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ
การดื่มน้ำน้อย หรือเสียน้ำจากร่างกายมาก
รับประทานอาหารที่มีกรดยูริกหรือสารออกซาเลตมาก
การอักเสบติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
อาการ
ปัสสาวะลำบากหรือแสบขัด
ปัสสาวะไม่ออกหรือมีเลือดปน
ปวดบั้นเอวหรือท้อง(ที่ตำแหน่งนิ่ว)
การวินิจฉัย
การซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด
การตรวจปัสสาวะว่ามีเลือดหรือการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
การตรวจอัลตราซาวด์ระบบทางเดินปัสสาวะ
การถ่ายภาพรังสีวินิจฉัย
การถ่ายภาพรังสีร่วมกับการฉีดสารทึบรังสีเข้าหลอดเลือดด
การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อดูความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ
การรักษา
การรับประทานยาละลายนิ่ว
การสลายนิ่วโดยการใช้คลื่นกระแทก
การผ่าตัดเอานิ่วออก
การบาดเจ็บอวัยวะทางเดินปัสสาวะ
กลไกของการเกิด
Blunt injury
เป็นการบาดเจ็บจากการกระแทกโดยตรงจากแรงเฉื่อยหรือการกระชากตัวอย่างรุนแรง
Penetrating injury
เป็นการบาดเจ็บจากการถูกยิงหรือแทง ต าแหน่งของบาดแผล เข้าและบาดแผลทางออก ชนิดของอาวุธ
การประเมินทางคลินิก
Hematuria คือการมีปัสสาวะเป็นเลือด วัดได้จากจำนวนเม็ดเลือดแดงที่มากกว่า 5 เซลล์ต่อกำลังขยายของกล้องจุลทรรศน์ระดับสูง
Hypotension ความดันโลหิตต่ำ มีความสำคัญมากในการบ่งบอกระดับความรุนแรงของอวัยวะภายใน
รังสีวินิจฉัย
การตรวจด้วยเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์
การตรวจเอ็กซเรย์ฉีดสี
การตรวจสแกนโดยใช้พลังงานแม่เหล็ก
การฉีดสีเอ็กซเรย์หลอดเลือด
อัลตราซาวด์
ความผิดปกติ
การถ่ายปัสสาวะลำบาก
ปัสสาวะขัด (Painful Urination)
คือ ความรู้สึกไม่สบายในระหว่างการถ่ายปัสสาวะ ปัสสาวะแสบ ความเจ็บปวดระหว่างปัสสาวะ เป็นสัญญาณทั่วไปของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI) ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
การถ่ายปัสสาวะลำบาก (difficulty urination)
คือ เมื่อปวดปัสสาวะเต็มที่แล้วต้องรอนานมากกว่า 5 วินาที ต้องออกแรงเบ่งจึงสามารถถ่ายปัสสาวะออกมา
ภาวะคั่งของน้ำปัสสาวะ
การถ่ายปัสสาวะไม่ออกอย่างกะทันหัน
ทำให้มีการคั่งของน้ำปัสสาวะอย่างเฉียบพลัน (acute retention of urine)
การอุดตันเรื้อรัง
ผู้ป่วยจะยังสามารถขับถ่ายปัสสาวะได้แต่จะปัสสาวะด้วยความยากลำบากและใช้เวลานานทำให้การขับถ่ายปัสสาวะ
การถ่ายปัสสาวะบ่อย
จำนวนครั้งในการขับถ่ายปัสสาวะมากกว่าปกติ หรือ ปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน (nocturia) คือ การปัสสาวะกลางคืนมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไป
ปัสสาวะบ่อยอย่างเดียว
คือถ่ายปัสสาวะบ่อยแต่ปริมาณน้ำปัสสาวะปกติสาเหตุส่วนใหญ่คือมีปริมาณปัสสาวะมาก เกิดจากไปขับน้ำออกมามาก พบได้ในกรณีที่ดื่มน้ำมากเกินไปหรือได้รับยาขับปัสสาวะ เป็นโรคเบาหวาน โรคเบาจืด
ปัสสาวะกระปิดกระปอย (polakiuria)
คือการถ่ายปัสสาวะบ่อยครั้งแต่ปริมาณน้ำปัสสาวะในแต่ละครั้งน้อยกว่าปกติ สาเหตุส่วนใหญ่มากจากการระคายเคืองบริเวณกระเพาะปัสสาวะ ความจุของกระเพาะปัสสาวะน้อยกว่าปกติหรือแคบ
ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
น้ำปัสสาวะไหลเล็ดออกมาโดยไม่สามารถกลั้นได้อาจเป็นชั่วคราวหรือถาวรมักพบในผู้สูงอายุ
เกี่ยวกับการสร้างน้ำปัสสาวะ
ภาวะที่มีปัสสาวะปริมาณมากกว่าปกติ (polyuria)
ภาวะที่มีปัสสาวะปริมาณน้อยเกินไป (oliguria) มีน้ำปัสสาวะน้อยกว่า 500 ซีซี/วัน
ปัสสาวะมีหนองปน
ปัสสาวะที่มีหนองปนจะมองเห็นเป็นสีขาวขุ่นคล้ายนม มีกลิ่นเหม็น สาเหตุจากการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ
ทางเดินปัสสาวะอักเสบ
อาการ
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวัส่วนล่าง
ปัสสาวะขัด กลั้นปสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะถี่ ปวดหน้วงท้องน้อย อาจมีเลือดปนออกมาในปัสสาวะ
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนบน
ปัสสาวะขัด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะถี่ ปวดหน้วงท้องน้อย อาจมีเลือดปนออกมาในปัสสาวะ ปวดบั้นเอว อาจคลื่นไส้อาเจียน อ่อนแรง
ปัจจัยเสี่ยง
นิ่วหรือการอุดตันทางเดินปัสสาวะ
ปัสสาวะไหลย้อนกลับ
ปัสสาวะที่ค้างจะเป็นตัวเพาะเชื้อโรค
เบาหวาน
อายุ
พฤติกรรมการใช้ผ้าอนามัยชนิดสอด
การใส่สายสวนปัสสาวะ
การสูบบุหรี่
การวินิจฉัย
เก็บปัสสาวะ (Urine Analysis)
พบปัสสาวะสีขุ่น WBC สูง, RBC สูง
ใช้แถบวัด nitrite
มี nitrite เป็นบวก(มีแบคทีเรียในปัสสาวะ)
การเพาะเชื อจากปัสสาวะ
การเพาะเชื้อพบมีแบคทีเรียถึง 100,000 CFU/ml
การป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยขับเชื้อโรคออกจากทางเดินปัสสาวะ
ปัสสาวะทุก 2-4 ชั่วโมงเพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย
การอาบน้ำไม่ควรแช่ในอ่างอาบน้ำ
เมื่อมีความผิดปกติในการขับถ่ายเปลี่ยนไปจากปกติควรรีบพบแพทย์
การรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มความเป็นกรดของน้ำปัสสาวะ
การทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงควรเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังเพื่อไม่ให้
ระบบทางเดินปัสสาวะส่วนบน
ไต
ไตวาย
ไตวายเรื้อรัง
ระยะของไตวายเรื้อรัง
อาการ
อาการของไตวายเรื้อรังจะไม่เกิดขึ้นพร้อมกันในคราวเดียว แต่จะค่อย ๆ สำแดงอาการออกมาเป็นระยะ
สาเหตุ
โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะบ่อย ๆ เป็นนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ ภูมิแพ้ตัวเอง ใช้ยาแก้ปวดหรือยาสเจียรอยด์นาน ๆ
การวินิจฉัย
ก็บปัสสาวะส่งตรวจแบบ Urine analysis และ Urine over 24 hour
ค่า GFR, Serum creatinine
ตรวจ CBC พบ normochronic, normocytic anemia
Ultrasound พบชนาดของไตเล็กลงกว่าปกติ
พบ Renal osteodystrophy
การรักษา
การรักษาเฉพาะเจาะจงตามชนิดของโรคไตเรื้อรัง เช่น คุมระดับ
น้ำตาลในเลือดในกรณีเป็นเบาหวาน
ประเมินและรักษาโรคหรือภาวะอย่างอื่นที่พบร่วมด้วย
ชะลอการเสื่อมของไต
ป้องกันและรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะแทรกซ้อน
การรักษาทดแทนไต
เตรียมผู้ป่วยสำหรับกรณีตวายเรื่อรัง รวมถึงเตรียมการรักษาทดแทน
ไตวายเฉียบพลัน
สาเหตุและการรักษา
เลือดไปเลี้ยงไตไม่เพียงพอ
เช่น ภาวะเลือดออก ภาวะหัวใจวาย ภาวะช็อค
รักษา
โดยการให้สารน้ำและเกลือแร่ทดแทนจนกว่า volum status ของร่างกายจะเข้าสู่ภาวะปกติ
การบาดเจ็บที่ไตโดยตรง
เช่น การได้ยาที่มีพิษต่อไต
หลักการรักษา
คือป้องกันไม่ให้ไตสูญเสียการทำงานเพิ่ม ป้องกันภาวะแทรกซ้อน
การอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะ
เช่น การอุดตันที่ระดับกระเพาะปัสสาวะหรือที่ระดับต่ำกว่าลงมา
รักษา
โดยการแก้ไขการอุดตัน เช่น การใส่สายสวนปัสสาวะ
อาการ
เริ่มจากปัสสาวะน้อยลง หรือไม่ปัสสาวะเลย บวมที่ขาและเท้า เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน รู้สึกมึนงง อ่อนเพลีย หรือง่วงเหงาหาวนอนตลอดเวลา อาจมีอาการปวดหลังบริเวณชายโครง หายใจถี่
หลักการพยาบาล
ให้การพยาบาลแบบประคับประคอง
Increase renal blood flow
หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่จะเกิดพิษต่อไต
การให้สารอาหารที่เพียงพอ
ป้องกันการเกิด volume overload
ป้องกันการเกิด hyperkalemia
ป้องกันการเกิด hyponatremia
ป้องกันการเกิด metabolic acidosis
ป้องกันการเกิด hyperphosphatemia
ป้องกันไม่ให้เกิดความผิดปกติอื่น
ทำ Hemodialysis
กลุ่มอาการโปรตีนรั่วในปัสสาวะ
สาเหตุ
กรวยไตเป็นแผล ซึ่งอาจมีสาเหตุจากโรคบางชนิด ความบกพร่องทางพันธุกรรม หรืออาจเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ
การกรองไตผิดปกติจึงส่งผลให้ไตทำงานผิดปกติ
เยื่อบุผิวภายในกรวยไตหนาตัวขึ้น ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากบางโรค
กลุ่มอาการอะมีลอยโดซิส (Amyloidosis) เกิดขึ้นเมื่อมีการสะสมของสารโปรตีนอะมีลอยด์ในไต (Amyloid)
โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) เพราะโรคนี้อาจส่งผลกระทบต่อไตอย่างร้ายแรง
โรคไตจากเบาหวาน เพราะโรคเบาหวานอาจทำให้ไตถูกทำลาย
ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดไต
การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาแก้อักเสบ และยาต้านการติดเชื้อ
อาการ
บวมบริเวณรอบดวงตา ท้อง แขน ขา ข้อเท้า และเท้า น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ปัสสาวะเป็นฟอง ปวดปัสสาวะน้อยมาก อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ท้องเสีย
การวินิจฉัย
ซักประวัติการเจ็บป่วย
ตรวจร่างกาย
ตรวจปัสสาวะโดยเก็บตัวอย่างปัสสาวะใน24 ชั่วโมง เพื่อตรวจปริมาณของโปรตีนที่ปนอยู่ในน้ำปัสสาวะ
ตรวจเลือดเพื่อหาระดับโปรตีนในเลือด
เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อไปส่งตรวจ
การรักษา
ยาลดคอเลสเตอรอล กลุ่มยาสแตติน
ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาควบคุมความดันโลหิต ยากลุ่มแองจิโอเทนซิน 2 รีเซพเตอร์ บล็อกเกอร์
ยาขับปัสสาวะ
ยากดภูมิคุ้มกัน
ภาวะแทรกซ้อน
ความดันโลหิตสูง ระดับไขมันคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดอุดตัน ภาวะขาดสารอาหาร ภาวะไตวายเฉียบพลัน โรคไตเรื้อรัง
หน่วยไต
การเกิดน้ำปัสสาวะ
การกรองที่โกลเมอรูลัส (Glomerulus filtration)
การกรองจะเกิดขึ้นผ่านเยื่อบุ 3 ชั้น
ผนังของหลอดเลือดฝอยโกลเมอรูลัส (endothelial cell of capillary)
ชั้นเบสเมนต์เมมเบรน (basement membrane)
เยื่อบุผนังของโบว์แมนส์แคปซูล (epithelial cell of Bowman s capsule)
การดูดกลับที่ท่อของหน่วยไต (Tubular reabsorption)
การดูดกลับที่พรอกซิมอลทิวบูล ได้แก่ สารอาหารพวกกลูโคส กรดอะมิโน และวิตามิน
การดูดกลับที่ห่วงเฮนเลส่วนวกลง ( descending limp of loop of henle ) ดูดน้ำกลับโดยวิธีออสโมซิส
การดูดกลับที่ห่วงเฮนเลนส่วนวกขึ้น (ascending limp of loop of henle ) ดูดกลับ NaCl
การดูดกลับที่ดิสตอลทิวบูล มีการดูดกลับน้ำ
หน่วยไตอักเสบเฉียบพลัน
สาเหตุ
มักเกิดตามหลังการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า บีตาฮีโมไลติกสเตรปโตค็อกคัส กลุ่มเอ (beta-hemolytic streptococcus group A)
อาการ
ปัสสาวะสีเหมือนน้ำล้างเนื้อ ปริมาณน้อย อาจพบอาการบวมที่หน้า หนังตา เท้า และ ท้อง มักมีอาการปวดศีรษะ มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
ถ้าเป็นรุนแรง
อาจมีอาการปัสสาวะออกน้อย หอบเหนื่อย หรือชัก
การรักษา
โดยให้นอนพักผ่อน งดอาการเค็ม ให้ยาขับปัสสาวะ และยาลดความดันโลหิต ถ้ามีประวัติทอนซิลอักเสบ หรือการติดเชื้อที่ผิวหนัง ให้ยาปฏิชีวนะ
ถ้ามีอาการชักหรือหอบ ให้ฉีดไดอะซีแพม และฟูโรซีไมด์ เข้าหลอดเลือดดำ
การป้องกัน
เมื่อเป็นทอนซิลอักเสบ แผลพุพอง เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังชั้นลึกอักเสบ หรือไฟลามทุ่งควรกินยาปฏิชีวนะติดต่อกันอย่างน้อย 10 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคหน่วยไตอักเสบแทรกซ้อน
กรวยไต
กรวยไตอักเสบ
สาเหตุ
กรวยไตอักเสบเป็นการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเป็นการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะตอนบน
อาการ
ปวดบริเวณสีข้างหรือบั้นเอวขึ้นอย่าฉับพลัน โดยจะปวดมากที่ข้างใดข้างหนึ่ง ปวดร้าวลงมาที่บริเวณขาหนีบ มีไข้สูง หนาวสั่นเป็นพัก ๆ ปัสสาวะมักมีลักษณะขุ่นขาว อาจเป็นเลือดหรืออาจข้นเป็นหนอง และอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน
กรวยไตอักเสบชนิดเฉียบพลัน
มีอาการแสดงชัดเจน และเป็นอาการที่ค่อนข้างรุนแรง แต่เมื่อได้รับการรักษาจะหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์
กรวยไตอักเสบชนิดเรื้อรัง
ไม่มีอาการแสดงชัดเจน จะเป็น ๆ หาย ๆ
การวินิจฉัย
ซักประวัติอาการ ไข้สูง หนาวสั่น ลักษณะของปัสสาวะ คลื่นไส้อาเจียน การมีเพศสัมพันธ์
ตรวจร่างกาย ใช้กำปั้นทุบเบา ๆ ที่สีข้างตรงที่มีอาการปวด จะรู้สึกเจ็บจนสะดุ้ง
การตรวจทางห้องปฏบัติการ
การรักษา
ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง
จะได้รับการรักษาประคับประคองไปตามอาการ ร่วมกับรับประทานยาปฏิชีวนะ
ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง
ถ้ารับประทานยาไม่ได้ จะได้รับเจนตามัยซินทางหลอดเลือดดำ
ท่อไต
ทำหน้าที่นำส่งน้ำปัสสาวะจากไตเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ
นางสาวจารุวรรณ บัวคลี่ เลขที่ 16 ห้อง 3A
รหัสนักศึกษา 62106301017