Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วิวัฒนาการของแนวคิดและทฤษฎีการบริหาร, นายอิสระพงษ์ สวัสดี 62110291 -…
วิวัฒนาการของแนวคิดและทฤษฎีการบริหาร
ทฤษฎียุคคลาสสิค (classical organizational theory)
1.หลักการบริหารตามหลักวิทยาศาสตร์(Scientific Management)ผู้เสนอแนวคิด Frederick Winlow Tyloy"บิดาแห่งหลักการบริหารตามหลักวิทยาศาสตร์"มีหลักการ 4 ประการ
1.Scientific Job Analysis การวิเคราะห์ ตาม
หลักวิทยาศาตร์
2.Selection of Personnel การคัดเลือกบุคคล
ให้สมกับงาน
3.Management Cooperation คือการร่วมมือกันระหว่างผู้บริหารกับผู้ปฏิบัติงานให้เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์
4.Functional Supervising การกำกับงานดูแล
การทำงาน '
2.หลักการจัดการตามหลักบริหาร(AdministrativeManagement)ผู้เสนอแนวคิด Henri Fayol"ผู้ริเริ่มหลักการจัดการตามหลักบริหาร"
หลักการ 14 หลักการ
1.การแบ่างงานกันทำ
2.การให้อำนาจ
3.ความมีวินัย
4.เอกภาพในกาารบังคับบัญชา
5.หลักการมีทิศทางเดียวกัน
6.การถือประโยชน์ส่วนร่วมมากกว่าประโยชน์ส่วนร่วมมากกว่าส่วนบุคคล
7.การจ่ายค่าตอบแทน
8.การร่วมอำนาจ
9.สายการบังคับบัญชา
10.ความมีระเบียบ
11.ความเท่าเทียมกัน
12.ความมั่นคงของบุคคลากร
13.ความคิกริเริ่มสร้างสรรค์
14.หลักความสามัคคี
3.หลักการตามระบบราชการ(Bureucracy management)ผู้เสนอแนวคิด Max Weberผู้เขียนตำรา "Theoryof social andEconomics Organization"หลักการจัดการตามระบบราชการ 7 หลัก
1.การแบ่งงานกันทำ
2.การจัดตำแหน่งตามสายบังคับบัญชา
3.การกำหนดกฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับ
4.บุคคลทำหน้าที่ที่กำหนดไว้อย่างเป็นทางการโดยไม่ยึดความเป็นส่วนตัว
5.การจ้างงานใช้หลักคุณสมบัติทางวิชาชีพ
6.มีความก้าวหน้าในอาชีพ
7.มีอำนาจตามกฎหมาย
ทฤษฎีการบริหารตามแนวมนุษยสัมพันธ์(HUMANRELATION)
การศึกษาHAWTHORNEHuman Relationโดย Elton Mayo และ FritzRoethlisbergerการเพิ่มผลผลิตเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มและการจัดการที่มีประสิทธิภาพมากกว่าความต้องการของนายจ้างหรือปัจจัยทางกายภาพใดๆ
ผลจากการเปลี่ยนประสิทธิภาพมี2 ปัจจัย
1.ปัจจัยทางสังคมและ
มนุษย์
2.การบริหารจัดการที่มี
ประสิทธิผล
ทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงลีวินเสนอโดย Kurt Lewinผลจากการวิจัยแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของบุคคลเมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่นแปลง 3ระยะ
1.ระยะการละลายพฤติกรรม
2.ระยะการเปลี่ยนแปลง
3.ระยะรักษาดุลยภาพการเปลี่ยนแปลง
ทฤษฎีการบริการเชิงพฤติกรรมศาสตร์(BEHAVIORAL THEORY)ประกอบด้วยทฤษฎีที่สำคัญอยู่ 2 ทฤษฎี
1.ทฤษฎีแรงจูงใจของมาสโลว์โดยAbraham Maslowผู้พัฒนาทฤษฎีแรงจูงใจ
ทฤษฎีแรงจูงใจมีสาระสำคัญ1.มนุษย์มีความต้องการไม่สิ้น2.มนุษย์พยายามหาวิธีการต่างๆ3.ลำดับความต้องการของมนุษย์มี5 ขั้น
1.ความต้องการทางกายภาพ
2.ความต้องการความมั่นคงและความปลอดภัย
3.ความต้องการความรักและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
4.ความต้องการการยอมรับนับถือ
5.ความต้องการเติมความสมบูรณ์ในชีวิต
2.ทฤษฎีสองปัจจัยโดย Frederick Herzbergควาามพึงพอใจเกิดจากแรงจูงใจตามองค์ประกอบทฤษฎี 2 ปัจจัย
1.ปัจจัยจูง(Motivation factors)
1.นโยบายและการบริหารขององค์กร
2.การบังคับบัญชาและการควบคุมดูแล
3.ความสัมพันธ์กับหัวงาน
4.ความัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
5.ความสัมพันธ์กับผู้ใต้บังคับบัญา
6.ตำแหน่งงาน
7.ความมั่นคงในการงาน
9.สภาพการงาน
8.ชีวิตส่วนตัว
10.ค่าตอบแทนและสวัสดิการ
2.ปัจจัยอนามัย(hygiene fators)
1.ความสำเร็จในการทำงาน
2.การได้รับการยอมรับ
3.ความก้าวหน้าในการทำงาน
4.ลักษณะงานที่ทำ
5.ความรับผิดชอบ
ทฤษฎีบริหารการจัดการร่วมสมัย(Contemporary Management Era)ประกอบด้วยทฤษฎีสำคัญ 2 ทฤษฎี
1.ทฤษฎีระบบ (System Theory)โดยผู้ริเริ่ม Ludwig von Bertalanffyซึ่งองค์ประกอบพื้นฐานของทฤษฎีระบบมีทั้งหมด 4 ประการ
1.สิ่งนำเข้า (input) หมายถึงทรัพยากรที่นำไปใช้ประโยชน์ในกระบวนการการจัดการ
2.กระบวนการการจัดการ (process) หมายถึงกระบวนการนำสิ่งนำเข้ามาใช้ในการจัดการ
3.ผลผิตหรือผลลัพธ์ (output) หมายถึงผลลัพธ์โดยตงที่เป้นผลมาจากกระบวนการจัดการ
4.ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) เป็นการนำข้อมูลจากผลผลิตหรือผลลัพธ์ย้อนกลับไปยังนำเข้าเพื่อนำไปใช้ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
2.ทฤษฎีการบริหารเชิงสถานการณ์(Contingency Thery)เป็นทฤษฏิที่ใช้ในหลักการจัดการที่ว่าองค์กรระบบเปิดและสภาพในและภายนอกองค์กรมีการเปลี่ยนแปลงตามบริบรของโลก ซึ่งสาระสำคัญมีอยู่ทั่งหมด 7 ข้อ
1.การบริหารจะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับสถานการณ์
2.ผู้บริหารจะต้องสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ให้ดีที่สุด
3.สถานการณ์จะเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจและรูปแบการบริหารที่เหมาะสม
4.เป็นการผสมผสานแนวคิดระหว่างระบบเปิดและระบบปิดและยอมหรับหลักการ
ของทฤษฎีระหว่างทุกส่วนของระบบจะต้องสัมพันธ์และมีผลกระทบซึ่งกันและกัน
5.คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความต้องการของบุคคลในหน่วยงานเป็นหลักมากกว่า
ทีจะแสดงวิธีการอันดีเลิศมาใช้งาน
6.การออกแบบองค์การต้องสอดคล้องกับสถานการณ์
7.ผู้บริหารต้องรู้จักการพิจารณาความแตกต่างที่มีอยู่ในหน่วยงาน
นายอิสระพงษ์ สวัสดี 62110291