Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
PATHOPHYSIOLOGY OF RENAL SYSTEM - Coggle Diagram
PATHOPHYSIOLOGY OF
RENAL SYSTEM
Anatomy
Anatomy of Renal system
ไต (Kidney)
ท่อไต (ureter)
กระเพราะปัสสาวะ (Bladder)
ท่อปัสสาวะ (urethra)
เส้นเลือดดำเส้นเลือดแดงและระบบท่อน้ำเหลือง(Renal a., vein, lymphatic
drainage)
Anatomy of Kidney
-ไตมี 2 ข้าง ซ้ายและขวา
-อยู่บริเวณตำแหน่ง T12-L3, ขนาด 6
11
3cm
-เป็นRetroperitoneal organ
-ชั้นของไต 1.ผนังหุ้มไต (Renal capsule) 2.ไตชั้นนอก (Cortex) 3.ไตชั้นใน (Medulla) 4.Calyx/calyces 5.กรวยไต
หน่วยไต (Nephron)
เป็น anatomical unit of kidney
function
ประกอบด้วย
1.Glomerulus -Renal corpuscle -Bowman capsule
-Afferent & efferent arteriole
2.Renal tubule -Proximal tubule -loop’s of Henle
-Distal tubule -Collecting duct
3.Vascular supply
ANATOMY OF URETER, BLADDER AND URETHRA
ท่อไต (Ureter)
•เป็น retroperitoneal structures ที่ต่อจาก renal
pelvis ถึงกระเพาะปัสสาวะ(bladder)
แบ่งเป็น 3 ส่วน
abdominal ureter จาก renal pelvisสู่ the
pelvic brim
pelvic ureter: จาก the pelvic brim สู่ the
bladder
intravesical or intramural ureter: ใน the
bladder wall
กระเพาะปัสสาวะ (Urinary Bladder)
•เป็นอวัยวะมีลักษณะเป็นถุง ประกอบด้วยชั้นกล้ามเนื้อ วางในช่องท้องส่วนล่าง
• มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมพีระมิด
•ขนาดความจุ 400-1000ml
• ประกอบด้วย Body , fundus, Trigone
ท่อปัสสาวะ (Urethra)
Female urethra ความยาว 3-5 cm long
Male urethra ยาวประมาณ 20 cm
แบ่งออกเป็น 3ส่วนคือ
Prostatic urethra (3-4 cm) ส่วนที่ออกจากกระเพาะปัสสาวะ ผ่านเข้าไปอยู่ในเนื้อต่อมลูกหมาก(prostate gland)
Membranous urethra (1 cm) ส่วนนี้ออกจากเนื้อต่อมลูกหมาก ผ่านเข้าไปใน urogenital และ pelvic
diaphragm
Penile urethra (U) ยาวประมาณ 15 cm ล้อมรอบด้วย corpus spongiosum ปลายสุดขยายกว้างเรียก fossa navicularis และเปิดออกที่ glan
PHYSIOLOGY OF RENAL SYSTEM
หน้าที่ของไต (KIDNEY FUNCTION)
กรองของเสียออกจากร่างกาย
กำจัดน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย
เป็นต่อมไร้ท่อ (Hormonal regulation)
-ควบคุมความดันโลหิตผ่านระบบ Renin angiotensin
-กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงผลิด erythropoietin
-ควบคุมปริมาณแคลเซียมผ่านhormone
กลไกการทำงานของไต
1.การกรองที่โกลเมรูลัส (Glomerulus Filtration)
การกรองจะเกิดที่โกลเมอรูลัส โดยเลือดที่ผ่านเข้ามาในโกลเมอรูลัส จะถูกกรองภายใต้แรงดัน ผ่านผนังหลอดเลือดฝอยเล็กๆไปยังช่องระหว่างโบวแมน แคปซูลน้ำที่กรองได้เรียกว่า ฟิลเตรท
2.การดูดกลับของไต (Tular Reabsorbtion)
คือขบวนการดูดกลับสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจากท่อไตกลับเข้าสู่กระแสเลือดจะเกิดขึ้นตลอดความยาวของท่อเล็กๆในหน่วยทำงานของไตจะดูดซึมเอาน้ำและสารบางอย่างที่ร่างกายต้องการกลับคืนสู่กระแสเลือด
3.การขับทิ้ง(Tubular Secretion)
คือขบวนการขับสารที่เป็นพิษหรือเกินความต้องการออกจากกระแสเลือดเข้าสู่ท่อไต สารที่ได้จากการกรอง และไม่สามารถดูดซึมกลับเข้าสู่เส้นเลือดจะเหลืออยู่ในท่อเล็กๆในหน่วยทำงานของไต สะสมรวมกันเป็นน้ำปัสสาวะ สารเหล่านี้ได้แก่ ยูเรีย กรดยูริค ครีอะตินิน ของเสียจากกระบวนการเผาผลาญของโปรตีนและยาต่างๆ
PATHOLOGY OF RENAL SYSTEM
นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ
(STONE/CALCULI)
แบ่งตามตำแหน่งการเกิดเป็น
1.นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ส่วนบน; renal calyces, renal pelvis, ureter
2.นิ่วในทางเดินระบบปัสสาวะ ส่วนล่าง; bladder, urthra
แบ่งตามส่วนประกอบ
1.นิ่ว calcium oxalate ซึ่งพบได้ ร้อยละ80
2.นิ่วกรดยูริค
•อาการแสดง (clinical manifestation)
-ปวดตื้อบั้นเอว -ปัสสาวะสะดุด
-ปัสสาวะเป็นทราบ/กรวด/เม็ดหิน
•ตรวจร่างกาย (physical examination)
-Palpate mass at maleurthra
•การส่งตรวจทางห้องปฎิบัติการ
-Urine analysis : ส่องกล้องพบผลึกในรูบแบบต่างๆ
-Film KUB : พบabnormal opacityในurinary tract
การรักษา (Treatment)
1.การผ่าตัด 2.การใข้คลื่นshock waveยิงสลายนิ่ว
3.การใช้ยาลดการเกิดนิ่ว/สลายนิ่ว 4.รักษาตามอาการ
•ข้อแนะนำสำหรับการป้องกันการเกิดนิ่วในไต
1.ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายหลีกเลี่ยงภาวะขาดน้ำ 2.ไม่กลั้นปัสสาวะ เนื่องจากจะทำให้มีโอกาสตกตะกอนเกิดเป็นผลึกได้ 3. ลดการรับประทานอาหารบางประเภท ที่มีสารหรือเกลือแร่มากเกินไป เช่น เครื่องในสัตว์ ชา น้ำอัดลม ผักบางชนิด (คะน้า ผักบุ้ง)
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
(URINARY TRACT INFECTION)
พบในผญ > ผช เนื่องจากท่อปัสสาวะสั้นกว่า
-เชื้อก่อโรคที่มักเป็นสาเหตุ คือ Escherichia coli (E. coli) อาศัยในลำไส้ใหญ
-พบการติดเชื้อได้หลายตำแหน่ง
1.บริเวณท่อปัสสาวะ = urethritis
2.บริเวณกระเพาะปัสสาวะ = cystitis
3.บริเวณกรวยไต = pyelonephrtis
•อาการแสดง (clinical manifestation)
-ปัสสาวะแสบขัด(dysuria) -เบ่งปัสสาวะ
-กลั้นปัสสาวะไม่ได้(urgency) -มีไข้
-ปัสสาวะขุ่น/มีฟอง/ปนเลือด
-ปวดท้องน้อย -ปวดบั้นเอว(flank pain)
•ตรวจร่างกาย (physical examination)
-Tender at suprapubic are
-CVA Tenderness positive
•การส่งตรวจทางห้องปฎิบัติการ
-Urine analysis(พบleukoce+ve, nitrite+ve, WBC>5cell/mm3)
-Urine culture
-Film KUB(พบabnormal opacityในurinary tract)
•การรักษา (Treatment)
Medical treatment
Antibiotic ให้ยาที่ครอบคลุมเชื้อgram negativeเช่น กลุ่มfluoroquinolone (ofloxacin, ciprofloxacin), กลุ่ม3rd generation cephalosporin (Ceftriaxone)
Supportive เช่น ยาแก้ปวด
Nonmedical treatment1.ดื่มน้ำให้เพียงพอ 2.รักษาความสะอาด ไม่สวมเสื้อผ้ารัดแน่น/อับชื้น 3.ไม่กลั้นปัสสาวะ 4.เช็ดทeความสะอาดบริเวณช่องคลอดจากหน้าไปหลัง 5.ล้างอวัยวะเพศและปัสสาวะก่อนมีเพศสัมพันธ์