Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 6 กระบวนการพยาบาลในการให้การพยาบาลอย่างองค์รวม แก่บุคคลที่มีปัญหาสุ…
บทที่ 6 กระบวนการพยาบาลในการให้การพยาบาลอย่างองค์รวม
แก่บุคคลที่มีปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวช
การพยาบาลผู้ที่มีความผิดปกติทางพฤติกรรม
พฤติกรรม (Behavior)
เป็นปฏิกิริยาของสิ่งมีชีวิตที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าทั้งภายในและภายนอกร่างกาย
ซึ่งอาจแสดงออกมาโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ
ความผิดปกติทางพฤติกรรม (Behavior disorder)
เป็นความผิดปกติทางจิตเวชที่เห็นได้ชัดจากการแสดงออกทางพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
ความก้าวร้าว (Aggression)
การกระทำหรือพฤติกรรมที่มีผลทำให้เกิดการบาดเจ็บทางด้านร่างกายหรือจิตใจ
โดยการใช้กำลังทางร่างกายหรือคำพูด
ความไม่เป็นมิตร (Hostility)
มีลักษณะคล้ายกับความโกรธ คือมีลักษณะในแง่ของการทำลาย
เป็นปฏิกิริยาตอบสนองที่รุนแรงซับซ้อนโดยมีแต่ความเกลียด ความไม่ชอบ
และความต้องการที่จะทำลาย ความไม่เป็นมิตรมักพุ่งตรงสู่บุคคลหรือกลุ่มคน
ความรุนแรง (Violence)
เป็นปฏิกิริยาของพฤติกรรมก้าวร้าว
ที่แสดงออกถึงความตั้งใจของการใช้กำลังทางร่างกายในการทำร้าย หรือใช้อำนาจคุกคาม
ที่มีผลให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ หรือทรัพย์สินได้รับความเสียหาย
สาเหตุของความก้าวร้าว (Aggression) ความไม่เป็นมิตร (Hostility) และความรุนแรง
(Violence)
กลุ่มอาการทางสมอง (Organic cause)
1) อาการ intoxication หรือ withdrawal จากยาหรือสารเสพติดต่างๆ
2) โรคลมชัก มักจะมีพฤติกรรมก้าวร้าวหลังการชัก ซึ่งผู้ป่วยยังสับสน
อาการอาจเป็นอยู่นานเป็นชั่วโมงหรือหลายวัน อาจถึง 7 วัน
3) ผู้ที่ได้รับอันตรายต่อศีรษะ
4) กลุ่มอาการทางสมองเรื้อรัง เช่น ผู้สูงอายุที่เป็นโรคสมองเสื่อม (Senile dementia)
5) สมองมีแผลจากโรคที่เป็น เช่น herpes simplex encephalitis หรือ brain tumor
6) อาจมีภาวะทางกายบางอย่างทำให้ผู้ป่วยกระวนกระวาย โมโหง่ายขึ้น เช่น hypoglycemia
กลุ่มอาการทางจิต (Functional cause)
1) ผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต โรคจิตชนิดต่างๆ ซึ่งผู้ป่วยมีอาการกลัวหวาดระแวง หูแว่ว ประสาทหลอน
หลงผิด
2) ผู้ป่วยโรคจิตอารมณ์แปรปรวน (Affective disorders)
3) ผู้ป่วยโรคบุคลิกภาพแปรปรวน (Personality disorders)
ลักษณะพฤติกรรมของผู้ป่วยที่บ่งบอกว่าอาจแสดงอาการก้าวร้าวรุนแรง
1) แสดงอารมณ์หงุดหงิด รำคาญ ขาดความอดทน อยู่นิ่งไม่ได้
2) ใช้คำพูดรุนแรง ส่งเสียงดัง เอะอะ อาละวาด
3) มีการเคลื่อนไหว เดินไปเดินมาตลอด เหมือนวิตกกังวลมาก กระวนกระวาย
4) มีท่าทางหวาดกลัว พร้อมที่จะกระทำรุนแรงเพื่อป้องกันตัวเอง
5) ซึมเศร้า ทำร้ายตนเอง หรือฆ่าตัวตาย
6) พูดเร็ว ไม่ปะติดปะต่อ
7) สูญเสียการตัดสินใจ การรู้จักตัวเอง
8) ไม่สนใจในเรื่องของตนเอง เช่น การรับประทาน การนอน การขับถ่าย
9) แสดงท่าทางหยาบโลน กระทำความรุนแรง
10) ทุบ ทำลายสิ่งของ เครื่องใช้ หาเรื่องวิวาท
11) ชกต่อย ทุบตี ใช้อาวุธทำร้ายผู้อื่น
กระบวนการพยาบาลในการพยาบาลผู้ป่วยที่มีความก้าวร้าว (Aggression) ความไม่เป็นมิตร (Hostility)
และความรุนแรง (Violence)
การประเมิน (Assessment)
1) ประวัติการมีพฤติกรรมรุนแรงเป็นปัจจัยทำนายที่ดีที่สุดของการเกิดความรุนแรงในอนาคต
2) ผู้ป่วยที่มีความคิดหวาดระแวงจากอาการของโรคจิต อาการประสาทหลอน
3) ผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมอยู่ไม่นิ่ง หุนหันพลันแล่น
4) การประเมินความเสี่ยงของผู้ป่วยที่อาจเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง
มีความปรารถนาและความตั้งใจที่จะทำร้ายหรือไม่
มีการวางแผนและความต้องการที่จะดำเนินการตามแผนหรือไม่
ลักษณะทางประชากร เช่น เพศชาย อายุ 14-24 ปี เศรษฐานะต่ำ
5) ผู้ป่วยแสดงความก้าวร้าวบ่อย
6) ผู้ป่วยที่มีประวัติไม่สามารถควบคุมความโกรธได้
7) ความสามารถเมื่ออยู่ในสานการณ์ที่ขัดแย้ง
การปฏิบัติการพยาบาล (Nursing intervention)
1) ประเมินสภาพอารมณ์และสังเกตพฤติกรรมของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอรวมทั้งสังเกตสัญญาณเตือนของการเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงทางสีหน้า ท่าทาง คำพูด
2) สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด
3) นำสิ่งต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายหรือผู้ป่วยอาจใช้เป็นอาวุธได้ไปไว้ไกลจากผู้ป่วย
4) ลดระดับสิ่งเร้าไม่ให้อึกทึกคึกโครม ไม่กระตุ้นผู้ป่วย
5) ผู้ป่วยที่มีแรงผลักดันของความก้าวร้าวสูง
ควรจัดกิจกรรมให้ผู้ป่วยได้ระบายความก้าวร้าวไปในทางที่เหมาะสม เช่น การเล่นกีฬา
6) ขณะผู้ป่วยมีพฤติกรรมก้าวร้าว พยาบาลควรสงบ ควบคุมตัวเองให้ได้
7) บุคลากรภายในหอผู้ป่วยควรมีการเตรียมความพร้อมในการยับยั้งความรุนแรงของผู้ป่วย
8) การควบคุมความรุนแรงส่วนมากทำเป็นขั้นตอน
9) ให้แรงเสริมทางบวก ให้กำลังใจ ชมเชย
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
การประเมินผลการพยาบาลจะพิจารณาดูว่าผู้ป่วยลดความก้าวร้าว รุนแรง
และหลีกเลี่ยงความรู้สึกไม่เป็นมิตรได้หรือไม่
การฆ่าตัวตาย (Suicide) หรือการทาลายตนเอง (Self-destructive)
การกระทำที่เป็นการทำลายชีวิตของตนเองเนื่องจากความรู้สึกว่าหมดหวังในชีวิต
คิดว่าชีวิตไม่มีความหมาย
พฤติกรรมการฆ่าตัวตายหรือการทำลายตนเอง
1) การฆ่าตัวตายสำเร็จ
2) การพยายามฆ่าตัวตาย
3) ความคิดฆ่าตัวตาย
4) การแสร้งกระทำการฆ่าตัวตาย
5) การขู่จะฆ่าตัวตาย
การรักษาผู้ป่วยที่ฆ่าตัวตายหรือทำลายตนเอง
1) รักษาผลของพฤติกรรมฆ่าตัวตายก่อน เช่น ถ้ากินยาตายก็ให้การล้างท้องให้ยาแก้พิษ
2) ป้องกันการฆ่าตัวตายซ้ำ ต้องให้มีผู้ดูแลผู้ป่วยใกล้ชิดตลอดเวลา
3) การรักษาทางจิตเวช
ผู้ป่วยพยายามฆ่าตัวตายทุกรายควรได้พบจิตแพทย์ก่อนกลับบ้านเพื่อประเมินความเสี่ยง
4) รับฟังผู้ป่วย ให้โอกาสผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึก
5) ร่วมกับผู้ป่วยในการพิจารณาถึงพฤติกรรมการฆ่าตัวตายที่ผ่านมา ความคิดจะทำซ้ำ
การพูดถึงการฆ่าตัวตายกับผู้ป่วยอย่างตรงไปตรงมา
6) หากพบว่าผู้ป่วยมีโรคทางจิตเวชอยู่ ต้องให้การรักษาโดยเร็ว