Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพัฒนางานของหัวหน้าพยาบาล, นางสาวบุญทิตา ช่วยสงค์ 61104824 - Coggle…
การพัฒนางานของหัวหน้าพยาบาล
การมอบหมายงานและความรับผิดชอบ
การที่ผู้มอบหมายงานถ่ายโอนภาระงาน อำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบ ไปยังผู้รับมอบ โดยผู้รับมอบต้องมีความสามารถเหมาะสมกับงานที่ได้รับมอบหมาย โดยมี ข้อผูกพันต่อภาระงานที่ได้รับมอบหมาย ตามเงื่อนไขของเวลา ปริมาณ และคุณภาพของงานที่ถูกกำหนดโดยผู้มอบหมายงาน
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการมอบหมายงาน
สภาพบรรยากาศขององค์กร (Atmosphere of the Organization) ในองค์การที่มี ลักษณะเป็นประชาธิปไตยจะยอมให้มีการมอบหมายงานในระดับบุคคลที่ต่ำลงมาเพื่อให้มีโอกาส ตัดสินใจด้วยตนเอง ในทางตรงข้าม องค์การที่มีการควบคุมด้านการตัดสินใจต่าง ๆ จะถูกจำกัดไว้ใน ระดับสูงเท่านั้น
กิจกรรมที่ทำ (Nature of Activity Being Managed) มีการพิจารณางานตามความ ยากง่ายหรือสำคัญและจำเป็น หากเป็นงานที่ต้องใช้ความรอบคอบ Middle Manager จะสงวนงาน นั้นไว้ทำเองเพื่อที่จะควบคุมได้ด้วยตนเอง ถ้างานค่อนข้างง่ายและเหมาะสมกับความสามารถผู้บริหาร ก็จะมอบหมายงานนั้นให้ลูกน้องโดยตรง
ขั้นตอน
ระบุงานที่ต้องทำทั้งหมด พิจารณาอย่างรอบคอบว่ามีงานย่อยอะไรบ้าง
พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาของแต่ละงานอย่างชัดเจน
ขั้นต่อมาให้เขียนชื่อสมาชิกในหน่วยงานที่สามารถมอบหมายงานให้ได้ โดยพยายามนำชื่อทุกคนมาพิจารณาว่าใครควรที่จะทำงานอะไร โดยไม่ทิ้งชื่อใครไปสักคนเดียว
พิจารณาอย่างรอบคอบว่าแต่ละคนจะสามารถทำสิ่งใดได้ดี ซึ่งแต่ละคนล้วนมีความสามารถเฉพาะตน เหมาะสำหรับงานตามความถนัด
การกำหนดเป้าหมายและบทบาทของผู้รับมอบหมายงาน ผู้บริหารควร กำหนดเป้าหมายของงานที่จะมอบหมายให้ชัดเจน
เพื่อผู้รับงานจะรู้เป้าหมายและความคาดหวังของ ผู้บริหารว่าต้องการอะไร
ให้ข้อมูลผู้ที่รับมอบหมายอย่างครบถ้วน อาทิ นโยบายและขั้นตอนการ ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับงานอื่น
ความสัมพันธ์ระหว่างงานนั้นกับภาพรวมขององค์กร ขอบเขต ความรับผิดชอบ
ลักษณะของการมอบหมายงาน
การมอบหมายงานเป็นหน้าที่
ข้อดี : สามาถพัฒนาทักษะจนชำนาญ ประหยัดเวลาอุปกรณ์
ข้อเสีย : อาจไม่ได้บูรณาการเป็นองค์รวม มีการขาดตอนตามงาน
การมอบหมายงานเป็นรายบุคคล
ข้อดี : พยาบาลได้ใกล้ชิดผู้ป่วย
ข้อเสีย : ต้องใช้พยาบาลและเจ้าหน้าที่จำนวนมาก
การมอบหมายงานแบบทีม
ข้อดี : สามารถให้การพยาบาลได้ครบถ้วนและมีคุณภาพ
ข้อเสีย : หากลืมหรือเกิดความไม่ทั่วถึงในการให้การบริการพยาบาลแก่ ผู้ป่วยอาจหาคนที่ต้องรับผิดชอบในงานนั้น ๆ ได้ยาก
การมอบหมายงานแบบเจ้าของไข้
ข้อดี : พยาบาลได้เข้าใจปัญหาของผู้ป่วยและสามารถให้การพยาบาลได้ อย่างต่อเนื่องและสมบูรณ์แบบ มีการทํางานประสานกับวิชาชีพอื่น ๆ ในทีมสุขภาพเพื่อประโยชน์แก่ผู้ป่วย เป็นการกระจายอํานาจ ความรับผิดชอบของหัวหน้าให้แก่พยาบาล
ข้อเสีย : ต้องใช้พยาบาลจํานวนมากจึงจะเพียงพอกับผู้ป่วย มีความ ยุ่งยากในการจัดเวรดูแลผู้ป่วย
การมอบหมายงานแบบผสม
ความรับผิดชอบ
การที่องค์กรตอบสนองต่อประเด็นด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งที่การให้ประโยชน์กับคน ชุมชน และสังคม นอกจากนั้นยังเป็นเรื่องของบทบาทของธุรกิจในสังคมและความคาดหวังของสังคมที่มีต่อองค์กรธุรกิจ
ลักษณะความรับผิดชอบ
ทำความกระจ่างชัดกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ กลยุทธ์และเป้าหมายขององค์กร
คิดว่างานที่ได้รับมอบหมายเป็นงานที่ท้าทายความรู้ ความสามารถและศักยภาพของ
ตนเอง
ช่วยกันดูแลทรัพยากรที่มีอยู่ให้นำไปใช้ประโยชน์ต่อส่วนรวมให้มากที่สุด ไม่ฉวยโอกาส
จากองค์กร
การจัดงบประมาณ
การแบ่งปันหรือการกระจายทรัพยากรที่ขาด แคลนให้ตามความต้องการขั้นพื้นฐาน เพื่อให้หน่วยงานดําเนินกิจกรรมต่างๆ ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ขั้นตอนกระบวนการงบประมาณ
ขั้นเตรียมงบประมาณ (Budget preparation)
2.ขั้นการอนุมัติงบประมาณ (budget adoption)
ขั้นการบริหารงบประมาณ (budget execution)
ขั้นการบริหารงบประมาณ
เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารงบประมาณ จึงต้องมีการควบคุมและแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องใน การใช้จ่าย
เพื่อไม่ให้เกิดความชะงักในการปฏิบัติงาน ในโครงการต่างๆต้องให้เป็นไปตามตารางเวลาที่ กําหนด
เพื่อธํารงไว้ซึ่งเจตนารมณ์ของฝ่ายบริหารที่อนุมัติงบประมาณ เพื่อให้งานได้ดําเนินไปตามแผน
เพื่อให้มีการใช้จ่ายเงินงบประมาณเป็นไปตามเงื่อนไขทางการเงินที่ได้รับอนุมัติ
รูปแบบการจัดการงบประมาณ
งบประมาณแบบเน้นการควบคุม
ข้อดี คือ ใช้เป็นเครื่องมือของฝ่ายนิติบัญญัติในการควบคุมฝ่ายบริการ หรือเป็นเครื่องมือของฝ่ายที่จะควบคุมกํากับหน่วยงานต่างๆ เพราะได้มีการจัดทํางบประมาณที่ได้จําแนกหมวดหมู่ของค่าใช้จ่ายไว้อย่างละเอียด ชัดเจนและเป็นระเบียบ ง่ายต่อการจัดทํา ง่ายต่อการทําความเข้าใจ
ข้อเสีย คือ ขาดความยืดหยุ่นในการใช้จ่ายงบประมาณ เพราะจะทําการโอนค่าใช้จ่ายระหว่างหมวดหมู่ก็ทําได้ยากและขาดรายละเอียดของข้อมูลเพื่อการประเมินผลงาน
งบประมาณแบบเน้นการจัดการ
ข้อดี คือ สามารถแสดงความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ระหว่างผลงานที่ได้รับกับค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปว่าคุ้มค่าหรือไม่ สามารถจะประเมินผลการดําเนินงานได้ทุกระยะ ทุกระดับงาน ถ้าใช้ในฝ่ายนิติบัญญัติสามารถพิจารณาผลงานได้ ง่ายขึ้น
ข้อเสีย คือ จะเกิดจากกิจกรรมบางอย่างไม่สามารถวัดผลงานออกมาให้เห็นชัดเจนได้
งบประมาณแบบเน้นการวางแผน
ข้อดี สามารถวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของแผนงานในระยะยาว ตลอดจนวิเคราะห์การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ข้อด้อย เป็นการรวมอํานาจการตัดสินใจไว้ที่ศูนย์กลาง ยังผลให้การปฏิบัติงานในระดับล่างลงมาขาดความเป็นอิสระในการตัดสินใจ
งบประมาณที่เน้นการแก้ปัญหาข้อจํากัดทางทรัพยากร
ข้อด้อย การที่จะให้ดำเนินไปอย่างราบรื่นนั้น ผู้บริหารทุกคนต้องมีความรู้และเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี
ข้อดี เป็นการจัดสรรทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพเพราะจัดตามความจำเป็นและประโยชน์ที่ได้รับในปัจจุบันไม่ใช่จากงบประมาณที่เคยได้รับในอดีต
การจัดสรรงบประมาณทางด้านสุขภาพ
แบบรายกิจกรรม มีหรือไม่มีราคากลาง (Fee-for-service and price schedule)
แบบตามรายโรคที่ป่วย ดูตาม DRGs(Cases-based budget)
แบบเหมาจ่ายรายหัวประชากร (Capitation)
แบบงบยอดรวม(Global budget/Block grant)
บทบาทหน้าที่และคุณลักษณะ
หน้าที่
1.นิเทศ ติดตาม สนับสนุน และเป็นที่ปรึกษา
2.การบริหารหน่วยงานและพัฒนาคุณภาพการบริการ
มีการวางแผนเกี่ยวกับวิสัยทัศน์และนโยบายของโรงพยาบาล
คุณลักษณะ
1.มีทักษะความสามารถในการบริหารการพยาบาล
2.มีภาวะผู้นําและมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี
3.มีความสามารถในการบริหารจัดการ
มีลักษณะในการมอบหมายงาน
การมอบหมายงานเป็นหน้าที่ (Functional method)
เป็นรายบุคคล (Case method)
เป็นทีม (Team method)
การจัดการเชิงกลยุทธ์
ชุดของการตัดสินใจ และการกระทำที่ส่งผลให้เกิดการจัดทำแผนและการ ปฏิบัติตามแผน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์การ
การวางแผนกลยุทธ์
เป็นการดำเนินการยุทธวิธีเพื่อทำการตัดสินใจเลือกเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานในอนาคตขององค์กร ซึ่งเป็นเป้าหมายในระยะยาว
ลักษณะสำคัญ
เป็นการบริหารที่มุ่งเน้นถึงอนาคต (Future - Oriented)
เป็นการบริหารที่มุ่งเน้นการจัดการต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์การ (Change - Oriented)
เป็นการบริหารองค์การแบบองค์รวม (Holistic Approach)
เป็นการบริหารองค์การที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ในการดำเนินงาน (Result – Based Focus)
เป็นการบริหารที่ให้ความสำคัญต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์การ (Stakeholder - Oriented)
เป็นการบริหารจัดการที่มุ่งเน้นการวางแผนระยะยาว (Long – Range Planning)
ความสำคัญ
ช่วยให้องค์การมีกรอบและทิศทางที่ชัดเจน โดยกำหนดวิสัยทัศน์ ภารกิจ และวัตถุประสงค์ของ องค์การอย่างเป็นระบบ ดังนั้นการจัดการเชิงกลยุทธ์จึงเป็นสิ่งที่กำหนดทิศทางขององค์การ จะเป็นแนวทางใน การกำกับใช้ทรัพยากรขององค์การได้อย่างเหมาะสม
ช่วยให้ผู้บริหารคิดอย่างเป็นระบบ โดยการพิจารณาถึงปัจจัยสภาพแวดล้อมทั้งภายในและ ภายนอกองค์การ ทำให้ผู้บริหารสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม การตระหนักถึงความ เปลี่ยนแปลงนั้น ทำให้นักบริหารสามารถกำหนดวัตถุประสงค์และทิศทางการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับสภาวะความเปลี่ยนแปลงได้
. การจัดอัตรากำลังคน
การคัดเลือก การบรรจุตำแหน่งงานต่างๆเพื่อให้เหมาะสมกับโครงสร้างองค์กร โดยที่องค์การจะต้องมีการวางแผนกำลังคนที่ต้องการของแต่ละแผนก
หลักการสําคัญในการจัดอัตรากําลัง
แบบแผนหรือรูปแบบในการจัดอัตรากําลังและการจัดบริการพยาบาลไม่ขึ้นกับประเภทหรือ กลไกของการจ่ายค่ารักษาพยาบาล แต่ขึ้นอยู่กับชนิด ประเภทและความรุนแรงของผู้ป่วย
กระบวนการ
การวางแผนอัตรากําลัง (Staffing plan)
การจัดตารางการปฏิบัติงาน(Scheduling)
การกระจายอัตรากําลัง(Staff allocation)
การบริการการเปลี่ยนแปลง
การจัดการกับเหตุการณ์ทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเหมาะสม และทําให้เกิดการพัฒนาองค์กรทั้งเชิงประสิทธิภาพและประสิทธิผล
รูปแบบการบริการการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงเชิงรุก (Proactive)
การเปลี่ยนแปลงเชิงรับ (Reactive)
สาเหตุ
สาเหตุภายในหน่วยงาน : ความประสงค์ และวิสัยทัศน์ของหน่วยงาน โครงสร้างขององค์กร กลยุทธ์ขององค์กร กระบวนการทำงานและกระบวนการตัดสินใจ วัฒนธรรมขององค์กร
สาเหตุภายนอกหน่วยงาน : สภาพสังคม สถานการณ์ภายนอกองค์กร เศรษฐกิจ เทคโนโลยีการเมืองและกฎหมาย
กระบวนการ
ช่วงตกผลึกอีกครั้ง (Refreezing)
ช่วงการเปลี่ยนแปลง (Changing)
ช่วงละลายพฤติกรรม (Unfreezing)
ข้อดี
ช่วยสนับสนุนให้องค์การสามารถผ่านช่วงของการปรับเปลี่ยนเพื่อเข้าสู่สภาพแวดล้อมใหม่ได้อย่างสำเร็จ
ช่วยเพิ่มศักยภาพของหน่วยงาน และประกันว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นไปตามทิศทางที่ได้วางแผน และก่อให้เกิดความคุ้มค่า
การวางแผนทรัพยากรมนุษย์
ความสำคัญ
ทำให้การปฏิบัติงานของบุคลากรมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ใช้คนให้ถูกกับงาน
ทำให้บุคลากรเกิดความพอใจ และมีการพัฒนาที่ดีขึ้น
ทำให้เกิดการจ้างงานที่เท่าเทียมกัน
ประโยชน์ของการวางแผนทรัพยากรมนุษย์
ช่วยวางแผนพัฒนาการใช้ทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ช่วยให้กิจกรรมด้านทรัพยากรมนุษย์และเป้าหมายขององค์การในอนาคตมีความสอดคล้องกัน
ช่วยในด้านทรัพยากรมนุษย์เป็นไปอย่างมีระบบและมีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน
ช่วยให้การจ้างพนักงานใหม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไปตามความต้องการของแผนหรือฝ่ายต่างๆ
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
1.การสนับสนุนของผู้บริหารระดับสูง
ความตั้งใจและความมุ่งมั่นในการทำงาน
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
ขนาดและความซับซ้อนขององค์การ
การรับรู้ข้อมูลทางพฤติกรรมศาสตร์
นางสาวบุญทิตา ช่วยสงค์ 61104824