Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เเนวคิดเเละทฤษฎี การพยาบาล - Coggle Diagram
เเนวคิดเเละทฤษฎี
การพยาบาล
เเนวคิดการพยาบาลเเบบองค์รวม
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
กรีก : Holistic มาจากรากศัพท์ภาษากรีก คือ คำว่า Holos มีความหมายว่า หน่วยรวม หรือ องค์รวม
สมาคมพยาบาลองค์รวมของอเมริกา : ความสัมพันธ์ระหว่างร่างกาย จิตใจ สังคม จิตวิญญาณ อย่างสมดุล จึงให้ความสำคัญกับการประเมินและการรักษาสมดุลของตนเอง
แนวคิดหรือหลักการสำคัญของทฤษฎี
ความสมดุลการดูแลสุขภาพบุคคลให้มีความสมดุลทั้งด้าน
ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สิ่งแวดล้อม และสังคม
ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเน้นที่ตัวบุคคลไม่ใช่โรคโดยคนเป็นภาพรวมไม่ใช่การนำเอาส่วนต่างๆ มาประกอบ
ความกลมกลืนกัน : เป็นความกลมกลืนของตนเองในแต่ละมิติ กับบริบทภายนอก
ข้อตกลงเบื้องต้น/จุดเน้นของทฤษฎี
ส่งเสริมสุขภาพเชิงลุก
ทางเลือกในการดูเเลสุขภาพ
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้ในการพยาบาล
ให้ความสำคัญมิติจิตวิญญาณเป็นอันดับเเรก
มีการผ่อนคลายความเครียด
พัฒนาศักยภาพของตนเองเสมอ
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
บุคคล
องค์ประกอบภายในร่างกายของผู้รับบริการ
สิ่งเเวดล้อม
ความปลอดภัย ความสะอาด เเสง เสียง
สุขภาพ
กาย จิตใจ อามณ์ การตัดสินใจ สัมพันธภาพ ด้านจิตวิญญาณ
การพยาบาล
ดูเเลเสริมสร้างองค์ประกอบรวม เน้นการฟื้นสถาพของผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ
แนวคิดการพยาบาลแบบเอื้ออาทร
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
คิดค้นโดยจีน วัตสัน พัฒนาช่วง ค.ศ.1975-1979
เป้าหมายของการพยาบาลตามทฤษฎีการดูเเลมนุษย์คือให้บุคคลมีภาวะดุลยภาพของร่างกายเยียวยาตนเอง
เชื่อว่ารากฐานพยาบาลมีประวัติความเกี่ยวพันกับมนุษย์นิยม
แนวคิดหรือหลักการสำคัญของทฤษฎี
การดูแลที่เข้าถึงจิตใจของบุคคล (Transpersonal Caring) การดูแลที่เข้าถึงจิตใจของบุคคล (Transpersonal Caring) หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า พยาบาลเข้าไปสู่สนามปรากฏการณ์ของผู้อื่นและผู้อื่นก็เข้ามาในประสบการณ์ของพยาบาล ทำให้ผู้ดูเเลดููแลรักษาไว้ซึงศักด์ิศรีของผู้รู้ับการดูแล
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
บุคคล
เป็นองค์รวมประกอบด้วยกายใจและจิตวิญญาณ ซึ่งจิตวิญญาณเป็นแก่นตัวตน
สุขภาพ
การเจ็บป่วยเป็นภาวะที่ไม่มีดุลยภาพของจิตใจ ร่างกายและจิตวิญญาณ
การพยาบาล
เป็นกระบวนการดูแลที่เข้าถึงจิตใจและความรู้สึกของบุคคล(Transpersonal Caring)ในการส่งเสริมสุขภาพ
สิ่งแวดล้อม
เหล่านี้มีอิทธิพลต่อการรับรู้และพัฒนาของบุคคลที่อาศัยยูใ่นการดูแลซึ่งกันและกันระหว่างบุคคล
ข้อตกลงเบื้องต้น/จุดเน้นของทฤษฎี
มนุษย์ต้องการความรักและความห่วงใย
พยาบาลเป็นวิชาชีพที่ต้องให้การดูเเลบุคคล
พยาบาลต้องเป็นแบบอย่างที่ดีใน การดูเเลสุขภาพแบบองค์รวม
พยาบาลต้องยึดมั่นในมาตรฐานและหลักการใส่ใจดแูลด้วยความยุติธรรม
รักษาพยาบาลด้วยความเมตตาปราณีเป็นสาระสำคัญของการพยาบาล
การดูแลมักน้อยลงในระบบสุขภาพปัจจุบัน
การใส่ใจดูแลสุขภาพบุคคลด้วยความเอื้ออาทรเป็นประเด็นสำคัญทั้งปัจจุบันเเละอนาคต
การดูแลอย่ามีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นการปฏิบัติงานระหว่างบุคคล
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้ในการพยาบาล
การเอาใจใส่พูดคุยกับผู้ป่วยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล อ่อนโยน
พูดปลอบโยนให้กำลังใจ เมื่อผู้ป่วยรู้สึกท้อแท้ หมดหวัง
รับฟังเเละเข้าใจปัญหาเเละความต้องการของผู้ป่วยอย่างจริงใจ
สัมผัสผู้ป่วยอย่างนุ่มนวลโดยไม่แสดงความรังเกียจ
กระตุ้นให้ผู้ป่วยเปิดเผยหรือเล่าความรู้สึกของตนเองออกมา
แนวคิดการพยาบาลแบบต่อเนื่อง
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
เป็นการเตรียมความพร้อมของผู้ป่วยจากระดับหนึ่งไปอีกระดับหนึ่งของการดูเเล
เป็นกระบวนการที่ช่วยผู้ป่วยเเละคนไข้ให้ได้รับการเตรียมตัวในการออกจากความดูเเลของเเพทย์ เเละ ทีมสุขภาพไปสู่การดูเเลตนเองที่บ้าน
แนวคิดหรือหลักการสำคัญของทฤษฎี
เน้นการทำงานแบบผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง
ผู้ป่วยและทีมงานต้องทำงานร่วมกันโดยเฉพาะการตัดสินใจในแนวทางการรักษาและการดูแลตนเอง
การวางแผนการดูแลผู้ป่ วยต่อเนื่องควรทำอย่างเป็นทางการทุกครั้งที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษา
การวางแผนดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องเน้นการดุแลแบบองค์รวม และมีการสื่อสารระหว่างทีมงานที่ชัดเจนเพื่อคุณภาพบริการ
ข้อตกลงเบื้องต้น/จุดเน้นของทฤษฎี
โดยใช้หลัก D METHOD
D Diagnosis ให้ความรู้เรื่องโรคที่เป็นอยู่ถึงสาเหตุ อาการ การปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง
M Medicine แนะนำการใช้ยาที่ตนเองได้รับอยางละเอียด สรรพคุณของยา ขนาด วิธีใช้ ข้อควรระวังในการใช้ยา ตลอดจนการสังเกตภาวะแทรกซ้อนรวมทั้งข้อห้ามการใช้ยาด้วย
E Environment /Environment การจัดการสิ่งแวดล้อมที่บ้านให้เหมาะสมกับภาวะสุขภาพให้เหมาะสมกับภาวะสุขภาพ
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
การพยาบาล
เชื่อมโยงระหว่างการดูเเลสุขภาพผู้ป่วย
สุขภาพ
คำนึงถึงปัญหาเเละความต้องการรของผู้ป่วยเป็นายบุคคล
สิ่งเเวดล้อม
ความปลอดภัย ความสะอาด เเสง เเละ เสียง
บุคคล
บทบาททีมสหสาขา บทบาทของผู้ป่วย ญาติ ครอบครัว บทบาทพยาบาล บทบาทเเพทย์
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้ในการพยาบาล
ต้องมีการตัดสินใจที่ดีเหมาะสมกับสถานการณ
แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยในสุขภาพของผู้ป่วยและญาติและยอมรับในความเป็นบุคคล
ทฤษฎีการพยาบาลไนติงเกล
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
เป็นทฤษฎีทางการพยาบาลที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นทฤษฎีแรก ค.ศ. 1820 - 1910 ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ให้กำเนิดวิชาชีพพยาบาล ซึ่งถึอว่าเป็นการพยาบาลแนวใหม่ (modern nursing)มีจุดเน้นหลักเกี่ยวกับความต้องการเพื่อความปลอดภัยและการป้องกันสิ่งแวดล้อม
แนวคิดหรือหลักการสำคัญของทฤษฎี
เน้นสิ่งแวดล้อมที่เป็นสถานการณ์และแรงผลักภายนอก ซึ่งมีอิทธิพลต่อชีวิตและพัฒนาการของบุคคล และการจัดหาสิ่งแวดล้อมเชิงคุณภาพให้บุคคลเพื่อตอบสนองความต้องการพื้นฐานและส่งเสริมให้เกิดการฟื้นโดยมีองค์ประกอบ 5 ประการ ที่ช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมเพื่อสุขภาพ
1) มีการระบายอากาศที่ดี
2) แสงสว่างเพียงพอ
3) ความอบอุ่นเพียงพอ
4) การควบคุมเสียง
5) การควบคุมสิ่งขับถ่ายออกจากกร่างกาย
ข้อตกลงเบื้องต้น/จุดเน้นของทฤษฎี
เน้นสิ่งแวดล้อมของผู้ป่วยเป็นสำคัญ การพยาบาลจะเป็นการจัดสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุดให้กับผู้ป่วย เพื่อให้ธรรมชาติมีส่วนให้ผู้ป่วยหายเร็วขึ้น
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
บุคคล
ผู้รับบริการประกอบไปด้วยมิติทางชีวะ จิต และสังคม เป็นผู้มีศักยภาพหรือมีพลังในตนเองที่จะฟื้นหายจากโรคหรือซ่อมแซมสุขภาพ เมื่อเกิดการเจ็บป่วยและสามารถฟื้นคืนสภาพได้ดี ถ้ามีสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย
สุขภาพ
จะผูกพันอยู่กับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสุขภาพ หมายถึง การปราศจากโรคและการใช้พลังอำนาจของบุคคลในการใช้ธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สิ่งแวดล้อม
เป็นมโนทัศน์ที่เป็นหัวใจสำคัญของทฤษฎี ปัจจัยภายนอกทั้งหมดที่มีอิทธิพลต่อชีวิตและพัฒนาการ ได้แก่การระบายอากาศ แสงสว่างที่เพียงพอ ความสะอาด ความอบอุ่น การควบคุมเสียง การกำจัดขยะมูลฝอยและกลิ่น อาหารและน้ำที่สะอาด รวมถึงปฏิสัมพันธ์ระหว่างพยาบาลกับผู้ป่วยทั้งด้วยคำพูดและภาษากาย
การพยาบาล
เป็นการจัดสิ่งเอื้ออำนวยให้เกิดกระบวนการหายด้วยสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุด ด้วยความเชื่อที่ว่า สิ่งแวดล้อมย่อมมีอิทธิพลต่อสุขภาพ และการพยาบาลมุ่งเน้นที่บุคคลต้องการมีกระบวนการซ่อมแซมของร่างกาย การปฏิบัติต่อผู้ป่วยจะเริ่มด้วยการสังเกตบุคคลและสิ่งแวดล้อมเพื่อการ ประเมินและการจัดกิจกรรมการพยาบาล
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้ในการพยาบาล
การวางแผนการพยาบาลจัดการกับสิ่งแวดล้อมทั้งทาง กาย จิตใจและสังคม
การประเมินสุขภาพอนามัยของบุคคล สังเกตสิ่งแวดล้อมของผู้ป่วยและสืบค้นหาความสัมพันธ์หรือผลกระทบของสิ่งแวดล้อมต่อสุขภาพของผู้ป่วย
การวินิจฉัยทางการพยาบาลวิเคราะห์ข้อมูล สังเกตสิ่งแวดล้อมและบุคคลจะทำให้ สามารถเห็นกิจกรรมการพยาบาลได้
การปฏิบัติการพยาบาลจัดการกับสิ่งแวดล้อมและร่วมมือกับแพทย์ เพื่อส่งเสริมสุขภาพ
ทฤษฎีการพยาบาลรอย
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
พัฒนาขึ้นโดยคอลลิสต้า รอย (Sister Callista Roy) ผลงานของรอยได้รับการเผยแพร่ในครั้งแรกปี ค. ศ .1970 แ ละ พัฒนาทฤษฎีพร้อมเผยแพร่ต่อมาในปี ค.ศ.1971, 1973,1974, 1976, 1980, 1991 และ 1999 ตามลำดับ
แนวคิดหรือหลักการสำคัญของทฤษฎี
ปรับตัวเพื่อเอาชนะสิ่งแวดล้อมหรือปัญหา เพื่อถ่วงดุลสิ่งที่ตนเองยังขาดอยู่ ปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมหรือปัญหา เมื่อไม่สามารถเอาชนะได้ จึงปรับตนเองให้สอดคล้องตามสิ่งแวดล้อมและปัญหานั้น เพื่อรักษาสมดุลนั้นไว้
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
บุคคล
เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยชีวะ จิต สังคม ( Biopsychosocial ) และมีระบบการปรับตัวเป็นองค์รวมเป็นระบบเปิดที่มีปฎิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาการปรับตัวของบุคคลกระทำเพื่อรักษาภาวะสมดุลของระบบ
ภาวะสุขภาพ
เป็นผลจากการมีปฎิสัมพันธ์ของบุคคลกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการมีสุขภาพดี หมายถึง การที่บุคคลมีการปรับตัวได้ดี ส่วนการเจ็บป่วยจึงเป็นผลจากการปรับตัวไม่ดี ขึ้นอยู่กับปัจจัย 2 ประการ คือ ระดับความรุนแรงของสิ่งเร้ากับระดับความสามารถในการปรับตัวของบุคคล
สิ่งแวดล้อม
ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวบุคคลทั้งภายในและภายนอกมีผลกระทบต่อพัฒนาการและพฤติกรรมของบุคคลสิ่งเร้า มีทั้งหมด 3 ประเภท คือ สิ่งเร้าตรง สิ่งเร้าร่วม สิ่งเร้าแฝง
การพยาบาล
เป็นการช่วยเหลือที่ให้กับบุคคล กลุ่มบุคคล ครอบครัว ชุมชน และการพยาบาล
ข้อตกลงเบื้องต้น/จุดเน้นของทฤษฎี
บุคคลเป็นระบบการปรับตัว ( Human as Adaptive System )
พฤติกรรมการปรับตัว ( Adaptive mode )
สิ่งเร้า ( Stimuli )
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้ในการพยาบาล
ประเมินพฤติกรรมของผู้ป่วย (Assessment of behaviors)
ประเมินองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อการปรับตัว (Assessment of influencing factors)
การวินิจฉัยการพยาบาล ( Nursing diagnosis)
การวางแผนการพยาบาล ( Nursing plan )
การปฏิบัติการพยาบาล ( Nursing Intervention )
ทฤษฎีการพยาบาลของโอเรม
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
โอเรมได้พิมพ์เผยเเพร่หนังสือเกี่ยวกับเเนวคิดการดูเเลผู้รับบริการโดยการช่วยเหลือให้บุคคลดูเเลตนเองเเละช่วยให้สมาชิกในครอบครัวดูเเลผู้เจ็บป่วยตั้งเเต่ปี ค.ศ.1956 ซึ่งเเนวคิดถูกนำมาพัฒนาเป็นทฤษฎีที่รวมมโนติสำหรับปฏิบัติการพยาบาลที่เน้นการดูเเลตนเองเป็นเป้าหมายหลัก
แนวคิดหรือหลักการสำคัญของทฤษฎี
ทฤษฎีการดูแลตนเอง (theory of
self-care)
ความต้องการการดูแลตนเองทั้งหมด (therapeuticself-care demand)
ความสามารถในการดูแลตนเอง (self-care agency)
ความพร่องในการดูแลตนเอง (self-care deficit)
ความสามารถทางการพยาบาล (nursing agency)
ปัจจัยเงื่อนไขพื้นฐาน (basic conditioning factors)
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้ในการพยาบาล
มีความตั้งใจและสนใจเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีปฏิบัติตัวขณะเจ็บป่วย
ให้คำแนะนำเรื่องการรับประทานยาและการรับประทานอาหารที่ถูกต้องและเพียงพอ
มีความสามารถพูดคุย สื่อสารกับบุคคลอื่นได้ดี
ข้อตกลงเบื้องต้น/จุดเน้นของทฤษฎี
เน้นที่ตัวบุคคลคือความสามารถของบุคคลที่ต้องตอบสนองต่อความต้องการในการดูเเลตนเอง
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
บุคคล
ผู้มีความสามารถในการกระทำอย่างจงใจ (deliberate action) มีความสามารถในการเรียนรู้ วางแผนจัดระเบียบปฏิบัติกิจกรรม
สุขภาพ
คือ คนที่มีโครงสร้างที่สมบูรณ์สามารถทำหน้าที่ของตนได้ ทางสรีระ จิตใจสัมพันธภาพระหว่างบุคคล และด้านสังคมโดยไม่สามารถแยกจากกันได้
สิ่งแวดล้อม
หมายถึงสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ เคมี ชีวภาพ และด้านสังคมวัฒนธรรม
การพยาบาล
เป็นบริการการช่วยเหลือบุคคลอื่นให้สามารถดูแลตนเองได้อย่างต่อเนื่องและเพียงพอกับความต้องการในการดูแลตนเอง
ทฤษฎีการพยาบาลวัตสัน
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
ทฤษฏีทางการพยาบาล ที่มีจุดเน้นที่การดูแล (Caring) ซึ่งพัฒนามาตั้งแต่ปี ค.ศ.1979 ภายใต้อิทธิพลทางด้านมานุษยวิทยารวมทั้ง ความรู้สึกผูกพันต่อบทบาทการดูแลเพื่อการฟื้นหายของผู้ป่วยที่วัตสันประจักษ์ด้วยตัวเอง ประกอบกับประสบการณ์ของวัตสันขณะเผชิญความเจ็บป่วย เผชิญการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก
แนวคิดหรือหลักการสำคัญของทฤษฎี
เน้นการดูแลอันเป็นคุณธรรมที่ดำรงค์ไว้ซึ่งศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ โดยอาศัยการสร้างสัมพันธภาพระหว่างผู้ให้การดูแลกับผู้ได้รับการดูแล ภายใต้ ความรักในความเป็นเพื่อนมนุษย์ ที่ให้ความสำคัญทั้งร่างกายและจิตใจอย่างไม่แยกออกจากกัน จนผู้ให้การดูแลสัมผัสถึงพลังแห่งการดูแล
ข้อตกลงเบื้องต้น/จุดเน้นของทฤษฎี
การดูแลและความรักเป็นพลังสากล
มนุษย์ต้องการความรักและการดูแลซึ่งกันและกัน
การพยาบาลเป็นวิชาชีพที่ให้การดูแล การรักษาไว้ซึ่งค่านิยมนี้มีผลต่อพัฒนาความมีอารยธรรม
4.ก่อนให้การดูแลบุคคลอื่น เราต้องตั้งเจตนาดูแลตนเองด้วยความสุภาพอ่อนโยน
การพยาบาลต้องยึดถือการดูแลความเป็นมนุษย์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาวะสุขภาพดีและการเจ็บป่วย
การดูแลเป็นแกนกลางของการพยาบาล และเป็นจุดเน้นในการปฏิบัติการพยาบาล
การดูแลเชิงมนุษย์นิยมไม่ว่ารายบุคคลหรือกลุ่มบุคคลได้รับความสนใจจากระบบบริการสุขภาพน้อยลง
ค่านิยมเกี่ยวกับการดูแลของพยาบาลถูกบดบังไว้ เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เพิ่มขึ้น
การอนุรักษ์ไว้และการศึกษาเรื่องการดูแลมนุษย์ให้มีความก้าวหน้า เป็นประเด็นสำคัญของวิชาชีพการพยาบาลทั้งในปัจจุบันและอนาคต
10.การดูแลมนุษย์ทำได้โดยการมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันเท่านั้นจึงเป็นการสอนให้ค้นพบความเป็นมนุษย์
11.ประโยชน์ของวิชาชีพการพยาบาลต่อสังคมโดยรวมอยู่ที่การยึดมั่นในอุดมการณ์การดูแลเชิงมนุษย์นิยมทั้งด้านทฤษฎีการปฏิบัติและการวิจัย
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
สุขภาพ
เป็นภาวะที่มีดุลยภาพและมีความกลมกลืนระหว่างจิตใจ ร่างกายและจิตวิญญาณหรือมีความสอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างตัวตน ตามที่รับรู้และตัวตนตามที่ประสบจริง
การพยาบาล
เป็นกระบวนการดูแลที่เข้าถึงจิตใจและความรู้สึกของบุคคล(Transpersonal Caring) ในการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การเยียวยาการเจ็บป่วยและการฟื้นฟู
บุคคล
เป็นองค์รวมประกอบด้วยกาย ใจและจิตวิญญาณ ซึ่งจิตวิญญาณเป็นแก่นตัวตน
สิ่งแวดล้อม
มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องมีอิทธิพลต่อการรับรู้และพัฒนาของบุคคลการดูแลซึ่งกันและกันระหว่างบุคคล ค่านิยมของสังคมเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมให้การดูแลเกิดขึ้น
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้ในการพยาบาล
เกื้อหนุนดูเเล เอาใจเขามาใส่ใจเรา ให้ความรู้สึกอบอุ่น โดยอาศัยการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพความเข้ากันได้ระหว่างพยาบาลกับผู้ป่วย
อธิบายความเป็นไปของโรคอย่างสม่ำเสมอ
ช่วยผู้ป่วยกำหนด
เป้าหมายชีวิตตามสภาพที่เป็นจริง
ตอบคำถามของผู้ป่วยให้ชัดเจนไม่คลุมเครือในระดับที่ผู้ป่วยสามารถยอมรับ
ทฤษฎีการพยาบาลคิง
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
พยาบาลชาวอเมริกันสร้างโดย IMogene M.Kingปี ค.ศ.1917 เสนอ"มโนทัศน์ระบบปฏิสัมพันธ์" (The Interacting System framework)พัฒนามโนทัศน์เป็นทฤษฎีการบรรลุเป้าหมาย เผยแพร่ในปี ค.ศ. 1981
แนวคิดหรือหลักการสำคัญของทฤษฎี
ระบบของบุคคล (personal system)
การรับรู้ (Perception
อัตตาตัวตน (Self)
ภาพลักษณ์ (Body image)
การเจริญเติบโตและพัฒนาการ (Growth and development)
เวลา (Time)
อาณาบริเวณ (Space)
ระบบระหว่างบุคคล (interpersonal system)
การมีปฏิสัมพันธ์ (Interaction)
การติดต่อสื่อสาร (Communication)
การบรรลุเปูาหมายของการปฏิสัมพันธ์ (Transaction)
บทบาท (Role)
ความเครียด (Stress)
ระบบสังคม
ระบบสังคมทั่วไป
ระบบบริการสุขภาพ
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างพยาบาลกับผู้ใช้บริการ
ข้อตกลงเบื้องต้น/จุดเน้นของทฤษฎี
เน้นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การรับรู้ สัมพันธภาพระหว่างบุคคล สังคม เเละการเจ็บป่วย โดยมีความเชื่อคือ
การพยาบาล
มนุษย์
สุขภาพ
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
บุคคล (Persons)
บุคคลเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
ทุกคนมีความนึกคิด มีความรู้สึกเป็นของตนเอง
ทุกคนมีเหตุผลของตนเอง
บุคคลเป็นผู้มีการรับรู้
มีความสามารถที่จะแสดงความโต้ตอบ(React)ตามการรับรู้ของตนเอง
มีความสามารถที่จะกระทำสิ่งต่างๆ(Action-oriented being)
มีความสามารถที่จะวางเปูาหมายในการกระทำสิ่งต่างๆ
มีความสามารถที่จะตัดสินใจและควบคุมตนเองได้
ทุกคนมีเวลาในเรื่องต่างๆที่เหมาะสมเฉพาะของตนเอง
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้ในการพยาบาล
การประเมินสภาพ (ASSESSMENT)
การติดต่อสื่อสาร
ขั้นตอนของการสร้างสัมพันธภาพ
มีการแลกเปลี่ยนการรับรู้ ระหว่างพยาบาลกับผู้รับบริการ
การวางแผนการพยาบาล (PLANNING)
ขั้นตอนการร่วมกันกำหนดเป้าหมาย
แสวงหาวิธีปฏิบัติ
ยอมรับวิธีปฏิบัติร่วมกัน
การประเมินผลการพยาบาล (EVALUATION)
ช่วยกันหาวิธีขจัดอุปสรรค
ประเมินผลการปฏิบัติว่าสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดร่วมกันหรือไม่
การปฏิบัติการพยาบาล (IMPLEMENTATION)
พยาบาลมีหน้าที่ปฏิบัติบทบาทของพยาบาล
ผู้รับบริการปฏิบัติกิจกรรมตามวิธีที่ตกลงร่วมกัน
ทฤษฎีการพยาบาลเพนเดอร์
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
ทฤษฎีนี้มีฐานความคิดจากทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของ Albert Bandura ซึ่งสนใจในกระบวนการเรียนรู้ในการเปลี่ยนพฤติกรรม และจากทฤษฎี Fishbein’s theory ซึ่งเป็นทฤษฎีที่บอกการกระทำอย่างมีเหตุผลและบรรทัดฐานสังคมทฤษฎีนี้มีส่วนคล้ายกับ Health Belief Modelแต่ไม่มีข้อจำกัดในการอธิบายเกี่ยวกับการป้องกันโรคและพฤติกรรม ที่นำมาซึ่ง สุขภาพดี จากที่ท่านมีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับพัฒนาการของมนุษย์ การทดลองด้านจิตวิทยาจึงทำให้มีการนำจิตวิทยาสังคม และทฤษฎีการเรียนรู้มาเป็นส่วนหนึ่งของทฤษฎี
ข้อตกลงเบื้องต้น/จุดเน้นของทฤษฎี
บุคคลแสวงหาภาวะของชีวิตที่สร้างสรรค์
บุคคลแสวงหาการควบคุมพฤติกรรมของตนริเริ่มจากตนเอง สร้างแบบแผน ความสัมพันธ์ บุคคลกับสิ่งแวดล้อม
บุคคลประกอบด้วยกาย จิต สังคม มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งเเวดล้อม
บุคลาการด้านสุขภาพเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อม
ให้คุณค่าการเจริญเติบโตในทางบวก
การริเริ่มจากตนเองสร้างแบบแผนความสัมพันธ์ของบุคคลกับสิ่งแวดล้อม
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
บุคคล
มีลักษณะแตกต่างกัน เป็นแกนหลักของการปฏิบัติพฤติกรรมสุขภาพ
สิ่งแวดล้อม
สิ่งแวดล้อมระหว่างบุคคลและเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อมทางกายภาพ
ภาวะสุขภาพ
ระดับสูงของบุคคลในทิศทางบวก
การพยาบาล
บทบาทในบริบทของการสร้างเสริมสุขภาพเป็นบทบาทสำคัญ
แนวคิดหรือหลักการสำคัญของทฤษฎี
1.ลักษณะเฉพาะและประสบการณ์ของบุคคล พฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง ปัจจัยส่วนบุคคล
เพศ
อายุ
ลักษณะรูปร่าง
สภาวะวัยรุ่น
2.ความคิดและอารมณ์ต่อพฤติกรรม
รับรู้ประโยชน์ต่อการปฎิบัติ
รับรู้อุปสรรคในการปฏิบัติ
รับรู้ความสามารถในการปฏิบัติ
3.พฤติกรรมผลลัพธ์
ความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติ
ความจำเป็นอื่นและทางเลือกอื่น
พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้ในการพยาบาล
การจัดระบบสนับสนุนที่เอื้อต่อการมีพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ
การจัดกิจกรรมเพื่อเสริมศักยภาพให้บุคคลรับรู้สมรรถนะแห่งตน
การจัดค่ายอาหารสำหรับป้องกันโรคอ้วนในวัยเด็ก
การพยาบาลข้ามวัฒนธรรม
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
เริ่มพัฒนาทฤษฎีในปี ค.ศ. 1965 ผู้คิดค้น Madeleine lininger เป็นปฏิบัติการ การดูแลสุขภาพที่คํานึงถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความแตกต่างทางวัฒนธรรม
แนวคิดหรือหลักการสำคัญของทฤษฎี
การพยาบาลที่เน้นการให้คุณค่าและการปฏิบัติโดยเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างทางวัฒนธรรมของบุคคลหรือกลุ่ม รวมทั้งวิเคราะห์พฤติกรรมการดูแลและการให้บริการทางการพยาบาลแบบแผนและพฤติกรรมต่างๆของคนในเชื้อชาติหรือวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เพื่อให้ความตอบสนองที่สอดคล้องกับความต้องการการดูแลเฉพาะของเชื้อชาติหรือวัฒนธรรม
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้ในการพยาบาล
1.ประเมินข้อมูลดูวิถีชีวิต และแนวคิด ความเชื่อของแต่ละบุคคลเป็นหลัก
2.วินิจฉัยการพยาบาลโดยใช้มุมมองของผู้รับบริการเป็นหลัก
3.วางแผนการพยาบาล กระทำตามความต้องการของผู้ป่วยที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมครอบครัวและเน้นการมีส่วนร่วม
4.ปฏิบัติการพยาบาลการดูแล ควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับวัฒนธรรม และ สนองตอบต่อค่านิยม หรือไม่แตกต่างมากนัก
5.ประเมินผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทำให้สุขภาพดี หายจากโรค หรือตาย อย่างสงบ ประเมินโดยใช้ผู้ป่วย ครอบครัวและการยอมรับของกลุ่มชนเป็นหลัก
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
สิ่งแวดล้อม
มุมมองและโครงสร้างสังคม หรือบริบทของสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัมโนมติของวัฒนธรรม (เชื้อชาติศาสนา ภาษา ศิลปะ ประเพณีค่านิยม)
สุขภาพ
วัฒนธรรมเป็นผลมาจากความสามารถของบุคคลหรือกลุ่ม โดยบุคคลแต่ละกลุ่มจะแสดงบทบาทของตนในการใช้ชีวิตประจำวันภายใต้วัฒนธรรมของตนเอง
การพยาบาล
ต้องประเมินและวางแผนการพยาบาล มุ่งผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง มีความเข้าใจในคุณค่าที่เฉพาะเจาะจง ตามความเชื่อ และการปฏิบัติที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมของผู้รับบริการ
บุคคล
“ความหลากหลายทางชีวภาพ” ซึ่งอาจได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรม สังคม การศึกษา แรงจูงใจ
ข้อตกลงเบื้องต้น/จุดเน้นของทฤษฎี
ต้องรวมความเชื่อทางวัฒนธรรมพฤติกรรม กาดูเเล ค่านิยมของบุคคล ครอบครัว เเละกลุ่มบุคคลเข้ากับการปฏิบัติการพยาบาลที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมเเละมีผลที่น่าพอใจ
ทฤษฎีการพยาบาล TTM
ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
ทฤษฎีการพยาบาลเป็นโมเดลที่อธิบายความตั้งใจหรือความพร้อมของบุคคลที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเอง
ผู้คิดค้น James OProchaska, Ph.D. Carlo diClemente,Ph.D.
ข้อตกลงเบื้องต้น/จุดเน้นของทฤษฎี
1.บุคคลแสวงหาภาวการณ์ของชีวิตที่สร้างสรรค์ด้านสุขภาพของตน
2.บุคคลตระหนักรู้ในตนเอง
3.บุคคลให้คุณค่าแก่การเจริญเติบโต
4.บุคคลแสวงหาการควบคุมพฤติกรรมตนเอง
5.บุคคลมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
6.บุคลากรด้านสุขภาพเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อม
7.การริเริ่มด้วยตนเองในการสร้างแบบแผนในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
มโนทัศน์หลักของทฤษฎี
1.Pre-contemplation คนไข้ยังไม่พร้อมในการปรับเปลี่ยน
2.Contemplation คนไข้รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและคิดว่าน่าจะปรับเปลี่ยนได้
3.Preparation คนไข้เริ่มวางแผนการปรับเปลี่ยน เริ่มตั้งเป้าหมาย
4.Action คนไข้เริ่มปฏิบัติตามแผน
5Maintenance คนไข้สามารถปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ ได้อย่างน้อย 6 เดือนแนวคิดหรือหลักการสำคัญ
6.Relapse เป็นขั้นตอนที่อาจเกิดหรือไม่ก็ได้ คือ คนไข้กลับไปกระทำพฤติกรรมเดิม
แนวคิดหรือหลักการสำคัญของทฤษฎี
การรับรู้สมรรถนะแห่งตน (self-efficacy)เป็นความเชื่อมั่นที่บุคคลมีต่อตนเอง มีความสามารถที่จะปฏิบัติพฤติกรรมเป้าหมายได้สำเร็จ
ความสมดุลและการตัดสินใจเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การที่บุคคลประเมินสมดุลระหว่างผลดี และผลเสีย ที่จะได้รับการปฏิบัติพฤติกรรมเป้าหมาย
ตัวอย่างการนำทฤษฎีการพยาบาลไปใช้ในการพยาบาล
1.ขั้นก่อนมีความตั้งใจในการเปลี่ยนเเปลงพฤติกรรม➡️การปลูกจิตสำนึก การประเมินพฤติกรรม
2.ขั้นมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม➡️การประเมินตนเองการเปรียบเทียบผลดีและผลเสียของพฤติกรรม
3.ขั้นเตรียมการ➡️การรับรู้สิ่งแวดล้อมที่สนับสนุนสุขภาพ
4.ขั้นปฏิบัติการ➡️การหาแรงสนับสนุนทางสังคม
5.ขั้นพฤติกรรมคงที่➡️ การควบคุมสิ่งเร้า การให้การเสริมแรง การส่งเสริมความมั่นใจในความสามารถของตนเอง