Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พยาธิสรีรภาพของไตและระบบทางเดินปัสสาวะ, การตอบสนองของร่างกายต่อความผิดปกติ…
พยาธิสรีรภาพของไตและระบบทางเดินปัสสาวะ
โรคกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
โรคกลั้นปัสสาวะไม่อยู่และกลุ่มอาการที่เกี่ยวข้องกัน ได้แก่ ปัสสาวะบ่อยมาก ทั้งกลางวัน กลางคืน ปวดกลั้นมากขณะที่จะไปห้องน้ำจนบ่อยครั้ง หรือบางครั้งกลั้นไม่อยู่ราดออกไปก่อน สตรีหลังคลอดบุตรตามธรรมชาติผ่านช่องคลอด 2 – 3 คนแล้ว อาจจะพบว่ามีอาการปัสสาวะเล็ดออกมาบ้างทั้งน้อยหรือมากเมื่อเวลาเป็นหวัด มีไอและจาม พบว่าปัสสาวะเล็ด เรียกว่า ปัสสาวะเล็ดเมื่อมีการออกแรงเบ่งช่องท้อง
สาเหตุ
สาเหตุหลักที่สำคัญและเกี่ยวข้องโดยตรงในสตรีเพศเป็นเพราะว่า กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อนลง บางทีเรียกกันว่า กระบังลม (เชิงกราน) หย่อน ลองนึกถึงภาพ เปลญวณที่ผูกขึงไว้หย่อนเมื่อมีแรงของน้ำหนักตัวที่ลงไปนั่งนอนยิ่งหย่อนลงไปคล้าย ๆ กับกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานที่หย่อนอาจจะดึงท่อปัสสาวะและช่องคลอดหย่อนลงมาด้วยเป็นมุมที่ทำให้ปัสสาวะเล็ดราดออกมาได้ง่าย
ประเภทโรคกลั้นปัสสาวะไม่อย่
ปัสสาวะกลั้นไม่อยู่ที่เป็นมาแต่กำเนิด (Congenital)
ปัสสาวะรดที่นอน (Bed Wetting Enuresis)
ปัสสาวะกลั้นไม่อยู่จากระบบประสาท (Neurogenic)
ปัสสาวะเล็ดเมื่อออกแรงเบ่ง (Stress Urinary Incontinence)
ปัสสาวะราดกลั้นไม่ได้ (Urge Incontinence)
ปัสสาวะเล็ดและราดร่วมกัน (Mixed Incontinence) หมายถึงอาการข้อ 4 และข้อ 5 เป็นร่วมกัน
ปัสสาวะล้นซึม (Over Flow Incontinence)
ปัสสาวะบ่อยมากในช่วงกลางวัน (Urinary Freguency Daytime)
ปัสสาวะบ่อยในช่วงเวลากลางคืน (Nocturia Night Time)
ปัสสาวะปวดกลั้น (Urgency)
กระเพาะ,
ความชุกของโรคกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
การรักษาโรคกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
การบริหารฝึกฝนกล้ามเนื้ออุ้งกราน Kegel Exercise
การบริหารทานยา
ปัสสาวะคั่งค้าง(Urinary Retention)
ภาวะที่ไม่สามารถขับปัสสาวะได้ตามปกติแม้ว่ารู้สึกปวดปัสสาวะมากหรืออาจต้องใช้
เวลาเบ่งปัสสาวะนานกว่าจะออกในรายที่เป็นไม่รุนแรงยังถ่ายปัสสาวะได้ตามปกติ แต่มักถ่ายได้ไม่สุด ทํา
ให้นํ้าปัสสาวะบางส่วนค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ
อาการ
ปวดปัสสาวะแต่เบ่งไม่ออก
ท้องอืดบริเวณท้องช่วงล่าง
ปวดแน่นท้องรู้สึกไม่สบาย
สาเหตุ
ท้องผูก
ท่อปัสสาวะตีบแคบ
นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
ไส้ตรงยื้นย้อย
เนื่องอก
ต่อมลูกหมากโต
การรักษา
การระบายน้ำปัสสาวะออก
การใช้ยา
การผ่าตัด
ภาวะโปรตีนในปัสสาวะ
อาการโปรตีนรั่ว ทำให้ผู้ป่วยตัวบวมผิดปกติ และไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนกับคนทั่วไป จำเป็นต้องได้รับการรักษา โดยภาวะดังกล่าวยังส่งสัญญาณถึงการอักเสบของไต นำไปสู่ภาวะไตวายในอนาคตได้อีกด้วย
อาการโปรตีนรั่ว หรือเรียกว่า “เนฟโฟรติก” เป็นสัญญาณที่แสดงถึงโรคไตอักเสบ มีการขับโปรตีนชนิดที่เรียกว่าอัลบูมินออกมาทางปัสสาวะมากเกินไป ทำให้เกิดอาการตัวบวมตามมา และจะพบมากในเด็ก ซึ่งอาการบวมที่เกิดจากโปรตีนรั่วจำเป็นต้องได้รับการรักษา
สาเหตุของอาการโปรตีนรั่ว
การแทรกซ้อนจากตัวโรคเอง อาจเกิดจากการไม่ตอบสนองต่อการรักษา หรือเกิดในผู้ป่วยที่ขาดการรักษาไปเป็นเวลานาน อาจทำให้ไตวายได้ในอนาคต
การแทรกซ้อนที่เกิดจากการรักษา คือผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแล้วดูแลในเรื่องของสุขลักษณะได้ไม่ดีพอ จึงเกิดการติดเชื้อได้ง่าย เนื่องจากยาที่ใช้ในการรักษาเป็นยากดภูมิ
ความสำคัญของการรักษา
คือเรื่องการกินยาต่อเนื่อง ไม่ควรหยุดยาหรือเพิ่มยาเอง หากมีปัญหาต้องรีบติดต่อแพทย์ เพื่อวางแผนปรับยาโดยเร็ว นอกจากนี้คนไข้ควรดูแลเรื่องการรับประทานอาหารที่สุกสะอาด เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด หรือปรุงด้วยเกลือปริมาณมาก เพราะจะทำให้ตัวบวม ทั้งยังกระตุ้นความดันโลหิตให้สูงขึ้น
วิธีการตรวจ
การตอบสนองของร่างกายต่อความผิดปกติของระบบ การขับถ่ายปัสสาวะ
ปัสสาวะมาก ( Polyuria )
ปัสสาวะมากผิดปกติ
• ค่าเฉลี่ยของปริมาณปัสสาวะในแต่ละวันจะไม่เกิน 3 ลิตรในวัยผู้ใหญ่
• และไม่ควรเกิน 2 ลิตรในวัยเด็ก
• ไม่เกี่ยวว่าจํานวนครั้งที่ปัสสาวะต่อวันจะมากหรือน้อย วัดเฉพาะปริมาณเท่านั้น
• จึงจําเป็นต้องตรวจวัดด้วยการเก็บปัสสาวะตลอดทั้งวัน 24ชั่วโมง เพื่อดูว่าแท้จริงแล้วปริมาณปัสสาวะมี
เท่าไร หากเกินข้อกําหนดที่กล่าวไว้ข้างต้น ค่อยเข้ารับการตรวจรักษาต่อไป
ปัสสาวะมากเกิดจากอะไร
1.มีภาวะโรคเบาจืด
เป็นโรคเกี่ยวกับการเสียสมดุลของนํ้าในร่างกาย ซึ่งมีอัตราการเกิดน้อยมาก นานๆ
ครั้งจึงจะพบผู้ป่ วยที่เป็นโรคเบาจืดสักทีหนึ่งส่วนมากเป็นเพราะความผิดปกติของฮอร์โมนแอนติไดยูเรติกผู้ป่วยก็จะมีความกระหายนํ้าอย่างรุนแรง
มีภาวะ Psychogenic polydipsia
เป็นความผิดปกติในด้านพฤติกรรม คือ ติดนิสัยการทาน
นํ้าปริมาณมาก เป็นพฤติกรรมที่บางครั้งเชื่อมโยงกับระบบประสาท
มีโรคเบาหวาน
ผู้ป่วยเบาหวานจะ
รู้สึกกระหายนํ้าบ่อยกว่าปกติ และทานอาหารมาก แต่นํ้าหนักตัวกลับลดลงแน่นอนว่าต้องปัสสาวะมากตลอด
ทั้งวัน แม้ในยามหลับ หากเป็นขั้นรุนแรงก็อาจมีอาการปัสสาวะรดที่นอนได้
โรคเกียวกับไต
ประเด็นนี้เน้นหนักไปที่โรคอะไรก็ตาม ที่ทําให้ไตไม่สามารถเก็บนํ้าเอาไว้ได้ เมื่อเก็บ
ไม่ได้ก็ต้องปล่อยออกเท่านั้นเอง
ประเภทของอาการปัสสาวะมาก
กลุ่ม Solute diuresis : เป็นภาวะปัสสาวะมากที่มีต้นตอมาจาก เกิดปริมาณสารบางอย่างที่ดึงนํ้า
ออกจากร่างกาย แล้วกลายเป็นปัสสาวะ โดยที่จะเป็นสาร electrolyteหรือ nonelectrolyte ก็
ได้
กลุ่ม Water diuresis : เป็นภาวะที่ปัสสาวะถูกขับออกมาเร็วกว่าปกติ ลักษณะจะเป็นของเหลวที่เจือ
จางมาก หากพูดให้เข้าใจง่ายก็คือนํ้าผ่านกระบวนการดูดซึมน้อยเกินไปนั่นเอง ซึ่งจะต้องวินิจฉัยด้วยค่า
urine osmolality < 250 mosm/kg
ความสําคัญของค่า ADH
คือควบคุมการทํางานของไตกลไกการดูดซึมและการกรองสารพิษต่างๆจึงดำเนินไปได้อย่างสมบรูณ์ไม่ส่งผลกระทบในทางไม่ดีต่อร่างกายรักษาสมดุงน้ำในร่างกายให้ปกติ
ปัสสาวะออกน้อย ( Oliguria and Anuria )
การที่ผู้ป่วยมีปริมาณปัสสาวะน้อยกว่า 400 ซีซีต่อวัน ซึ่งเป็นอาการแสดง (sign) ที่ชี้ บ่งว่าผู้ป่วยกำลังเกิดกลุ่มอาการไตวายเฉียบพลัน (acute renal failure)
AKI คืออะไร
ภาวะไตวายเฉียบพลัน คือ ภาวะทีมีการสูญเสียการทํางานของไตในช่วงเวลาเป็ นชัวโมงหรือเป็ น
วัน เป็ นผลให้เกิดการคังของของเสียและการควบคุมสมดุลกรดด่างรวมทั งปริมาณนํ าและเกลือแร่ใน
ร่างกายผิดปกติ ซึงถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ การใช้คําว่า “เฉียบพลัน” นอกจากบ่งถึงช่วงเวลาระยะสั นทีเกิดขึ นแล้ว ยังบ่งถึงความเป็ นไปได้ทีไตจะกลับสู่ภาวะปกติได้
ผลกระทบที่เห็นได้ชัดเจนจากภาวะปัสสาวะน้อย
• มีอาการบวมของร่างกาย
• ระดับฮอร์โมนอดรีนัลเพิ่มขึ้นสูงกว่าปกติ
• มีการหลั่งสารเรนินจากเซลล์ผนังหลอดเลือดในส่วนของไตมากขึ้น
เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะตามมา
การรักษา
ทานน้ำให้มากขึ้น
ป้องกันและลดอตัราการสูญเสียน้ำของร่างกายในทุกกรณี
ฝึกวินัยในการปัสสาวะไม่อั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน