Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Job Development of Nurse Director - Coggle Diagram
Job Development of Nurse Director
การมอบหมายงานและความรับผิดชอบ
การมอบหมายงานแบบผสม (Multiple Method)
เป็นการผสมผสานกันหลายๆ แบบเช่นแบบทีมร่วมกันกับแบบตามหน้าที่แบบรายบุคคลร่วมกับแบบทีมซึ่งอาจแก้ปัญหาพยาบาลไม่เพียงพอได้
การมอบหมายงานแบบเจ้าของไข้ (Primary Nursing)
-ข้อดีคือพยาบาลได้เข้าใจปัญหาของผู้ป่วยและสามารถให้การพยาบาลได้อย่างต่อเนื่องและสมบูรณ์แบบมีการททำงานประสานกับวิชาชีพอื่นๆในทีมสุขภาพเพื่อประโยชน์แก่ผู้ป่วยเป็นการกระจายอำนาจความรับผิดชอบของหัวหน้าให้แก่พยาบาล
-ข้อเสียคือต้องใช้พยาบาลจำนวนมากจึงจะเพียงพอกับผู้ป่วยมีความยุ่งยากในการจัดเวรดูแลผู้ป่วย
การมอบหมายงานแบบทีม (Team Method)
-ข้อดีคือสามารถให้การพยาบาลได้ครบถ้วนและมีคุณภาพได้ใช้ความรู้ความสามารถตรงตามศักยภาพและมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นร่วมกันช่วยใหบรรลุวัตถุประสงค์ได้ดีทุกคนมีความสำคัญมีคุณค่าเท่าเทียมกันทั้งทีมช่วยให้มีความกระตือรือร้นมากขึ้น
-ข้อเสียคือหากลืมหรือเกิดความไม่ทั่วถึงในการให้การบริการพยาบาล แต่ผู้ป่วยอาจหาคนที่ต้องรับผิดชอบในงานนั้น ๆ ได้ยากส่วนใหญ่วิธีการนี้มีผลเสียน้อยหากทุกคนรู้บทบาทของตนเองเป็นอย่างดีและมีความรับผิดชอบสูง
การมอบหมายงานเป็นหน้าที่
-ข้อดีคือสามารถพัฒนาทักษะความชำนาญในเรื่องนั้นประหยัดเวลาอุปกรณ์ใช้บุคลากรน้อยลง แต่สามารถให้บริการผู้ป่วยจำนวนมากอาจจะเหมาะสำหรับการปฏิบัติงานในระยะสั้น ๆ
-ข้อเสียคืออาจไม่ได้บูรณาการเป็นการขาดตอนตามงานมุ่งงานมากกว่ามุ่งคนเกิดผิดพลาดได้ง่ายเพราะรับผิดชอบถ้าพังคนเดียวเป็นการทำตามหน้าที่ของตนเองเท่านั้นสัมพันธภาพกับผู้ป่วยไม่ดีทำให้ขาดการเรียนรู้ของใหม่
มอบหมายงานเป็นรายบุคคล (case method)
ข้อดีคือพยาบาลได้ใกล้ชิดผู้ป่วยโดยเฉพาะผู้ป่วยหนักสามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงทีเข้าใจปัญหาของผู้ป่วยมีความไว้วางใจต่อกันมากขึ้น
ข้อเสียคือต้องใช้พยาบาลและเจ้าหน้าที่ค่อนข้างมากจะรู้จักเฉพาะผู้ป่วยที่รับผิดชอบเท่านั้นอาจมีข้อ จำกัด สำหรับนักศึกษาพยาบาลและพยาบาลจบใหม่ตลอดจนเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ไม่สามารถดูแลผู้ป่วยหนักได้ทุกราย
การวางแผนกลยุทธ์
ลักษณะสำคัญของการจัดการเชิงกลยุทธ์
-เป็นการบริหารที่มุ่งเน้นถึงอนาคต (Future-Oriented)
-เป็นการบริหารที่มุ่งเน้นการจัดการต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์กร (Charage-Oriented) -เป็นการบริหารองค์การแบบองค์รวม (Holistic Approach)
-เป็นการบริหารองค์การที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ในการดำเนินงาน (Result-Base Focus)
-เป็นการบริหารที่ให้ความสำคัญต่อผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์การ
-เป็นการบริหารจัดการที่มุ่งเน้นการวางแผนระยะยาว (Long-Range Planing
ความสำคัญ
-ช่วยให้องค์กรมีกรอบและทิศทางที่ชัดเจน
-ช่วยให้ผู้บริหารคิดอย่างเป็นระบบ
-ช่วยสร้างความพร้อมในองค์กร
-ช่วยสร้างประสิทธิภาพในการแข่งขัน
-ช่วยให้การทํางานสอดคล้องในการปฏิบัติหน้าที่
-ช่วยให้องค์กรมีมุมมองที่ครอบคลุม
การจัดอัตรากำลังคน
หลักการสำคัญในการจัดอัตรากำลัง
แบบแผนหรือรูปแบบในการจัดอัตรากำลังเและการจัดบริการพยาบาลไม่ขึ้นกับประภทหรีอกลไกของการจ่ายค่ารักษาพยาบาล แต่ขึ้นอยู่กับชนิดประเภทและความรุนแรงของผู้ป่วย
การจัดอัตรากำลังต้องอยู่บนพื้นฐานการมุ่งผลสัมฤทธิ์ต้านประสิทธิภาพความคุ้มค่าคุณภาพการดูแลผู้ป่วยตอบสนองพันธกิจและสอดคล้องกับผลลัพธ์ที่โรงพยาบาลมุ่งหวัง
ประเมินผลการจัดอัตรากำลังต้องประเมินทั้งด้านคุณภาพการดูแลผู้ป่วยและคุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากรโดยสามารถประกันคุณภาพการพยาบาลได้
มีระบบการจัดเตรียมบุคลากรทดแทนให้เพียงพอในกรณีบุคลากรป่วยมีเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือมีปริมาณงานเพิ่มขึ้น (ผู้ป่วยมาก) และมีแผนการลดจำนวนบุคลารเมื่อมีปริมาณงานลดลง
วัตถุประสงค์
เพื่อกำหนดปริมาณอัตรากำลังให้มีบุคลากรทางการพยาบาลดูแลผู้ป่วยและให้บริการสุขภาพอย่างเพียงพอเหมาะสมและสมดุลกับภาระงานในแต่ละช่วงเวลาตลอด 24 ชั่วโมง
เพื่อจัดสรรพบุคลากรทางการพยาบาลที่มีคุแสมบัติตามที่กำหนดสามารถใช้ประโยชน์จากความรู้ความชำนาญของบุคลากรทางการพยาบาลอย่างเต็มที่และจัดสัดส่วนการผสมผสานอัตรากำลัง (Stafirg Fixed) อย่างเหมาะสม
เพื่อออกแบบการจัดตารางเวลาการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการพยาบาลให้เหมาะสมกับภารกิจของหน่วยงานหรือจัดคนในแต่ละวันหรือแต่ละผลัด
กระบวนการ
การวางแผนอัตรากำลัง
เป็นการคาดการณ์เกี่ยวกับประเภทคุณภาพคุณสมบัติของบุคลากรเพื่อตอบสนองเป้าหมายขององค์กรแบ่งเป็น
1.แผนระยะสั้นเป็นการวางแผนการกำหนดอัตรากำลังให้มีเพียงพอที่จะให้บริการในแต่ละวันตลอดทั้งปี
2.แผนระยะยาวเป็นการวางแผนอัตรากำลังในอีก3,5และ10ปี
การจัดตารงการปฎิบัติงาน (Scheduling)
เป็นกระบวนการควบคุมและประเมินกิจกรรมอัตรากำลังเพื่อให้มีอัตรากำลังที่เหมาะสมเพียงพอในการให้บริการพยาบาลตลอดช่วงเวลาของการบริการรวมทั้งการกำหนดวันเวลาการปฏิบัติงานและวันหยุดของบุคลากรพบซึ่งแบบแผนจัดตารางการปฏิบัติงานมีผลกระทบโดยตรงต่อค่าใช้จ่ายด้านค่าจ้างแรงงาน (Labor Cust) ดังนั้นการจัดตารางการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ต้องอยู่บนพื้นฐานของการใช้ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณภาระงานในแต่ละช่วงเวลาเพื่อให้การใช้อัตรากำลังมีประสิทธิภาพสูงสุด
การกระจายอัตรากาลัง (Statt allocation)
เป็นกระบวนการกระจายและการผสมผสานอัตราพลังในแต่ละประเภทที่มีอยู่ในแต่ละหน่วยงานให้เหมาะสมเพียงพอกับปริมาณภาระงานและความต้องการการพยาบาลของผู้ป่วยในช่วงเวลาปฏิบัติการนั้น
การจัดการ การเปลี่ยนแปลง
รูปแบบของการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงเชิงรับ:การถูกเปลี่ยนแปลงโดยผู้อื่น
การเปลี่ยนแปลงเชิงรับ: การเปลี่ยนแปลงตนเองก่อนการได้รับการเปลี่ยนแปลงจากผู้อื่้น
สาเหตุการเปลี่ยนแปลง
-การนำการเปลี่ยนแปลงมาใช้ประโยชน์
-การไล่ตามการเปลี่ยนแปลง
-การต่อต้านการเปลี่ยนแปลง
-การปฎิเสธการเปลี่ยนแปลง
-การต่อต้านเปิดเผย
-การต่อต้านเงียบ
บทบาทหน้าที่ของผู้บริหารในการจัดการ
แสดงบทบาทสนับสนุน ร่วมกับเริ่มกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและมีการคาดการณ์และวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างเ้หมาะสมเพื่อรับรองสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น
การจัดทรัพยากร
การบริหารทรัพยากรมีความสำคัญอย่างไรต่อองค์กร
-ได้รับและใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เหมาะสมและทันสมัย
-ประหยัดทรัพยากรและใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ
-อัตราบุคลากรทางการแพทย์มีปริมาณเพียงพอในการดูแลผู้ป่วย
หลักการจัดสรรวัสดุอุปกรณ์
-อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีการจัดการทั่วทั้งองค์กรตามแผน
-มีวัสดุอุปกรณ์สำรองไว้สำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งหมด
-อุปกรณ์การแพทย์มีการควบคุมให้เป็นไปตามมาตรฐานสม่ำเสมอ
-มีโปรแกรมการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน
-บุคคลที่ทำหน้าที่ต้องผ่านการรับรองในการให้บริการ
-อุปกรณ์การแพทย์ได้รับการทดสอบเมื่อรับมาใหม่และหลังจากใช้งานตามความเหมาะสม
หลักการในการจัดการทรัพยากรบุคคล(อ้างอิงจาก วารสารสภาการพยาบาล ปีที่24ฉบับที่4 เรื่อง ลักษณะฝ่ายการพยาบาลที่เป็นเลิศในโรงพยาบาลทุติยภูมิ)
-ตระหนักถึงคุณภาพชีวิตขิงบุคลากร
-กำหนดสรรถนะของผู้ปฏิบัติงานในแต่ละตำแหน่งชัดเจน
-สรรหา/คัดเลือก คนที่มีความสามารถทางการพยาบาลมาร่วมงาน
-มีแผนพัฒนาบุคลากรที่ชัดเจนตามบันไดอาชีพ
-มีแผนสร้างวิชาการ/นักวิจัยและสร้างคนใหม่อย่างต่อเนื่อง
-มีการธำรงรักษาบุคลากรที่เป็นคนดี คนเก่งให้อยู่ในองค์การ
-มีระบบพยาบาลพี่เลี้ยงในการปฎิบัติงาน
การจัดสรรบุคลากร
-สนับสนุนและส่งเสริมให้บุคลากรมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเหมาะสมสอดคล้องกับภารกิจ
-พัฒนาระบบบริหารจัดการบุคลากรและกำหนดโครงสร้างด้านทรัพยากรบุคคลให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ
-พัฒนาระบบการประเมินภาระงาน การเประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างยุติธรรม เสมอภาค โปร่งใส
-ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตบุคลากร เพื่อให้เกิดแรงจูงใจ
ชนิดของงบประมาณ กระบวนการจัดสรร หลักการในการจัดสรรงบประมาณเป็นอย่างไร
บทบาทผู้บริหารหรือหัวหน้าพยาบาลในการจัดการงบประมาณ มีดังนี้คือ
-ร่วมกำหนดพันธกิจ นโยบาย เป้าหมายในการจัดทำและจัดสรรงบประมาณ
-จัดทำงบประมาณของกลุ่มการพยาบาล
-ร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณางบประมาณ
-บริหารงบประมาณ ควบคุมค่าใช้จ่าย
-วางแผน/จัดให้มีการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับการเงินและงบประมาณ
1.งบบุคล รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานบุคคลภาครัฐ ได้แก่ รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะของเงินเดือน ค่าจ้างประจำ ค่าจ้างลูกจ้าง ค่าจ้างชั่วคราว สัญญาจ้าง รวมถึงรายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่นๆ
2.งบดำเนินการ หมายถึงรายจ่ายทีกำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานประจำได้แก่ รายจ่ายที่ต้องจ่ายเป็นค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ ค่าสาธารณูโภครวมึงรายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่นๆในลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นงบที่หน่วยงานใช้ไปในให้เกิดผลผลิตต่างๆ
3.งบลงทุน ค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าที่ดิน
4.งบเงินอุดหนุน เป็นค่าบำรุง
5.งบเงินสด
6.งบแผนการ วางแผนในแต่ละปีตามแผนปฎิบัติ
ขั้นตอนจัดทำงบประมาณ
1.ประเมินสภาพแวดล้อมขององค์กร
2.กำหนดวัตถุประสงค์
3.กำหนด เป้าหมายการดำเนินงาน
4.กำหนดนโยบายการปฏิบัติงาน เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์
5.กำหนดข้อสมมติฐาน ในการวางแผน
6.ประเมินและจัดทำแผนสำหรับโครงการต่างๆ
7.จัดทำแผนงบประมาณระยะยาว
8.จัดทำ แผนงานระยะสั้น
9.จัดทำรายงานการวิเคราะห์ต่างๆ
10.จัดทำรายงานผลการปฏิบัติงาน เพื่อการติดตามผลงานและแผนงบประมาณ
ความสำคัญ
1.เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารงบประมาณ จึงต้องมีการควบคุมและแก้ไขปัญหาข้อบ่งพร่อง ในการใช้จ่าย
2.เพื่อไม่ให้เกิดความชะงักในการปฏบัติงาน ในโครงการต่างๆต้องให้เป็นไปตามตารางเวลาที่กำหนด
3.เพื่อธำรงไว้ซึ่งเจตนารมณ์ของฝ่ายบริหารอนุมัติงบประมาณ เพื่อให้งานได้ดำเนินไปตามแผน
4.เพื่อให้มีการใช้จ่ายเงินงบประมาณไปตามเงื่อนไขทางการเงินที่ได้รับอนุมัติ
5.เพื่อความยืดหยุ่นของงบประมาณซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายสำคัญในการบริหารงาบประมาณเพราะหากมีสถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงวอย่างไท่ได้คาดหมายไว้ก่อน ก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงงบประมาณให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในขณะนั้น โดยการยืดหยุ่นในการใช้จ่ายงบประมาณ ประเภทของงบประมาณ
6.เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณสอดคล้องเป็นไปตามแผน โครงการที่ได้รับการอนุมัติ
7.เพื่อให้มีความยืดหยุ่นได้ในทุกระดับของการบริหารสามารถใช้จ่ายเงิยงบประมาณในการด้านการดำเนินโครงการต่างๆในบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้รับการอนุมัติ