Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พยาธิสรีรภาพของไตและระบบทางเดินปัสสาวะ - Coggle Diagram
พยาธิสรีรภาพของไตและระบบทางเดินปัสสาวะ
ปัสสาวะมาก ( Polyuria )
• ปัสสาวะมากผิดปกติ
• ค่าเฉลี่ยของปริมาณปัสสาวะในแต่ละวันจะไม่เกิน 3 ลิตรในวัยผู้ใหญ่
• และไม่ควรเกิน 2 ลิตรในวัยเด็ก
• ไม่เกี่ยวว่าจํานวนครั้งที่ปัสสาวะต่อวันจะมากหรือน้อย วัดเฉพาะปริมาณเท่านั้น
• จึงจําเป็นต้องตรวจวัดด้วยการเก็บปัสสาวะตลอดทั้งวัน 24ชั่วโมง เพื่อดูว่าแท้จริงแล้วปริมาณปัสสาวะมี
เท่าไร หากเกินข้อกําหนดที่กล่าวไว้ข้างต้น ค่อยเข้ารับการตรวจรักษาต่อไป
เกิดจากอะไร
มีภาวะโรคเบาจืด
มีภาวะ Psychogenic polydipsia
มีโรคเบาหวาน
โรคเกียวกับไต
ประเภทของอาการปัสสาวะมาก
กลุ่ม Solute diuresis : เป็นภาวะปัสสาวะมากที่มีต้นตอมาจาก เกิดปริมาณสารบางอย่างที่ดึงนํ้า
ออกจากร่างกาย แล้วกลายเป็นปัสสาวะ โดยที่จะเป็นสาร electrolyte หรือ nonelectrolyte ก็
ได้
กลุ่ม Water diuresis : เป็นภาวะที่ปัสสาวะถูกขับออกมาเร็วกว่าปกติ ลักษณะจะเป็นของเหลวที่เจือ
จางมาก หากพูดให้เข้าใจง่ายก็คือ นํ้าผ่านกระบวนการดูดซึมน้อยเกินไปนั่นเอง ซึ่งจะต้องวินิจฉัยด้วยค่า
urine osmolality < 250 mosm/kg
ปัสสาวะออกน้อย ( Oliguria and Anuria )
มีเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 400 มิลลิลิตรต่อ 24
ชั่วโมงในวัยผู้ใหญ่ และ100 มิลลิลิตรต่อ 24 ชั่วโมงในวัยเด็ก หากปัสสาวะมีปริมาณน้อยกว่านี้ก็จะถือว่า
เข้าสู่ภาวะปัสสาวะน้อยแล้ว
AKI คืออะไร
AKI
หรือ Acute kidney injury เป็ นภาวะไตวายเฉียบพลัน อวัยวะส่วนไตเกิดการเสียสมดุลไปจนถึงเสีย
ประสิทธิภาพในการทํางานไปอยางรวดเร็ว ซึ่งปัจจัยที่ส ่ ่งผลให้การภาวะไตวายเฉียบพลัน กมี็ได้หลากหลาย
แต่
่สุดท้ายมักจะให้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน
Pre-renal AKI : เป็ นภาวะที่ effective arterial blood volume
Intrinsic AKI : นี่คือการเกิดพยาธิสภาพบริเวณ renal parenchymal
. Post-renal AKI : มักเป็ นอาการอุดตันบริเวณ bladder outlet
. Sepsis-associated AKI : นี่คือการติดเชื้อในกระแสเลือด
Postoperative AKI : ส่วนใหญ่แล้ว Postoperative AKI
Burn and acute pancreatitis :กรณีนี้
จะเป็นการสูญเสียนํ้
าปริมาณมากอยางฉับพลัน
. Nephrotoxic drug associated AKI
Endogenous toxin
Tumor lysis syndrome
โรคกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
สาเหตุ
กล้ามเนื้อ
ุอุ้งเชิงกรานหยอนลง บางทีเรียก
ว่า กระบังลม ่ (เชิงกราน) หย่อน
ประเภทโรคกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
ที่มาแต่กำเนิด ํ (Congenital
ปัสสาวะรดที่นอน
จากระบบประสาท
ปัสสาวะเล็ดเมื่อออกแรงเบ่ง
ปัสสาวะราดกลั้นไม่อยู่
เล็ดและราดร่วมกัน
ล้นซึม (Over Flow Incontinence)
ปัสสาวะบ่อยมากในช่วงกลางวัน
ปัสสาวะบ่อยในช่วงเวลากลางคืน
ปัสสาวะอดกลั้น
กระเพาะ, ปัสสาวะไวเกิน (Over Active Bladder)
ปัสสาวะคั่งค้าง(Urinary Retention)
เป็น ภาวะที่ไม่สามารถขับปัสสาวะได้ตามปกติแม้ว่ารู้สึกปวดปัสสาวะมากหรืออาจต้องใช้
เวลาเบ่งปัสสาวะนานกว่าจะออก ในรายที่เป็นไม่รุนแรงยังถ่ายปัสสาวะได้ตามปกติ แต่มักถ่ายได้ไม่สุด ทํา
ให้นํ้าปัสสาวะบางส่วนค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ
อาการ
ปัสสาวะไม่ออกเฉียบพลัน
ปวดปัสสาวะ เเต่เบ่งปัสสาวะไม่ออก
ปวดเเน่นท้อง
ท้องอืดบริเวณ ท้องช่วงล่าง
ปัสสาวะไม่ออกเรื้อรัง
ปัสสาวะบ่อยมากกว่า 8 วัน/ครั้ง
ถ่ายปัสสาวะไม่สุด
มีการเเสบขัดขณะปัสสาวะ
สาเหตุ
ท่อปัสสาวะอุดตัน
ระบบประสาท
การใช้ยา
กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะอ่อนแรง
การรักษา
• การระบายนํ้าปัสสาวะ (Bladder Drainage)
การใช้ยา
การผ่าตัด
ภาวะเเทรกซ้อน
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
กระเพาะปัสสาวะเสียหายหรือทํางานผิดปกต
ไตทํางานผิดปกติ
ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้
ภาวะโปรตีนในปัสสาวะ
การตรวจพบ proteine หรือ albumin ในปัสสาวะซึ่งมักจะมีสาเหตุจากโรค
ไต การรับประทานยาบางชนิด
วิธีการตรวจโปรตีนในปัสสาวะ
ใช้แทบตรวจปัสสาวะจุ่มในปัสสาวะแล้วเทียบสีจะตรวจพบโปรตีนเมื่อมีปริมาณโปรตีน 300-500 มก.
การตรวจปัสสาวะหาค่า Protein Creatinine
ปัจจัยที่มีผลต่อโปรตีนในปัสสาวะ
การออกกำลังกาย
ภาวะหัวใจวาย
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
มีไข้
คนอ้วน
ไต kidney
ไต มี 2 ข้าง ซ้ายเเละขวา
อยู่บริเวณตำเเหน่ง T12-L3 ขนาด 6
11
3cm
เป็นRetroperitoneal organ
ชั้นของไต
ไตชั้นนอก (Kidney Cortex) : ประกอบด้วย หน่วยไต (Nephron) จ านวน 1 ล้าน หน่วยไต 1
ข้าง เป็นที่กรองของเสียออกจากเลือด
ไตชั้นใน (Kidney Medulla) : เป็นท่อรวมของเสียจากหน่วยไตในรูปปัสสาวะ น าเอาน้ าปัสสาวะ
ไปสู่กรวยไต (Pelvis) เพื่อน าออกไปสู่ท่อไต (Ureter)
หน่วยไต (NEPHRON)
เป็น anatomical unit of kidney function
ประกอบด้วย
Glomerulus
− Renal corpuscle
− Bowman capsule
− Afferent & efferent arteriole
Renal tubule
− Proximal tubule
− loop’s of Henle
− Distal tubule
− Collecting duct
Vascular supply
ท่อไต (ureter)
เป็ น retroperitoneal structures ที่ต่อจาก renal
pelvis ถึงกระเพาะปัสสาวะ(bladder)
มีความยาวประมาณ 25-30cm
•แบ่งเป็ น 3 ส่วน
abdominal ureter จาก renal pelvisสู่ the
pelvic brim
pelvic ureter: จาก the pelvic brim สู่ the
bladder
intravesical or intramural ureter: ในthe
bladder wall
กระเพาะปัสสาวะ (Urinary Bladder)
เป็นอวัยวะมีลักษณะเป็นถุง ประกอบด้วยชั ้นกล้ามเนื ้อ วางในช่องท้องส่วนล่าง
มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมพีระมิด
ขนาดความจุ 400-600ml
ประกอบด้วย Body , fundus, Trigone
ท่อปัสสาวะ (Urethra)
Male urethra ยาวประมาณ 20 cm แบ่งออกเป็น 3
1.Prostatic urethra (3-4 cm) ส่วนที่ออกจาก
กระเพาะปัสสาวะ ผ่านเข้าไปอยู่ในเนื ้อต่อมลูกหมาก
(prostate gland)
Membranous urethra (1 cm) ส่วนนี ้ออกจากเนื ้อ
ต่อมลูกหมาก ผ่านเข้า ไปใน urogenital และ pelvic
diaphragm
Penile urethra (U) ยาวประมาณ 15 cm ล้อมรอบ
ด้วย corpus spongiosum ปลายสุดขยายกว้างเรียก
fossa navicularis และเปิดออกที่ glan