พลวัตทางการเมือง เศรษฐกิจ
สังคมและเทคโนโลยี
ที่มีผลต่อการจัดการศึกษา
ก่อน ค.ศ.2000
1.การศึกษาสมัยโบราณ
(พ.ศ. 1781-2411)
4.การศึกษาไทยสมัยพัฒนาการศึกษา
(พ.ศ. 2492-2539)
3.การศึกษาของไทยสมัยการปกครองระบอบรัฐธรรมนูญระยะแรก(พ.ศ.2475-2491)
5.การศึกษาไทยสมัยก่อนยุคโลกาภิวัตน์
(พ.ศ.2540-2543)
2.การศึกษาสมัยปฏิรูปการศึกษา
(พ.ศ.2412-2475)
กรุงศรีอยุธยา
กรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
สุโขทัย (พ.ศ.1781-1921)
สังคมและเทคโนโลยี
การจัดการศึกษา
เศรษฐกิจ
การเมือง
การเมือง
เศรษฐกิจ
สังคมและเทคโนโลยี
การจัดการศึกษา
เศรษฐกิจ
การเมือง
สังคมและเทคโนโลยี
การจัดการศึกษา
ปกครองแบบระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์(พ่อปกครองลูก)
ทำการเกษตรแบบดั้งเดิม
มีการค้าเสรี
ต่างชาติอาศัยอยู่มากขึ้น
แบ่งแยกชนชั้นชัดเจน
ศึกษาวิชาชีพ วิชาจริยศึกษาและศิลปะป้องกันตัว
ปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์(สมมติเทพ)
จัดตั้งพระคลังสินค้า จัดเก็บภาษีและมีการส่งออก
แบ่งแยกชนชั้นที่ชัดเจน
เกิดรร.มิชชันนารีและวิชาการทหาร
ปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
มีการขยายตัวทางการค้า ทำสนธิสัญญาเบอร์นีและเบาว์ลิง
มีชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่มากขึ้น
สมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี
เศรษฐกิจ
สังคมและเทคโนโลยี
การเมือง
การจัดการศึกษา
เปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
เกิดกลุ่มคณะราษฎรและเกิดการสร้างสถาปัตยกรรมใหม่
ประกาศใช้แผนการศึกษาชาติพ.ศ.2475
ประกาศพระราชบัญญัติครูและจัดตั้งคุรุสภาขึ้นเป็นสภาในกระทรวงศึกษาธิการ
ใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษาทั่วประเทศ
เศรษฐกิจ
สังคมและเทคโนโลยี
การเมือง
การจัดการศึกษา
เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร 2475
เกิดแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ส่งเสริมการลงทุนจากเอกชนในการพัฒนาอุตสาหกรรม
ตื่นตัวในด้านเสรีภาพ
ให้ความสำคัญด้านการศึกษา
พ.ศ.2516
พ.ศ.2517
รัฐธรรมนูญ 2540
พรบ.การศึกษา 2542
บุคคลย่อมมีเสรีภาพในวิชาการ การึกษาอบรม
กระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม
การจัดทำ พรบ.การศึกษา 2542 เกิดจาก รัฐธรรมนูญ 2540
ลักษณะการปกครองบิดาปกครองบุตร
ปกป้องคุ้มภัย
ถวายฎีกาโดยสั่นกระดิ่ง
มีกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี
มีหัวเมืองปกครอง
หัวเมืองชั้นนอก
เมืองประเทศราช
หัวเมืองชั้นใน
ข้อสังเกต 3 ประการ
ด้านสิทธิเสรีภาพ
ด้านระบบความเชื่อ
ด้านการจัดระเบียบสังคม
ลูกขุน
ไพร่
พ่อขุน
ทาส
หัตถกรรม
วัด
กษัตริย์รับอำนาจจากสวรรค์
ยุคสมัย
สมัยอยุธยาตอนกลางและตอนปลาย
อยุธยาตอนต้น
สมเด็จพระรามาธิบดีที่1 (อู่ทอง)
การปกครองส่วนกลางแบบจตุสดมภ์
วัง
คลัง
เวียง
นา
สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
มีสมุหนายก
ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ
ชาติแรกที่เข้ามาคือ โปรตุเกส
สเปน อังกฤษ ฮอลันดา ฝรั่งเศส
มีเศษฐกิจที่ดีเพราะตั้งอยู่บริเวณลุ่มน้ำ
มีการเกษตรแบบพอยังชีพ
กษัตริย์เป็นเจ้าชีวิต
การปกครองส่วนกลาง
สมุหนายก
เสนาบดีจตุสดมภ์
สมุหกลาโหม
กลมวัง
กลมคลัง
กลมเวียง
กลมนา
การปกครองส่วนภูมิภาค
หัวเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออก
หัวเมืองชั้นนอก
หัวเมืองฝ่ายเหนือ
หัวเมืองชั้นใน
หัวเมืองชั้นนอก
รายได้จากการค้ากับต่างประเทศ
รายได้ภายในประเทศ
กำไรจากการผูกขาดการค้า
ภาษีปากเรือ
การค้าสำเภาหลวง
ภาษีสินค้าออก
สินค้าผูกขาด
สินค้าต้องห้าม
กระสุนปืน
ดินประสิว
อาวุธปืน
งาช้าง
รังนก
หนังกวาง
ไม้ฝาง
อำนาจของพระคลังสินค้า
อากร
ส่วย
จังกอบ
ฤชา
สภาพสังคม
ดำเนินชีวิตคล้ายอยุธยาตอนปลาย
สังคมชนบท
มีการแบ่งชนชั้น
เชื่อพระวงศ์
ขุนนาง
พระมหากษัตริย์
ไพร่
ทาส
ระยะเก็บรวบรวมตำราจากแหล่งต่างๆ
สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
โหราศาสตร์
ดาราศาสตร์
จริยศาสตร์
สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีศิลาจารึกวิชาความรู้สามัญและวิชาชีพ
วัดพระเชตุพนเป็นมหาวิทยาลัยแรกของไทย
ใช้หนังสือประถม ก กา และ หนังสือประถมมาลา
ตั้งโรงพิมพ์หนังสือไทยครั้งแรก
การศึกษาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
การศึกษาสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระราชดำรัส
วิชาหนังสือเป็นวิชาที่น่านับถือ
มีโรงเรียนเกิดขึ้นในวังและในวัด
มีกำหนดวิชาเรียน
มีการสอบไล่
มีทุนเล่าเรียนหลวง
ด้านการเมือง
ภัยจากการคุกคามของประเทศมหาอำนาจ
ความต้องการบุคคลที่มีความรู้ความสามารถมารับราชการ
ด้านสังคม
โครงสร้าง
เลิกทาส
ติดต่อกับต่างชาติ
มีวัฒนธรรมแบบตะวันตก
แนวคิดและวิทยาการ
คณะมิชชันนารีเข้ามาเผยแพร่
ด้านการแพทย์
โรงเรียนของพวกสอนศาสนา
การที่พระองค์เสด็จต่างประเทศทำให้มีแนวคิดในการปฏิรูปการศึกษา
อิทธิพลจากปัจจัยด้านการเมือง การปกครอง ด้านสังคม มีผลต่อด้านการศึกษา
พ.ศ.2424
พ.ศ.2425
พ.ศ.2423
พ.ศ.2432
พ.ศ.2414
พ.ศ.2435
พ.ศ.2437
พ.ศ.2449
จัดตั้งโรงเรียนหลวงในวัง
อาจารย์ใหญ่
พระยาศรีสุนทรโวหาร
ตั้งโรงเรียนสุนันทาลัย
ปรับโรงเรียนสวนกุหลาบให้เป็นโรงเรียนนายทหาร
ต่อมาเป็นโรงเรียนข้าราชการพลเรือน
จัดตั้งโรงเรียนแผนที่
จัดตั้งโรงเรียนหลวงสำหรับราษฎร แห่งแรกคือ โรงเรียนมหรรณพาราม
จัดตั้งโรงเรียนแพทย์
โรงเรียนแพทยากร
จัดตั้งโรงเรียนมูลศึกษา
นักเรียนฝึกหัดครูชุดแรก
โรงเรียนฝึกหัดครู บ้านสมเด็จเจ้าพระยา
พ.ศ.2456
จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูหญิงขึ้นครั้งแรกที่โรงเรียนเบญจมราชาลัย
ปัจจัยที่มีผลต่อการศึกษามีดังนี้
ด้านการเมือง
ส่งทหารไปร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร
สร้างความรู้สึกชาตินิยม
ด้านสังคม
ทรงศึกษาวิชาการต่างประเทศ
ผลอันเนื่องมาจากการจัดการศึกษา
แบบอย่างและวิธีการ
เพิ่มวิชาลูกเสือ
แปลวรรณคดีต่างประเทศ
แนวคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
คนล้นงานและคนละทิ้งอาชีพมารับราชการ
อิทธิพลจากปัจจัยด้านการเมือง การปกครอง และด้านสังคม มีผลต่อการศึกษาดังนี้
พ.ศ.2459
พ.ศ.2456
พ.ศ.2461
พ.ศ.2454
พ.ศ.2464
พ.ศ.2459
พ.ศ.2453
ประกาศตั้งโรงเรียนพลเรือน
ยกระดับโรงเรียนพลเรือน เป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ตั้งกองลูกเสือป่า
เปลี่ยนค่านิยมไม่ให้รับราชการ
ตั้งกองลูกเสือหญิงและอนุกาชาด
โอนโรงเรียนฝึกหัดครูกลับมาขั้นกับกระทรวงศึกษาธิการ
ประกาศให้พระราชบัญญัติโรงเรียนราษฎร์
ปรับปรุงโครงการศึกษาชาติ มุ่งเน้นการทำอาชีพ
ใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษา
การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง
จากสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นประชาธิปไตย
ปฏิวัติ
การเมือง
เศรษฐกิจ
ชนชั้นกลางเรียนรู้รูปแบบการเมืองการปกครอง
กลุ่มคนรุ่นใหม่ต้องการให้มีระบบรัฐสภา
เศรษฐกิจตกต่ำ
การดุลข้าราชการออกจำนวนมากเพื่อตัดงบประมาณ
นโยบายการศึกษาของคณะราษฏร์
ให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร
เมื่อประชาชนมีการศึกษาดีทำให้ประเทศเจริญขี้น
เกิดขึ้น พ.ศ.2482
สมัยรัชกาลที่ 8
จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี
จากไทย ไปพม่า เพื่อเข้าอินเดีย
ก่อให้เกิดทางรถไฟสายมรณะ
สาเหตุที่ไทยเข้าร่วม
มีกำลังพลน้อยกว่าญี่ปุ่น
ป้องกันไม่ให้อยู่ใต้อิทธิพลของญี่ปุ่นในด้านเศรษฐกิจและการเมือง
ผลิตเพื่อส่งออก
ละเลยการพัฒนาด้านอุตสหกรรม
ชาวต่างชาติเข้ามามีอิทธิพลทางการค้า
ภาวะสงคราม
ค้าขายได้เฉพาะกับญี่ปุ่นและดินแดนที่ญี่ปุ่นยึดครอง
ขาดแคลนสินค้าอุปโภค
การส่งออกตกต่ำ
รัฐบาลนำเงินมาเพื่อป้องกันประเทศมากขึ้น
งบขาดดุล
เมื่อสงครามยุติลง
ทำสัญญากับอังกฤษ
ไทยต้องส่งข้าวให้ UN 1.5 ล้านตัน
เกิดปัญหาเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น
วิธีการแก้ไข
รัฐหารายได้จากการผูกขาด
ควบคุมการนำเข้าและส่งออกสินค้า
ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
ประกาศหลักุ6ประการ
ข้อ 6 จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่กับราษฎร
สมัยรัชการที่ 7
รัฐประหาร พ.ศ.2500
เป็นจุดเริ่มต้นของการก่อรูปด้านความคิด แห่งการปฏิวัติพัฒนาเศรษฐกิจ
รัฐประหาร พ.ศ.2501
อเมริกาผลักดัน
พ.ศ.2520
พ.ศ.2503
พ.ศ.2512
พ.ศ.2510
พ.ศ.2505
พ.ศ.2494
ประกาศใช้แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2494
กำหนดองค์สี่
จริยศึกษา
พลศึกษา
พุทธิศึกษา
หัตถศึกษา
แผนการศึกษา พ.ศ.2503
พระราชบัญญัติประถมศึกษา พ.ศ. 2505
ประกาศใช้หลักสูตรโรงเรียนมัธยมแบบผสม
พระราชบัญญัติวิทยาลัยเอกชน
จัดสอบเอนทรานซ์เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย
จัดตั้งคณะกรรมการวางพื้นฐานเพื่อการปฏิรุปการศึกษา
แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2520
กระแสโลกาภิวัฒน์
อิทธิพลต่อวิถีชีวิตของคนไทย
ภาคธุรกิจอุตสาหกรรม
ก้าวสู่ยุคเทคโนโลยี
ปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางธุรกิจเพื่อเพื่อมศักยภาพในการผลิต
หลายฝ่ายหันมาสนใจคุณภาพของแรงงาน
การศึกษาไทยจึงต้องมีการปฏิรูปเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษกิจ
รับรู้ข้อมูลข่าวสารมากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีเปิดโอกาสให้คนได้เรียนรู้ในหลานช่องทาง
ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้
ก่อให้เกิดการปฏิรูปการศึกษา
บุคคลยอมมีสิทธิเสมอกันในการได้รับการศึกษา
หลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน
ตอบสนองต่อความต้องการของนักเรียนที่หลากหลาย
สอดคล้องกับสภาพปัญหา
ให้ผู้เรียนได้แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง