ทักษะที่สำคัญในการบริหารงานของหัวหน้าหอผู้ป่วย
ทักษะการเจรจาต่อรองและไกล่เกลี่ย
การคิดเชิงวิพากษ์
(Critical Thinking)
ความคิดเชิงสร้างสรรค์
ทักษะการตัดสินใจ
การประสานงาน
ทักษะด้านการสื่อสาร
การจูงใจและการโน้มน้าวใจ
ทักษะการแก้ปัญหา
ความสำคัญ
ลักษณะพื้นฐานของบุคคล
ความหมาย
ขั้นตอน
กระบวนการทางปัญญาระดับสูงที่ใช้ กระบวนการทางความคิดหลายๆ อย่างมารวมกัน เป็นความคิดที่นอกเหนือไปจากการปฏิบัติงานตามวงรอบเดิม ที่กำหนด เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ หรือแก้ปัญหาเดิมที่มีอยู่ให้ดีขึ้น
เพื่อให้เกิดแนวทางใหม่ๆในการดำรงชีวิตและหนทางใหม่ๆในการแก้ไขปัญหาการทำงาน พัฒนาชีวิตให้เกิดความทันสมัย
- ขั้นการค้นพบ ( Combustion) เป็นขั้นที่ค้นพบวิธีแก้ปัญหาด้วยวิจารณญาณ จิตสานึก เป็นขั้นตอนแห่งการสร้างสรรค์ของความคิด
- ขั้นสื่อสารและเผยแพร่ผลงาน ( Communication) เป็นขั้นตอนที่จะเกิดการแลกเปลี่ยน
ความคิดและแนวทางการคิดหรือการทางานกับผู้อื่น เพื่อให้รู้จักผลการคิดของเราและรับความ คิดเห็นที่เสนอต่อเรา
- ขั้นหามโนมติ ( Conception) เป็นขั้นตอนที่จะทาการศึกษา สารวจ แสวงหาแนวคิดด้วย
วิธีการต่าง ๆ หาจุดเด่นจุดด้อยของแต่ละแนวคิดเหล่านั้น
- ทบทวนแก้ไข ( Consummation) เป็นขั้นตอนที่เป็นการทบทวน ดัดแปลง แก้ไข ความคิด ที่เกิดจากการค้นพบในขั้นตอนที่ 3 เพื่อความสมบูรณ์
- ขั้นความรู้ความเข้าใจ ( Cognition) เป็นขั้นที่รู้ความต้องการที่จะแก้ปัญหา
มีความคิดว่า สิ่งใดเป็นปัญหาสาหรับที่จะแก้
- มีความคิดริเริ่ม ( Originality ) คือ คิดในสิ่งที่แปลกใหม่ คิดในเรื่องที่ไม่เคยมีใครคิดมาก่อน ไม่ซ้ำใคร ซึ่งแตกต่างจากความคิดของคนธรรมดาทั่วไป
- มีความคิดคล่องแคล่ว ( Fluency) คือ สามารถคิดหาคำตอบได้อย่างคล่องแคล่ว รวดเร็ว และได้คำตอบมากที่สุดในเวลาที่จำกัด หรือเป็นคนที่มีปฏิภาณไหวพริบดี
- มีความยืดหยุ่นในการคิด ( Flexibility ) คือ มีความสามารถในการคิดหาคำตอบได้หลายทิศทาง หลายแง่มุม หรือมองสถานการณ์ทุกอย่างได้หลายมิติ ทำให้สามารถคิดหาวิธีการแก้ปัญหาได้มากกว่า 1 วิธี
- มีความคิดละเอียดลออ ( Elaboration ) คือสามารถคิดในรายละเอียดที่เป็นปลีกย่อยได้ดี เพื่อขยายหรือตกแต่งความคิดหลัก ให้ได้ความหมายที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ประเภท
ทฤษฎี
การจูงใจภายใน
การจูงใจจากภายนอก
เป็นการจูงใจโดยใช้สิ่งเร้าจากภายนอก
เช่น การให้ผลตอบแทน รางวัล เงินเดือน เพื่อบุคคลแสดงพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง
เป็นการใช้แรงจูงใจที่เกิดขึ้นในตัวบุคคลเอง เช่น
ความต้องการชื่อเสียง ความต้องการอํานาจ ซึ่งมีผลให้บุคคลแสดงพฤติกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการนั้น
ทฤษฎีการจูงใจของ Herzberg
ทฤษฎีลําดับความต้องการของมาสโลว์
หลักการสร้างแรงจูงใจ โดยสร้างสิ่งจูงใจ คือการทําให้งานน่าสนใจขึ้น ท้าทายความสามารถ เช่น การมอบหมายงานที่ยากต้องใช้ความสามารถเพิ่มขึ้นให้ทํา แต่ไม่ยากเกินไป การส่งเสริมให้เข้าไปมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น หรือการวางแผนเกี่ยวกับงาน และการสร้างโอกาสที่จะก้าวไปสู่ความสําเร็จให้เกิดขึ้นในงานที่เขาทำอยู่
บุคคล คือ สิ่งที่มีชีวิตที่มีความต้องการ ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อพฤติกรรม โดยเฉพาะความต้องการที่ยังไม่ถูกตอบสนองเท่านั้นที่สามารถมีอิทธิพลต่อพฤติกรรม ดังนั้นสิ่งที่ได้รับการตอบสนองแล้วจะไม่เป็นสิ่งที่จูงใจ
ความต้องการบุคคลจะถูกเรียงลําดับความสําคัญ เป็นลําดับชั้นของความต้องการพื้นฐาน ไปจนถึงความต้องการความสําเร็จ
บุคลจะก้าวสู่ความต้องการะดับต่อไปต่อเมื่อความต้องการระดับต่ำลงมาได้ถูกตอบสนองอย่างดีแล้วเท่านั้น
กระบวนการ
ประโยชน์
ความต้องการ (Needs)
แรงขับ (Drive )
สิ่งล่อใจ (Incentive) หรือ เป้าหมาย (Goal)
คือ ภาวการณ์ขาดบางสิ่งบางอย่าง อาจจะเป็นการขาดทางด้านร่างกายหรือการขาดทางด้านจิตใจก็ได้
เมื่อมนุษย์มีความขาดบางสิ่งบางอย่างตามข้อ 1 ที่กล่าวมาแล้วก็จะเกิดภาวะตึงเครียดขึ้นภายในร่างกาย ภาวะตึงเครียดนี้จะกลายเป็นแรงขับหรือตัวกำหนดทิศทาง เพื่อไปสู่เป้าหมายอันจะเป็นการลดภาวะความตึงเครียดนั้น
จะเป็นตัวกระตุ้นหรือเป็นตัวล่อให้มนุษย์แสดงพฤติกรรมตามที่คาดหวังหรือที่ต้องการ ซึ่งอาจจะมีได้หลายระดับตั้งแต่สิ่งล่อใจในเรื่องพื้นฐานคือ ปัจจัย 4 ไปจนถึงความต้องการทางใจในด้านต่างๆ
- ส่งเสริมและเสริมสร้างสามัคคีธรรมในหมู่คณะเป็นการสร้างพลังด้วยความสามัคคี
3.สร้างขวัญและกำลังใจที่ดีในการปฏิบัติงาน แก่ผู้ปฏิบัติงานในองค์กร
4.ช่วยเสริมสร้างให้เกิดดความจงรักภักดีต่อองค์กร
- เสริมสร้างกำลงใจในการปฏิบัติงานให้แต่ละบุคคลในองคกรค์เป็นการสร้างพลังร่วมกันของกลุ่ม
5.ช่วยทำให้การควบคุมดำเนินไปด้วยความราบรื่น
6.ทำให้เกิดความศรัทธา และความเชื่อมั่นในองค์กรที่ตนปฏิบัติงานอยู่
ประโยชน์
วิธีการแก้ปัญหา
ขั้นตอน
ความหมาย
ทดลอง
ทั่วไป
ผลที่เกิดขึ้นจากความแตกต่างระหว่างสถานการณ์ที่เป็นอยู่กับสถานการณ์ที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง
ความสามารถในการคิดหาทางเลือกเพื่อแก้ปัญหาให้ดีที่สุดและเหมาะสมกับตนเอง
ช่วยลดผลกระทบ ความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นกับตนเองและสมาชิกภายในกลุ่ม
ช่วยให้ค้นหาทางเลือกและค้นหาทางออกของปัญหาได้อย่างดีที่สุด
ช่วยพัฒนาระบบกระบวนการคิดวิเคราะห์ได้ถูกต้อง
เป็นแนวทางการตัดสินใจเลือกได้อย่างถูกต้อง
4.การค้นหาแนวทางในการแก้ปัญหา
7.การประเมินผลการดำเนินงาน
3.กำหนดวัตถุประสงค์ในการแก้ปัญหา
2.การวิเคราะห์และค้นหาสาเหตุของปัญหา
1.การระบุปัญหา
6.การดำเนินการแก้ปัญหา
5.การเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
ปัจจัยจูงใจ
ปัจจัยค้ำจุน
เป็นปัจจัยที่มีผลต่อความพอใจโดยตรง
ไม่ได้เป็นสิ่งที่จูงใจพนักงานโดยตรง แต่ถ้าขาดปัจจัยนี้หรือไม่มีปัจจัยนี้ก็จะทำให้พนักงานเกิดความไม่พอใจได
ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากวิจัย
ทักษะการตัดสินใจเป็นทักษะสำคัญของพยาบาลวิชาชีพ
มีหลักในการประกอบการตัดสินใจ 4 ประการคือ 1) การตัดสินใจแต่ละครั้งต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน 2) การตัดสินใจเลือกวิธีที่เหมาะสมและดีที่สุดในสถานการณ์นั้นโดยคำนึงถึงผู้ป่วยเป็นสำคัญ 3) การตัดสินใจเลือกวิธีที่จะเกิดประโยชน์มากที่สุดทั้งต่อผู้ป่วยและครอบครัว 4) การตัดสินใจเลือกวิธีที่มีอันตรายต่อผู้ป่วยน้อยที่สุดการตัดสินใจในงานของพยาบาลหัวหน้าเวรที่มีประสิทธิภาพจะเพิ่มความเป็นอิสระในการตัดสินใจในการปฏิบัติการพยาบาลโดยไม่ต้องมีผู้ใดมาควบคุมรวมถึงสามารถอธิบายเหตุผลของการกระทำและรับผิดชอบต่อผลการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองได้ (วารสารการพยาบาลและสุขภาพ, 2560)
ทฤษฎี
- ทฤษฎีการตัดสินใจแบบปทัสถาน หรือ กําหนดความ (Normative Prescriptive Decision Theory) ทฤษฎีนี้มีลักษณะ คือ การตัดสินใจขึ้นอยู่กับตัวบุคคลแต่ละคนในการที่จะใช้วิจารณญาณพิจารณา เหตุผลว่าอะไรบ้างที่น่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นมุ่งเน้นการอธิบายตามความคิดเห็นของผู้ทําการตัดสินใจมากกว่าที่ จะเป็นการวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ที่แท้จริงของเรื่องหรือ ปัญหานั้น ๆ
- ทฤษฎีการตัดสินใจแบบพฤติกรรมหรือพรรณนาความ (Behavioral Descriptive Decision Theory) เป็นทฤษฎีที่มีหลักเกณฑ์แน่นอน รวมทั้งมีการนําเอาเทคนิคต่าง ๆ มาช่วยในการตัดสินใจด้วย เพื่อให้การตัดสินใจมีเหตุผลเหมาะสมโดยหลีกเลี่ยงการใช้ความรู้สึกนึกคิด หรือค่านิยมส่วนตัวของผู้ตัดสินใจ
ความหมาย
ประโยชน์
รูปแบบ
การตกลงใจเลือกเอาทางปฏิบัติซึ่งมีอยู่หลายทางเพื่อถือเอาทางปฏิบัติทางหนึ่งซึ่งเห็นว่าดีที่สุดที่จะนำไปสู่เป้าหมาย
- ช่วยในการเตรียมการสำหรับงานที่จะทำว่าควรมีลักษณะอย่างไรดำเนินการอย่างไร
- ช่วยให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจมีการยั้งคิดหรือพิจารณาถึงเหตุผล
- ช่วยให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นหากได้มีการพิจารณาก่อนดำเนินการ
- ช่วยให้งานสามารถดำเนินไปได้ไม่ล่าช้า
- ช่วยลดความเสี่ยงให้น้อยลงต่อปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากได้ทำการคัดอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- การตัดสินใจที่ได้เตรียมการล่วงหน้าผู้บริหารสามารถใช้เวลาในการคิดใตร่ตรองได้
- การตัดสินใจที่ไม่ได้เตรียมการล่วงหน้าในบางเหตุการณ์ผู้บริหารจะต้องตัดสินใจในทันทีทันใดดังนั้นผู้บริหารจะต้องมีความเฉลียวฉลาดไหวพริบดีมองการณ์ไกลจึงจะสามารถตัดสินใจได้เหมาะสม
ความสำคัญ
รูปแบบ
บุคคลตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไปดำเนินการแลกเปลี่ยนข้อเสนอต่างฝ่ายตามประโยชน์หรืเสียกันแล้วต่างฝ่ายต่างพยายามลดหย่อนเงื่อนไขข้อเรียกร้องระหว่างกันเพื่อแสวงหาข้อยุติที่ทุกฝ่ายตกลงยอมรับกันได้
ขั้นตอน
เป็นทางเลือกในการระงับความขัดแย้งแทนการฟ้องร้องให้ระบบการบริการสุขภาพและสาธารณสุขซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ
- การเจรจาที่มีการเจรจาที่มีลักษณะแบบการร่วมมือ Win-win
2.การเจรจาที่มีลักษณะ การเจรจาที่มีลักษณะการแข่งขันกัน Win-Lose
- ทำความเข้าใจสถานภาพของแต่ละฝ่ายด้วยการรับฟังที่ดี
3.ระบุปัญหา
- การเผชิญหน้ากับความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์
- แสวงหาทางเลือกและประเมินทางเลือก
- สรุปแนวทางและนำทางเลือกท่ีเหมาะสมไปใช้
(อโนทัย ผลิตนนท์เกียรติ, 2562)
กระบวนการคิดที่มีเป้านำไปสู่การค้นหาความจริง และการเปลี่ยนแปลงใหม่เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่า มีความถูกต้อง เหมาะสมกับการดำเนินงานและบริบทแวดล้อม และเกิดผลดีต่อส่วนรวม
ความสำคัญ
ช่วยสืบค้นความจริง
ช่วยให้สังเกตถึงความแตกต่าง
ช่วยค้นหาความถูกต้อง
ช่วยให้ตัดสินตามข้อเท็จจริง
ไม่ใช่ตามอารมณ์ความรู้สึก
ช่วยให้เกิดการพัฒนา
และพิจารณาอย่างครบถ้วน
ขั้นตอน
- การวินิจฉัยตรวจสอบอย่างละเอียด (Exploration)
- การประเมินสถานการณ์ (Appraisal)
- พัฒนามุมมองที่แตกต่างไปจากเดิม
(Development of Alternative Perspectives)
- เผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด (Trigger)
- บูรณาการวิธีคิดและพฤติกรรมใหม่ (Integration)
การศึกษาวิจัย
ผลการบูรณาการแนวคิดวิจารณญาณ กับการประเมินทางการพยาบาลในผู้ป่วยโรคระบบประสาท (สายสมร บริสุทธิ์ 2018)
เป็นการศึกษาเปรียบเทียบความรู้ ความเข้าใจ การประเมินการปฏิบัติการทางพยาบาล และความมีเหตุผลของพยาบาลวิชาชีพ ก่อนและหลังการใช้รูปแบบการประชุมปรึกษาทางการพยาบาล ที่บูรณาการแนวคิดวิจารณญาณกับการประเมินทางการพยาบาล ในผู้ป่วยโรคระบบประสาท
ผลการศึกษา พบว่าพยาบาลวิชาชีพมีระดับความรู้ความเข้าใจของพยาบาลวิชาชีพต่อแนวคิดวิจารณญาณในการประเมินทางการพยาบาลผู้ป่วยโรคระบบประสาทก่อนและหลังการทดลองมีความแตกต่างกัน โดยการบูรณาการแนวคิดวิจารณญาณกับการประเมินทางการพยาบาล ทำให้พยาบาลมีความรู้ความเข้าใจในการประเมินทางการพยาบาลในผู้ป่วย และยังช่วยเพิ่มการรับรู้การใช้เหตุผลในการปฏิบัติการพยาบาล เพิ่มการคิดอย่างมีเหตุผลทั้งเชิงอุปมัยและนิรมัยลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วยได้อย่างมีคุณภาพ
“การประสานงาน” หมายถึง การจัดให้คนในองค์กรทํางาน สัมพันธ์สอดคล้องกันโดยจะต้องตระหนักถึงความรับผิดชอบ วัตถุประสงค์ เป้าหมาย และมาตรฐานการปฏิบัติขององค์กรเป็นหลัก (ปวีณา จันทร์ประดิษฐ์,2563)
หน้าที่ของหัวหน้าพยาบาลในด้านการประสานงาน (คู่มือบริหารงาน กลุ่มงานการพยาบาล โรงพยาบาลลอง,2561)
ความสำคัญ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการประสานงานที่ดี
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เป็นที่ตั้งไว้
ลดปัญหาการขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าท่ีในการปฏิบัติงานร่วมกัน ความเห็นหรือ ประโยชน์
ประหยัดเงินและประหยัดเวลา การประสานงานที่ดีจะช่วยตัดปัญหา การปฏิบัติงานซ้อนกัน
มีการติดต่อสื่อสารที่ดีตลอดจนการประชุมพบปะหารือกันอยู่เสมอ
การทํางานต้องมีแผนงานที่ดี มีวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่แน่นอน
ผู้บริหารควรเห็นความสําคัญของการประสานงานและเป็นผู้มองการณ์ไกล
มีการติดต่อสื่อสารที่ดีตลอดจนการประชุมพบปะหารือกันอยู่เสมอ
ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและ ข้อมูลต่างๆ หรือเสนอแนวทางหรือโครงการขอรับความช่วยเหลือและสนับสนุนโครงการต่างๆ ทางด้านการ พยาบาล
มีส่วนร่วมในการจัดทาแผนยุทธศาสตร์ของโรงพยาบาลเพื่อให้แผนกลยุทธ์ของกลุ่มการพยาบาล เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ของโรงพยาบาล
สนับสนุนการสร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างบุคคลของกลุ่มการพยาบาลกับสหวิชาชีพและ ผู้ใช้บริการเพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด
เป็นตัวแทนของกลุ่มการพยาบาลในการประชุมคณะกรรมการต่างๆระดับโรงพยาบาลจังหวัด หรือประเทศเพื่อให้ข้อมูล เสนอความคิดเห็น และประสานงานในประเด็นต่างๆเกี่ยวกับการพยาบาล
กระบวนการปฏิบัติในการแลกเปลี่ยนข้อมูล การคิดและการตัดสินใจร่วมกันในทีมดูแลสุขภาพ และระหว่างพยาบาลผู้ป่วยและญาติ ผ่านการรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยและข้อมูลสุขภาพ การบันทึกและการรายงานข้อมูล โดยเป็นการสื่อสารในสถานการณ์ในโรงพยาบาล และการสื่อสารเพื่อป้องกันการร้องเรียนและการฟ้องร้อง ที่นำไปสู่คุณภาพและความปลอดภัยของผู้ป่วย
two way comunication
1.ด้านการบริหารการพยาบาล
2.ด้านการบริการพยาบาล
เพื่อส่งต่อข้อมูลทางการพยาบาลท่ีมีประสิทธิภาพจะทํา ให้ได้ข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ วินิจฉัยส่ัง การของพยาบาลหัวหน้าทีม ตามด้วยการมอบหมาย การดูแลผู้ป่วยให้กับสมาชิกในทีมตามบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบ เป็นเครื่องมือสร้างความเข้าใจที่ ตรงกันท้ังภายในและภายนอกหน่วยงานช่วยลดความ ขัดแย้งเกิดวัฒนธรรมท่ีดีในการสื่อสาร
เพื่อส่งต่อข้อมูลทางการพยาบาลที่มีประสิทธิภาพช่วยให้พยาบาลวิชาชีพสามารถให้ข้อมูลการรักษาพยาบาลมีการประสานงานกับทีมสุขภาพทั้งในหน่วยงานและระหว่างหน่วยงานเพื่อการรายงานส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยการรับ-ส่งเวรเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนการพยาบาลได้อย่างถูกต้อง
รูปแบบ
ใช้กระบวนการ SMCR ของ Berlo Model
M คือ Message ข้อมูล [เนื้อหาสาระที่ต้องการจะสื่อสารควรผ่านการปรับระดับความยากง่ายของภาษาหรือถ้อยคำที่จะใช้ให้เหมาะสม
C คือ Channel สื่อหรือช่องทางในการสื่อสาร
S คือ Sender ผู้ส่งสารที่มีประสิทธิภาพและจะทำให้การสื่อสารสัมฤทธิ์ผล
R คือ Receiver ผู้รับสารมีวิธีการเลือกรับข่าวสาร
การจัดการความขัดแย้ง
รูปแบบ
ความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบภาวะผู้นำของหัวหน้าหอผู้ป่วยกับการจัดการความขัดแย้ง (ธมลณัฎฐ์ อุดมพันธ์ และมณีรัตน์ ภาคธูป, 2559)
(มานิตย์ รักษ์มณี, 2554) กล่าวว่า ผู้บริหารทางการพยาบาลใช้วิธีการจัดการความขัดแย้ง 9 วิธี
ภาวะผู้นำแบบแลกเปลี่ยน
ภาวะผู้นำตามสบาย
ภาวะผู้นำแบบการเปลี่ยนแปลง
- เห็นคุณค่าของบุคคล
- ให้ความยุติธรรม
- สอนให้คิดเชิงบวก
- ควบคุมอารมณ์ตนเองและมองผลกระทบ
- ปรับปรุงวิธีการบริหาร
- แก้ไขปัญหาที่สาเหตุ
- ให้ความจริงใจ
- หลีกเลี่ยงปัญหา
- วางจุดยืนของตนเอง
บทความวิจัย
การบริหารงานของหัวหน้าหอผู้ป่วยที่ได้รับรางวัลดีเด่น
รวบรวมข้อมูลโดยใช้การสัมภาษณ์แบบเจาะลึกและนำข้อมูลที่ได้มาถอดความ และวิเคราะห์เนื้อหาตามวิธีการของ Diekelman ผลการวิจัยมีดังนี้
- ลูกน้องต้องสนับสนุน สร้างต้นทุนการทำงาน
- โครงการต้องสร้างสรรค์ บริหารงานอย่างจริงใจ ไม่เห็นแก่ใคร แต่ใช้ตามหลักการ
- พัฒนาตนให้มีความรู้ บริหารตนสู่ความสมดุล
แบ่งให้เวลากับงาน พอกลับบ้านแยกงานจาก ชีวิตส่วนตัว
ไม่หยุดการค้นคว้า หาเวลา ศึกษาอย่างต่อเนื่อง
เรียนรู้จากรุ่นพี่ ประสบการณ์ที่มี เก็บสิ่งดี ๆ มาพัฒนา
มอบหมายงานตามความ สามารถ เปิดโอกาสตัดสินใจได้เต็มที่
ส่งเสริมความสามารถ สร้างคน สร้างโอกาสให้เรียนต่อ
รับฟังปัญหา คอยเป็นที่ปรึกษา และแก้ปัญหาเวลาติดขัด
สนับสนุนให้สร้างงาน เพิ่มความ เชี่ยวชาญสู่การเป็นวิทยากร
สร้างบรรยากาศการทำงานเหมือนเป็นบ้านที่สองของทุกคน
บริหารด้วยความจริงใจ ใช้หลักความยุติธรรม มีธรรมะในการทำงาน
มีความสามารถ บริหารคนได้ บริหารงานดี มีภาวะผู้นำ
พัฒนาโครงการ ตอบสนองงานตามนโยบาย นำมาประยุกต์ใช้ในหน่วยงาน
ทุ่มให้งานอย่างเต็มที่ มีท้อใจบ้าง แต่ไม่ปล่อยวาง ยังมุ่งมั่นทำงานต่อไป จากผลการศึกษานี้ ทำให้เข้าใจประสบการณ์การบริหารงานของหัวหน้าหอผู้ป่วยที่ได้รับรางวัลดีเด่น ซึ่งผู้บริหารทางการ พยาบาลสามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการวางแผนพัฒนาหัวหน้าหอผู้ป่วยต่อไป