Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 5 ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ และการพยาบาล, image, image,…
บทที่ 5 ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ
และการพยาบาล
ปัญหาระบบกระดูกและฮอร์โมน (ข้อเสื่อม/ กระดูกพรุน / เบาหวาน)
1.2 กระดูกพรุน (Osteoporosis)
แบ่งประเภทของ osteoporosis
มวลกระดูกต่ำ (Osteopenia)
กระดูกพรุน (Osteoporosis)
ปกติ (Normal)
กระดูกพรุนระดับรุนแรง (Severe osteoporosis)
การตรวจวินิจฉัย
ประวัติสวนตัว
น้ำหนักตัวน้อย สูบบุหรี่ประจำ รับประทานยาสเตียรอยดมากกว่า 3 เดือน
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
สามารถวัดมวลกระดูกโดยใช้เครื่องมือวัด เรียก densitometry
ผลกระทบของภาวะกระดูกพรุน
กระดูกสะโพกหัก และกระดูกสันหลังยุบ
การรักษา
การรักษาด้วยการไม่ผ่าตัด
การรักษาด้วยการผ่าตัด
การยึดตรึงกระดูก (close reduction and internal fixation)
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแบบครึ่งข้อ (hemiarthroplasty)
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแบบครึ่งข้อ (total hip arthroplasty)
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
2) ปัจจัยด้านพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ peak bone mass ลดลง
การไดรับ calcium จากอาหารไมเพียงพอ การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา กาแฟ การบริโภคโปรตีนและฟอสฟอรัสมากเกินไป ขาดการออกกำลังกาย ได้รับแสงแดดไมเพียงพอ
1) ปัจจัยส่วนบุคคล
กรรมพันธุ เชื้อชาติ และเพศ โดยคนผิวดำ
จะมีมวลกระดูกหนาแนนกวาคนเอเชีย เพศหญิงจะสะสม
peak bone mass ได้นอยกวาเพศชายประมาณ 20-30 %
กิจกรรมการพยาบาลเพื่อป้องกันและรักษาโรคกระดกพรุน
การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก และการเกิดกระดูกหัก จากความเปราะบางหรือพรุนของกระดูก
ควรได้รับยาเม็ดแคลเซียมเสริม
ออกกำลังกายแบบลงน้ำหนัก (Aerobic weight bearing exercise)
รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดี
ใช้ยาในการรักษา เชน การไดรับฮอรโมนทดแทนในผูหญิงก่อนหมดประจำเดือน calcium Vit D
ลดปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การงดดื่มกาแฟ การงดสูบบุหรี่หรือดื่ม alcohol และการไดรับแสงแดดไมเพียงพอ
ระวังการเกิดอุบัติเหตุ เชน หกล้ม
ผ่าตัดเปลี่ยนขอสะโพกเทียม (Total Hip Arthroplasty/Replacement; THA/THR)
1.3 โรคเบาหวานในผู้สูงอายุ
โรคแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน
โรคแทรกซ้อนชนิดเฉียบพลัน
ภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemichyperosmolar nonketotic coma : HHNC)
ภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia)
และภาวะกรดคีโตนคั่งในเลือด (Diabetes ketoacidosis)
โรคแทรกซ้อนชนิดเรื้อรัง
โรคต้อกระจก การเสื่อมของจอตา การอักเสบและติดเชื้อทางเดินปัสสาวะจนถึงไตอักเสบและ ไตวายได้
อาการและอาการแสดงของโรคเบาหวาน
ปัสสาวะบ่อย จำนวนมาก คอแห้ง กระหายน้ำ และดื่มน้ำมาก
น้ำหนักลด ผอมลง หิวบ่อย รับประทานอาหารจุ
พยาธิสรีรภาพ
ตา มองไกลๆ เห็นไม่ชัด
ระบบประสาท จากภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูงทำให้อัตราเร็วในการนำสัญญาณของเส้นประสาทช้าลง
ไต ระยะแรกอัตราการกรองของไตจะสูงกว่าปกติถึงร้อยละ 20 – 40 ถ้าควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดี อัตรากรองก็จะยิ่งสูงขึ้นและสูงอยู่ได้เป็นเวลาหลายปี
ระบบเลือด พบว่าเม็ดเลือดแดงมีอายุสั้นลง เกล็ดเลือดจะยึดเกาะและรวมตัวได้ง่าย
ระบบหลอดเลือด จะมีการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดแดงฝอย
ทำให้เกิดการอุดตัน
ผิวหนัง มีอาการคันตามตัว
การประเมินระดับน้ำตาลในเลือด
1) การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดทำได้ 2 วิธี คือ ผล GHb
ในทางปฏิบัติการตรวจวิธีนี้ใช้เป็น screening
2) การตรวจปัสสาวะ
สาเหตุและปัจจัยการเกิดโรคเบาหวานในผู้สูงอายุ
2) ความผิดปกติของเซลล์เป้าหมาย (target cell)
3) การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ได้แก่ ฮอร์โมน glucocorticoid glucagons catecholamine, growth hormone
1) ความผิดปกติของตับอ่อน
4) กรรมพันธุ์
5) การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต
6) ยาและสารเคมีบางอย่าง
7) สิ่งแวดล้อม อาจจะเป็นแบคทีเรีย ไวรัส หรือสารเคมีบางชนิด
8) ปัจจัยและสาเหตุอื่นๆ เช่น ความอ้วนกับการรับประทานมากเกินไป
การรักษาโรคเบาหวาน
2) การออกกำลังกาย เป็นการเพิ่มความไวของอินสุลิน ลดความดัน
3) การใช้ยาลดน้ำตาล ยาเม็ดลดน้ำตาล นิยมใช้ยาในยุคที่ 2
เช่น glipizide glybenclamide
1) อาหาร การควบคุมอาหารในผู้สูงอายุ อัตราส่วนของอาหารควรเป็น
carbohydrate : protein : fat เท่ากับ 50-60 : 15-20 : 20
4) การให้ความรู้ เพื่อให้ผู้ปุวยมีความรู้ ความเข้าใจโรคเบาหวาน
ในด้านต่าง ๆ ในการดูแลตัวเองอย่างเพียงพอ
และนำไปปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตของตนได้
หลักเกณฑ์ในการวินิจฉัยโรคเบาหวาน
1) ค่า FPG มากกว่าหรือเท่ากับ 126 มก./ดล.
2) ค่า casual (random) plasma glucose มากกว่าหรือเท่ากับ 200 มก./ดล. ร่วมกับมีอาการของโรคเบาหวาน
3) plasma glucose ที่ 2 ชั่วโมง หลังจากทำ OGTT มากกว่าหรือเท่ากับ 200 มก./ดล.
ชนิดของโรคเบาหวาน
1) เบาหวานชนิดที่ 1 (Type 1) เดิมเรียกว่าชนิดพึ่งอินสุลิน
(Insulin Dependent Diabetes Mellitus – IDDM)
2) เบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2) หรือชนิดไม่พึ่งอินสุลิน
(Non – Insulin Dependent Diabetes Mellitus – NIDDM)
3) เบาหวานชนิดที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ ซึ่งมีโอกาสพบได้น้อย ได้แก่
เบาหวานที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมของการทำงานของเบต้าเซลล์
1.1 ข้อเสื่อม (Osteoarthritis; OA)
การตรวจวินิจฉัย
อาการและอาการแสดง
ปวด และผิวข้อติด/ข้อยึด (stiffness) มีเสียงดังภายในข้อกดเจ็บเล็กน้อย ข้อมีขนาดโตขึ้น
การถ่ายภาพรังสี
ลักษณะภาพรังสีของโรคข้อเสื่อมจะเห็นการ
เปลี่ยนแปลงของข้อที่เกิดขึ้น มี osteophyte
ที่ขอบของข้อช่องข้อแคบ (narrowed joint space)
การตรวจวินิจฉัยแยกโรค
โดยอาศัยอาการทางคลินิก
ร่วมกับผลทางห้องปฏิบัติการ
ร่วมกับภาพถ่ายรังสีข้อเข่า
พยาธิสรีรวิทยา (Pathophysiology)
เมื่อ กระดูกอ่อนผิวข้อเสื่อมจะมี
ลักษณะเหลืองขุ่น ผิวขรุขระมีรอยแตก บางครั้งเศษกระดูกที่
หลุดจะเข้าไปในน้ำไขขอ (synovial fluid)
มีผลใหเยื่อบุข้อ (synovial membrane) อักเสบ
และมีกระดูกงอกที่ขอบของข้อเรียกวา osteophyte
การรักษา
การรักษาที่ไม่ใช้ยา
การให้ความรู้เรื่องโรคและการดูแลรักษา การลดน้ำหนัก
การออกกำลังกาย เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบให้ข้อแข็งแรง
การรักษาที่ใช้ยา
ลดอาการปวดและการอักเสบของข้อ ได้แก่ ยาพาราเซตามอล ยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช้สเตียรอยด์ ยาแก้ปวดกลุ่มโอปิออยด์ ยาทาเฉพาะที่ ยาฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์ การผ่าตัด จะทำในผู้ที่ให้การรักษาแบบประคับประคองแล้วไม่ได้ผล
ชนิดของโรคข้อเสื่อม
1.ข้อเสื่อมชนิดปฐมภูมิ/ชนิดไมทราบสาเหตุ
2) โรคขอเสื่อมชนิดทุติยภูมิ (Secondary osteoarthritis)
เป็นชนิดที่สามารถค้นหาสาเหตุของ
โรคได้ มักเกิดในเพศชายมากกวาเพศหญิง
การฟื้นฟูสมรรถภาพก่อนและหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
ระยะก่อนผ่าตัด
Exercise calf pumping
(การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดของขา)
การบริหารพิสัยการเคลื่อนไหวของข้อเข่า
Quadriceps strengthening มีความสำคัญต่อการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
และการฝึกเดินของผู้ป่วยต้องมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
ระยะหลังผ่าตัด แบ่งเป็น 3 ระยะ
2-8 สัปดาห์หลังผ่าตัด เน้นเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
และการเดินโดยไม่ต้องอาศัยเครื่องพยุงเดิน
ระยะ 8 สัปดาห์ - 6 เดือน หลังผ่าตัด เน้นเพิ่มสมรรถภาพของร่างกายสามารถประกอบกิจกรรมต่างๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาบุคคลอื่น
หรือสามารถประกอบอาชีพได้ตามปกต
ระยะ 5-7 วันหลังผ่าตัด เน้นการเคลื่อนไหวของข้อเข่าและการประกอบกิจวัตรประจำวันโดยต้องพึ่งความช่วยเหลือจากบุคคลอื่นน้อยที่สุด
ปัญหาความบกพร่องด้านการสื่อสาร (ปัญหาการได้ยิน / การมองเห็น)
2.2 ปัญหาการมองเห็น
(Presbyopia/Cataract/Glaucoma/ตาแห้ง/AMD)
สายตาผู้สูงอายุ(Presbyopia)
สาเหตุ : ความเสื่อมตามอายุในผู้สูงอายุมักท าให้เลนส์ตาขาดความยืดหยุ่น การปรับสายตามีน้อยลงจึงมีความลำบากในการมองเห็นวัตถุที่อยู่ใกล้
อาการ : ผู้ปุวยมักจะมีอาการมองใกล้ได้ไม่ชัด
การรักษา : ตรวจวัดสายตาที่โรงพยาบาลหากไม่แน่ใจหรือสงสัยว่าจะเกิดโรค
ต้อกระจก (Cataract)
สาเหตุ
ส่วนใหญ่ (ประมาณร้อยละ 80) เกิดจากภาวะเสื่อมตามวัย
ส่วนน้อยอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น เป็นมาแต่กำเนิด
อาการและอาการแสดง
มองเห็นภาพซ้อน
สายตาสั้นลงเพราะแก้วตาเริ่มขุ่นท าให้กำลังหักเหของแสงเปลี่ยนไป
ตามัวลงช้าๆ
รูม่านตาจะเห็นขุ่นขาวเมื่อส่องดูด้วยไฟฉาย
ถ้าส่องตาผู้ป่วยด้วยเครื่องมือที่เรียก direct opthalmoscope บริเวณรูม่านตาจะเห็นเป็นเงาดำตามขนาดและรูปร่างของแก้วตาที่ขุ่น
เป็นภาวะที่พบว่า เลนส์ตามีความขุ่น ทำให้ปริมาณแสงที่ผ่านไปสู่จอตามีปริมาณลดลง
การรักษา
Extracapsular Cataract Extraction (ECCE)
Intracapsular Cataract Extraction (ICCE)
Extracapsular Cataract Extraction with Intraocular Lens
(ECCE c IOL)
Phacoemulsification with Intraocular Lens ( PE c IOL)
แก้วตาเทียม (Intraocular Lens)
อาการแทรกซ้อนหลังผ่าตัดต้อกระจก
ความดันลูกตาสูง การดึงรั้งของแผลเย็บ การติดเชื้อ ท่อทางเดินน้ำตาเกิดการติดเชื้อ
ต้อหิน (Glaucoma)
ชนิดของต้อหิน
1) ต้อหินปฐมภูมิ (Primary Glaucoma)
ต้อหินที่เกิดจากความผิดปกติของทางเดินน้ำเลี้ยงภายในลูกตา
2) ต้อหินทุติยภูมิ (Secondary Glaucoma)
ต้อหินที่เกิดตามหลังโรคตาบางโรค หรือโรคภายนอกลูกตา
3) ต้อหินโดยกำเนิด (Congenital Glaucoma)
หมายถึง ต้อหินที่พบได้ตั้งแต่แรกเกิด
อาการของโรคต้อหิน
มักไม่มีอาการในช่วงแรกของโรค
ต่อมาจะสูญเสียการมองเห็นจากด้านข้างเข้ามาตรงกลางเรื่อย ๆ
พยาธิสภาพ 1) ต้อหินชนิดมุมเปิด 2) ต้อหินชนิดมุมปิด
การรักษา
ไม่มีการรักษาที่สามารถทำให้การมองเห็นกลับคืนมาเท่าคนปกติ แต่สามารถชะลอไม่ให้โรคแย่ลงได้
เกิดจากความดันภายในลูกตาสูงขึ้น
ทำให้เกิดพยาธิสภาพที่เส้นประสาทตา
การตรวจวินิจฉัย
วัดความดันภายในลูกตา
การตรวจลานสายตา
การตรวจมุมม่านตา
วัดลานสายตา
โรคตาแห้ง (dry eye)
มักเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เริ่มเมื่อวัยกลางคน
เกิดจากการผลิตน้ำตาที่น้อยลง
การรักษา
ระยะเริ่มแรกใช้น้ำตาเทียม
อาการเป็นมากขึ้นควรปรึกษาจักษุแพทย์
ถ้าอยู่ในห้องแอร์หรืออากาศแห้งอาจหาแก้วใส่น้ำอุ่นวางไว้
เพื่อให้มีความชื้นในอากาศ รักษาโรคเปลือกตาอักเสบ
โรคจุดรับภาพเสื่อมในผู้สูงอายุ
(AMD : Age Related Macular Degeneration)
อาการ ได้แก่ ภาพมัว บิดเบี้ยว สีจางลง
มีปัญหาในการอ่าน หรือจำหน้าคน เห็นจุดดำอยู่กลางภาพ
การตรวจวินิจฉัย
ใช้ตารางแอมสเลอร์(Amsler Grid)
ชนิดของโรคจุดรับภาพเสื่อมในผู้สูงอายุ
1) ชนิดแห้ง (Dry AMD): เป็นชนิดที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุทั่วไป
2) ชนิดเปียก (Wet AMD): พบได้น้อยกว่า
ชนิดแห้งแต่เป็นชนิดที่มีอาการรุนแรงกว่า
การรักษาโรค
ไม่มีการรักษาที่หายขาด ระยะแรกอาจให้วิตามินระยะหลัง อาจร่วมกับการรักษาด้วยเลเซอร์ หรือฉีดยาเข้าในลูกตา
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ
1) ผู้สูงอายุ พบว่าอัตราการเกิดโรคในคนอายุ 75 ปี มีถึงร้อยละ 30
2) การสูบบุหรี่
3) การสัมผัสแสงอาทิตย์และแสง UV ปริมาณมาก
4) ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ
การป้องกัน
• หยุดสูบบุหรี่
• สวมแว่นตากันแดด
• รักษาโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือด
• กินผักผลไม้ อาหารครบ 5 หมู่
• กินวิตามินเสริม เช่น วิตามินซี อี สังกะส
สาเหตุ อายุ แสง ภาวะเครียดจากออกซิเดชัน การสะสมลิโปฟิวซิน
การไหลเวียนเลือดที่เนื้อเยื่อคอรอยด์ลดลง
2.1 ปัญหาการได้ยิน
ส่วนนำเสียงและขยายเสียง
ได้แก่ หูชั้นนอกและหูชั้นกลาง
หูชั้นนอก เช่น ขี้หูอุดตัน, เยื่อแก้วหูทะลุ, หูชั้นนอกอักเสบ
หูชั้นกลาง เช่น หูชั้นกลางอักเสบ, น้ าขังอยู่ในหูชั้นกลาง
ส่วนประสาทรับเสียง
ได้แก่ ส่วนของหูชั้นในไปจนถึงสมอง
หูชั้นใน สาเหตุที่พบได้บ่อยสุด คือ ประสาทหูเสื่อมจากอายุ
สมอง โรคของเส้นเลือด เช่น เส้นเลือดในสมองตีบ, เลือดออกในสมอง
สาเหตุอื่นๆ เช่น โรคโลหิตจาง, โรคแพ้ภูมิตัวเอง,
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
ผลกระทบที่เกิดจากการสูญเสีย
การได้ยินของผู้สูงอายุ
ความทุกข์ วิตกกังวล ซึมเศร้า แยกตัวออกจาก สังคมมีความเหงา
ความมั่นใจในตนเองลดลง ต้องการพึ่งพาผู้อื่นมากขึ้น
การพยาบาลผู้สูงอายุที่สูญเสียการได้ยิน
ควรแนะนำให้ผู้สูงอายุรับประทานอาหารที่มีกรดโฟลิคสูง
แนะนำ ให้ผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังต่างๆ ที่มีผลต่อระบบการไหลเวียนโลหิต ให้มีการควบคุมโรคให้ดีเพื่อปูองกันการสูญเสียการได้ยิน
ในรายที่ตรวจพบภาวะขี้หูอุดตัน ควรส่งต่อไปพบแพทย์หรือพยาบาลผู้ชำนาญการ
แนะนำ ให้มีการดูแลรักษาสุขอนามัยของหูอย่างถูกวิธ
2.ให้คำแนะนำ แก่ผู้ดูแลและสมาชิกในครอบครัวให้มีทักษะ
การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
ในรายที่มีการสูญเสียการได้ยินที่ไม่ใช่ จากภาวะขี้หูอุดตัน ควรส่งต่อไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ และช่วยเหลือให้มีการได้ยินที่ด
ควรมีการตรวจหูผู้สูงอายุและคัดกรอง
ปัญหาการได้ยินในการตรวจสุขภาพประจำ
ปัญหาความผิดปกติในการขับถ่าย (ต่อมลูกหมากโต/ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่/ท้องผูก)
3.2 ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
ชนิดของภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้
Urge incontinence
Overflow incontinence
Stress incontinence
Functional incontinence
3.1 ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia – BPH)
อาการของโรคต่อมลูกหมากโต
เกิดความรู้สึกว่าการขับถ่ายปัสสาวะเป็นเรื่องวุ่นวายในชีวิตประจำวัน
ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ จะต้องรีบเข้าห้องน้ำทันทีที่ปวดปัสสาวะ
ต้องเบ่งหรือรอนานกว่าจะสามารถปัสสาวะออกมาได้
รู้สึกปัสสาวะไม่สุด ทำให้อยากปัสสาวะอยู่เรื่อย ๆ
สายปัสสาวะไม่พุ่ง ไหลช้า หรือไหล ๆ หยุด ๆ
ปัสสาวะบ่อย ห่างกันไม่เกิน 2 ชั่วโมง
ลุกขึ้นถ่ายปัสสาวะกลางดึกมากกว่า 1 - 2 ครั้ง
การรักษาต่อมลูกหมากโต
อาการเล็กน้อย
อาการระดับปานกลาง แพทย์ให้กินยา
ซึ่งเป็นยาลดอาการหดเกร็งกล้ามเนื้อที่บีบรัดท่อปัสสาวะ
อาการระดับรุนแรง คือ มีอาการเพิ่มมากขึ้นปัสสาวะไม่ออก
แพทย์จะทำการรักษาด้วยการผ่าตัด
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
อาจเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน
ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่อมีอายุมากขึ้น
ปัญหาระบบประสาท
(Dementia or Alzeimer / Parkinson / Delirium หรือ acute confusion state / Depression)
4.2 พาร์กินสัน (Parkinson)
สาเหตุ : ยังไม่ทราบแน่ชัดพบว่าในผู้ปุวย โรคพาร์กินสันจะมีการเสื่อม ของเซลล์ประสาทบริเวณก้านสมอง จนส่งผลให้โดปามีน มีปริมาณลดลง
อาการ
อาการสั่น (Rest Tremor)
อาการเคลื่อนไหวช้า (Bradykinesia)
อาการแข็งเกร็ง (Rigidity)
การทรงตัวไม่สมดุล (Postural Instability)
การรักษา
การรักษาโดยการผ่าตัด
การรักษาทางกายภาพบำบัด
การรักษาทางยา
4.1 ภาวะสมองเสื่อม (Dementia)
สาเหตุ
โรคสมองเสื่อมจากปัญหาโรคหลอดเลือดสมอง
โรคติดเชื้อเรื้อรังบางชนิดในระบบประสาทส่วนกลาง เช่น ซิฟิลิส เอดส์
โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease)
เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ อายุ
การใช้สารพิษหรือยาเสพติด เช่น ภาวะพิษสุราเรื้อรัง
ภาวะพร่องฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์
โรคอื่นๆที่เกิดจากความเสื่อมของเซลล์ประสาทสมอง
เช่น โรคพาร์กินสัน
ระยะการดำเนินโรคอัลไซม์เมอร์
ระยะที่ 2 (Middle stage) หลงผิด
ประสาทหลอน การเดินและการทรงตัวผิดปกติ
ระยะที่ 3 (Later stage) ไม่สามารถปฏิบัติกิจกรรมที่เคยทำได้ตาม
ขั้นตอนให้สำเร็จได้ (Apraxia) เช่น การแต่งกาย การอาบน้ำ
ระยะที่ 1 (Early stage) ความจำเสื่อมเล็กน้อย
ระยะที่ 4 (Final stage) ผู้ดูแลอาจไม่สามารถดูแลในบ้านได้
จำเป็นต้องนำผู้ปุวยเข้าพักในสถานพักฟื้นสำหรับผู้ปุวยสมองเสื่อม
ความหมาย
ความผิดปกติของการท างานของสมอง ในส่วนของเปลือกสมอง
หรือวิถีประสาทที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ช้าๆ
และเป็นมากขึ้นเรื่อยๆเป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 ปี
การรักษาภาวะสมองเสื่อม
การรักษาโดยการใช้ยา (Pharmacological treatment)
การรักษาโดยไม่ใช้ยา (Non Pharmacological treatment)
4.3 ภาวะซึมเศร้า (Depression)
การประเมินภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ
แบบวัดความเศร้าในผู้สูงอายุไทย
(Thai Geriatric Depression Scale: TGDS)
แบบสอบถามภาวะซึมเศร้าสำหรับผู้สูงอายุ
(Geriatric Depression Scale: GDS)
อาการและอาการแสดงของภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ
อาการและอาการแสดงด้านร่างกาย
อาการและอาการแสดงด้านจิตสังคม
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยด้านชีวภาพ ความผิดปกติของสารสื่อประสาท
และการรับความรู้สึกต่างๆ
ปัจจัยด้านจิตสังคมและสิ่งแวดล้อม
ปัจจัยส่วนบุคคล เพศหญิง สถานภาพสมรสหรือหม้าย
เป็นปัจจัยสeคัญของการเกิดภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ
การรักษา
การบำบัดรักษาทางชีววิทยาการแพทย์
การบำบัดรักษาด้วยยาต้านเศร้า(Antidepressant Drugs)
การใช้ยาต้านเศร้า (antidepressants)
การบำบัดทางจิตสังคม
การให้คำปรึกษา(Counseling)
การทำกลุ่มจิตบำบัด ( Group psychotherapy)
การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (Cognitive behavior therapy)
การบำบัดโดยการแก้ปัญหา (problem Solving therapy)
การบำบัดสัมพันธภาพระหว่างบุคคล ( Interpersonal psychotherapy)
ความหมาย
อาการแสดงจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย
อารมณ์ และ การคิดรู้ รวมทั้งความผิดปกติด้าน
อารมณ์จากสาเหตุต่างๆ
นางสาวยุพาวดี แพงบุบผา 621201148