Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลดูแลผู้สูงอายุคนญี่ปุ่นในบ้านพักผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่น - Coggle…
การพยาบาลดูแลผู้สูงอายุคนญี่ปุ่นในบ้านพักผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่น
บทบาทการดูแลผู้สูงอายุ
เน้นการให้ผู้ป่วยดำรงชีวิตได้อย่างปกติ
ดำรงสุขภาพที่ดีทั้งด้านร่างกาย และด้านจิตใจ
ส่งเสริมให้ผู้ป่วยช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด
ป้องกันการเจ็บป่วยเรื้อรัง และภาวะแทรกซ้อน
ฟื้นฟูสุขภาพให้กลับสู่สภาพปกติ
เน้นการเอื้ออาทรผู้สูงอายุ
ให้เกียรติและเคารพในความอาวุโส
ส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ
ส่งเสริมความสามารถในการดูแลและความปลอดภัยของผู้สูงอายุ
อำนวยความสะดวก
ช่วยเหลือในการดูแลการอาบน้ำ การรับประทานอาหาร ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้
เปลี่ยนท่านอนของผู้ป่วยทุกๆ 2 ชั่วโมง ดูแลเรื่องความสะอาดและความเปียกชื้น ทานอาหารควรเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ลดภาวะท้องอืดและท้องผูก
ทำกายภาพบำบัดของผู้สูงอายุที่ต้องนอนติดเตียงให้ถูกต้องเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อต่อต่างๆ ติดขัด
ส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
การเสริมสุขผู้สูงอายุด้วยการสร้างสุข 5 มิติ
สุขขสบาย (Happy Health) ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง คล่องแคล่ว ชะลอความเสื่อมและคงสมรรถภาพทางกายให้นานที่สุด เทำให้ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 30 นาทีต่อครั้งอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์หรือวันเว้นวัน
สุขสนุก (Recreation) มีสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อน พูดคุยกับคนในครอบครัว ทำกิจกรรมที่ทำให้จิตใจแจ่มใส
สุขสง่า (Integrity) สร้างความภาคภูมิใจในตนเอง มีคุณค่า เช่น เป็นจิตอาสา เป็นการให้ที่ไม่หวังผลตอบแทน
สุขสว่าง (Cognition) เป็นความสามารถของสมองทั้งด้านความจำ ความคิดอย่างมีเหตุผล โดยอย่าหยุดยั้งที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
สุขสงบ (Peacefulness) ผู้สูงอายุสามารถเข้าใจและจัดการอารมณ์เพื่อให้เกิดความสงบทางใจ ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น ฝึกสมาธิ บริหารจิตอย่าง
โภชนาการและอาหาร
ธัญพืช พวกถั่ว ผัก เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก
ผัก ญี่ปุ่น มัคมีพืชผักที่มีเฉพาะตามฤดูกาลในฤดูกาลหนึ่งและพืชผักที่มีทุกฤดูกาลแต่พืชผักที่มีตามฤดูกาลนั้นจะมีสารอาหารและวิตามินมาก
ฤดูใบไม้ผลิ พืชผักที่แนะนำให้ทาน คือ นะโนะฮานะ หน่อไม้ กะหล่ำปลี
ฤดูร้อน พืชผักที่แนะนำให้ทาน คือ แตงกวา มะเขือยาว มะเขือเทศ พริกหวาน
ฤดูใบไม้ร่วง มันหวาน แครอท รากบัว หอมหัวใหญ่
โปรตีน สำหรับโปรตีนดีๆนั้นจะได้จากเนื้อสัตว์ต่างๆเช่นปลา นม ถั่ว ถ้า
ไขมัน คนญี่ปุ่นใจนิยมเลือกทานไขมันดีๆ เช่นถั่ว อโวคาโด เนยแต่บางสิ่งที่ไม่ทำจากธรรมชาติควรระวังเช่น มาการีน ทานมากอาจไม่ดีต่อสุขภาพ
มารยาทของชาวญี่ปุ่น
ปฏิสัมพันธ์คนรอบข้าง
ทักทายกันด้วยการจับมือหรือโค้งคำนับละจะมีการกล่าวคำทักทายว่า “Sumimasen” (ซูมิมาเซ็ง) หมายถึง “ขออภัย” ใช้ในความหมายว่า “ขออนุญาต” ถ้าเป็นคนที่มีอายุมากกว่าเราหรือคนที่เราไม่สนิทเราจะมีการโค้งคำนับแถนที่จะจับมือ
การถอดรองเท้า
บ้านพักของชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เวลาจะเขาไปบ้านพักของใครเราจะต้องถอดรองเท้าไว้ข้างหน้าและวางให้เป็นระเบียบเรียบร้อยจะกล่าวคำว่า “ojamashimasu” (โอจะมะชิมัส)
การรับประทานอาหาร
ก่อนการรับประทานอาหารจะพูดว่า “itadakimasu” (อิตะดะชิมัส) ซึ่งแปลว่า “ ฉันดีใจกับอหารมื้อนี้ ”
เมื่อรับประทานอาหารเสร็จจะพูดว่า “gochisosama desu” (โกชิโซะซะมะ เดส) แปลว่า “ขอบคุณสำหรับอาหาร” ถ้าเกิดกินข้าวไม่หมดคนญี่ปุ่นจะไม่คิดว่าเป็นการเสียมารยาทและการห่อกลับบ้านคือสิ่งที่ไม่ควรทำเพราะไม่เหมาะสม
การที่ไม่ถามจุกจิก เมื่อเรามีคำถามถามเขาเราไม่ควรที่จะไปกดดันเขาเมื่อเข้าไม่เข้าใจคำถามเรา เราควรกล่าวขอบคุณ แล้วไปถามคนอื่นแทน
ความเชื่อของคนญี่ปุ่น
ห้าามตัดเล็บตอนกลางคืน เชื่อว่าวิญญาณชั่วร้าย หรือ อะคุเรียว จะออกมาเพ่นพ่านในเวลากลางคืน และเชื่อว่าอุปกรณ์ที่ใช้ตัดเล็บในเวลานั้นมีพลังวิญญาณที่เรียกว่า เรเรียวกุ ที่สามารถดึงดูดให้วิญญาณเข้ามาหาได้
ห้ามผิวปากตอนกลางคืน มีความเกี่ยวโยงกับขโมยขโจร และเกิดเป็นความเชื่อว่าถ้าใครผิวปากตอนกลางคืนจะเป็นการดึงดูดให้โจรขึ้นบ้าน
ความเชื่อเรื่องตัวเลขเคราะห์ร้าย ได้แก่ เลข 4 เพราะสี่ หรือ ชิ ในภาษาญี่ปุ่นไปพ้องเสียงกับคำว่า ที่แปลว่าความตาย และเลข 9 เพราะเก้า หรือ คุ พ้องเสียงกับคำว่า คุ ที่แปลว่าความเจ็บปวดทรมาน ด้วยเหตุนี้คนญี่ปุ่นจึงมอบของขวัญให้กันเป็นจำนวน 3 หรือ 5 ชิ้นแทนการให้ 4 ชิ้นหรือ 9 ชิ้น
อย่านอนหันหัวไปทางทิศเหนือ เชื่อว่าการนอนหันหัวทางทิศเหนือจะทำให้โชคร้าย หรือที่แย่ยิ่งกว่านั้นอาจนำมาซึ่งความตายของผู้นั้นเลยก็เป็นได้
อาหารมงคล“โมจิ” (mochi) เนื่องจากเสียงอ่านคำว่า “โมจิ” หมายถึง “มี” หรือ “มั่งมี” จึงถือว่าเป็นมงคลต่อผู้รับประทาน “กุ้งใหญ่” เพราะตัวกุ้งมีลักษณะโค้ง หัวกับหางโค้งงอเข้าหากัน ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าหมายถึง “การมีอายุยืน”
ภาษา
ภาษาญี่ปุ่น ชื่อประเทศญี่ปุ่นเรียกว่า นิปปง หรือ นิฮง ซึ่งใช้คันจิตัวเดียวกันคือ คำว่า นิปปง มักใช้ในกรณีที่เป็นทางการ ส่วนคำว่า นิฮง จะเป็นศัพท์ที่ใช้โดยทั่วไป