Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พยาธิสรีรภาพของไตและระบบทางเดินปัสสาวะ PATHOPHYSIOLOGY OF RENAL SYSTEM -…
พยาธิสรีรภาพของไตและระบบทางเดินปัสสาวะ
PATHOPHYSIOLOGY OF RENAL SYSTEM
หน้าที่ของระบบทางเดินปัสสาวะ
ดูดกลับสารที่ประโยชน์ต่อร่างกายหลังจากการกรองจากหลอดไตฝอยก่อนจะถูกขับเป็นปัสสาวะ
รักษาสภาพของเหลวในร่างกายทั้งปริมาตรและความเข้มข้น
ขับของเสีย เช่น ยูเรีย
ที่เกิดจากการเผาผลาญโปรตีน
รักษาสภาพกรด-ด่างและออสโมลาริตี้ในเลือดให้คงที่
ขจัดสารพิษที่เกิดขึ้นในร่างกาย
ควบคุมสมดุลโซเดียมในร่างกาย
ทําให้วิตามินดีอยู่ในรูปที่ทํางานได้เเละสังเคราะห์กลูโคส
การติดเชื่อในระบบทางเดินปัสสาวะ
(Urinary tract infection)
พบการติดเชื่อได้หลายตําแหน่ง
บริเวณท่อปัสสาวะ = urethritis
บริเวณกระเพาะปัสสาวะ = cystit
บริเวณกรวยไต = pyelonephrti
พบเป็นอันดับสองของการติดเชื้อรองจาก URIพบในผญ > ผชเนื่องจากท่อปัสสาวะสั้น กว่าเชื้อก่อโรคที่มักเป็นสาเหตุคือ Escherichia coli(E. coli) อาศัยในลําไส้ใหญ่
ตรวจร่างกาย (physical examination) Tender at
suprapubic ar CVA Tenderness positiv
อาการแสดง (clinicalmanifestation)ปัสสาวะแสบขัด (dysuria) เบ่งปัสสาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้(urgency)
ปัสสาวะขุ่น/มีฟอง/ปนเลือด ปวดท้องน้อย
การรักษา (Treatment)MedicaltreatmentAntibiotic ให้ยาที่ครอบคลุมเชื้อgram negativSupportive เช่นยาแก้ปวด Nonmedical treatment ไม่กลั้นปัสสาวะ ให้เพียงพอรักษาความสะอาดไม่สวมเสื้อผ้ารัดรูปหรืออับชื้นทําความสะอาดบรเิวณช่องคลอดจากหน้าไปหลังล้างอวัยวะเพศทุกครั้งมีเพศสัมพันธ์
Physiology of Renal system หน้าที่ของไต
กรองของเสียออกจากร่างกาย
กำจัดน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย
ควบคุมความดันโลหิตผ่านระบบReninangiotensin
กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงผลิต erythropoieti
เป็นต่อมไร้ท่อ (Hormonal regulation)ควบคุมปริมาณแคลซียมผ่านhormon
สาเหตุAcute kidney injur prerenal caus renal
caus Post renal caus
นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ (stone/calculi)
นิ่วสามารถเกิดในระบบทางเดินปัสสาวะได้หลาย
รูปร่างและตําแหน่ง
นิ่วรูปร่างเขากวาง (staghorn)
ประเภทไม่ทึบ
ประเภททึบ
ตรวจร่างกาย (physical examination)
Palpate mass at male urthr
การส่งตรวจทางห้องปฎิบัติการUrine analysis ส่องกล้องพบผลึกในรูบแบบต่างFilm KUB พบabnormal opacity ใน urinary trac
ตำแหน่งที่เกิด
นิ่วในทางเดินปัสสาวะส่วนบน renal calyces,
renalpelvis, urete
นิ่วในทางเดินระบบปัสสาวะส่วนล่าง; bladder,
urthr
ตามส่วนประกอบบ
นิ่ว calcium oxalate ซึ่งพบได้ร้อย 80
นิ่วกรดยูริค
อาการแสดง (clinical manifestation)
ปวดตื่อบั้นเอว ปัสสาวะสะดุด ปัสสาวะเป็นทราย/กรวด/เม็ดหิน
การรักษา (Treatment) รักษาตามอาการ
การผ่าตัด
การใช้คลื่น shock wave ยิงสลายนิ่ว
การใช้ยาลดการเกิดนิ่วสลายนิว
ภาวะโปรตีนในปัสสาวะ
ภาวะโปรตีนในปัสสาวะหมายถึงการตรวจพบ proteineหรือ albumin ใน ปัสสาวะซึ่งมักจะมีสาเหตุจากโรคไตการรับประทานยาบางชนิด
ปัจจัยทีมีผลต่อโปรตีนในปัสสาวะ
-การออกกําลังกาย
-ภาวะหัวใจวาย
-การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
-การใช้ยา NSAID,acel,ARB
โรคกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
โรคกลั้น ปัสสาวะไม่อยู่เเละกลุ่มอาการที่เกี่ยวข้องกัน ได้แก่ปัสสาวะบ่อยมากทั้ง กลางวันกลางคืนปวดกลั้น มากขณะที่จะไปห้องน้ำจนบ่อยครั้งหรือบางครั้งกลั้นไม่อยู่ราดออกไปก่อน
สาเหตุหลักที่สําคัญและเกี่ยวข้องโดยตรงในสตรีเพศเป็นเพราะวา่ กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อนลง บางทีเรียกกันว่ากระบังลม (เชิงกราน) หย่อน
การตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ตรวจปัสสาวะเพื่อตัดปัญหาการอักเสบ
ตรวจสอบความแรงของสายปัสสาวะ (Uroflowmetry,Residual Urine)
ตรวจระบบประสาททางเดินปัสสาวะถ้าจําเป็น(Urodynamic)
ตรวจส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะถ้าจําเป็นอื่นๆ
ปัสสาวะคั่งค้าาง
ปัสสาวะคั่งค้างเป็นภาวะที่ไม่สามารถขับปัสสาวะได้ตามปกติแม้ว่ารู้สึก ปวดปัสสาวะมากหรืออาจต้องใช้เวลาเบ่งปัสสาวะนานกว่าจะออกในรายที่เป็นไม่นแรงยังถ่ายปัสสาวะได้ตามปกติแต่มักถ่ายได้ไม่สุดทําให้น้ำปัสสาวะบางส่วนค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ
อาการปัสสาวะไม่ออกเฉียบพลัน (Acute Urinary Retention)ท้องอืดบรเิวณท้องช่วงล่างปัสสาวะไม่ออกเรื้อรัง (Chronic UrinaryRetension)
ผู้ที่มีอาการปัสสาวะไม่ออกควรไปพบแพทย์ทันที
สาเหตุ
1.สาเหตุที่พบได้บ่อยมีดังนี้ ท่อปัสสาวะอุดตัน ต่อมลูกหมากโต ( Benign Prostatic Hyperplasia :BPH )
ระบบประสาทโรคเบาหวาน โรคหลอดเลทอดสมอง
3.การใช้ยายาคลายกล้ามเนื้อ เช่น ยาไดอะซีแพม(Diazepam)โดยเฉพาะยากลุ่มไตรคลิก(Tricyclicantidepressants:TCA)
การวินิจฉัย
การวัดปริมาณปัสสาวะที่ตกค้าง(Post-VoidingResidual Volume)
การส่องกล้องทางเดินปัสสาวะ (Cystoscopy)
เอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือซีทีสแกน (CT-scan)
การตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อหรือีเอ็มจี(Electromyography)
การรักษา
การระบายปัสสาวะ
การใช้ยา
การผ่าตัด
ปัสสาวะออกน้อย ( Oliguria and Anuria )
อาการปัสสาวะออกน้อย เราจะให้ความสําคัญกับปริมาณมีเกณฑ์มาตรฐานอยูที่ 400 มิลลิลิตรต่อ24ชั่วโมงในวยัผู้ใหญ่ และ 100 มิลลิลิตรต่อ24ชั่วโมงในวัยเด็กหากปัสสาวะมีปริมาณน้อยกว่านี้ก็จะถือว่า เข้าสู่ภาวะปัสสาวะน้อยแล้ว
การรักษาอาการปัสสาวะออกน้อย (Oliguria and Anuria)ทานน้ำให้มากขึ้นป้องกันและลดอัตราการสูญเสียน้ำของร่า งกายในทุกกรณีดูแลเรื่องสารอาหารให้สมดุลฝากวินิจฉัยในการปัสสาวะ
การตรวจร่างกายและวินิจฉัยโรคปัสสาวะน้อย
ช่วง
1.ประวัติการสูญเสียน้ำออกจากร่างกายในช่วงระยะที่ผิดปกติเป็นอย่างไร
2.ประวัติการให้ยา
3.ความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยและติดเชื้อ
4.ประวัติเกี่ยวกับไตโดยเฉพาะ
5.ลักษณะของปัสสาวะ
6.ผลข้างเคียงอื่นๆ
ปัสสาวะออกมาก
สสาวะมากผิดปกติค่าเฉลี่ยของปริมาณปัสสาวะในแต่ละวันจะไม่เกิน 3ลิตรในวัยผู้ใหญ่และไม่ควรเกิน 2 ลิตรในวัย เด็กไม่เกี่ยวว่าจํานวนครั้งที่ปัสสาวะต่อวันจะมากหรือน้อยวัดเฉพาะปริมาณเท่านั้นจึงจําเป็นต้องตรวจวัดด้วยการเก็บปัสสาวะตลอดทั้งวัน24ชั่วโมงเพื่อดูว่าแท้จริงแล้วปริมาณปัสสาวะมีเท่าไรหากเกินข้อกําหนดที่กล่าวไว้ข้างต้นค่อยเข้ารับการตรวจรกัษาต่อไป
ประเภทของอาการปัสสาวะมาก
1.กลุ่ม Solutediuresis :เป็นภาวะปัสสาวะมากที่มีต้นตอมาจากเกิดปริมาณสารบางอย่างที่ดึงน้ำออกจากร่างกายแล้วกลายเป็นปัสสาวะโดยที่จะเป็นสาร electrolyte หรือnonelectrolyteก็ได้
กลุ่ม Water diuresis :เป็นภาวะที่ปัสสาวะถูกขับออกมาเร็วกว่าปกติลักษณะจะเป็นของเหลวที่เจือจางมากหากพูดให้เข้าใจง่ายคือน้ำผ่านกระบวนการดูดซึมน้อยเกินไปเป็นภาวะปัสสาวะมากที่มีต้นตอมาจากเกิดปริมาณสารซึ่งต้องวินิจฉัยด้วยค่า urine osmolality < 250mosm/kg
เกิดจาก
มีภาวะเบาจืด
มีภาวะ Psychogenic polydipsia.
3.มีโรคดบาหวาน
4.โรคเกี่ยวกับไต
การตรวจวินิจฉัยอาการป
สสาวะมาก
การซักประวัติ
ตรวจปัสสาวะ
ตรวจเลือด
กระบวนการ
Water deprivation test
ANATOMY OF RENAL SYSTEM
ไต (Kidney)
-ท่อไต (ureter)
-กระเพราะปัสสาวะ(Bladder)
-ท่อปัสสาวะ (urethra)
-เส้นเลือดดํา เส้นเลือดแดงและระบบท่อน้ำเหลือง(Renala.vein, lymphatic drainage)
ไตมี2 ข้าง ซ้ายและขวาอยู่บริเวณตําแหน่ง T12-L3,
ขนาด 6113cm เป็น Retroperitoneal organ
ชั้นของไต
-ผนังหุ้มไต (Renal capsule)
-ไตชั้นนอก(Cortex)
-ไตชั้นใน (Medulla)
-Calyx/calyces
-กรวยไต (Renal pelvis)
หน่วยไต (Nephron)
เป็น anatomical unit of kidney
function
Glomerulus
− Renal corpuscle
− Afferent & efferent arteriole
− Bowman capsule
Renal tubule
− Proximal tubule
− loop’s of Henle
− Distal tubule
− Collecting duct
Vascular supply
Anatomy of Ureter, Bladder and urethra
ท่อไต (Ureter)
เป็น retroperitoneal
structures ที่ต่อจากrenal pelvis ถึงกระเพาะปัสสาวะ(bladder)มีความยาวประมาณ25-30cm
กระเพาะปัสสาวะ (bladder)
เป็นอวัยวะมีลักษณะเป็นถุงประกอบด้วยชั้นกล้ามเนื้อวางในช่องท้องส่วนล่าง-มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมพีระมิด
-ขนาดความจุ400-600ml
urinary bladder and urethra female
urinary bladder and urethra male
ท่อปัสสาวะ (urethra)
female urethra
ความยาว 3-5 cm
รูเปูดอยู่ระหว่าง clitoris และ vaginal canal
male urethra
Prostatic urethra (3-4 cm)
ส่วนที่ออกจากกระเพาะปัสสาวะผ่านเข้าไปอยู่ในเนื้อต่อมลูกหมาก (prostate gland)
Membranousurethra (1 cm)
ส่วนนี้ออกจากเนื้อต่อมลูกหมาก ผ่านเข้าไปในurogenital และ pelvic diaphragm
Penile urethra (U) ยาวประมาณ 15 cmล้อมรอบด้วย corpusspongiosumปลายสุดขยายกว้างเรียก fossa navicularisและเป็นออกที่glan