Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบทางเดินหายใจ - Coggle Diagram
ยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบทางเดินหายใจ
ยาที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้ม
กันโรค
Lenalidomide
ยา Lenalidomide เป็นยาที่ปรับเปลี่ยนภูมิคุ้มกันตัวใหม่โดยไม่ต้องใช้วิธีรักษาด้วยคีโมบาบัด
ยารักษาโรคมะเร็ง ซึ่งมีสรรพคุณการรักษาคล้ายคลึงกับยา thalidomide แต่ผลการศึกษาในห้องวิจัยพบว่ายาดังกล่าวมีความสา มารถในการบาบัดมากกว่าและมีอาการข้างเคียงน้อยกว่ายา thalidomide
Thalidomide
Thalidomide ใช้รักษามะเร็งได้หลายชนิด เช่น melanoma, multiple myeloma, renal cellและมะเร็งรังไข่ กลไกการออกฤทธิ์เชื่อว่าเกิดจากการยับยัง" tumor necrosis factor alpha , vascular endothelial growth factor
ยาละลายเสมหะ
(Mucolytics)
ยาขับเสมหะ (Expectorants) ยาในกลุ่มนี้จะมีกลไกในการออกฤทธิ์โดยการกระตุ้นให้มีการขับเสมหะเพิ่มการหลั่งสารคัดหลั่งในทางเดินหายใจทำให้เสมหะอ่อนตัวลงเพิ่มการพัดโบกของขนเซลล์ในทางเดินหายใจ (cilia) ช่วยขับสิ่งแปลกปลอมหรือสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองในทางเดินหายใจออกมาด้วย
Nasal Decongestants ยาแก้คัดจมูก Sympathomimetics are used to reduce nasal congestion
ยาละลายเสมหะ (mucolytics)เสมหะแยกกันออกเป็นส่วนๆเสมหะมีความหนืดลดลงทำให้ถูกขับออกด้วยการไอได้ง่ายขึ้นตัวอย่างยาในกลุ่มนี้เช่น bromhexine, ambroxal, acetylcysteine, carbocysteine เป็นต้น
อาการข้างเคียงของแอนติฮิสตามีน
ทำให้ง่วงซึมแอนติฮิสตามีนโดยส่วนใหญ่มักมีฤทธิ์กดระบบประสาท
ยาคลายเครียด และยานอนหลับ
เป็นยาที่จัดว่าค่อนข้างปลอดภัยไม่ค่อยพบอาการข้างเคียง/ผลข้างเคียงและอาการที่พบก็ไม่ค่อยรุนแรงที่พบบ่อยได้แก่
ยาแก้แพ้หรือยาต้านฮิส ตามิน
เป็นกลุ่มยาที่มีโครงสร้างคล้ายสารฮิสตามีน (Histamine) ที่เมื่อรบัประทานยาเข้าไปแล้ว ยาจะเข้าไปจับกับตัวจับกับตัวรับของสารฮิสตามีน (Histamine receptor) ที่อยู่บนผิวของเนื้อเยื่อตามระบบหายใจเช่นในโพรงจมูก
จึงทําใหฮิสตามีนเข้าไปจับกับตัวรับของมันไม่ได้จึงทําให้ไม่เกิดอาการที่เป็นจึงทําให้ฮิสตามีนเข้าไปจับกับตัวรับของมันไม่ได้จึงทําให้ไม่เกิดอาการที่เป็นผลจากกระบวนการแพ้ทั้งหลาย ดังนั้น ยากลุ่มนี้จึงนามาใช้รักษาอาการที่เกิดจากกระบวนการแพ้หรือโรคภูมิแพ้นั้นเอง
ประเภทของยาแก้แพ้หรือ ยาแอนติฮิส ตามีน เราแบ่งยาแก้แพ้ ออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ 2 ยาแอนติฮิสตามีนกลุ่มไม่ง่วงยาไม่ผ่านเข้าสมองจึงไม่กดระบบประสาททําให้ไม่ค่อยมีผลง่วงซึม
ยาออกฤทธิ์ยาวนานกว่า 12 ชั่วโมงจนถึงหลายวัน
กลุ่มที่ 1 ยาแอนติฮิสตามีน กลุ่มง่วงคุณสมบัติของยากลุ่มนี้คือผ่านเข้าออกสมองได้ดีจึงสามารถจับกับตัวรับฮิสตามีนในสมองได้มีผลกดระบบประสาท ทําให้เกิดอาการง่วงซึมไม่สดชืนการตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆช้าลง
มีความเจาะจงต่อตัวรับฮิสตามีนสูง
ยากลุ่มเมทิลแซนธีน
(Methylxanthines)
สารที่เป็นอนพุันธ์ของ xanthines เช่น caffeine,theophylline, theobromine ปัจจุบันตัวที่นิยมนํามารกัษาโรคหอบหดื คือ Theophylline (The-dur® ยาออกฤทธิ์โดยการยับยังเอนไซม์ phosphodiesterase (PDE)
ยากลุ่มที่มีฤทธิ์ต้านโคลิเนอร์จิก
นอกจากตัวรับชนิด beta-2 receptor ที่พบบริเวณหลอดลมแล้วตัวรับอีกชนิดหนึ่งที่พบได้บรเิวณดังกล่าวและทำงานตรงข้ามกันคือ muscarinic receptor เป็นตัวรับในระบบประสาทอัตโนมัติcholinergic nervous system ซึ่งเมื่อกระตุ้นตัวรับชนิดนี้จะทําให้กล้ามเนื้อเรียบของหลอดลมหดตัว
ยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบทางเดินหายใจ ( Respiratory drugs )
ยากลุ่มนี้เป็นยากลุ่มแรกและเป็นกลุ่มหลักที่นํามาใช้ในการรกัษาหอบหดืจากที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นเกี่ยวกับตัวรบั ชนิด beta-2 receptor ซึ่งเป็นตัวรับของระบบประสาท adrenergic nervous system พบมากที่หลอดลมเมื่อกระตุ้นตัวรับชนิดนี้จะมีผลทําให้กล้ามเนื้อเรียบของหลอดลมคลายตัวยาใน
กลุ่มนี้จะกระตุ้นต่อตัวรับนี้อย่างจําเพาะเจาะจง นอกจากนี้ยังช่วยยับยังการหลั่งสารสื่อจาก mast cell และเพิ่มการทํางานของขนเซลล์(cilia) ช่วยในการกําจัดเยื่อเมือกในทางเดินหายใจ
ยาที่ใช้ในการรักษาหอบหืด 1.ยาขยายหลอดลม (Bronchodilators) ยากลุ่มกระตุ้นตัวรับชนิดเบต้า2 (beta-2 agonists)
(short-acting) ยาในกลุ่มนี้จะมีระยะเวลาในการออกฤทธิ์ประมาณ 4- 6 ชั่วโมง ได้แก่ Terbutaline (Bricanyl®)และ butamol or Albuterol(Ventolin®)
ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์
(Corticosteroids)
ยากลุ่มยับยังการหลั่งสารสื่อจากเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการอักเสบได้ แก่ Cromolyn sodium (disodium cromoglycate) และNedocromil sodium ยาทั้งสองตัวจะยับยังการหลั่งสารสื่อต่างๆ
เกี่ยวข้องกับกระบวนการอักเสบจาก mast cell เช่น leukotrienes,histamine, ยับยั้งการเคลื่อนที่ของเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการhistamine, ยับยั้งการเคลื่อนที่ของเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการอักเสบและภูมิแพ้ เช่น macrophages, eosinophils (จึงมีประโยชน์ในการรักษาโรคภูมิแพ้และภาวะภูมิคุ้มกันตอบสนองไวกว่าปกติ