Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พระราชบัญญัติวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์, พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยา…
พระราชบัญญัติวิชาชีพ
การพยาบาลและการผดุงครรภ์
หมวด2 สมาชิก
มาตรา 11
สมาชิกสามัญ
อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 18 ปีบริบูรณ์
มีความรู้ในวิชาชีพ สภารับรอง
-ไม่เคยต้องโทษจําคุก
-ไม่เป็นผู้มีจิตฟั่นเฟือน
-ไม่ประพฤติเสียหาย
สมาชิกกิตติมศักดิ์
-ผู้ทรงคุณวุฒิที่สภาเชิญมาเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
มาตรา 12
สิทธิ-หนา้ที่
-เลือกตั้ง รับเลือกตััง รับเลือกเป็นกรรมการ
-ผดุงเกียรติศักดิ์วิชาชีพ
-แสดงความคิดเห็นเป็นหนังสือเกี่ยวกับกิจการของสภาไปยังคณะกรรมการ
-ขอขึ้นทะเบียนและรับในอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ โดยปฏิบัติตามข้อกําหนดสภา
มาตรา 13
สิ้นสุดเมื่อ
ตาย
ลาออก
ขาดคุณสมบัติมาตรา11(1)
หมวด3 คณะกรรมการ
มาตรา14
คณะกรรมการประกอบด้วย ผู้แทนสธ5คน กห 3คน มท1คน ผู้แทนทบวงมหาวทิ ยาลัย4คน กทม สภากาชาดไทย 1 คน
นายก สพท และสมาชิกสภาการพยาบาล 15 คน
มาตรา15
แต่งตั้งสมาชิกกิตติมาศักดิ์หรือสมาชิกสามัญเป็นกรรมการที่ปรึกษา
มาตรา16
เลือกคณะกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งนายกสภา
(มีอำนาจถอดถอนเลขาธิการก่อนครบวาระ) และอุปนายก
มาตรา17
เลือกตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 14
แต่งตั้งที่ปรึกษาตามมาตรา15
และดํารงตําแหน่งต่างๆตามมาตรา16
มาตรา18
คุณสมบัติกรรมการที่ปรึกษา ประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ไม่เคยถูกสั่งพักหรือเพิกถอน ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
มาตรา19
ผู้ได้รับเลือกมีวาระอยู่ตำแหน่งคราวละ 4 ปี (ไม่เกิน 2 ครั้งติดต่กัน)
มาตรา20
พ้นตำแหน่งเมื่อสิ้นสุดมาตรา 13 ขาดคุณสมบัติมาตรา18 แล้วลาออก
มาตรา21
กรณีดำรงตำแหน่งกรรมการได้รับเลือกว่างลงไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดก่อนครบวาระให้เลือกสมาชิกมาดำรงตำแหน่งภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ตำแหน่งนั้นว่างลง
มาตรา22
อำนาจคณะกรรมการ
บริหารกิจการพยาบาลตามมาตรา 7
แต่งตั้งอนุคณะกรรมการจริยธรรม สอบสวน เพื่อทำกิจการหรือพิจารณาเรื่องต่างๆ
ออกข้อบังคับสภาการพยาบาล
มาตรา23
นายกสภา มีอำนาจดำเนินกิจการ ของสภาเป็นผู้แทนสภาและเป็นประธานในที่ประชุม
อุปนายกสภาคนที่1 และ 2 เป็นผู้ช่วยนายกสภาและทำการแทนนายกเมื่อนายกสภาไม่อยู่
มีอำนาจควบคุมเจ้าหน้าที่ทุกระดับรับผิดชอบงานธุรการ ดูแลรักษาทะเบียนสมาชิก ดูแลทรัพย์สินของสภาและเป็นเลขาธิการคณะกรรมการ
มาตรา1
เรียกพระราชบัญญัตินี้ว่า " พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2528
มาตรา2
บังคับใช้วันถัดไปหลังจากวันประกาศราชกิจจานุเบกษา
มาตรา4
การพยาบาล : การกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการดูเเล ช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วย ฟื้นฟู ป้องกัน ส่งเสริมสุขภาพ รวมถึงช่วยเหลือเเพทย์ในการรักษา โดยอาศัยวิทยาศาสตร์ และศิลปการพยาบา
การผดุงครรภ์ : การดูแล ช่วยเหลือหญิงตั้งครรภ์ หลังคลอด เด็กแรกเกิด รวมถึงตรวจ ทำคลอด ส่งเสริมและป้องกันความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ คลอด หลังคลอด และช่วยเหลือแพทย์ในการรักษา
การประกอบวิชาชีพพยาบาล : การปฏิบัติหน้าที่การพยาบาลต่อบุคคล ครอบครัว ชุมชน โดยสอนและเเนะนำ ให้คำปรึกษาแก้ปัญหาสุขภาพอนามัย จัดสิ่งแวดล้อมเพื่อแก้ปัญหาการเจ็บป่วย ฟื้นฟู ให้ภูมิคุ้มกัน รักษาโรคเบื้องต้น
ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาล : บุคคลที่ได้ขึ้นทะเบียนและได้ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลจากสภาการพยาบาล
ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ : ผู้ที่ได้ขึ้นทะเบียนใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์จากสภาการพยาบาล
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ : ผู้ที่ได้ขึ้นทะเบียนใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาบและการผดุงครรภ์จากสภาการพยาบาล
ใบอนุญาต : ใบอนุญาตที่สภาการพยาบาลออกให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
สมาชิก : สมาชิกสภาการพยาบาล
กรรมการ : กรรมการสภาการพยาบาล
คณะกรรมการ : คณะกรรมการสภาการพยาบาล
เลขาธิการ : เลขาธิการสภาการพยาบาล
พนักงานเจ้าหน้าที่ : ผู้ที่รัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพรบ.นี้
รัฐมนตรี : รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา5
ให้รมต.สธ. รักษาการตามพรบ.นี้ และให้มีอำนาจเเต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่กับการออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพรบ. + ออกระเบียบและประกาศเพื่อปฏิบัติตามพรบ.นี้
หมวด1 สภาการพยาบาล
มาตรา6
ให้มีสภา + วัตถุประสงค์ + อำนาจตามพรบ.นี้
มาตรา7
ส่งเสริมการศึกษา บริการ วิจัย ความก้าวหน้าในวิชาชีพ
ควบคุมความประพฤติของผู้ประกอบวิชาชีพให้ถูกต้องตามหลักจริยธรรมวิชาชีพ
ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิก
ช่วยเหลือ แนะนำ เผยเเพร่ ให้การศึกษาแก่ประชาชน + องค์กรอื่นในเรื่องเกี่ยวกับวิชาชีพ
ให้คำปรึกษา ข้อเสนอ ต่อรัฐบาลเกี่ยวกับปัญหาวิชาชีพ
เป็นตัวแทนผู้ประกอบวิชาชีพในประเทศไทย
เป็นตัวแทนผู้ประกอบวิชาชีพในประเทศไทย ผดุงความเป็นธรรมและส่งเสริมสวัสดิการให้สมาชิก
มาตรา8
รับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอประกอบวิชาชีพ
รับรองวิทยฐานะของสถาบันที่ทำการสอนและฝึกอบรม
ให้ความเห็นชอบหลักสูตรการศึกษาวิชาชีพพยาบาลและผดุงครรภ์ในระดับอุดมศึกษาที่จะทำการสอนเพื่อเสนอทบวงมหาวิทยาลัย
รับรองหลักสูตรต่างๆสำหรับการศึกษาประกาศนียบัตรของสถาบันที่จะทำการสอน
รับรองหลักสูตรต่างๆสำหรับการฝึกอบรมในวิชาชีพ
สั่งพักใช้ใบอนุญาต/เพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ
รับรองปริญญาประกาศณียบัตรเทียบเท่าปริญญาประกาศนียบัตรหรือวุฒิบัตรในวิชาชีพของสถาบันต่างๆ
ดำเนินตามวัตถุประสงค์ของสภา
มาตรา9
มีรายได้ต่อไปนี้
เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน
ค่าจดทะเบียนสมาชิกสามัญ ค่าบำรุง ค่าทำเนียมต่างๆ
ผลประโยชน์จากกิจกรรมอื่นตามวัตถุประสงค์ในมาตรา7
เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้ให้แก่สภา
มีรายได้ต่อไปนี้
มาตรา10
ให้รมต.ดำรงตำแหน่งสภานายกพิเศษ
พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลเเละการผดุงครรภ์
หมวด4 การดำเนินกิจการของคณะกรรมการ
มาตรา24 มติที่ประชุมถือเสียงข้างมาก
มาตรา25สภานายกพิเศษจะเข้าฟังการประชุมชี้เเจงความเห็นในที่ประชุม
มาตรา26 มติที่ประชุม
ออกข้อบังคับ
กำหนดงบประมาณ
การให้สมาชิกพ้นสภาพตามมาตรา24
การวินิจฉัยเด็ดขาด
หมวด5 การควบคุมการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา35 คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจริยธรรมจากสมาชิกสามัญ
มาตรา36 เมื่อคณะกรรมการได้รับรายงานของอนุกรรมการจริยธรรมแล้วมติต่อไปนี้ หาข้อเท็จจริง สอบสวน ยกเว้นกล่าวโทษ
มาตรา37 คณะกรรมการแต่งตั้งอนุกรรมการสอบสวนจากสมาชิกสามัญ
มาตรา38 อนุกรรมการมีอำนาจเรียนบุคคลใดๆมาให้ถ้อยคำ
มาตรา39 ประธานกรรมการสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิ์ชี้แจงหรือนำหลักฐานมาให้คณะนุกรรมการสอบสวน (ส่งสำเนาเรื่องที่กล่าวโทษภายใน 15 วัน)
มาตรา40 เมื่อคณะอนุกรรมการสอบสวนเสร็จจะส่งสำนวนให้คณะกรรมการชี้ขาด
มาตรา41 เมื่อคณะกรรมการได้สำนวนการสอบสวนจะพิจารณาการสอบสวนและมีอำนาจสั่ง ยกข้อกล่าวโทษ ตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักการใช้ใบอนุญาต เพิกถอน
มาตรา42 เลขาธิการแจ้งคำสั่งสภาไปยังผู้ถูกกล่าวหาและบันทึกข้อความตามคำสั่งในทะเบียนวิชาชีพ
มาตรา43 ภายใต้มาตรา27 ห้ามผู้ถูกพักหรือเพิกถอนใบอนุญาตแสดงตนหรือว่ากระทำตัวเองว่ายังมีสิทธิ
มาตรา44 ในระหว่างถูกพักใช้ใบอนุญาต ถ้าฝ่าฝืนมาตรา 43 จะถูกจำคุกตามมาตรา 46
มาตรา45 ผู้ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตจะขอใหม่ได้เมื่อพ้น 2 ปี
มาตรา33 บุคคลที่ได้รับความเสียหาย เพราะผู้ประกอบวิชาชีพมีสิทธิยื่นเรื่องต่อสภา
มาตรา34เมื่อสภาได้รับเรื่องการกล่าวหา ถ้ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมจะเสนอให้อนุประธานกรรมการจริยธรรมทันที
มาตรา31 ต้องเป็นสมาชิกสามัญ ผู้ใดขาดจาดสมาชิกถือว่าใบอนุญาตสิ้นสุด
มาตรา32 ต้องรักจริยธรรม
มาตรา29 การขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตมี 3 ประเภทและแบ่งเป็น 2 ชั้น โดยใบอนุญาตมีอายุ 5 ปี
มาตรา30 ผู้มีสิทธิขึ้นทะเบียนทั้งชั้น 1 และ 2 ต้องมีใบปริญญาเเละต้องสอบความรู้วัดความรู้แล้ว
มาตรา27 ห้ามผู้ที่ไม่ได้ประกอบวิชาชีพกระทำการพยาบาล
มาตรา28 การขึ้นทะเบียน ออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาตและการออกหนังสืออนุมัติต้องเป็นไปตามข้อบังคับสภา
หมวด5 ทวิ พนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา45 ตรี
ในการปฏิบัติงานต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงาน เจ้าหน้าที่แก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง
มาตรา45 จัตวา
ในการปฏิบัติหน้าที่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นหนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา45 เบญจ
ผู้รับผิดชอบหน้าที่ในสถานที่ตามมาตรา 45 ทวิอำนวยความสะอาดในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา45 ทวิ
พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าตรวจสอบ
สถานที่ประกอบการที่มีผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลปฏิบัติงานอยู่
สถานที่ที่มีเหตุผลสมควรเชื่อว่ามีผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาล
สถานที่ที่ทำการสอน หรือเชื่อว่าทำการสอนวิชาชีพพยาบาล
บทเฉพาะกาล
มาตรา49
ผู้ที่ได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันในวิชาชีพตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะอยู่แล้วในงันที่พรบ.นี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้ถือว่าผู้นั้นเป็นสมาชิกสามัญของสภา
มาตรา50
ผู้ใดได้ขึ้นทะเบียนเเละรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันในวิชาชีพตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะและใบอนุญาตยังคงใช้ได้ในวันที่พรบ.นี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถือว่าผู้นั้นได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพในประเภทและชั้นแล้วแต่กรณี ตามพรบ.นี้
มาตรา51
ในระยะเริ่มแรกที่ยังไม่ได้เลือกตั้งสมาชิกสามัญของสภาเป็นกรรมการให้คณะกรรมการประกอบด้วยปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นนายกสภาและผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งตามมาตรา14เป็นกรรมการการแต่งตั้งดังกล่าวจะต้องกระทําให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันแต่วันที่พรบ.นี้ใช้บังคับ
มาตรา52
ในระหว่างที่ยังไม่ได้ออกระเบียบหรือข้อบังคับเพื่อปฏิบัติการตามพรบ.นี้ให้นำกฎกระทรวงระเบียบหรือประกาศที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะในส่วนที่เกี่ยวกับวิชาชีพาชีพการมาใช้บังคับโดยอนุโลม แต่ต้องไม่เกิน 1 ปีนับตั้งแต่พรบ.นี้บังคับใช้
หมวด6 กำหนดบทลงโทษ
มาตรา46ผู้ฝ่าฝืนมาตรา27 หรือ 43 ต้องโทษจําคุกไม่เกิน2ปี หรือ ปรับไม่เกิน20000บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา47 ผู้ฝ่าฝืนมาตรา 31 วรรคสาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน1000บาท
มาตรา48 ผู้ใดไม่มาให้ถ้อยคํา หรือ ไม่ส่งเอกสารหรือ วัตถุใดๆตามที่เรียกตามมาตรา38 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน1เดือน หรือปรับไม่เกิน1000บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา48 ทวิ ผู้ใดไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานตามมาตรา45 เบญจต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน1เดือนหรือปรับไม่เกิน1000บาท