Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กลุ่มอาการหายใจลำบากจากการสุดสําลักขี้เทา Apnea Meconium Aspiration…
กลุ่มอาการหายใจลำบากจากการสุดสําลักขี้เทา
Apnea Meconium Aspiration Syndrome (MAS)
ความหมาย
อาการหายใจลําบาก ที่เกิดเนื่องจากทารกสุดสําลักขี้เทาทซึ่งปนอยู่ในน้ําคร่ําเข้าไปในทางเดินหายใจ ปอด มีความสัมพันธ์กับการขาดออกซิเจนขณะคลอด อาจเกิดขึ้นขณะอยู่ในครรภ์ ขณะคลอดหรือทันทีหลังคลอด พบบ่อยในทารกเกิดครบกําหนดและทารกแรกเกิดเกินกําหนดที่มีภาวะขาดออกซิเจนขณะอยู่ใน ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 42 week ขึ้นไป หรืทารกที่ได้รับออกซิเจนระหว่างอยู่ในคครรภ์ไม่เพียงพอ โดยความรุนแรงของโรคมีความแตกต่างกัน ตั้งแต่ไม่มีอาการใดๆเลยจน กระทั่งมีความนแรงมากถึงขั้นเสียชีวิต
อาการและอาการแสดง
รายที่อาการรุนแรง
อาจใช้เวลา 1-2 สัปดาห์
รายที่อาการไม่รุนแรง
อาการจะดีขึ้นมาภายใน 24
2.) รายที่มีภาวะขาดออกซิเจนรุนแรง อาจพบผิวหนังเขียวคล้ำ มีอาการหายใจเฮือก อาจพบลักษณะทรวงอกโปง เนื่องจากมีการคั่งค้างของอากาศในทรวงอก มีลักษณะผิวแห้งลอก เล็บยาว บริเวณผิวหนัง เล็บ และสายสะดือมักจะติดสีเหลืองของขี้เทา (yellowish staining)
1.) อาการหอบเหนื่อยปอดมีเสียงผิดปกติ เสียงคราง ปักจมูกบาน หายใจล้าบาก มีการใช้กล้ามเนื้อช่วยการหายใจ
3.) ทารกมักมีอาการหายใจลำบากโดยมีอาการหายใจเร็ว เขียว
ทรวงอกโป่งออกหรืออกถัง (barrel chest) ฟังปอดได้
เสียงrhonchi และ crepitation
4.) มักปรากฎฏใน 2-3 ชั่วโมง เกิดจากขี้เทาเข้าไปอุดหลอดลม ทำให้การแลกเปลี่ยนกาซผิดปกติ การดึงรั้งของช่องซี่โครง (retraction) อาการเขียว อกโป่ง(barrel chest)
ความรุนแรง แบ่งได้เป็น 3 ระดับ:
อาการรุนแรงปานกลาง
อาการหายใจเร็วทวีความรุนแรงมากขึ้น มีการดึงรั้งของช่องซี่โครง ความรุนแรงสูงสุดเมื่ออายุประมาณ 24 ชั่วโมง
อาการรุนแรงมาก
ทารกจะมีระบบหายใจล้มเหลวทันที
หรือภายใน 2 - 3 ชั่วโมงหลังเกิด
อาการรุนแรงน้อย
ทารกมีอาการหายใจเร็วเพิ่มขึ้น ทำให้ระดับของคาร์บอนไดออกไซค์ในเลือดแดง
(PaC0.) ลดลง และมี pH ปกติ อาการมักหายไปใน 24 -72 ชั่วโมง
สาเหตุ
เมื่อทารกได้รับออกซิเจนระหว่างที่อยู่ในครรภ์ไม่พอ
จะทำให้ทารกถ่ายขี้เทาออกมา
ซึ่งการถ่ายขี้เทาออกมาเป็นเพราะว่ากล้ามเนื้อหรูด
วารหนักมีการคลายออก ร่วมกับมีการหายใจเข้า และการเข้าระหว่างที่อยู่ในครรภ์ (ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำคร่ำ)
จะทำให้ทารกหายใจเอาน้ำคร่ำเข้าสู่ปอด แล้วอุดกั้นทางเดินหายใจ
ปัจจัยที่สัมพันธ์กับภาวะสูดสำลักขี้เทาในทารกแรกเกิด
ปัจจัยด้านมารดา
มารดามีภาวะรกเกาะต่ำหรือรกลอกตัวก่อนกำหนด อาจทำให้มีเลือดออกทางช่องคลอดเมื่อมี การเสียเลือดมากจ้าให้ปริมาณเลือดที่ผ่านรกไปยังทารกน้อยลง
4.มารดามีภาวะน้ำคร่ำน้อยกว่าปกติ ส่งผลให้ทารกในครรภ์เคลื่อนไหวไมสะดวกเกิดภาวะสายสะดือถูกกดได้ง่าย
2.) มารดามีภาวะความดันในโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
ส่งผลให้ปริมาณเลือดที่ผ่านรกมายังทารกน้อยลง
มารดามีภาวะถุงน้ำคร่ำอักเสบหรือการติดเชื้ออื่นๆ มีน้ำคร่ำรั่วก่อนคลอดนานกว่า 18 ชั่วโมง มีประวัติการใช้สารเสพติด ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกท้าให้ทารกในครรภ์ได้รับออกซิเจนน้อยลง
1.) มารดาอายุครรภ์มากกว่า 42 สัปดาห์ ที่ส่งผลให้รกเสื่อมสภาพ
ปัจจัยด้านทารก
1.มีภาวะขาดออกซิเจน ร่างกายของทารกจะมีการปรับตัวเพื่อหาแหล่งของ
ออกซิเจนมาใช้ เมื่อรับออกซิเจนจากสายสะดือไม่ได้ ทารกจะมีภาวะเครีย
2.ส่งผลทำให้มีการคลายตัวของหรูดลำไส้ของทารก ส่งผลให้ทารกมีการถ่ายขี้ เทาปนในน้ำคร่ำมารดา
การตรวจวินิจฉัย
การตรวจวินิจฉัย
ลักษณะอาการทางคลินิก
ทารกมีอาการหายใจลำบาก มีการใช้กล้ามเนื้อในการหายใจทรวงอกโป่ง เนื่องจากมีลมคั่ง ค้างในทรวงอกไม่สามารถระบายออกได้จากการอุดกั้นทางเดินหายใจฟังเสียงปอดไม่ได้ยินเสียง
การตรวจร่างกาย
ตรวจร่างกายพบน้ำคร่ำมีตะกอนขี้เทาปนในระยะคลอด หรือร่างกายของทารกมีลักษณะของขี้เทาติดอยู่ดามผิวหนัง
การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปูฏิบัติการและการวินิจฉัยร่วมกับภาพถ่ายรังสีทรวงอก
ภาพถ่ายรังสีทรวงอกพบความผิดปกติ ได้แก่
alveolar infiltration hyperaeration atelectasis
การส่งตรวจวิเคราะห์ก๊าซในเลือดอาจพบภาวะกรดในร่างกาย
ค่า pH <7.25 ภาวะคาร์บอนไดออกไซด์ทั่ง (PCO2, 55mmHg)
แนวทางการรักษา
1.ให้ทารกได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเพื่อช่วย การหายใจหลักการของการช่วยหายใจพิจารณาจากความรุนแรงของภาวะพร่องออกซิเจน
การรักษาทางยา
การเลือกใช้ยาพิจารณาตามอาการของทารกแต่ละรายกลุ่มยาที่ใช้บ่อยคือ
กลุ่ม opioids
ยาที่ใช้บ่อยคือ fentany
กลุ่ม opioids
ยาที่ใช้บ่อยคือ midazolam
ในกรณีทารกมีภาวะหายใจล้มเหลว
ให้ยาปฏิชีวนะ เพื่อลดการ
อักเสบของเนื้อเยื่อปอด
กรณีมีภาวะความดันในปอดสูงที่ส่งผลให้เกิดภาวะหายใจล้มเหลว
ใช้ยาเพื่อขบายหลอดเลือดในปอด ยาที่ใช้บ่อยคือ nitric oxide ให้สารลดแรงตึงผิว
ในกรณีที่ทารกหายใจต้านเครื่องช่วยหายใจจนส่งผลให้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนก๊าซหรือปรับสมดุลกรด-ด่างในร่างกายได้
อื่นๆ
หากมีขี้เทาในน้ำคร่ำประกอบกับทารกหายใจช้าความดึงตัวของกล้ามเนื้อไม่ดี และ HR <100ครั้งต่อนาที พิจารณาใส่ ETT เพื่อดูดขี้เทา
ภายหลังการดูดขี้เทาในหลอดลม
ควรใส่สายยางดูดขี้เทาจากกระเพาะอาหารด้วย
ดูดขี้เทาและน้ำคร่ำออกจากปากและ
จมูกของทารกให้มากที่สุด ก่อนทารกหายใจ
ในรายที่มี asphyxia โดยทำการดูดขี้เทาก่อน
การช่วยด้วยแรงดันบวก และดูดออกให้มากที่สุด
ตรวจ arterial blood gas เพื่อประเมินภาวะความเป็นกรดของเลือด
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 40 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร) เนื่องจากทารกขาดอาหารตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ทำให้ไกลโดเจนและไขมันสะสมไว้ต่ำมาก การดูแลจึงต้องประเมินภาวะน้ำตาลในเลือคต่ำ โดยตรวจระดับน้ำตาลในเลือดทันทีที่ทารกเกิดถ้าต่ำกว่า 20 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ทารกควรได้รับสารละลายกลูโคสทางหลอดเลือดดำ และติดตามระดับน้ำตาลในเลือดและอาการของน้ำตาลในเลือดต่ำเป็นระยะๆ
ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อย
คือ ภาวะลมรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอด ในรายที่มีประวัติของการขาดออกซิเจนขณะอยู่ในครรภ์ชัดเจน อาจพบภาวะความดันของหลอดเลือดในปอดสูง
ภาวะขาดออกซิเจน
ทารกมักขาคออกซิเจนระหว่างอยู่ในครรภ์
ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุทั้งทางค้านมารดาทารกและรก
**การป้องกันและแก้ไข
พยาบาลห้องคลอดต้องเฝ้าติดตามมารดาที่มีปัจจัยเสี่ยงเช่น ความดันโลหิตสูง เฝ้าติดตามการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ เมื่อทารกในครรภ์มภาวะขาดออกซิเจนให้ออกซิเจนแก่มารคาและเร่งการคลอด เตรียมอุปกรณ์ในการให้ออกซิเจน รวมทั้งรถช่วยชีวิตให้พร้อมใช้ทันทีที่ทารกคลอด
ภาวะลมในเยื่อหุ้มปอด และปอดอักเสบ
อาการแสดงทางคลินิกของการมีลมในเยื่อหุ้มปอดได้แก่ ทารกมีอาการเขียว อาการไม่ดีขึ้นแม้ได้รับออกซิเจน ถ้าพบต้องรายงานแพทย์เพื่อให้ความช่วยเหลือ โดยด่วนป้องกันปอดอักเสบในทารกที่มีภาวะสูดสำลักขี้เทานั้น แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะแก่ทารกทุกราย
ภาวะเลือดข้น จากภาวะขาดออกซิเจนอย่างเรื้อรังขณะอยู่ในครรภ์
ทำให้ทารกสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นเพื่อจับออกซิเจนเพิ่มขึ้น จึงทำให้มีภาวะเลือดข้นได้ง่าย หากสีผิวทารกแดงผิดปกติ ให้รายงานแพทย์เพื่อเจาะหาค่ความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดง ถ้าระดับสูงกว่า 65 % ดูแลให้ทารกได้รับการเปลี่ยนถ่ายเลือดบางส่วนด้วยพลาสมาา