Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การจัดระบบการศึกษาระหว่างประเทศฟินแลนด์และประเทศไทย
4 55, 2, 3, 5, 6,…
การจัดระบบการศึกษาระหว่างประเทศฟินแลนด์และประเทศไทย
ประเทศไทย(THAILAND)
1.ความแปรปรวนระหว่างโรงเรียน หมายถึง คุณภาพของโรงเรียนมีความแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด ฟินแลนด์ เป็นประเทศที่จัดการศึกษาได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลกโรงเรียนในประเทศฟินแลนด์ มีความแปรปรวนระหว่างโรงเรียนต่ำกว่า 5% ซึ่งแสดงว่าพ่อแม่ชาวฟินแลนด์
2.รงเรียนในประเทศไทยความแปรปรวนระหว่างโรงเรียนมีค่าสูงถึง 37% การเลือกโรงเรียนให้ลูกจึงเป็นปัญหาใหญ่ สำหรับพ่อแม่คนไทยเพราะโรงเรียนมีคุณภาพแตกต่างกันมากการจัดการศึกษาของไทย ทำให้บุคคลได้รับสิทธิเสมอภาคและมีความคุณภาพอย่างทั่วถึง
3.การแข่งขันของโรงเรียนเพื่อรับเด็ก จากการศึกษาวิจัยพบว่า ในประเทศที่ยิ่งมีจำนวนโรงเรียนที่แข่งขันกันเพื่อรับเด็กมาก นักเรียนจะยิ่งมีคะแนนเฉลี่ยของการเรียนสูง แต่สำหรับประเทศไทยกลับตรงข้ามกล่าวคือ นักเรียนแข่งขันกันเพื่อเข้าโรงเรียน และผลคือนักเรียนไทยมีคะแนนเฉลี่ยต่ำทุกวิชาผลการศึกษา
4.ข้อคิดคำนึงไม่พึงประสงค์อะไรบ้างกับผู้มีอำนาจกำหนดนโยบายการศึกษาของไทยที่กำหนดให้โรงเรียนยอดนิยมทั้งหลายใช้วิธีการรับนักเรียนโดยการให้นักเรียนสอบแข่งขันระบบแอดมิสชั่น ก็ใช้วิธีการเดียวกันคือ ให้นักเรียนสอบแข่งขัน
5.งบประมาณการศึกษา จากการศึกษาวิจัยพบข้อมูลที่น่าสนใจ คือหลายประเทศที่รัฐบาลใช้วิธีแก้ปัญหาคุณภาพการศึกษาด้วยการเพิ่มงบประมาณสนับสนุน, ผลปรากฏตรงข้ามคือนักเรียนมีผลการเรียนแย่ลง ในประเทศที่ใช้วิธีให้โรงเรียนมีอิสระในการบริหารจัดการ, มีอิสระในการหาและการตัดสินใจในการใช้งบประมาณ พบว่านักเรียนมีผลการเรียนที่ดีกว่า
5.ทรัพยากรของโรงเรียน หมายถึงการมีครูที่เพียงพอ และมีทรัพยากรการเรียน ได้แก่ หนังสือเรียนและอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีคุณภาพ จากการศึกษาค้นพบว่ามีผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ประเทศไทยขาดแคลนครูมากเช่นเดียวกับประเทศต่าง ๆ ที่อยู่ในกลุ่มที่นักเรียนมีผลการเรียนต่ำ จำนวนนักเรียนต่อครูในประเทศที่นักเรียนมีผลการเรียนดีจะอยู่ที่นักเรียน 10 คนต่อครู 1 คน หรือต่ำกว่านั้น ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีนักเรียนมากกว่า 20 คนต่อครู 1 คนผู้บริหารสถานศึกษาของไทยส่วนใหญ่รานงานว่าขาดแคลนทรัพยากรการศึกษา ยกเว้นโรงเรียนสาธิตและโรงเรียนเอกชน ดัชนีทรัพยากรเฉลี่ยของประเทศไทยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD มาก
7.เป็นการศึกษาที่จัดโดยกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทย โดยภาครัฐจะเข้ามาดูแลโดยตรงและเปิดโอกาสให้เอกชนมีส่วนร่วมในการศึกษาตั้งแต่ระดับการศึกษาปฐมวัยจนถึงระดับอุดมศึกษา สำหรับการศึกษาภาคบังคับในประเทศไทยนั้นได้กำหนดให้พลเมืองไทยต้องจบการศึกษาอย่างน้อยที่สุดในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและต้องเข้ารับการศึกษาอย่างช้าสุดเมื่ออายุ 7 ปี
ประเทศฟินแลนด์(FINLAND)
- Early childhood ช่วงก่อนเข้าเรียนเด็กในฟินแลนด์จะใช้ช่วงเวลานี้กว่า 6 ปีของชีวิต เรียนรู้ผ่านการ “เล่น”โดยจุดประสงค์หลักคือ ไม่ใช่การเตรียมเด็กเข้าสู่การเรียนทางวิชาการหากแต่เป็น การส่งเสริมให้เด็กเกิดการพัฒนาทางด้านสังคมและสุขภาพมากกว่าโดยทำผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ
- Basic education ซึ่งเป็นภาคบังคับ สำหรับเด็กอายุ 7-16 ปี
- Upper education เด็กสามารถเลือกได้ว่าอยากเรียนภาคทั่วไป หรือ อาชีวศึกษา
- Higher education ถ้าเทียบกับบ้านเราคือระดับมหาวิทยาลัย
-
-
7.รงอาหารอันกว้างขวาง มีการเสิร์ฟอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพแก่เด็กนักเรียน 940 คนของโรงเรียน ซึ่งมีตั้งแต่ชั้นประถมไปถึงมัธยมศึกษา
-
- การศึกษาไม่ใช่เรื่องของการแข่งขัน ที่นี่จึงไม่เน้นเกรดเฉลี่ย
10.ไม่มีข้อสอบกลางในวัดระดับ
เพราะเขาเชื่อว่าแต่ละโรงเรียนมีจุดประสงค์และเป้าหมายในการมอบความรู้ หรือการศึกษาให้กับเด็กๆ แตกต่างกันออกไป
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-