Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที 7 พยาธิสรีภาพของภาวะผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร - Coggle Diagram
บทที 7
พยาธิสรีภาพของภาวะผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร
ความผิดปกติของการย่อย
และการดูดซึมอาหาร
ได้แก่ โรคลําไส้สั้น
โรคลําไส้อักเสบและภาวะตับอ่อนล้มเหลว
เมื่อร่างกายมีภาวะย่อยอาหารหรือการดูดซึมสารอาหารผิดปกติมักนําไปสู่ภาวะทุพโภชนาการซึ่งมักเกิดขึ้นได้บ่อยในผู้ที่มีโรคหรือความผิดปกต่างๆ
โรคที่เรียกกันว่าลําไส้สั้นเกิดขึ้นได้จากการผสมผสานกันระหว่างการสูญเสียลําไส้ไปบางส่วนเนื่องจากถูกผ่าตัดออกไป และหรือลําไส้ส่วนที่เหลืออยู่ทำงานผิดปกติส่งผลให้ลดการดูดซึมสารอาหารของลําไส้
ส่วนผู้ป่วยที่มีภาวะตับอ่อนล้มเหลวจะมีการผลิตเอ็นไซม์ย่อยอาหารลดลงส่งผลให้ร่างกายมีภาวะย่อยอาหารผิดปกติและลําไส้ดูดซึมสารอาหารได้ไม่ดีและอาจนําไปสู่ภาวะทุพโภชนาการได้ในที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยโรคตับอ่อนอักเสบเรื่องระวังความเสี่ยงสูงของการเกิดภาวะทุพโภชนาการ
โรคในระบบทางเดินอาหาร
ความผิดปกติของผนังอาหาร
Hiatal hernia
paraesophageal (rolling) hiatal hernia
กระเพาะอาหารอักเสบและแผลในทางเดินอาหาร
กระเพาะอาหารอักเสบ หมายถึง การอักเสบของgastric mucosa อาจเกิดจากสารที่ก่อใหเ้กิดการระคายเคือง
กระเพาะอาหารอักเสบชนิดเฉียบพลัน (Acute
gastritis)
แผลในทางเดินอาหาร (Peptic Ulcer)
แผลในทางเดินอาหารจากภาวะเครียด (Stress
ulcer)
แผลในลําไส้เล็กส่วนต้น (Duodenal ulcer)
เกิดจากการขาดสมดุลระหว่า งกลไกการป้องกันของเยื่อบุและฤทธิ์การย่อยกัดกร่อนของacid-pepsin อาจตรวจพบ hydrochloric acid ปกติ
การตรวจวินิจฉัยแผลในทางเดินอาหาร
เจาะเลือดหาระดับ gastrin
ส่องกล้อง (endoscopy) และตรวจหาชิ้นเนื้อส่งตรวจ
ภาวะเเทรกซ้อนของทางเดือนอาหาร
การเกิดแผลทะลุ(Perforation)
หลักการรักษาแผลในทางเดินอาหาร
ส่งเสริมการหายของแผล
ความผิดปกติดของโภชนาการ
โภชนาการ คือการศึกษาถึงความสัมพันธระหว่างอาหารและสุขภาพของร่างกาย ทั้งในแง่ปริมาณและสัดส่วนของสารอาหารที่ร่างกายควรได้รับ
ภาวะทุพโภชนาการ (Malnutrition)
เป็นภาวะที่ร่างกายได้รับสารอาหารจําเป็นในปริมาณที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานานๆ จนส่งผลให้เกิดความผิดปกติทั้งทางร่างกาย
ภาวะขาดวิตามินซี
โรคขาดธาตุไอโอดีน
โรคขาดธาตุวิตามินเอ
โรคขาดวิตามินบีหนึ่ง
โรคขาดวติ ามินบีสอง
โรคขาดธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส
โรคขาดธาตุเหล็ก
โรคขาดวิตามินซี
ภาวะขาดสารอาหาร (Under nutrition or
nutritional deficiency)
การขาดโปรตีนและพลังงาน (Protein energymalnutrition; PEM หรือ proteincalorie malnutrition; PCM)
Anorexia nervosa and bulimiaเป็นความผิดปกติของการกิน (eating disorder)
ภาวะที่มีโภชนาการเกิน (Overnutrition)เกิดจากการได้รับสารอาหารมากเกินพอหรือไม่สมดุลเป็นเวลานานๆ
พันธุกรรม
รับประทานอาหารมากเกินไป
แล้วไม่มีเวลาออกกําลังกาย
พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจําวันที่ไม่เหมาะสมมีการใช้พลังงานต่ำ
โรคบางชนิด เชน่ Cushing ‘s Syndromeเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย
สรีรวิทยาของระบบทางเดินอาหาร
อวัยวะที่ทําหน้าที่เป็นทางผ่านของอาหาร(Alimentary tract) เริ่มต้นจากปาก(Mouth)หลอดคอหรือลําคอ (Pharynx) หลอดอาหาร(Esophagus) กระเพาะอาหาร (Stomach)ลําไส้เล็ก (small intestine) ลําไส้ใหญ่ (Largeintestine) และทวารหนัก (Anus)
อวัยวะที่ช่วยย่อยอาหาร ได้แก่ ต่อมน้ำลาย(Salivary gland) ตับ (Liver) และตับอ่อน(Pancreas)
ระบบทางเดินอาหารตามสรีรวิทยายาทําหน้าที่
ย่อยอาหาร (Digestion) ให้อยู่ในสภาพที่ดูดซึมได้
มีการเคลื่อนไว (motility)ของทางเดินอาหารและขับของเสียออกจากร่างกายทางอุจจาระ
เป็นทางผ่านของอาหาร และของเหลวต่างๆ
(Ingestion)
การดูดซึม (Absorption)
สารอาหารเข้าสู่กระแสโลหิต
กระบวนการเมตตาบอลิสึม
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
การย่อยทางเคมี(Chemical digestion)เป็นการย่อยอาหาร ได้แก่ คาร์โบไฮเดรตโปรตีนและไขมัน ให้มีขนาดเล็กที่สุด
การย่อยเชงิกล (Mechanical digestion)เป็นกระบวนการทําให้อาหารเล็กลงแต่ยังไม่เล็กที่สุดเพื่อสะดวกต่อการเคลื่อนที่โดยการบดเคี้ยว และการบีบตัวของทางเดินอาหาร
การดูดซึมในลำไส้ใหญ่
อาหารที่ไม่ถูกย่อยหรือย่อยไม่ได้เช่นเซลลูโลสถูกส่งไปยงัลําไส้ใหญ่ เซลล์ที่บุผนังลําไส้ใหญ่ดูดน้ำแร่ธาตุวิตามินและกลูโคสจากกากอาหารเข้ากระแสเลือด
การดูดซึมของลำไส้เล็ก
การดูดซึมอาหาร หมายถึงกระบวนการที่นําอาหารที่ผ่านการย่อยจนได้เป็นสารโมเลกุลเดี่ยว
อวัยวะที่ช่วยย่อยอาหาร
กระเพาะอาหาร (Stomach) ผลิตน้ำย่อยเพปซินย่อยโปรตีนให็เป็นโปรตีนสายสัน(เพปไทด์) และน้ำย่อยเรนนินย่อยโปรตีนในนมให้เป็นโปรตีนเป็นลิม ๆ
ลําไส้เล็ก (Small Intestine) ผลิตน้ำย่อยมอลเทสย่อยน้ำตาลมอลโทสให้กลายเป็นน้ำตาลกลูโคสน้ำย่อยซูเครสย่อยน้ำตาลซูโครสให้เป็นน้ำตาลกลูโคสและน้ำตาลฟรักโทส
ตับ (Liver) ผลิตน้ำดีแล้วถูกนําไปเก็บไว้ที่ถุงน้ำดี(Gall Bladder) ย่อยไขมันให้เป็นไขมันแตกตัวเป็นเม็ดเล็ก ๆ
ต่อมน้ำลาย (Salivary Gland)ผลิตน้ำย่อยอะไมเลส (Amylase)ย่อยแป้งให้เป็นน้ำตาลมอลโทส
รงควัตถุน้ำดี(Bile Pigment)เกิดจากการสลายตัวของฮีโมโกลบิน(Hemoglobin) โดยตับเป็นแหล่งทําลายและกําจัด Hemoglobinออกจากเซลล์
โคเรสเตอรอล (Cholesterol) ถ้ามีมาก ๆจะทําใหเ้กิดนิ่วในถุงน้ำดีเกิดการอุดตันที่ท่อน้ำดีเกิดโรคดีซ่าน (Janudice)มีผลทําให้การรย่อยอาหารประเภทไขมันบกพร่อง
ตับออ่ น (Pancreas) ผลิตน้ำย่อยลิเพสย่อยไขมันแตกตัวให้เป็นกรดไขมันและกลีเซอรอลน้ำย่อยทริปซินย่อยโปรตีนให้เป็พอลิเพปไทด์และไดเพปไทด์
การขับถ่ายอุจจาระผิดปกติ
และโรคเกี่ยวกับระบบขับถ่ายอุจจาระ
ท้องผูก (constipation)
Diverticula disease
เป็นการที่mucosaมีการเลื่อนหรือมีลักษณะคล้ายถุงยื่นเป็นติ่งออกไปจาก muscle layer
ของผนัง colon ถ้าไม่มีอาการแสดง
ความผิดปกติในการเคลื่อนไหว
Gastroesophageal reflux disease (GERD)
GERD หมายถึงโรคที่มีเกิดจากผลของการย้อนขึ้นมาอย่างผิดปกติของน้ำย่อยกรดpepsinและน้ำดีและมีความผิดปกติในการกําจัดน้ำย่อยในกระเพาะอาหารที่ย้อนขึ้นมาสู่หลอดอาหาร
ท้องเสีย (Diarrhea)
ท้องเสีย หมายถึงการเพิ่มจํานวนครั้งและเพิ่มปริมาตรสารน้ำของอุจจาระ ปัจจัยที่มีผลต่อจํานวนและปริมาตรของอุจจาระ
Intestinal Obstruction
เกิดจากถูกขัดขวางการเคลื่อนผ่านของ chyme สู่
intestinal lumen
ความผิดปกติในการดูดซึม (malabsorption
Syndromes)
ความผิดปกติในการดูดซึมสารอาหารในลําไส้เล็ก
Inflammatory bowel disease
ยังไม่ทราบแน่ชัดแต่พบผู้ป่วยในครอบครัวเดียวกันกรรมพันธุและถูกกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม เช่น การรบัประทานอาหารที่ปนเปื่อนantigen หรือเชื้อโรค