Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคเบาหวาน(Daibetes Mellitus), ปาริชาติ ไตรยสุทธิ์ UDA6380066 - Coggle…
โรคเบาหวาน(Daibetes Mellitus)
HbA1c คืออะไร
สารโปรตีนที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง
ฮีโมโกลบินนั้นก็มีหลายชนิด แต่ฮีโมโกลบินที่มีจำนวนมากที่สุดในเม็ดเลือดแดงก็คือ ฮีโมโกลบินชนิดเอ (HbA) ซึ่งตามปกติจะมีอยู่ประมาณ 97-98% และมีจำนวนแยกย่อยออกเป็น HbA1, HbA2 ฯลฯ
เฉพาะแต่ HbA1 ก็ยังสามารถแยกออกเป็น HbA1a, HbA1b และ HbA1c ได้อีกตามคุณลักษณะเฉพาะของแต่ละตัว (ส่วนที่มากที่สุดคือ HbA1c ซึ่งมีประมาณ 80% ของ HbA1 หรือประมาณ 5% ของ HbA ทั้งหมด) โดยตัวสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องโรคเบาหวานนั้นจะเป็นตัว
ความหมาย
โรคเบาหวาน เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ
ร่างกายจะไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
โดยในระยะยาวจะส่งผลให้เกิดการทำลายหลอดเลือด และนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานที่รุนแรงมากขึ้น
ชนิดของเบาหวาน
โรคเบาหวานชนิดที่ 1 ประเภทพึ่งอินซูลิน ( Insulin Dependent Diabetes Mellitus, IDDM )
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ประเภทไม่พึ่งอินซูลิน ( Non-Insulin Dependent Diabetes Mellitus, NIDDM)
โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ( Gestational Diabetes Mellitus )
น ้าตาลสะสมหรือน้ำตาล
เฉลี่ยคืออะไร
การตรวจ HbA1c
HbA1c หรือ Hemoglobin A1c (ฮีโมโกลบินเอวันซี) คือ การตรวจวัดค่าเฉลี่ยของน้ำตาล (กลูโคส) ในเลือดที่จับกับฮีโมโกลบินของเม็ดเลือดแดงในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา (แพทย์บางท่านใช้คำว่า “น้ำตาลสะสม
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น แต่โดยความหมายแล้วจะสะท้อนค่าเฉลี่ยของน้ำตาลในเลือดช่วงเวลาที่ผ่านมา) เพราะเม็ดเลือดแดงทั่วไปจะมีอายุขัยอยู่ประมาณ 100-120 วัน
ค่าน้ำตาลที่ตรวจได้จึงเป็นค่าน้ำตาลที่สะสมอยู่ในฮีโมโกลบินนานประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งเป็นค่าที่ช่วยพิจารณาและประเมินผลการรักษาโดยรวมในช่วงที่ผ่านมาว่าผู้ป่วยเบาหวานสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีหรือไม่ และยังช่วยคัดกรองและวินิจฉัยได้ว่าผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานหรือไม่ได้ด้วย
พยาธิสภาพของการเกิดโรคเบาหวาน
ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 มักพบว่ามีความผิดปกติที่ตัวรับ (receptor) ของเซลล์ ท้าให้
ร่างกายไม่สามารถดึงน ้าตาลกลูโคสไปใช้ใด้ ท้าให้ระดับน ้าตาลในเลือดสูง
ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 มักพบว่ามีความผิดปกติที่ตัวรับ (receptor) ของเซลล์ ท้าให้
ร่างกายไม่สามารถดึงน ้าตาลกลูโคสไปใช้ใด้ ท้าให้ระดับน ้าตาลในเลือดสูง
โรคเบาหวาน มีอาการอย่างไร ?
เหนื่อย อ่อนเพลีย
ผิวแห้ง เกิดอาการคันบริเวณผิว
ตาแห้ง
มีอาการชาที่เท้า หรือรู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่ปลายเท้า หรือที่เท้า
ร่างกายซูบผอมลงผิดปกติ โดยไม่สามารถหาสาเหตุได้
เมื่อเกิดบาดแผลที่บริเวณต่างๆ ของร่างกายมักหายช้ากว่าปกติ โดยเฉพาะแผลที่เกิดกับบริเวณเท้า
สายตาพร่ามัวในแบบที่หาสาเหตุไม่ได้
อาการหรือโรคที่สัมพันธ์
กับโรคเบาหวาน
โรคติดเชื้อบางชนิด เช่น
การติดเชื้อราที่ช่องคลอด
การติดเชื้อที่ผิวหนัง
ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน
ถึงแม้ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์เจริญก้าวหน้าขึ้น แต่ก็ยังไม่มียาใดสามารถรักษาโรคเบาหวานให้หายขาดได้
จุดประสงค์ของการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานที่สำคัญคือ การดูแลและรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตใกล้เคียงคนปกติ ลดอัตราเสี่ยงของโรคแทรกซ้อน ที่เกิดกับผู้ป่วยให้ได้น้อยที่สุด
กลไกการเกิดโรคแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวาน
1.Neoenzymatic slycation ของโปรตีน เมื่อระดับน้ าตาลในเลือดสูง กลูโคสจะจับกับโปรตีนโดยไม่ต้องอาศัย
เอนไซม์ เช่น จับกับ hemoglobin เป็น HbA1c, จับกับ albumin เป็น fructosamineเมื่อเกิดปฏิกิริยาตังกล่าว
2.Polyal pathway เมื่อระดับน้ าตาลในเลือดสูง กลูโคสเข้าไปในเซลล์ เช่น Schwann's cell หรือเลนส์ โดยไม่
ต้องอาศัยอินชูสิน กลูโคสจะถูกเปลี่ยนเป็น sorbitol โดยเอนไซม์ aldose reductase
ฮอร์โมนจากไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์
เป็นกลุ่มเซลล์เล็ก ๆ จำนวนมากที่อยู่กระจัดกระจายระหว่างต่อมสร้างน้ำย่อยในตับอ่อน ไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์ 2 ชนิด
ลุ่มเซลล์ส่วนใหญ่ร้อยละ 70 คือ เบตาเซลล์ ซึ่งทำหน้าที่ผลิตและหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน (insulin) ส่วนกลุ่มเซลล์อีกกลุ่มคือ แอลฟาเซลล์ ซึ่งทำหน้าที่ผลิต และหลั่งฮอร์โมนกลูคากอน (glucagon)
1) ฮอร์โมนอินซูลิน ( Insulin )
สร้างจากเบต้าเซลล์ ( beta cell ) ซึ่งเป็นเซลล์ที่อยู่รอบนอกของกลุ่มเซลล์ไอส์เลต
ออฟแลงเกอร์ฮานส์
อวัยวะเป้าหมาย ตับ,กล้ามเนื้อ
หน้าที่ลดระดับน้ าตาลในเลือด (ระดับน้ าตาลในเลือดปกติ 80 - 100 มิลลิกรัม /
100 ลบ.ซม. )
2) ฮอร์โมนกลูคากอน ( Glucagon )
สร้างจาก แอลฟาเซลล์( alpha cell ) ซึ่งเป็นเซลล์ที่อยู่ส่วนในและเป็นเซลล์ส่วน
ใหญ่ของกลุ่มเซลล์ไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์(
อวัยวะเป้าหมาย ตับ,กล้ามเนื้อ
หน้าที่ เพิ่มระดับน้ าตาลในเลือด กระตุ้นให้เซลล์้ตับและเซลล์กล้ามเนื้อเปลี่ยนไกล
โคเจนให้เป็นกลูโคสปล่อยเข้าสู่กระแสเลือด
ปาริชาติ ไตรยสุทธิ์ UDA6380066