กรณีศึกษาที่ 1 สตรีตั้งครรภ์ G2P0A1
อายุ 28 ปี อาชีพรับราชการครู

การพยาบาล

สตรีตั้งครรภ์รายนี้มีภาวะตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ

การฝากครรภ์ครั้งแรก(วันท่ี1มี.ค.2564)ควรซักประวัติและตรวจร่างกายหญิงต้ังครรภ์ในประเด็น
ใดเพิ่มเติม และตรวจทางห้องปฏิบัติการ พร้อมระบุเหตุผล

อายุครรภ์ 28 wks มีค่า Hct 29 % (Hb 9.6 mg/dl) : Moderate anemia
ขณะ นอนอัลตราซาวด์ที่แผนกฝากครรภ์ (ANC) มีอาการเหงื่อออก ตัวเย็น หน้ามืด ตาลาย มีความวิตกกังวล,
ระดับยอดมดลูก 1/4 เหนือสะดือ ( อายุครรภ์ไม่สัมพันธ์กับระดับยอดมดลูก)

อาการข้างต้นมีสาเหตุมาจาก

อายุครรภ์ 34 wks คลำท่าที่ 4 (Fourth leopold maneuver
หรือ Bilateral inguinal grip ) พบปลายนิ้วของผู้ตรวจสอบชนกัน
Hct 24% (Hb 8 mg/dl) : Moderate anemia

อายุครรภ์ 20 wks ฝากครรภ์ครั้งแรก OF positive,
VDRL reactive (บ่งชี้ถึงการติดเชื้อซิฟิลิส) ฟันผุ 2 ซี่
เต้านมหัวนม ยาว 0.3 เซนติเมตร ( ปกติ 0.7 เซนติเมตร )

  1. มาฝากครรภ์ครั้งแรกช้า อาจส่งผลกระทบต่อสภาวะสุขภาพของมารดา อันได้แก่ โรคโลหิตจาง ภาวะทุพโภชนาการ โรคความดันโลหิตสูงในระยะตั้งครรภ์ มาฝากครรภ์ครั้งแรกวันที่ 1 มีนาคม 2564 ( 21 สัปดาห์ 5 วัน / 5 เดือน )
  1. มารดาติดเชื้อซิฟิลิส (VDRL reactive)
  1. เคยมีประวัติการแท้งบุตร ( เคยแท้งบุตร 1 ครั้ง)
  1. Hct อยู่ในระดับกว่าปกติ
    Hct : 24% (Hb 8 mg/dl) : Moderate anemia

อาการเหนื่อยง่าย

เส้นเลือดขอดที่ขา

อาการปัสสาวะบ่อย

ท้องผูก

อาการบวม

  1. แนะนำให้พักผ่อนมากขึ้นและออกกำลังกายพอสมควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  1. แนะนำให้พักในช่วงกลางวัน ลดความเครียดเรื่องงานต่าง ๆ

7.ถ้ามีอาการปัสสาวะบ่อยร่วมกับอาการแสบขัดควรมาปรึกษาแพทย์

  1. แนะนำการทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์จากด้านหน้าไปยังทวารหนักเพื่อป้องกันการนำเชื้อโรค จากทวารหนักมากให้เกิดการติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะ
  1. ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 2,000 ซี.ซี. หรือ ประมาณ 8 แก้วต่อวัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ในระบบทางเดินปัสสาวะที่เป็นสาเหตุให้ปัสสาวะบ่อย
  1. ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและทำให้มีอาการ ปัสสาวะบ่อยมากขึ้น
  1. ฝึกบริหารกล้ามเนื้อหูรูดกระเพาะปัสสาวะโดยการขมิบก้น (Kegel exercises) วันละ 50-100 ครั้ง หรือแนะนำให้ทำได้ตลอดเวลาที่สามารถทำได้ เพื่อให้กล้ามเนื้อควบคุมการปัสสาวะได้ดี
  1. งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น

1.หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มหรือนมก่อนนอนหรือดื่มให้ห่างจากเวลานอนให้มากเพื่อลดการปัสสาวะ บ่อยในช่วงกลางคืน ถ้าต้องลุกมาถ่ายปัสสาวะตอนกลางคืนต้องระวังอย่าให้มีของวางเกะกะกีดขวาง ทางเดิน เพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

  1. ลดอาหารเค็ม เพิ่มอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย กีวี่ มะละกอ เป็นต้น
  1. งดเครื่องดื่มคาเฟอีน ดื่มน้ำเพิ่มขึ้นให้ได้อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
  1. ถ้าพบว่าการบวมนั้นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาควรให้คำแนะนำคือ
  • ให้บริหารปลายเท้าโดยขยับข้อเท้าขึ้นลงอย่างละ 10 ครั้งทุก 2 ชั่วโมง หมุนข้อเท้าเพื่อเพิ่มการ ไหลเวียนของเลือดไปที่เท้า
  • ใช้ Bandage support บริเวณขา
  • นั่ง เหยียดขายกปลายเท้าสูงเล็กน้อยวันละหลายๆ ครั้งๆละ 10 นาที
  • นอนยกปลายเท้าสูงเล็กน้อย นวดฝ่าเท้าและหลังเท้า
  • เลี่ยงการยืนนานๆ
  1. ประเมินภาวะบวมและแยกอาการบวมจากโรคแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจครรภ์เป็นพิษ

2.ถ้าเป็นที่อวัยวะเพศให้นอนราบยกสะโพกสูงวันละหลายๆครั้ง

  1. ไม่ยืน/นั่งนานๆ ควรเปลี่ยนอิริยาบทบ่อยๆ เพื่อช่วยเลือดไหลเวียนดีขึ้น และควรยกปลายเท้าสูง กว่าสะโพกประมาณ 45 องศาวันละ 4-5 ครั้งๆ ละ 5-10 นาที (ถ้ายกขาสูงเกินไปจะขัดขวางการไหลเวียนได้)
  1. เลี่ยงการนั่งไขว่ห้าง (Crossing the legs)
  1. สวมถุงน่อง หรือพันผ้ายืดจากปลายเท้าถึงเข่า
  1. รับประทานอาหารที่มีกากใยมาก ๆ เช่น ผักสด ผลไม้
  1. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ทาให้เกิดก็าซ เช่น กะหล่ำปลี อาหารทอด ถั่ว เป็นต้น
  1. รับประทานอาหารครั้งละน้อย แต่ให้บ่อยครั้ง เพราะการรับประทานอาหารมากไปจะทำให้ อาหารหมักหมมอยู่ในกระเพาะอาหารนาน
  1. ฝึกการถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลาและสม่ำเสมอ

การตรวจร่างกาย

การตรวจทางห้องปฎิบัติการ

การซักประวัติ

-ข้อมูลพื้นฐาน : อายุ เชื้อชาติ ศาสนา อาชีพ การศึกษา สิทธิ์การรักษาพยาบาล

-ประวัติประจำเดือนและการคุมกำเนิด : วันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย (LMP) ความสม่ำเสมอและลักษณะประจำเดือนก่อนหน้านั้น การคุมกำเนิดก่อนการตั้งครรภ์

-ประวัติทางสูติกรรม เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ครั้งก่อน

-ประวัติโรคประจำตัว

-ประวัติการผ่าตัด โดยเฉพาะการผ่าตัดบริเวณหน้าท้องและอุ้งเชิงกราน

-ประวัติครอบครัว : ประวัติความผิดปกติทางพันธุกรรม ความพิการแต่กำเนิด ครรภ์แฝด โรคเลือด โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง

-ประวัติส่วนตัว : การดื่มสุรา การสูบบุหรี่ การใช้สารเสพติด

-ประวัติวัคซีน : ประวัติการฉีดวัคซีนบาดทะยัก หัดเยอรมัน อีสุกอีใส ไวรัสตับอักเสบบี

-ประวัติการแพ้ยาและสารอาหาร

-การตรวจร่างกายทั่วไป : น้ำหนัก ส่วนสูง BMI ความดันโลหิต ต่อมไทรอยด์ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบหายใจ เต้านม/หัวนม

-การตรวจช่องปาก

-การตรวจครรภ์ :

-ตรวจหมู่เลือดชนิด ABO และ Rh

-การตรวจทางโลหิตวิทยา เพื่อดูค่า hemoglobin และ hematocrit

-การตรวจคัดกรองภาวะการติดเชื้อซิฟิลิส (syphilis) : VDRL

-การตรวจคัดกรองการติดเชื้อไวรัส HIV

-การตรวจคัดกรองการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี : HBsAg

-การตรวจหาโปรตีนและน้ำตาลในปัสสาวะ

-การตรวจคัดกรองโรคธาลัสซีเมีย : MCV, DCIP, Hb typing

อายุครรภ์เมื่อคลอดบุตร

• วิธีการคลอดบุตร รวมถึงข้อบ่งชี้ในกรณีใช้หัตถการช่วยคลอด หรือ ผ่าคลอดทางหน้าท้อง

อายุครรภ์เมื่อคลอดบุตร

การฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ ในกรณีอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ขึ้นไป

Leopold maneuver 4 ท่า

การตรวจภายใน

มาฝากครรภ์ครั้งแรกวันที่ 1 มีนาคม 2564 ( 21 สัปดาห์ 5 วัน / 5 เดือน )

click to edit

ที่มา : สุมลทิพย์ สนธิเมือง. (2564). การปรับตัวของสตรีตั้งครรภ์และการพยาบาลในระยะตั้งครรภ์. สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลักษณ์.

  1. ปิดบังข้อมูล หลีกเลี่ยงปัญหา

ประวัติการแท้งบุตร

ซักประวัติการขูดมดลูก

กรมอนามัย. สมุดบันทึกสุขภาพ แม่และเด็ก กลุ่มอนามัยแม่และเด็ก สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.

click to edit

click to edit

click to edit