Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคหัด (Measles), นางสาวณัฏฐ์พัชร์ หนูจัน เลขที่ 23 - Coggle Diagram
โรคหัด (Measles)
อาการแทรกซ้อนของโรคหัด
-
สมองอักเสบ เป็นอาการแทรกซ้อนที่รุนแรง มักพบภาวะสมองอักเสบหลังผื่นขึ้นประมาณ 2 ถึง 6 วัน ทำให้เสียชีวิตหรือพิการได้
-
-
-
อาการของโรคหัด
- ระยะก่อนออกผื่น ยังไม่แสดงอาการของโรคอย่างเด่นชัด (Nonspecific signs and symptoms): โรคหัดมักเริ่มด้วยอาการที่คล้ายไข้หวัด เด็กจะมีไข้ มักตามมาด้วยการไอแห้งๆ น้ำมูกไหล ตาแดง ไม่สู้แสงและเจ็บคอ มักพบจุดสีเทาขาว มีขอบสีแดงอยู่ภายในกระพุ้งแก้มบริเวณใกล้กับฟันกรามล่าง เรียกว่า ตุ่มค็อปลิค (Koplik’s spots ) ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคหัด ระยะเวลาก่อนออกผื่นนี้จะใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 3 วัน
- ระยะเวลาออกผื่น (Acute illness and rash): ผื่นจะมีสีแดง ขนาดเล็กและแบนราบ อาจเกิดขึ้นติดกันหลายจุดจนกลายเป็นปื้นขนาดใหญ่ที่ไม่มีรูปทรงแน่นอน มักไม่มีอาการคัน โดยผื่นจะเริ่มขึ้นที่บริเวณหลังหู บริเวณชิดขอบผม และกระจายลงมาตามลำคอ แขน ลำตัว ขาและเท้าตามลำดับ ผื่นใช้เวลาลามจากใบหน้าถึงเท้าประมาณ 2 ถึง 3 วัน ในเวลาเดียวกันไข้จะขึ้นสูงถึง 40 – 41 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นผื่นจะค่อยๆจางลงโดยเรียงตามลำดับจากหน้าไปสู่ขาและเท้า ผื่นจะเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีน้ำตาลแดงและค่อยๆลอกออกเป็นแผ่นบางๆจนหายไปในเวลา 7 ถึง 10 วัน
- ระยะติดเชื้อและฟักตัวของโรค (Infection and incubation): เชื้อไวรัสหัดใช้เวลาฟักตัว 10 ถึง 14 วันหลังจากติดเชื้อ ในระยะนี้เด็กจะยังไม่แสดงอาการของโรคออกมา
- ระยะติดต่อ (Communicable period): ผู้ป่วยโรคหัดสามารถแพร่กระจายไวรัสหัดไปสู่คนอื่นเป็นเวลา 8 วัน ตั้งแต่ 4 วันก่อนมีผื่นขึ้นและ 4 วันหลังจากมีผื่นขึ้น
การป้องกันโรคหัด
ในช่วงที่มีการระบาดของโรคหัด ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดหรือสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาดบ่อยครั้ง
ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด
แนะนำให้เด็กฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด ซึ่งเป็นวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด โรคคางทูมและโรคหัดเยอรมัน (MMR) โดยแนะนำให้ฉีดเข็มแรกเมื่อเด็กมีอายุ 9 เดือนและเข็มที่สองเมื่อเด็กมีอายุ 2 ½ ขวบ
แยกผู้ป่วยออกจากสมาชิกคนอื่นในครอบครัวจนกว่าจะพ้นระยะติดต่อของโรค หากต้องดูแลผู้ป่วยให้สวมหน้ากากอนามัยและล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
-
การวินิจฉัยโรคหัด
การตรวจนับเม็ดเลือดขาว ในวันแรกของโรคอาจมีจeนวนเม็ด
เลือดเพิ่มข้ึนเล็กนhอย เมื่อมีผื่นขึ้นจำนวนเม็ดเลือดขาวมักปกติและมีlymphocyte สูงข้ึน
การถ่ายภาพรังสีทรวงอก มักพบต่อมน้ำเหลืองที่ขั้วปอดโต มีperihilar และ peribronchial infiltrationในรายที่มีปอดบวมแทรกซ้อน
- จากอาการทางคลินิก และประวัติการสัมผัสโรค
สาเหตุของโรคหัด
การติดโรคนั้นเกิดจากการรับเชื้อไวรัสผ่านทางอากาศ จากการสัมผัสละอองน้ำลาย น้ำลาย และน้ำมูกของผู้ป่วย ซึ่งช่วง 4 วันทั้งก่อนและหลังเกิดผื่นนั้นถือเป็นระยะเวลาของการแพร่เชื้อ
พยาธิสภาพ
เชื้อเข้าสู่ร่างกายทางจมูกหรือปากเเละเเพร่ไปตามต่อมน้ำเหลือง เข้าสู่กระเเสเลือดเเละไปแบ่งตัวเพิ่มจำนวนในอวัยวะต่างๆ เช่น ตับ ม้าม ไขกระดูก เเล้วกลับออกมาในกระเเสเลือดอีกครั้ง ทำให้มีอาการทั่วร่างกาย
โรคหัด เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า Rubeola Virus เป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่าย โดยการหายใจเอาเชื้อที่อยู่อากาศจากการไอจามของผู้ป่วยหรือจากการสัมผัสน้ำมูกและน้ำลายของผู้ป่วยโดยตรง เชื้อไวรัสหัดสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงสองชั่วโมงในอากาศหรือบนพื้นผิวสิ่งของที่มือของผู้ป่วยที่มีเชื้อติดอยู่สัมผัส
-