Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ราชวงศ์ฮั่น - Coggle Diagram
ราชวงศ์ฮั่น
-
การสถาปนาจักรวรรดิ
-
1.ผู้สถาปนาราชวงศ์ คือ หลิวปัง ผู้นำกบฏชาวนากลุ่มหนึ่ง (เดิมทีเป็นขุนนางชั้นผู้น้อย)หลังจากสถาปนาราชวงศ์แล้วทรงพระนามว่า จักรพรรดิฮั่นเกาจู่
-
5.หลังการสถาปนาได้ประกาศยกเลิกกฎหมายที่ทารุณโหดร้ายบางส่วนของราชวงศ์ฉิน อีกทั้งดำเนินนโยบายที่เป็นมิตรต่อประชาชน เช่น ลดการเก็บภาษีอากรและการเกณฑ์แรงงาน ปลดปล่อยกำลังทหารและประชาชนสู่บ้านเกิดของตน จัดสรรที่ดินทำกินให้กับบรรดาทหารที่ร่วมรบชนะศึกสงคราม
-
พัฒนาการทางการเมือง
-
1.สังคมอั่นยังคงยึดหลักการปกครองโดยตระกูลนักรบ ส่งเสริมคติของขงจื๊อ ที่ยึดหลักองค์จักรพรรดิต้องเป็นประมุขทั้งทางโลกและทางธรรม ในฐานะโอรสแห่งสวรรค์
-
-
-
การค้าขาย
-
-
-
-
5.พ่อค้าบางประเภทไม่ได้จดทะเบียนกับรัฐบาลส่วนมากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง โดยส่วนใหญ่จะเก็งกำไรจากสินค้าออกประเภทผ้าไหมและทองคำ ส่งออกผ่านเส้นทางสายไหม
การจัดสรรที่ดินและแรงงาน
-
-
-
4.ค.ศ.9 จักรพรรดิหวังหมางได้พยายามลดอำนาจของชนชั้นสูงโดยออกพระราชกฤษฎีกาโอนที่ดินเป็นของรัฐและโปรดให้ประทานที่ดินแก่ชาวนา แต่ไม่ได้ผลเท่าที่ควร
ระบบความเชื่อ
-
2.มีการตั้งพระราชพิธีบูชาสวรรค์ที่เขาไทชาน (T’aishan) ในมณฑลชานตุง และบูชาพิภพ (Earth) ที่เชิงเขาไทชัน
-
4.ผู้ที่นับถือลัทธิเต๋าหันมาแสวงหาชีวิตที่เป็นอมตะ เล่นแร่แปรธาตุ งดเว้นอาหารบางประเภท การฝึกสมาธิกำหนดลมหายใจ
สังคมฮั่น
-
1.ประชาชนที่มีมากมหาศาลคือพลังอันตรายสำหรับรัฐทสามารถก่อการดีหรือร้ายได้ ยากต่อการควบคุม ทำให้เกิดการก่อกบฏหลายครั้งโดบเฉพาะกบฏชาวนา เช่น กบฏชาวนาคิ้วแดง กบฏค่าต๋งแก่เจ้าพิธี เป็นต้น
3.การแบ่งชนชั้น
- สังคมชนชั้นสูง ประกอบด้วย เจ้านายและข้าราชการ ส่วนใหญ่ผูกขาดตำแหน่งราชการโดยครอบครัวรวมถึงทรัพยากรที่ดินและแรงงาน มีการศึกษาและถกอบรมดี มีฐานนะมั่นคง มั่งคั่ง ไม่ต้องถูกเรียกเกณฑ์
2.สังคมชั้นล่าง คือสามัญชนที่ไร้อภิสิทธิ์ ต้องปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีอย่างเคร่งครัด ดีที่สุดคือพวกพ่อค้าที่มีความมั่งคั่งแต่ไร้เกียรติ ราษฏรทั่วไปถูกดูหมิ่นห้ามใช่ชีวิตแบบชนชั้นสูง เช่น ห้ามใช้ผ้าไหม ห้ามขี่ม้า ทำอาชีพส่วนใหญ่ด้านการเพาะปลูกเป็นหลัก
การเสื่อมอำนาจ
ราชวงค์จีนได้ครองแผ่นดินจีนยาวนาน 400 ปี การเมืองมีความมั่นคงชั่วขณะ ส่วนใหญ่การเมืองไม่มั่นคง เต็มไปด้วยเหล่กลอุบาย การฉ้อราษฎร์บังหลวง อำนาจอิทธิพลฉ้อฉล การต่อสู้เกิดขึ้นบ่อย วิกฤตการณ์มักเกิดขึ้นด้วยเหตุปัญหาการสืบราชสมบัติ ระบบการบริหารแตกแยกเป็นแบ่งฝ่ายต่อสู่แย่งชิงอำนาจ พื้นที่บัญชาการทหารหรือมณฑลจึงฉวยโอกาสส้องสุมกำลังคนและแข็งเมืองขึ้น ตั้งแต่ ค.ศ. 187 2 ปีต่อมา เกิดกบฏโพกผ้าเหลือง ตระกูลชนชั้นสูงผู้มีอิทธิพลต่างตั้งตนป็นใหญ่ แผ่นดินลุกเป็นไฟ ราชวงศ์ไม่สามารถดำรงอำนาจไว้ซึ่งส่วนกลางได้ จักวรรดิจีนถูกแบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย คือ
-