Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พระราชบัญญัติสภาครูและ บุคลากรทางการศึกษา พ . ศ . ๒๕๔๖ - Coggle Diagram
พระราชบัญญัติสภาครูและ
บุคลากรทางการศึกษา พ . ศ . ๒๕๔๖
มาตรา ๔
ในพระราชบัญญัตินี้
“ผู้บริหารการศึกษา” หมายความว่า บุคคลซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้บริหารนอก
สถานศึกษาในระดับเขตพื้นที่การศึกษา
“ผู้บริหารสถานศึกษา” หมายความว่า บุคคลซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา
ภายในเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาอื่นที่จัดการศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และ
อุดมศึกษาต่ำกว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน
“ครู” หมายความว่า บุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพหลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้
ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่า ปริญญา ทั้งของรัฐและเอกชน
“ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา” หมายความว่า ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหาร การศึกษา
และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ซึ่งได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามพระราชบัญญัตินี้
“วิชาชีพ” หมายความว่า วิชาชีพทางการศึกษาที่ทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอน
และการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ รวมทั้งการรับผิดชอบการบริหารสถานศึกษาใน สถานศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน
“กระทรวง” หมายความว่า กระทรวงศึกษาธิการ
“บุคลากรทางการศึกษาอื่น” หมายความว่า บุคคลซึ่งทำหน้าที่สนับสนุนการศึกษา
ให้บริการหรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ
และการบริหารการศึกษา
“หน่วยงานการศึกษา” หมายความว่า สถานศึกษาหรือหน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่กำกับดูแล
สนับสนุน ส่งเสริมให้บริการการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานและอุดมศึกษาต่ำกว่าปริญญาทั้ง
ของรัฐและเอกชน
“สถานศึกษา” หมายความว่า สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียน วิทยาลัย สถาบัน มหาวิทยาลัย หน่วยงานการศึกษาหรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือของเอกชนที่มีอำนาจหน้าที่หรือมีวัตถุประสงค์ ในการจัดการศึกษา
“ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพซึ่งออกให้ผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่ง
ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่นตาม
พระราชบัญญัตินี้
“เจ้าหน้าที่” หมายความว่า บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งตามพระราชบัญญัตินี้ “รัฐมนตรี”
หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๖
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศ เพื่อปฏิบัติการตาม
พระราชบัญญัตินี้รวมทั้งให้มีอำนาจตีความ และวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาอันเกี่ยวกับ
การปฏิบัติการ
มาตรา ๑
พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติสภาครูและ
บุคลากรทางการศึกษา พ . ศ . ๒๕๔๖”
มาตรา ๓
ให้ยกเลิก
(๓) พระราชบัญญัติครู (ฉบับที่ ๓) พ .ศ . ๒๕๐๙
(๔) พระราชบัญญัติครู (ฉบับที่ ๔) พ .ศ . ๒๕๑๙
(๒) พระราชบัญญัติครู (ฉบับที่ ๒) พ . ศ . ๒๔๙๕
(๕) พระราชบัญญัติครู (ฉบับที่ ๕) พ . ศ . ๒๕๒๑
(๑) พระราชบัญญัติครู พุทธศักราช ๒๔๘๘
(๖) พระราชบัญญัติครู (ฉบับที่ ๖) พ . ศ . ๒๕๒๓
มาตรา ๕
การประกอบวิชาชีพต้องอยู่ภายใต้บังคับหลักเกณฑ์
การมีใบอนุญาตตาม พระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๒
พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษา เป็น ต้นไป
หมวด ๑ สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
ส่วนที่ ๓ คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
มาตรา ๒๑
ให้มีคณะกรรมการมาตรฐาน
วิชาชีพ ประกอบด้วย , ประธานกรรมการ , กรรมการโดยตำแหน่ง ,
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสี่คน , กรรมการจากคณาจารย์ในคณะ
ครุศาสตร์ , กรรมการจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาจำนวนหกคน
มาตรา ๒๒
การสรรหา การเลือก และการเลือกตั้ง
กรรมการมาตรฐานวิชาชีพตามมาตรา ๒๑ (๓) (๔) และ (๕)
ให้เป็นไปตามที่กำหนดในข้อบังคับของคุรุสภา
มาตรา ๒๓
กรรมการมาตรฐานวิชาชีพตามมาตรา ๒๑ (๓) (๔) และ
(๕) ต้องมีคุณสมบัติและ ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ มาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๕ แล้วแต่กรณี
มาตรา ๒๔
กรรมการมาตรฐานวิชาชีพตามมาตรา ๒๑ (๑) (๓) (๔) และ (๕)
ให้อยู่ใน ตำแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับการแต่งตั้งอีก แต่จะดำรงตำแหน่งเกิน
สองวาระติดต่อกันไม่ได้ เมื่อครบกำหนดวาระตามวรรคหนึ่ง ให้กรรมการซึ่งพ้นจาก
ตำแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตำแหน่งจนกว่ากรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่
(๓) รัฐมนตรีให้ออก เพราะบกพร่องต่อหน้าที่
มีความประพฤติเสื่อมเสีย
(๔) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ มาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๕ แล้วแต่กรณี
(๒) ลาออก
(๕) คณะกรรมการคุรุสภามีมติให้ออกด้วยคะแนนเสียงสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมด
(๑) ตาย
มาตรา ๒๕
คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
พิจารณาการออกใบอนุญาต , กำกับดูแลการปฏิบัติตามมาตรฐาน , ส่งเสริม ยกย่อง
และพัฒนาวิชาชีพ , แต่งตั้งที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการ , ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมาย
กำหนดไว้ , พิจารณาหรือดำเนินการในเรื่องอื่นตามที่รัฐมนตรีหรือคณะกรรมการ
คุรุสภามอบหมาย
ส่วนที่ ๕ การประกอบวิชาชีพควบคุม
มาตรา ๔๔
ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพควบคุม ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
มาตรา ๔๕
การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การกำหนดอายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การขอรับใบแทนใบอนุญาต
และการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขที่กำหนดในข้อบังคับของคุรุสภา
มาตรา ๔๖
ห้ามมิให้ผู้ใดแสดงด้วยวิธีใด ๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนมีสิทธิหรือพร้อมจะประกอบวิชาชีพ
โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากคุรุสภา และห้ามมิให้สถานศึกษารับผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตเข้าประกอบวิชาชีพควบคุมในสถานศึกษา
เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากคุรุสภา
มาตรา ๔๗
ผู้ซึ่งได้รับใบอนุญาตต้องประกอบวิชาชีพภายใต้บังคับแห่งข้อจำกัดและเงื่อนไข ตามข้อบังคับของคุรุสภา
มาตรา ๔๘
ผู้ซึ่งได้รับใบอนุญาตต้องประพฤติตนตามมาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพตามที่กำหนด
ในข้อบังคับของคุรุสภา
มาตรา ๔๙
ให้มีข้อบังคับว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ ประกอบด้วย , มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ,
มาตรฐานการปฏิบัติงาน , มาตรฐานการปฏิบัติตน
มาตรา ๔๓
ให้วิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้บริหารการศึกษาเป็นวิชาชีพควบคุมตามพระราชบัญญัตินี้
การกำหนดวิชาชีพควบคุมอื่นให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพควบคุม
โดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่กรณีอย่างใดอย่างหนึ่ง
มาตรา ๕๐
มาตรฐานการปฏิบัติตน ให้กำหนดเป็นข้อบังคับว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ ประกอบด้วย (๑) จรรยาบรรณต่อตนเอง (๒) จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ
(๓) จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ (๔) จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ (๕) จรรยาบรรณต่อสังคม
มาตรา ๕๑
บุคคลซึ่งได้รับความเสียหายจากการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพของผู้ได้รับใบอนุญาตมีสิทธิกล่าวหาผู้ได้รับ
ใบอนุญาตผู้นั้นโดยทำเรื่องยื่นต่อคุรุสภา กรรมการคุรุสภา กรรมการมาตรฐานวิชาชีพ หรือบุคคลอื่นมีสิทธิกล่าวโทษผู้ประกอบวิชาชีพ
ว่าผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ โดยแจ้งเรื่องต่อคุรุสภา
มาตรา ๕๒
เมื่อคุรุสภาได้รับเรื่องการกล่าวหาหรือการกล่าวโทษตามมาตรา ๕๑ ให้ เลขาธิการคุรุสภาเสนอเรื่องดังกล่าวต่อ
คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพโดยไม่ชักช้า
มาตรา ๕๓
ให้ประธานกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษ พร้อมทั้งส่งสำเนาเรื่องที่กล่าวหาหรือกล่าวโทษให้ผู้ได้รับใบอนุญาต
ซึ่งถูกกล่าวหาหรือกล่าวโทษล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสิบห้าวันก่อนเริ่มพิจารณา
มาตรา ๕๕
ผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพวินิจฉัยชี้ขาดตามมาตรา ๕๔ (๒) (๓) (๔) หรือ (๕)
อาจอุทธรณ์คำวินิจฉัยต่อคณะกรมการคุรุสภาภายในสามสิบวันนับแต่วันได้รับแจ้งคำวินิจฉัย
มาตรา ๕๔
คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง
(๑) ยกข้อกล่าวหา
(๒) ตักเตือน
(๓) ภาคทัณฑ์
(๔) พักใช้ใบอนุญาตมีกำหนดเวลาตามที่เห็นสมควร แต่ไม่เกินห้าปี
(๕) เพิกถอนใบอนุญาต
มาตรา ๕๖
ห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งอยู่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต ผู้ใดประกอบ วิชาชีพควบคุมหรือ
แสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนมีสิทธิหรือพร้อมจะประกอบวิชาชีพควบคุมนับแต่วันที่ ทราบคำสั่งพักใช้ใบ
อนุญาตนั้น
มาตรา ๕๗
ผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งถูกสั่งเพิกถอนจะยื่นขออีกไม่ได้ จนกว่าจะพ้นห้าปีนับแต่วันที่ถูกสั่งเพิกถอน
ส่วนที่ ๑ บททั่วไป
มาตรา ๘
คุรุสภามีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
๑. กำหนดมาตรฐานวิชาชีพ ออกและเพิกถอนใบอนุญาต
๒. กำหนดนโยบายและแผนพัฒนาวิชาชีพ
๓. ประสาน ส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ
มาตรา ๙
คุรุสภามีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(๑) กำหนดมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
(๒) ควบคุมความประพฤติและการดำเนินงานของ
ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
(๓) ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอประกอบวิชาชีพ
(๔) พักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
(๕) สนับสนุนส่งเสริมและพัฒนาวิชาชีพตาม
มาตรฐานวิชาชีพและจรรจาบรรณของวิชาชีพ
(๖) ส่งเสริม สนับสนุน ยกย่องและผดุงเกียรติ
ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
(๗) รับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตร
ของสถาบันต่างๆ ตามมาตรฐานวิชาชีพ
(๘) รับรองความรู้และประสบการณ์ทางวิชาชีพ
รวมทั้งความชำนาญในการประกอบวิชาชีพ
(๙) ส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ
(๑๐) เป็นตัวแทนผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาของประเทศไทย
(๑๑) ออกข้อบังคับของคุรุสภาว่าด้วย
(ก) การกำหนดลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓
(ง) คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ขอรับใบอนุญาต
(จ) จรรยาบรรณของวิชาชีพ และการประพฤติผิด
จรรยาบรรณอันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสีย
(ฉ) มาตรฐานวิชาชีพ
(ช) วิธีการสรรหา การเลือก การเลือกตั้ง และการแต่งตั้ง
คณะกรรมการคุรุสภา และ คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
(ญ) การใดๆ ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้
(ข) การออกใบอนุญาต อายุใบอนุญาต การพักใช้ใบอนุญาต
การเพิกถอนใบอนุญาต และ การรับรองความรู้
ประสบการณ์ทางวิชาชีพ ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพ
(ค) หลักเกณฑ์และวิธีการในการขอรับใบอนุญาต
(ซ) องค์ประกอบ หลักเกณฑ์ วิธีการคัดเลือกคณะกรรมการสรรหา
(ฌ) หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาเลขาธิการคุรุสภา
(๑๒) ให้คำปรึกษาหรือเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี
เกี่ยวกับนโยบายหรือปัญหาการพัฒนาวิชาชีพ
(๑๓) ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นต่อรัฐมนตรี
(๑๔) กำหนดให้มีคณะกรรมการเพื่อกระทำการใด ๆ
อันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคุรุสภา
(๑๕) ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
ของคุรุสภา ข้อบังคับของคุรุสภา
(๑๖) ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีและ
เมื่อได้ประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา ๑๐
คุรุสภาอาจมีรายได้ ดังนี้
(๓) ผลประโยชน์จากการจัดการทรัพย์สิน
และการดำเนินกิจการของคุรุสภา
(๔) เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้อุทิศให้แก่คุรุสภา
(๒) เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน
(๕) ดอกผลของเงินและทรัพย์สินตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔)
(๑) ค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๑๑
ค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เป็นไปตามประกาศ
ของรัฐมนตรี ทั้งนี้ ต้องไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๗
ให้มีสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา เรียกว่า “คุรุสภา”
มีวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ มีฐานะเป็นนิติบุคคล
ส่วนที่ ๒ คณะกรรมการคุรุสภา
มาตรา ๑๒
คณะกรรมการคุรุสภา ประกอบด้วย
(๓) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนเจ็ดคน
(๔) กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งจากผู้ดำรง
ตำแหน่งคณบดีคณะครุศาสตร์
(๒) กรรมการโดยตำแหน่ง
(๕) กรรมการจากผู้ประกอบ
วิชาชีพทางการศึกษา
(๑) ประธานกรรมการ
มาตรา ๑๓
ประธานกรรมการ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้าม
ดังต่อไปนี้
(ก) คุณสมบัติทั่วไป
(๒) มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีบริบูรณ์
(๓) มีความซื่อสัตย์และยุติธรรมเป็นที่ประจักษ์
(๑) มีสัญชาติไทย
(ข) ลักษณะต้องห้าม
(๓) เคยมีประวัติเสื่อมเสียทางจริยธรรม จรรยาบรรณ
และการประกอบวิชาชีพ
(๕) เป็นเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างหรือที่ปรึกษา
ซึ่งมีสัญญาจ้างกับสำนักงานคุรุสภา
(๔) เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
(๖) เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุด
ให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้
(๒) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(๗) เป็นผู้มีส่วนได้เสียในกิจการที่กระทำ
กับกิจการคุรุสภา
(๑) เป็นบุคคลล้มละลายซึ่งศาลยังไม่สั่งให้พ้นจากคดี
(๘) มีลักษณะต้องห้ามอื่นตามที่กำหนด
ในข้อบังคับของคุรุสภา
มาตรา ๑๔
กรรมการที่มาจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ที่ดำรงตำแหน่งครู ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะดังต่อไปนี้
(๑) เป็นผู้มีใบอนุญาตและไม่เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้
(๒) เป็นผู้มีประสบการณ์ด้านปฏิบัติการสอนมาแล้วรวมกันไม่น้อยกว่าสิบปี
มาตรา ๑๕
นอกจากที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๓
กรรมการที่มาจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ดำรงตำแหน่ง
ผู้บริหารสถานศึกษา หรือผู้บริหารการศึกษา ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะตามมาตรา ๑๔
มาตรา ๑๖
กรรมการตามมาตรา ๑๒ (๑) (๓) (๔) และ (๕) ให้อยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับการแต่งตั้งอีก แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันไม่ได้
มาตรา ๑๘
ก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการตามมาตรา ๑๒ (๑) (๓) (๔) และ (๕) ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน
ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาคณะหนึ่งจำนวนสิบเอ็ดคนจากคณะกรรมการคุรุสภาตามมาตรา ๑๒ (๒) จำนวนห้าคน
และจากผู้แทนสมาคมวิชาการหรือวิชาชีพด้าน การศึกษาที่เป็นนิติบุคคล ซึ่งเลือกกันเองจำนวนหกคน
มาตรา ๑๗
นอกจากการพ้นตำแหน่งตามวาระ กรรมการตามมาตรา ๑๒ (๑) (๓) (๔) และ (๕)พ้นจากตำแหน่งเมื่อ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) รัฐมนตรีโดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรีให้ออกเพราะบกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติ เสื่อมเสียหรือหย่อนความสามารถ (๔) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา ๑๓ มาตรา ๑๔ หรือ มาตรา ๑๕ แล้วแต่กรณี
มาตรา ๑๙
ในกรณีที่กรรมการคุรุสภาตามมาตรา ๑๒ (๑) และ (๓) พ้นจากตำแหน่งก่อน ครบวาระ
ให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งผู้อื่นซึ่งได้รับการสรรหาในลำดับถัดไปดำรงตำแหน่งแทนก็ได้และให้ผู้ได้รับ
แต่งตั้งแทนนั้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งไว้แล้ว
มาตรา ๒๐
คณะกรรมการคุรุสภามีอำนาจหน้าที่
พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพตามมาตรา ๕๔
เร่งรัดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ หรือ
คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพปฏิบัติตาม อำนาจและหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด
ให้คำปรึกษาและแนะนำแก่คณะกรรมการ
มาตรฐานวิชาชีพ
แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อกระทำการใดๆ
อันอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของ คณะกรรมการคุรุสภา
บริหารและดำเนินการตามวัตถุประสงค์
และอำนาจหน้าที่ของคุรุสภา
ควบคุมดูแลการดำเนินงานและการบริหารงานทั่วไป
ตลอดจนออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ
กำหนดนโยบายการบริหารงานและ
ให้ความเห็นชอบแผนการดำเนินงาน
ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้เป็น
อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา
พิจารณาหรือดำเนินการในเรื่องอื่นตามที่รัฐมนตรีมอบหมาย
ส่วนที่ ๔ การดำเนินงานของคุรุสภา
มาตรา ๒๙
ให้นำความในมาตรา ๒๖ และมาตรา ๒๗ มาใช้บังคับกับการประชุมของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพหรือคณะอนุกรรมการโดยอนุโลม
มาตรา ๓๐
ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้กรรมการคุรุสภา กรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
อนุกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการควบคุมการประกอบวิชาชีพเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๒๘
รัฐมนตรีจะเข้าร่วมประชุม และชี้แจงแสดงความเห็นในที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภา
หรือจะส่งความเห็นเป็นหนังสือไปยังคุรุสภาในเรื่องใด ๆ ก็ได้
มาตรา ๓๑
ให้คณะกรรมการคุรุสภาและคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีอำนาจเรียกบุคคล ใดๆ มาให้ถ้อยคำหรือแจ้งให้
บุคคลใดๆ ส่งเอกสารหรือวัตถุพยานที่จำเป็นต่อการดำเนินงานตามอำนาจและหน้าที่ หนังสือเรียกมาให้ถ้อยคำหรือหนังสือ
แจ้งให้ส่งเอกสารหรือวัตถุพยานตามวรรคหนึ่ง ต้องระบุว่าจะให้มาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารหรือวัตถุพยานในเรื่องใด
มาตรา ๒๗
ในการประชุม ถ้าประธานกรรมการคุรุสภาไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
มาตรา ๓๒
ให้กรรมการคุรุสภา กรรมการมาตรฐานวิชาชีพ อนุกรรมการและคณะทำงาน ได้รับเบี้ยประชุมและประโยชน์
ตอบแทนอื่นตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด โดยความเห็นชอบของ คณะรัฐมนตรี
มาตรา ๒๖
ให้คณะกรรมการคุรุสภามีการประชุมอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง
และกรรมการจะต้องมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด
มาตรา ๓๓
กรรมการคุรุสภาตามมาตรา ๑๒ (๓) (๔) และ (๕) จะดำรงตำแหน่งตามมาตรา ๒๑ (๓) (๔) และ (๕)
และมาตรา ๖๔ (๓) และ (๔) แล้วแต่กรณีในคราวเดียวกันไม่ได้
มาตรา ๓๔
ให้มีสำนักงานเลขาธิการคุรุสภามีหน้าที่ ดังต่อไปนี้ รับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภา ,
ประสานและดำเนินการเกี่ยวกับกิจการอื่นที่คุรุสภามอบหมาย , จัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับกาดำเนินงานเสนอต่อคุรุสภา
มาตรา ๓๕
ให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภามีเลขาธิการคุรุสภาคนหนึ่งบริหารกิจการ รวมทั้งดำเนินการตามที่ประธานกรรมการคุรุสภา
คณะกรรมการคุรุสภา ประธาน กรรมการมาตรฐานวิชาชีพ หรือคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมอบหมาย คณะกรรมการคุรุสภาเป็นผู้มี
อำนาจสรรหา แต่งตั้ง และถอดถอนเลขาธิการคุรุสภา หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาเลขาธิการคุรุสภาให้เป็นไปตามข้อบังคับของคุรุสภา
มาตรา ๓๖
เลขาธิการคุรุสภาต้องเป็นผู้สามารถทำงานให้แก่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้เต็มเวลา และต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติทั่วไป
และไม่มีลักษณะต้องห้าม
มาตรา ๓๘
นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ เลขาธิการคุรุสภาพ้นจากตำแหน่งเมื่อ ตาย ลาออก
คณะกรรมการคุรุสภาให้ออก ออกตามกรณีที่กำหนดไว้ในข้อตกลงระหว่างคณะกรรมการคุรุสภากับเลขาธิการคุรุสภา
มีลักษณะต้องห้ามอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา ๓๖
มาตรา ๓๗
เลขาธิการคุรุสภามีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับการแต่งตั้งอีก แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันไม่ได้
มาตรา ๓๙
เลขาธิการคุรุสภามีหน้าที่บริหารกิจการของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ของคุรุสภา
ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนดนโยบายมติและประกาศของคณะกรรมการคุรุสภาและเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานเจ้าหน้าที่ทุกตำแหน่ง
เว้นแต่ผู้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจสอบ ภายในให้ขึ้นตรงต่อประธานกรรมการคุรุสภาตามระเบียบที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด
มาตรา ๔๐
เลขาธิการคุรุสภา มีอำนาจดังนี้ บรรจุ แต่งตั้ง เลื่อน ลด ตัดเงินเดือน หรือค่าจ้าง ลงโทษทางวินัยพนักงานเจ้าหน้าที่ ,
วางระเบียบเกี่ยวกับการดำเนินงานของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
มาตรา ๔๑
ในกิจการที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้เลขาธิการคุรุสภาเป็นผู้แทนของคุรุสภา เพื่อการนี้ เลขาธิการคุรุสภา
จะมอบอำนาจให้บุคคลใดปฏิบัติงานเฉพาะอย่างแทนก็ได้ แต่ต้องเป็นไปตามข้อบังคับที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด
มาตรา ๔๒
ให้คณะกรรมการคุรุสภาเป็นผู้กำหนดอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของเลขาธิการคุรุสภาโดยความเห็นชอบ
ของคณะรัฐมนตรี
ส่วนที่ ๖ สมาชิกคุรุสภา
มาตรา ๕๘
สมาชิกของคุรุสภามีสองประเภท ดังนี้ สมาชิกสามัญ , สมาชิกกิตติมศักดิ์
มาตรา ๕๙
สมาชิกสามัญต้องเป็นผู้ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ (ข) (๑) (๒)
และ (๓) และเป็นผู้มีใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๖๐
สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสามัญ มีดังต่อไปนี้
(๑) แสดงความเห็นและซักถามเป็นหนังสือเกี่ยวกับกิจการของคุรุสภาต่อ
คณะกรรมการเพื่อพิจารณา
(๒) เลือก รับเลือกตั้ง หรือรับแต่งตั้งเป็นกรรมการตามมาตรา ๑๒ หรือมาตรา ๒๑
(๓) ชำระค่าธรรมเนียม ตามประกาศของคุรุสภา
(๔) ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ และปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๖๑
สมาชิกภาพของสมาชิกย่อมสิ้นสุดเมื่อ ตาย , ลาออก , คณะกรรมการ
คุรุสภามีมติให้พ้นจากสมาชิกภาพเพราะขาดคุณสมบัติ , คณะกรรมการคุรุสภามีมติ
ถอดถอนการเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ , ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
หมวด ๓ การกำกับดูแล
มาตรา ๗๖
ให้คุรุสภาเสนอรายงานประจำปีเกี่ยวกับผลการดำเนินงานด้านต่างๆ ของคุรุสภารวมทั้งรายงาน
การเงินและบัญชี ตลอดจนเสนอแผนดำเนินงาน แผนการเงิน และงบประมาณของปีต่อไปต่อคณะรัฐมนตรี
มาตรา ๗๕
ให้รัฐมนตรีมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
๑) กำกับดูแลการดำเนินงานของคุรุสภาและสำนักงานคณะกรรมการ
(๒) สั่งเป็นหนังสือให้กรรมการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกิจการของคุรุสภา
๓) สั่งเป็นหนังสือให้คุรุสภาและคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและ
สวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาระงับหรือแก้ไขการกระทำใด ๆ
มาตรา ๗๗
ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบการปฏิบัติงานด้านการเงิน
การบัญชีของคุรุสภาเป็นประจำทุกปี แล้วรายงานให้รัฐสภาทราบ
หมวด ๒ คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
ส่วนที่ ๑ บททั่วไป
มาตรา ๖๒
ให้มีคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากร
ทางการศึกษาทำหน้าที่บริหารงานสำนักงาน
มาตรา ๖๓
คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
มีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) ดำเนินงานด้านสวัสดิการสวัสดิภาพ
(๒) ส่งเสริม สนับสนุน ยกย่อง และผดุงเกียรติของผู้ประกอบวิชาชีพ
(๓) ส่งเสริมให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
(๔) ให้ความเห็น คำปรึกษา และคำแนะนำในเรื่องการส่งเสริมสวัสดิการสวัสดิภาพ
(๕) ดำเนินงานและบริหารจัดการองค์การจัดหาผลประโยชน์
(๖) ออกข้อบังคับและหลักเกณฑ์ในการดำเนินกิจการตามอำนาจหน้าที่
(๗) แต่งตั้งคณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการ
(๘) สรรหาและแต่งตั้งเลขาธิการคณะกรรมการ
(๙) ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการบริหารงาน
มาตรา ๖๔
ให้คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาประกอบด้วย
(๑) ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน
(๒) กรรมการโดยตำแหน่ง
(๓) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนสามคน
(๔) กรรมการที่ได้รับการเลือกตั้งจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา จำนวนสิบสองคน
มาตรา ๖๕
กรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา
๖๔ (๓) และ (๔) ต้องมีคุณสมบัติทั่วไป และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ มาตรา ๑๔
และมาตรา ๑๕ แล้วแต่กรณี
มาตรา ๖๖
การประชุมของคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและ
บุคลากรทางการศึกษา ให้นำความในมาตรา ๒๖ และมาตรา ๒๗ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ส่วนที่ ๒ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการ
และสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา ๖๗
ให้มีสำนักงานคณะกรรมการ มีฐานะเป็นนิติบุคคล
ในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ
มาตรา ๖๘
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู
และบุคลากรทางการศึกษามีรายได้ ดังต่อไปนี้
(๑) เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน
(๒) เงินค่าบำรุงและค่าธรรมเนียมต่างๆ
(๓) เงินผลประโยชน์ต่างๆ จากการลงทุนและการจัดหาผลประโยชน์
(๔) เงินอุดหนุนจากภาคเอกชนหรือองค์กรอื่นรวมทั้งจากต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศ และเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้
(๕) ผลประโยชน์จากการจัดการทรัพย์สินและการดำเนินกิจการของสำนักงาน
คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
(๖) ดอกผลของเงินและทรัพย์สินตาม (๒) (๓) (๔) และ (๕)
มาตรา ๖๙
ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา มีเลขาธิการคณะกรรมการ
คนหนึ่งบริหารกิจการของสำนักงาน รวมทั้งดำเนินการตามที่คณะกรรมการมอบหมายคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นผู้มีอำนาจสรรหา แต่งตั้ง และถอดถอนเลขาธิการคณะกรรมการ
มาตรา ๗๐
เลขาธิการคณะกรรมการต้องเป็นผู้สามารถทำงานให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู
และบุคลากรทางการศึกษาได้เต็มเวลา และต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๓๖
มาตรา ๗๑
เลขาธิการคณะกรรมการมีหน้าที่บริหารกิจการของสำนักงานให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ ระเบียบ ข้อบังคับ
ข้อกำหนด นโยบาย มติและ ประกาศของคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา และเป็น ผู้บังคับบัญชาพนักงานเจ้าหน้าที่ทุกตำแหน่ง เว้นแต่ผู้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจสอบภายในตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
มาตรา ๗๒
เลขาธิการคณะกรรมการ มีอำนาจบรรจุ แต่งตั้ง เลื่อน ลด ตัดเงินเดือน หรือค่าจ้าง ลงโทษทางวินัยพนักงาน
เจ้าหน้าที่วางระเบียบเกี่ยวกับการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการ
มาตรา ๗๓
ในกิจการที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้เลขาธิการคณะกรรมการเป็นผู้แทนของคณะกรรมการ
เพื่อการนี้ เลขาธิการคณะกรรมการจะมอบอำนาจให้บุคคลใดปฏิบัติงานเฉพาะอย่างแทนก็ได้แต่ต้องเป็นไปตาม
ข้อบังคับที่คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษากำหนด
มาตรา ๗๔
ให้คณะกรรมการเป็นผู้กำหนดอัตราเงินเดือนและผลประโยชน์ตอบแทนอื่นของเลขาธิการคณะกรรมการ
โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
หมวด ๔ บทกำหนดโทษ
มาตรา ๗๘
ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๓ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี
หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๗๙
ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๖ หรือมาตรา ๕๖ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน
สามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
บทเฉพาะกาล
มาตรา ๘๐
ในวาระเริ่มแรก ให้คณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาเท่าที่มีอยู่ตาม
พระราชบัญญัติครู พุทธศักราช ๒๔๘๘ ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการคุรุสภาและ
คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาตาม
พระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๘๑
ให้คณะกรรมการคุรุสภาตามมาตรา ๑๒ และคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา ๖๔ ดำเนินการให้มีการแต่งตั้งเลขาธิการคุรุสภาและเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คณะกรรมการคุรุสภา
มาตรา ๘๒
ให้เลขาธิการคุรุสภาตามพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช ๒๔๘๘ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา
และเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา และรองเลขาธิการ
คุรุสภา ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ไปก่อนจนกว่าจะมีการแต่งตั้งเลขาธิการตามมาตรา ๘๑
มาตรา ๘๓
ให้โอนบรรดากิจการ เงิน ทรัพย์สิน หนี้ สิทธิต่างๆ ของคุรุสภาตามพระราชบัญญัติครู
พุทธศักราช ๒๔๘๘
มาตรา ๘๔
ผู้ใดเป็นครูซึ่งเป็นสมาชิกของคุรุสภาตามพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช ๒๔๘๘
อยู่แล้วก่อนพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับมีสิทธิได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๘๕
ในวาระเริ่มแรก ให้คุรุสภาออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูแก่ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ดำรงตำแหน่งครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่น และภายในสามปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๘๖
ในวาระเริ่มแรก มิให้นำความในมาตรา ๑๔ (๑) มาใช้บังคับแก่กรรมการคุรุสภาและกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาจนกว่าคุรุสภาจะออกใบอนุญาต
มาตรา ๘๗
ในวาระเริ่มแรกของการเลือกกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนจากผู้ดำรงตำแหน่งคณบดีคณะครุศาสตร์ หรือการศึกษา ให้เลือกผู้แทนจำนวนสี่คนจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชน จนกว่าจะมีสถาบันอุดมศึกษาเอกชนครบจำนวนสามแห่ง จึงจะเลือกผู้แทนตามบทบัญญัติมาตรา ๑๒ (๔)
มาตรา ๘๘
ให้วุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือปริญญาอื่นที่ ก.ค. กำหนดให้เป็นคุณวุฒิที่ใช้
ในการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เป็นคุณวุฒิในการ
ขอรับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ไม่เกินสามปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา ๘๙
ให้สมาชิกคุรุสภาตามพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช ๒๔๘๘ ที่ได้รับสิทธิประโยชน์
และสวัสดิการต่าง ๆ อยู่ก่อนพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ คงมีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการนั้น ๆ ต่อไป
มาตรา ๙๐
ในระหว่างที่ยังมิได้ออกคำสั่ง ประกาศ หรือระเบียบเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ให้นำคำสั่ง
ประกาศ ซึ่งไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้มาใช้บังคับโดยอนุโลม