Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 - Coggle Diagram
พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546
ข้อมูลเบื้องต้น
ตัวกฎหมายมีทั้งสิ้น 4 หมวด 90 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
หมวด 1 สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
หมวด 2 คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
หมวด 3 การกำกับดูแล
หมวด 4 บทกำหนดโทษ
ผู้รักษาการตาม พ.ร.บ.นี้คือ รมว.ศธ.
ทักษิณ ชินวัตร รับสนองพระบรมราชโองการ
มีผลบังคับใช้ 12 มิถุนายน 2546 เป็นต้นไป
ความหมายของคำต่าง ๆ ใน พ.ร.บ.นี้
กระทรวง หมายความว่า
กระทรวงศึกษาธิการ
วิชาชีพ หมายความว่า วิชาชีพทางการศึกษาที่
ทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอน
ส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ
รับผิดชอบการบริหารสถานศึกษาในสถานศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน
บริหารการศึกษานอกสถานศึกษาในระดับเขตพื้นที่การศึกษา
สนับสนุนการศึกษา ให้บริการหรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่างๆ
ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา หมายความว่า
ครู
ผู้บริหารสถานศึกษา
ผู้บริหารการศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาอื่น ซึ่งได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตาม พ.ร.บ. นี้
ครู หมายความว่า
บุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพหลักทางด้านการเรียนการสอน
ส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่าง ๆ ในสถานศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญา * ทั้งของรัฐและเอกชน
ผู้บริหารสถานศึกษา หมายความว่า
(ผอ.รร.และรอง ผอ.รร.)
บุคคลซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาภายในเขตพื้นที่การศึกษา และสถานที่ศึกษาอื่นที่จัดการศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญา *ทั้งของรัฐและเอกชน
ผู้บริหารการศึกษา หมายความว่า
(ผอ.เขต และรอง ผอ.เขต)
บุคคลซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้บริหารนอกสถานศึกษาในระดับเขตพื้นที่การศึกษา
บุคคลกรทางการศึกษาอื่น หมายความว่า
บุคคลซึ่งทำหน้าที่สนับสนุนการศึกษา ให้บริการหรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริการการศึกษา ในหน่วยงานการศึกษาต่าง ๆ
หน่วยงานการศึกษา หมายความว่า
สถานศึกษา หน่วยงานอื่น มีหน้าที่กำกับดูแล สนับสนุน ส่งเสริมให้บริการเกี่ยวกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญา *ทั้งของรัฐและเอกชน
สถานศึกษา หมายความว่า
สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
โรงเรียน
วิทยาลัย
สถาบัน
มหาวิทยาลัย
หน่วยงานการศึกษาหรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือของเอกชน ที่มีอำนาจหน้าที่ มีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา
ใบอนุญาต หมายความว่า
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพซึ่งออกให้ผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลลากรทางการศึกษาอื่น ตาม พ.ร.บ.นี้
เจ้าหน้าที่ หมายความว่า
บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งตาม พ.ร.บ. นี้
รัฐมนตรี
รัฐมนตรีผู้รักษาการตาม พ.ร.บ. นี้
หมวด 1 ส่วนที่ 1 บททั่วไป
ให้มีสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา คือ คุรุสภา
มีวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้
มีฐานะเป็นนิติบุคคล ในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ
คุรุสภามีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
กำหนดมาตรฐานวิชาชีพ ออกและเพิกถอนใบอนุญาต กำกับดูแลการปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ รวมทั้งการพัฒนาวิชาชีพ
กำหนดนโยบายและแผนพัฒนาวิชาชีพ
ประสาน ส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ
อำนาจหน้าที่คุรุสภา
กำหนดมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
ควบคุมความประพฤติและการดำเนินงาน ของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาให้เป็นไปตาม
มาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอประกอบวิชาชีพ
พักการใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
สนับสนุนส่งเสริมและพัฒนาวิชาชีพ
ตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
ส่งเสริม สนับสนุน ยกย่อง และผดุงเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
รับรองปริญญา ประกาศนียบัตร และวุฒิบัตรของสถาบันต่าง ๆ ตามมาตรฐานวิชาชีพ
รับรองความรู้และประสบการณ์ทางวิชาชีพ
ส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ
เป็นตัวแทนผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาของประเทศไทย
ออกข้อบังคับของคุรุสภา
ให้คำปรึกษา หรือเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับ
นโยบายหรือปัญหาการพัฒนาวิชาชีพ
ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็น ต่อรัฐมนตรีเกี่ยวกับ
การประกอบวิชาชีพหรือการออกกฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศต่าง ๆ
กำหนดให้มีคณะกรรมการทำหน้าที่ในคุรุสภา
ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของคุรุสภา
ข้อบังคับของคุรุสภา
ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรี
เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
การเสนอร่างข้อบังคับของคุรุสภาจะ กระทำได้เมื่อคณะกรรมการคุรุสภามีมติเห็นชอบกับร่างข้อบังคับดังกล่าว
ประธานกรรมการคุรุสภาเสนอร่างข้อบังคับนั้นต่อรัฐมนตรีโดยไม่ชักช้า
รัฐมนตรีอาจยับยั้งร่างข้อบังคับนั้นได้ แต่ต้องแสดงเหตุผลโดยแจ้งชัด หากไม่ยับยั้งภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับร่างข้อบังคับ ให้ถือว่ารัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างข้อบังคับนั้น
รัฐมนตรียับยั้งร่างข้อบังคับใด ให้คณะกรรมการคุรุสภาประชุมอีกครั้งหนึ่งภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับการยับยั้ง
คุรุสภาอาจมีรายได้ (ไม่ต้องส่งกระทรวงการคลัง)
ค่าธรรมเนียมตาม พ.ร.บ.
เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน
ผลประโยชน์จากการจัดการทรัพย์สิน การดำเนินกิจการ
เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้อุทิศให้
ดอกผลของเงินและทรัพย์สินตามตามที่กล่าวมา
ค่าธรรมเนียมตาม พ.ร.บ.นี้ ให้เป็นไปตามประกาศของรัฐมนตรี
หมวด 1 ส่วนที่ 2 คณะกรรมการคุรุสภา
คณะกรมการครุสภาประกอบด้วย
ประธานกรรมการ (คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง)
กรรมการโดยตำแหน่ง
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
เลขาธิการสภาการศึกษา
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา
* อาจปรับออกในอนาคต
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน (คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง)
กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งจากผู้ดำรงตำแหน่งคณบดีคณะครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์หรือการศึกษา
กรรมการจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา (
เลือกตั้ง
มาจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาจำนวน 90 คน)
คุณสมบัติทั่วไป ลักษณะต้องห้ามของประธานกรรมการ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
คุณสมบัติทั่วไป
สัญชาติไทย
อายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีบริบูรณ์
ซื่อสัตย์และยุติธรรมเป็นที่ประจักษ์
ลักษณะต้องห้าม
บุคคลล้มละลาย ศาลยังไม่สั่งให้พ้นจากคดี
คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
เคยมีประวัติเสื่อมเสียทางจริยธรรม จรรยาบรรณ และการประกอบวิชาชีพ
ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
เจ้าหน้าที่ ลูกจ้างที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ มีสัญญาจ้างกับสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา สกสค.
เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ยกเว้นเป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ
มีส่วนได้เสียในกิจการที่กระทำกับกิจการคุรุสภา สกสค.
มีลักษณะต้องห้ามอื่นตามที่กำหนดในข้อบังคับของคุรุสภา
กรรมการที่มาจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา (ครู)
มีใบอนุญาต ไม่เคยถูกสั่งพักใช้ เพิกถอน
ปกิบัติการสอน รวมกันไม่น้อยกว่า 10 ปี เป้นอาจารย์ 3 ครูชำนาญการขึ้นไป
กรรมการที่มาจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา(ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา)
ปฏิบัติการสอน+ประสบการณ์ในตำแหน่งบริการการศึกาา บริหารสถานศึกษา ไม่น้อยกว่า 10 ปี
กรรมการคุรุสภามีวาระ 4 ปี เป็นเกิน 2 วาระติดต่อกันไม่ได้
การพ้นจากตำแหน่ง นอกจากหมดวาระ
ตาย
ลาออก
รัฐมนตรีโดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรีอนุญาตให้ออก (บกพร่อง ประพฤติเสื่อมเสีย หย่อนความสามารถ)
ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม
ก่อนครบวาระไม่น้อยกว่า 90 วัน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แต่งตั้งคณะกรมการสรรหา 11 คน จากคณะกรรมการคุรุสภา 5 คน ผู้แทนสมาคมวิชาการ วิชาชีพ 6 คน ดดยเลือกประธาน 1 คน
ถ้ากรรมการคุรุสภาพ้นจากตำแหน่งก่อนหมดวาระ
ให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งผู้อื่นซึ่งได้รับการสรรหา มาดำรงตำแหน่งแทน
หน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา
ทำตามตามวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของคุรุสภา
ให้คำปรึกษาและแนะนำแก่คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
เร่งรัดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ หรือคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ ปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด
ตั้งคณะอนุกรรมการ
ควบคุมดูแลการดำเนินงานและการบริหารงานทั่วไป (ออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ข้อกำหนดเกี่ยวกับสำนักงานเลาขาะิการคุรุสภา)
หมวด 1 ส่วนที่ 3 คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (17 คน)
คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ ประกอบด้วย
ประธานกรรมการ (รัฐมนตรีแต่งตั้ง)
กรรมการโดยตำแหน่ง
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 4 คน
กรรมการจากคณาจารย์ในคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ หรือการศึกษา
กรรมการจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา 6 คน
การสรรหา การเลือก และการเลือกตั้งกรรมการมาตรฐานวิชาชีพให้เป็นไปตามที่กำหนดในข้อบังคับของคุรุสภา
กรรมการมาตรฐานวิชาชีพตามต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
กรรมการมาตรฐานวิชาชีพตามมีวาระ 4 ปี เป็นติดต่อกัน 2 วาระไม่ได้ ถ้าครบวาระแล้วให้อยู่ต่อจนกว่าชุดใหม่จะเข้ารับหน้าที่ การพ้นจากตำแหน่งนอกจากหมดวาระมีดังนี้
ตาย
ลาออก
รัฐมนตรีโดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรีอนุญาตให้ออก (บกพร่อง ประพฤติเสื่อมเสีย หย่อนความสามารถ)
ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม
อำนาจหน้าที่คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
พิจารณา ออก และพักใช้ใบอนุญาต
กำกับดูแลการปฏิบัติตามมาตรฐานและจรรยาบรณวิชาชีพ
ส่งเสริม พัฒนา เสนอแนะคณะกรรมการคุรุสภากำหนดมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพ
ส่งเสริม ยกย่อง พัฒนาวิชาชีพไปสู่ความเป็นเลิศในสาขาต่าง ๆ
แต่งตั้งที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการ มอบหมายการทำหน้าที่ต่าง ๆ
ทำงานอื่นตามกำหมายกำหนด
พิจารณา ดำเนินการในเรื่องอื่น ตามรับมนตรี คระกรรมการคุรุสภากำหนด
ส่วนที่ 4 ส่วนที่ 4 การดำเนินงานของคุรุสภา
กรมการประชุมอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง มาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ถือเสียงข้างมาก
การประชุมถ้าประธานไม่อยู่ ให้เลือกกรมการ 1 คนเป็นประธาน
รัฐมนตรีจะเข้าร่วมประชุม ชี้แจงแสดงความเห็นในที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภา หรือจะส่งความเห็นเป็นหนังสือไปยังคุรุสภาก็ได้
นำความใน มาตรา 26 และ มาตรา 27 มาใช้บังคับกับการประชุมของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพหรือคณะอนุกรรมการ
การปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้กรรมการคุรุสภา กรรมการมาตรฐานวิชาชีพ อนุกรรมการ หรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการควบคุมการประกอบวิชาชีพเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
ให้กรรมการคุรุสภาและคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีอำนาจเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำ ส่งเอกสาร วัตถุพยาน
ให้กรรมการคุรุสภา กรรมการมาตรฐานวิชาชีพ อนุกรรมการและคณะทำงานได้รับเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด
กรรมการคุรุสภาจะดำรงตำแหน่งหลายตำแหน่งคราวเดียวกันไม่ได้
อำนาจหน้าที่ของสำนักงานเลขานุการคุรุสภา
รับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภา
ประสานและดำเนินการเกี่ยวกับกิจการอื่นที่คุรุสภามอบหมาย
จัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับการดำเนินงานเสนอต่อคุรุสภา
ให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภามีเลขาธิการคุรุสภาคนหนึ่งบริหารกิจการของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
เลขาธิการคุรุสภา
คุณสมบัติทั่วไป
สัญชาติไทย
อายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 65 ปี
มีความรู้ ความสามารถเหมาะสมกับกิจการของคุรุสภา
ลักษณะต้องห้าม
มีลักษณะต้องห้ามอย่างหนึ่งอย่างใดตาม มาตรา 13 (ข) (1) (2) (3) หรือ (4)
เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
เป็นผู้มีส่วนได้เสียในกิจการที่กระทำกับคุรุสภา
เลขาธิการมีวาระ 4 ปี เป็นเกิน 2 วาระไม่ได้
การพ้นจากตำแหน่งนอกจากพ้นตามวาระ
ลาออก
ตาย
รัฐมนตรีโดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรีอนุญาตให้ออก (บกพร่อง ประพฤติเสื่อมเสีย หย่อนความสามารถ)
ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม
เลขาธิการคุรุสภามีหน้าที่บริการกิจการของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
ดูแลรักษาทะเบียนผู้ได้รับใบอนุญาต
ควบคุมดูแลทรัพย์สินของคุรุสภา
เสนอรายงานประจำปี
เสนอความเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงกิจการ และการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ
อำนาจเลขาธิการคุรุสภา
บรรจุ แต่งตั้ง เลื่อน ลด ตัดเงินเดือน หรือค่าจ้าง ลงโทษทางวินัยพนักงานเจ้าหน้าที่ ตลอดจนให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกจากตำแหน่ง
วางระเบียบเกี่ยวกับการดำเนินงาน ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
โดยไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด นโยบาย มติ หรือประกาศ
ในกิจการที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้เลขาธิการคุรุสภาเป็นผู้แทนของคุรุสภา
ให้คณะกรรมการคุรุสภากำหนดอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของเลขาธิการคุรุสภา
หมวด 1 ส่วนที่ 5 การประกอบวิชาชีพควบคุม
ให้วิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้บริหารการศึกษาเป็นวิชาชีพควบคุมห้ามมิให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพควบคุม โดยไม่ได้รับใบอนุญาต เว้นแต่
ให้วิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้บริหารการศึกษาเป็นวิชาชีพควบคุม
ผู้ที่ไม่ได้ประกอบวิชาชีพหลักทางด้าน การเรียนการสอน
นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาขีพครู
ผู้ที่จัดการศึกษาตามอัธยาศัย
ผู้ที่ทำหน้าที่สอนในศูนย์การเรียนตามกฎหมาย
คณาจารย์ ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้บริหารการศึกษาในระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน
ผู้บริหารการศึกษาระดับเหนือเขตพื้นที่การศึกษา
บุคคลอื่นตามที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามผู้ขอรับใบอนุญาต
คุณสมบัติ
อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี บริบูรณ์
วุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่า หรือมีคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง
ผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา ตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี ผ่านเกณฑ์การประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด
ลักษณะต้องห้าม
มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี
เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
เคยต้องโทษจำคุกในคดีที่คุรุสภาเห็นว่า อาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต กำหนดอายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การขอรับใบแทนใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต
เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในข้อบังคับของคุรุสภา
ห้ามมิให้ผู้ใดแสดงด้านวิธีใด ๆ
ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนมีสิทธิหรือพร้อมจะประกอบวิชาชีพ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากคุรุสภา
สถานศึกษารับผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตเข้าประกอบวิชาชีพควบคุมในสถานศึกษา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากคุรุสภา
ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องประกอบวิชาชีพภายใต้บังคับแห่งข้อจำกัดและเงื่อนไขตามข้อบังคับของคุรุสภา
ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องประพฤติตนตามมาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ ตามที่กำหนดในข้อบังคับของคุรุสภา
ข้อบังคับว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ
มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ
มาตรฐานการปฏิบัติงาน
มาตรฐานการปฏิบัติตน
มาตรฐานการปฏิบัติตน เป็นข้อบังคับว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ
จรรยาบรรณต่อตนเอง
จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ
จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ
จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ
จรรยาบรรณต่อสังคม
บุคคลซึ่งได้รับความเสียหายจากการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ ของผู้ได้รับใบอนุญาตมีสิทธิกล่าวหาผู้ได้รับใบอนุญาตนั้นโดยทำเรื่องยื่นต่อคุรุสภา
เมื่อคุรุสภาได้รับเรื่องการกล่าวหาหรือกล่าวโทษให้เลขาธิการคุรุสภาเสนอเรื่องดังกล่าวต่อคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพโดยไม่ชักช้า
ให้ประธานกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา หรือข้อกล่าวโทษพร้อมทั้งส่งสำเนาเรื่องที่กล่าวหา หรือกล่าวโทษให้ผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งถูกกล่าวหาหรือกล่าวโทษล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วันก่อนเริ่มพิจารณา
คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง
ยกข้อกล่าวหา
ตักเตือน
ภาคทัณฑ์
พักใช้ใบอนุญาตมีกำหนดเวลาตามที่เห็นสมควร แต่ไม่เกินห้าปี
เพิกถอนใบอนุญาต
ผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพวินิจฉัยชี้ขาดอาจอุทธรณ์คำวินิจฉัยต่อคณะกรรมการคุรุสภาภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับแจ้งคำวินิจฉัย
ห้ามผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งอยู่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต ผู้ใดประกอบวิชาชีพควบคุมหรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าในว่าตนมีสิทธิหรือพร้อมจะประกอบวิชาชีควบคุม นับแต่วันที่ทราบคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตเท่านั้น
ผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งถูกสั่งเพิกถอนจะยื่นขออีกไม่ได้ จนกว่าจะพ้นห้าปีนับแต่วันที่ถูกสั่งเพิกถอน
หมวด 1 ส่วนที่ 6 สมาชิกคุรุสภา
สมาชิกของคุรุสภามี 2 ประเภท
สมาชิกสามัญ
สมาชิกกิตติมศักดิ์
สมาชิกสามัญต้องเป็นผู้ไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา 13
สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสามัญ
แสดงความเห็นและซักถามเป็น หนังสือเกี่ยวกับกิจการของคุรุสภาต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
เลือก รับเลือกตั้ง หรือรับแต่งตั้งเป็นกรรมการตาม มาตรา 12 หรือ มาตรา 21
ชำระค่าธรรมเนียม ตามประกาศของคุรุสภา
ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ และปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้สมาชิกกิตติมศักดิ์ มีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับสมาชิกสามัญ
สมาชิกภาพของสมาชิกย่อมสิ้นสุดเมื่อ
ตาย
ลาออก
คณะกรรมการคุรุสภามีมติให้พ้นจากสมาชิกภาพเพราะขาดคุณสมบัติตามมาตรา 49
คณะกรรมการคุรุสภามีมติถอดถอนการเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
หมวด 2 ส่วนที่ 1 บททั่วไป
ให้มี สกสค. โดยมีวัตถุประสงค์
ส่งเสริมสวัสดิการ สวัสดิภาพ สิทธิประโยชน์เกื้อกูลอื่น และความมั่นคงของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา
ส่งเสริมความสามัคคีและ ผดุงเกียรติของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา
ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษา ของกระทรวงในเรื่องสื่อการเรียนการสอน วัสดุอุปกรณ์การศึกษาและเรื่องอื่นที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษา
ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนา การดำเนินงานด้านสวัสดิการ สวัสดิภาพ และผดุงเกียรติของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
อำนาจ สกสค.(ที่สำคัญ)
ดำเนินการด้านสวัสดิการ สวัสดิภาพ สิทธิประโยชน์เกื้อกูลอื่น และความมั่นคงของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา
ส่งเสริม สนับสนุน ยกย่อง และผดุงเกียรติของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา
คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ประกอบด้วย
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน
กรรมการโดยตำแหน่ง เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เลขาธิการคุรุสภา และเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนสามคน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
กรรมการที่ได้รับการเลือกตั้งจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา จำนวนสิบสองคน
สกสค. ต้องมีคุณสมบัติทั่วไป และไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา 13 มาตรา 14 และ มาตรา 15 แล้วแต่กรณี
การประชุมของคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาให้นำความใน มาตรา 26 และ มาตรา 27 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
หมวด 2 ส่วนที่ 2 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
อำนาจและหน้าที่ สกสค.
รับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินงานของสกสค.
ประสานและดำเนินการเกี่ยวกับกิจการอื่น
จัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับการดำเนินงาน
สำนักงาน สกสค. มีรายได้ต่อไปนี้
เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน
เงินค่าบำรุงและค่าธรรมเนียมต่างๆ
เงินผลประโยชน์ต่างๆ จากการลงทุนและการจัดหาผลประโยชน์
เงินอุดหนุนจากภาคเอกชน หรือองค์กรอื่นรวมทั้งจากต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศ และเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้
ผลประโยชน์จากการจัดการทรัพย์สิน และการดำเนินกิจการของสำนักงานคณะกรรม สกสค.
ดอกผลของเงินและทรัพย์สิน
ให้ สกสค.มีเลขาธิการ 1 คน บริหารกิจการ ดำเนินการตามที่คณะกรรมการสกสค.มอบหมาย
เลขาธิการ สกสค. มีหน้าที่
ควบคุมดูแลทรัพย์สินของสำนักงาน สกสค.
เสนอรายงานประจำปีเกี่ยวกับผลการดำเนินงานด้านต่าง รวมทั้งรายงานการเงินและบัญชี ตลอดจนเสนอแผนดำเนินงาน แผนการเงินและงบประมาณของปีต่อไปต่อคณะกรรม สกสค. เพื่อพิจารณา
เสนอความเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงกิจการ และการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและเป็นไป ตามวัตถุประสงค์ต่อคณะกรรมการ สกสค.
เลขาธิการ สกสค.มีอำนาจ
มีอำนาจบรรจุ แต่งตั้ง เลื่อน ลด ตัดเงินเดือน หรือจ้าง ลงโทษทางวินัยพนักงานเจ้าหน้าที่ ตลอดจนให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ ตามข้อบังคับที่คณะกรรมสกสค.กำหนด
วางระเบียบเกี่ยวกับการดำเนินงาน ของคณะกรรมการ สกสค.
ในกิจการที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้เลขาธิสกสค. เป็นผู้แทนของคณะกรรมตามข้อบังคับ
ให้คณะกรรมการ สกสค. เป็นผู้กำหนดอัตราเงินเดือน และผลประโยชน์ตอบแทนอื่น ของเลขาธิการสกสค. โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
เลขาธิการ สกสค.
ต้องทำงานให้สำนักงานสกสค.ได้เต็มเวลา
มีวาระ 4 ปี ไม่เกิน 2 วาระ
พ้นจากตำแหน่งเมื่อ
ตาย
ลาออก
คระกรมการ สกสค. ให้ออก (บกพร่องต่อหน้าที่ ประพฤติเสื่อมเสีย หย่อนความสามารถ)
มีลักษณะต้องห้ามอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 36
หมวด 3 การกำกับดูแล
รัฐมนตรีมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
กำกับดูแลการดำเนินงานของคุรุสภา และสำนักงานสกสค. รวมทั้งจัดสรรงบประมาณของรัฐให้คุรุสภา และสำนักงาน สกสค.
สั่งเป็นหนังสือให้กรรมการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกิจการของคุรุสภา และสำนักงาน สกสค.
สั่งเป็นหนังสือให้คุรุสภาและคณะกรรมสกสค. ระงับหรือแก้ไขการกระทำใด ๆ ที่ขัดต่อวัตถุประสงค์ของคุรุสภา และคณะกรรมสกสค. กฎหมาย หรือข้อบังคับคุรุสภา และคณะกรรมการสกสค.
ให้คุรุสภาเสนอรายงานประจำปีเกี่ยวกับผลการดำเนินงานด้านต่างๆ ของคุรุสภา รวมทั้งรายงานการเงินและบัญชี ตลอดจนเสนอแผนดำเนินงาน แผนการเงิน และงบประมาณของปีต่อไปต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ
ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบการปฏิบัติงานด้านการเงินการบัญชีของคุรุสภาเป็นประจำทุกปี แล้วรายงานให้รัฐสภาทราบ
หมวด 4 บทกำหนดโทษ
ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 43 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 46 หรือ มาตรา 56 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ