Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคหัด (Measles หรือ Rubeola) - Coggle Diagram
โรคหัด (Measles หรือ Rubeola)
เป็นโรคไข้ออกผื่น (Exanthematous fever) ที่พบได้บ่อยในเด็กอายุ 1-4 ปี
ถ้าไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรค เด็กมีโอกาสจะเป็นหัดได้เมื่อภูมิคุ้มกันที่ผ่านมาจากแม่หมดไปเมื่ออายุประมาณ 6-9 เดือน
เด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน มักจะไม่เป็นหัด ยกเว้นรายที่ภูมิคุ้มกันในมารดามีน้อยมาก
เกิดจากเชื้อ measles virus มีระยะฟักตัว 10-12 วัน
ติดต่อทางการหายใจ โดยการไอหรือจามรดกันหรือสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย
เชื้อหัดจะถูกขับออกมากที่สุด
ขณะที่มีไข้ก่อนที่ผื่นจะขึ้น
พยาธิสรีรภาพ
เชื้อเข้าสู่ร่างกายทางจมูกหรือปาก
แพร่ไปตามต่อมน้ำเหลืองเข้าสู่กระแสเลือด
แบ่งตัวเพิ่มจำนวนในอวัยวะต่าง ๆ เช่น ตับ ม้าม ไขกระดูก
กลับออกมาในกระแสเลือดอีกครั้ง
ทำให้มีอาการทั่ว
ร่างกาย
มี hyperplasia ของต่อมน้ำเหลืองทั่วร่างกาย
อาการทางคลินิก
มีไข้ อาจมีอาการไอ ตาแดง มีขี้ตามาก และกลัวแสงสว่าง (ไม่มีทุกราย) น้ำมูกไหลร่วมด้วย
เมื่อมีไข้ 2-3 วัน จะตรวจพบ Koplik’s spot ที่เยื่อบุช่องปาก (มีลักษณะเป็นจุดขาวเล็ก ๆ ขนาดเท่าหัวเข็มหมุดล้อมรอบด้วยผื่นแดง ซึ่งจะหายไปหลังจากผื่นขึ้นแล้ว1-2 วัน) และลดลงอย่างรวดเร็ว ไข้จะเริ่มสูงขึ้นใหม่และสูงสุดพร้อมกับมีผื่นขึ้น
ผื่นจะเริ่มขึ้นประมาณวันที่ 4 หลังจากเริ่มมีไข้ ลักษณะผื่นเป็นผื่นนูนแดงเม็ดเล็ก ๆ คล้ายผดอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม (Maculopapular rash)
การรักษา
1. ให้ยา Antiviral
2. รักษาตามอาการ
เช่น ให้ยาลดไข้ ยาแก้ไอ
การป้องกันโรค
1. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด
ให้แก่เด็กเมื่ออายุประมาณ 1 ปี จะเกิดภูมิคุ้มกันได้ตลอดชีวิต
2. ผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วยโรคหัด
เด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน
หรือ
เด็กที่เคยเป็นโรคหัด
ไม่ต้องทำอะไร
เด็กที่อายุมากกว่า 6 เดือน
และ
ไม่เคยเป็นโรคหัด
ถ้าเด็กมีร่างกายแข็งแรงก็ปล่อยให้เป็นโรคหัดตามธรรมชาติ และแนะนำวิธีการดูแลแก่ผู้ปกครอง
ถ้าเด็กมีภูมิคุ้มกันโรคต่ำและสัมผัสโรคหัดในระยะติดต่อไม่เกิน 2 วัน ควรให้วัคซีน
ป้องกันโรคหัด ถ้าสัมผัสกับโรคเกิน 2 วันไปแล้ว ควรให้ gamma globulin