Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขประกอบวิชาชีพพยาบาลพ.ศ.2564…
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขประกอบวิชาชีพพยาบาลพ.ศ.2564
หมวดที่3การรักษาโรคเบื้องต้น(ข้อ10-15)
ข้อ10ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลขั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขั้นหนึ่ง ทำการพยาบาลตามข้อกำหนดของสภาในการดูแลรักษาโรคเบื้องต้นและให้ภูมิคุ้มกันโรค
ข้อ11 ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลขั้นหนึ่งผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขั้นหนึ่ง ที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนดไว้
11.1สาขาที่ศึกษาเฉพาะทาง
11.1.1.สาขาเวชปฏิบัติทั่วไป(การรักษาโรคเบื้องต้น)
11.1.2.สาขาพยาบาลเวชปฏิบัติทางตา
11.1.3.สาขาพยาบาลเวชปฏิบัติฉุกเฉิน
11.1.4.สาขาพยาบาลเวชปฏิบัติการบำบัดทดแทนไต(การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม)
11.1.5.สาขาพยาบาลเวชปฏิบัติผู้สูงอายุ
11.1.6.สาขาพยาบาลเวชปฏิบัติทดแทนไต(การล้างไตทางช่องท้อง)
11.1.7.สาขาพยาบาลผู้ป่วยวิกฤต(ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ)
11.1.8.สาขาการพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อและการควบคุมกาติดเชื้อ
11.1.9.สาขาการพยาบาลผู้ป่วยมะเร็ง
11.1.10.สาขาการพยาบาลโรคหัวใจและหลอดเลือด
11.1.11.สาขาการผ้ป่วยแบบประคับประคอง
11.1.12.สาขาการพยาบาลเวชปฏิติครอบครัว
11.1.13.สาขาการจัดการโรคเรื้อรัง
11.1.14.สาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
11.1.15.การพยาบาลสาขาอื่นที่สภาการพยาบาลประกาษกำหนด
11.2ผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรและได้รับหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด ในสาขาต่อไปนี้
11.2.1.การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ 11.2.2.การพยาบาล
11.2.3.การพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต
11.2.4.การพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อและการควบคุมการติดเชื้อ
11.2.5.การพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน
11.2.6.การผดุงครรภ์
11.2.7.การพยาบาลมารดาและทารก
11.2.8.การพยาบาลสาขาอื่นๆที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
ข้อ12ผู้ประกอบวิชชาชีพการพยาบาลขั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขั้นหนึ่ง จะต้องทำการักษาโรคเบื้องต้นตามกำหนดของสภาการพยาบาลและการให้ภูมิคุ้มกันโรค
12.1ตรวจวินิจฉัยและบำบัดรักษาโรคตามมาตรฐานของการประกอบวิชาชีพพยาบาลที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
12.2ให้ส่งผู้ป่วยไปรับการบำบัดรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพอื่นเมื่อปรากฎตรวจพบหรือพิจารณนาแล้วเห็นว่าอาการไม่บรรเทารุนแรงเพิ่มขึ้นมีโรคติดต่อที่ต้องแจ้งความตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อหรือมีเหตุอันควรอื่นๆเกี่ยวกับการบำบัดรักษา
ข้อ13 ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลขั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขั้นหนึ่ง จะต้องให้ยาตาคู่มือการให้ยาการพยาบาลประกาศกำหนดไว้
ข้อ14 ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลขั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขั้นหนึ่ง ในการให้ภูมิคุ้มกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
ข้อ15 ต้องมีบันทึกรายงานเกี่ยวกับประวัติผู้ป่วยหรือผู้รับบริการ ซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพตามความจริงเก็บและบันทึกแล้วรายงานไว้เป็นหลักฐานเป็นเวลา5ปี
หมวดที่1 บททั่วไป
-การรักษาทั่วไปคือการประเมินสุขภาพ การซักประวัติ การวินิจฉัย การรักษาโรคและอาการบาดเจ็บ แก้ไขปัญหา เพื่อให้ผู้ป่วยพ้นจากภาวะวิกฤษ
-การบาดเจ็บฉุกเฉิน เป็นการเจ็บป่วยกะทันหันซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือการทำงานของอวัยวะสำคัญ ต้องช่วยเหลือหรือรักษาทันที เช่นเป็นลม ชัก ลมบ้าหมู หอบหืด
-การให้ภูมิคุ้มกัน การที่ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันที่คอยต่อต้านโรคที่ต้องการโดยการให้วัคซีน
-การเจ็บป่วยวิกฤต การเจ็บป่วยที่รุนแรงอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตหรือพิการได้
การปฐมพยาบาล
การให้ความช่วยเหลือโดยการบรรเทาอาการหรือป้องกันภาวะนั้นให้ลดลงและส่งเสริมการฟื้นฟู
หมวดที่2 การประกอบวิชาชีพพยาบาล
ส่วนที่1 การพยาบาล(ข้อ5-8)
ข้อ5 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลขั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขั้นหนึ่ง ทำการพยาบาลโดยใช้การบวนการพยาบาล
5.1การกระทำต่อร่างกายและจิตใจ การประเมินภาวะสุขภาพ ส่งเสริมสุขภาพ การปฐมพยาบาล ทั้งรายทั่วไป รายที่ยุ่งยากซับซ้อนหรือฉุกเฉินและวิกฤต
5.2การสอน การแนะนำและการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย
5.3การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกัน การควบคุม การแก้ปัญหาความเจ็บป่วยวิกฤต
5.4การปฎิบัติการพยาบาลการติดตามผมรวมทั้งการประสานทีมสุขภาพ
5.5การให้การพยาบาลที่บ้านการส่งเสริมความสามารถของบุคคล ครอบครัวและชุมชนให้การอยู่กับความเจ็บป่วยตามศักยภาพ
ข้อ6 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลขั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขั้นหนึ่งจะให้ยาได้ตามผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ระบุไว้
6.1ห้ามใช้ยาหรือสารละลายในเยื่อบุไขสันหลังหรือช่องสันหลังตามที่สภาพยาบาลกำหนด
6.2ห้ามใช้ยาหรือสารละลายที่เกี่ยวข้องกับรังสีวินิจฉัยและยาอื่นตามที่สภาการพยาบาลกำหนด
ข้อ7 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลขั้นสองผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขั้นสองให้กระทำการพยาบาลที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนตามแผนการพยาบาลในกรณีที่เป็นปัญหา ยุ่งยาก ซับซ้อน การพยาบาลจะต้องทำร่วมกับผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลขั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขั้นหนึ่ง
ข้อ8 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลขั้นสองผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขั้นสองจะให้ยาได้เฉพาะยาทางปากและยาภายนอกตามที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมระบุไว้ในแผนการรักษาและห้ามใช้ยาตามข้อ6.1และ6.2
ส่วนที่2 การทำหัตถการ(ข้อ9)
ผู้ประกอบการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ขั้นหนึ่ง ข้อ9ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลขั้นหนึ่ง กระทำการพยาบาลโดยการทำหัตถ์การตามขอบเขต
9.1 การทำแผล การตกแต่งแผล การเย็บแผลขนาดเล็กไม่เกินชั้นเนื้อเยื่อไขมันใต้ผิวหนังSubcutaneous tissue และไม่อยู่ในตำแหน่งซึ่งเป็นอันตรายต่ออวัยวะสำคัญของร่างกาย โดยใช้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะที่หรือการตัดไหมในตำแหน่งที่ไม่เป็นอันตราย ดูแลรักษารักษาบาดแผลไหม้ แผลน้ำร้อนลวกหรือสารเคมีไม่เกินระดับ ๒ ของแผลไหม้
9.2 การผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอม การผ่าฝี การผ่าตัดตาปลา การเลาะก้อนใต้ผิวหนังในบริเวณที่อยู่ในตำแหน่งซึ่งไม่เป็นอันตรายต่ออวัยวะที่สำคัญของร่างกาย โดยใช้ยาระงับความรู้สึกทางผิวหนังหรือฉีดยาทาเฉพาะที่ในการเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากอวัยวะ
9.3 การถอดเล็บ การจี้หูดหรือจี้ตาปลาโดยใช้ยาระงับความรู้สึกทางผิวหนังหรือฉีดยาชาเฉพาะที่ 9.4การให้ออกซิเจน
9.5 การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ในผู้ผ่วยที่มีภาวะวิกฤติภาวะสูญเสียสมดุลของสารน้ำในร่างกายผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อภาวะช็อค การปฐมพยาบาลหรือตามแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
9.6การให้ยาทางปาก ทางผิวหนัง ทางหลอดเลือดดำหรือช่องทางอื่นๆตามแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือตามที่สภาพยาบาลประกาศกำหนด 9.7การให้เลือด(Blood transfusion)ตามแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม 9.8การการเปิดทางเดินหายใจให้โล่งด้วยการดูดเสมหะ 9.9การช่วยฟื้นคืนชีพ(Cardio pulmonary resuscitation)เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตของผู้ป่วย
9.10การเช็ดตา ล้างตา(Eye irrigation)หยอดตา ป้ายตา ปิดตาหรือการล้างจมูก
9.11การสอดใส่สายยางลงไปในกระเพาะอาหาร(Nasogastric tube)เพื่อให้อาหาร ให้ยาหรือล้างกระเพาะอาหารในรายที่กินสารพิษหรือตามแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
9.12การสวนปัสสาวะหรือการเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะในรายที่ไม่มีความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ
9.13การสวนทางทวารหนัก ในรายที่ไม่มีข้อบ่งชี้อันตราย
9.14การตามหรือการใส่เผือกชั่วคราว
9.15การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
9.16การเจาะเก็บตัวอย่างเลือดจากหลอดเลือดส่วนปลายหรือปลายนิ้วหรือสารคัดหลั่งเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตามข้อบังคับหรือประกาศที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
9.17หัตถการอื่นๆตามที่สภาพยาบาลประกาศกำหนด
หมวดที่4 การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
(ข้อ16-35)
ส่วนที่1 การพยาบาลก่อนการตั้งครรภ์ ระยะตั้งครรภ์
ข้อ16 ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลขั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขั้นหนึ่งในการผดุงครรภ์แก่หญิงและครอบครัว
16.1การประเมินภาวะสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์และคู่สมรสพื่อวางแผนการมีบุตร
16.2การประเมินการตั้งครรภ์ด้วยเวชภัณฑ์ทดสอบการตั้งครรภ์
16.3การรับฝากครรภ์
ข้อ17 แนะนำและส่งต่อหญิงตั้งครรภ์ให้ตรวจและรักษาตามเกณฑ์การฝากครรภ์
ข้อ18 ส่งต่อหญิงตั้งครรภ์กลุ่มเสี่ยงให้ได้รับการรักษาพยาบาลหรือส่งต่อไปสถานพยาบาลที่มีความพร้อมฝากผู้ประกอบวิชาชีพเพื่อความปลอดภัย
ส่วนที่2 การพยาบาลระยะคลอด
ข้อ19 ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลขั้นหนึ่ง การผดุงครรภ์ขั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ได้เฉพาะรายที่ตั้งครรภ์ปกติ
ข้อ20 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลขั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขั้นหนึ่ง ให้การผดุงครรภ์ในระยะก่อนคลอด
ข้อ21 การพยาบาลระยะคลอด(Intrapartum)
ข้อ22 การช่วยเหลือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมทำคลอดในรายที่มีการคลอดผิดปกติ
ข้อ23 ห้ามผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ขั้นหนึ่งและผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขั้นหนึ่ง กระทำการดังนี้ การคลอดที่มีความผิดปกติ การเจาะน้ำคร่ำ การล้วงรก การกลับทารกในครรภ์และการทำแท้ง
ข้อ24 ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ขั้นหนึ่งและผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขั้นหนึ่ง จะช่วยคลอดฉุกเฉินในรายที่มีความผิดปกติที่ไม่สามารถตรวจพบก่อนการทำคลอด
ข้อ25 ในรายที่มีการตกเลือดหลังคลอดถ้าปล่อยไว้จะเป็นอันตรายแก่มารดาให้รักษาอาการตกเลือดเบื้องต้นตามความจำเป็นและส่งต่อในทันที
ส่วนที่3 การพยาบาลมารดาและทารก หลังคลอด(Postpartum)
ข้อ26 ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ขั้นหนึ่งและผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขั้นหนึ่ง ให้ทำการพยาบาลกับมารดาหลังคลอดอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ข้อ27 ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งและผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง จะต้องใช้ยาเพื่อป้องกันการติดเชื้อสำหรับหยอดตาหรือป้ายตาทารกแรกเกิดทันที
ข้อ28 การพยาบาลแรกเกิด โดยการประเมินสัญญาชีพ ความผิดปกติหรือความพิการที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนและให้มารดาได้สัมผัสโอบกอดทารกและเริ่มให้ดูดนมจากมารดาภายในชั่วโมงแรกหลังคลอด
ข้อ30 ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสองและผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นสอง ให้กระทำการพยาบาลระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอดและระยะหลังคลอด ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลและผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ห้ามไม่ให้กระทำในกรณีมีปัญหายุ่งยาก ซับซ้อน
ข้อ29 ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งและผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง จะต้องบันทึกประวัติของหญิงตั้งครรภ์ การพยาบาลระยะตั้งครรภ์ตามความจริง
ส่วนที่4 การวางแผนครอบครัวและการคัดกรองมารดาทารก
ข้อ31 ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งและผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง สามารถทำการพยาบาลและการวางแผนครอบครัวเช่นการให้คำปรึกษาคู่สมรส การใช้ยาและอุปกรณ์ เป็นต้น
ข้อ32 ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งและผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง สามารถทำการคัดกรองมารดาทารก คือการทำPap smer และการประเมินภาวะสุขภาพ ความผิดปกติและความพิการของทารก
ข้อ33 ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสองและผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นสอง การให้บริการวางแผนครอบครัวแบบใช้ยาหรืออุปกรณ์ เช่น ถุงยางอนามัย ยาเม็ดคุมกำเนิด วงแหวนคุมกำเนิด แผ่นแปะคุมกำเนิด
ส่วนที่5 การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแก่มารดาทารกแและเด็ก
ข้อ34 ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งและผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง จะให้ภูมิคุ้มกันโรค ต้องปฏิบัติตามแนวทางการให้ภูมิคุ้มกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด
ข้อ35 ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ให้คำแนะนำเรื่องการเข้ารับภูมิคุ้มกันโรคและติดตามให้มารับภูมิคุ้มกันโรค
นางสาวพิมพ์ชล ไชยรา เลขที่52 รหัส63123301100