Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4.4 อาหารสําหรับผู่วยโรคข้อกระดูกและข้อ - Coggle Diagram
บทที่ 4.4 อาหารสําหรับผู่วยโรคข้อกระดูกและข้อ
โรคกระดูกเสื่อมหรือข้อกระดูกอักเสบ (Osteoarthritis)
ปัจจัย
อายุมากกว่า 40ปี
โรคขออักเสบเรื้อรัง
ใช้งานข้อเข่าไม่เหมาะสม
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
อุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บ
สาเหตุ
ข้อกระดูกรับน้้ำหนักมากเกินไป
กระดูกอ่อนเสื่อมสภาพลง
ลักษณะอาการ
ปวดตื้อๆ ปวดเมื่ออากาศเย็นมากๆ ขัดๆข้อ ข้อฝืด ข้อเข่าโก่งงอ มีเสียงดังกรอบแกรบ
การรักษา
ใช้ยาตามคำสั่งแพทย์
พักผ่อนให้เพียงพอ
ออกกำลังกายประจำ
ใช้น้ำเย็นประคบเมื่อปวดบวม
ลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์
ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
การให้อาหาร
มีคาร์โบไฮเดรต 100-180 กรัม โปรตีน 80-100 กรัม ไขมัน 40-50 กรัมต่อวัน
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis )
สาเหตุ
ยังไม่ทราบแน่ชัด
ลักษณะของโรค
เยื่อบุ(Synovium) บวม หนาขึ้น และมีเซลล์ซ้อนกันหลายชั้น
อาการ
อ่อนเพลีย น้ําหนักลด ปวดกล้ามเนื้อไปทั่ว ปวดข้อ ข้อตึงฝืด
วิธีรักษา
พักผ่อนและกายภาพบําบัด
ใช้ยาบรรเทาอาการของโรคเท่านั้น
การให้อาหาร
อาหารควรมีลักษณะดังนี้
พลังงานสูง
โปรตีนเพียงพอ
คาร์โบไฮเดรตเพียงพอ
อาหารย่อยง่าย ทานง่าย
โรคเกาต์ (Gouty arthritis)
แหล่งของกรดยูริคในร่างกาย
จากอาหาร
จากการสังเคราะห์ในร่างกาย
สาเหตุของโรคเกาต์
การสร้างกรดยูริคมากเกินไป
การขับกรดยูริคน้อยเกินไป
อาการ
ปวดรุนแรงอย่างทันที มักเกิดที่หัวแม่เท้าเป็นแห่งแรก
กรดยูริคในเลือดสูง
ข้อกระดูกเปลี่ยนรูป มีปุ่มก้อนขึ้น
การรักษา
พักไม่ใช้ข้อที่เป็นโรคและไม่ให้ถูกความเย็น
ให้ยาระงับปวด
ควบคุมอาหาร
หลักการจัดอาหาร
ทานอาหารที่มีพิวรีนน้อย
จำกัดไขมัน
จำกัดพลังงาน
เลี่ยงการดื่มเหล้า
ดื่มน้ำมากๆ
ทานผลไม้สีม่วงแดง
โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis)
ประเภท
ปฐมภูมิ
เกิดจากการหมดประจําเดือนการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน
ทุติยภูมิ
เกิดจากการได้รับผลกระทบต่างๆจาก ไม่ได้รับแคลเซียมที่เพียงพอ การได้รับยา สูญเสียแคลเซียม ดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน
อาการ
ปวดตามกระดูกโดยเฉพาะกระดูกส่วนกลางที่รับน้ําหนัก ปวดตามข้อ หลังโก่ง
หลักการจัดอาหารและการปฏิบัติตัว
ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
ดื่มนมวัว หรือผลิตภัณฑ์นม
งดอาหารเค็มจัดและมีความเป็นกรดมาก
งดการดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ ชาและการสูบบุหรี่หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
ไม่ทานอาหารโปรตีนและอาหารจําพวกเส้นใยมากเกินไป
ไม่เครียดและไม่ลดความอ้วนมากเกินไป
บุคคลที่เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน
ผู้สูงอายุหรืออายุเกิน 35 ปี
หญิงวัยหมดประจําเดือนหรือผู้ที่ถูกตัดรังไข่ทั้งสองข้าง
ผู้ที่รูปร่างเล็ก เตี้ย ผอม หรือ น้้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
ใช้ยาบางชนิด
ทานอาหารเค็มจัดมากไป
ผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง
ขาดวิตามินดี