Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การสืบพันธุ์และการเจริญในสัตว์, การปฏิสนธิเกิดขึ้นในอวัยวะสืบพันธุ์เพศเมีย…
-
- การปฏิสนธิเกิดขึ้นในอวัยวะสืบพันธุ์เพศเมีย พบทั้งสัตว์น้ำและสัตว์บก
ตัวอ่อนเจริญนอกตัวแม่ เช่น ไก่ ตุ่นปากเป็ด และ ตัวอ่อนเจริญในตัวแม่แบ่งเป็น2แบบ 1.โอโววิวิพารัส ตัวอ่อนอาศัยอาหารในไข่แดง 2.วิวิพารัส ตัวอ่อนอาศัยอาหารทางรก
:
Testisหรืออัณฑะ ภายในจะมีseminiferous tubulesซึ่งเป็นหลอดสร้างอสุจิ epididymis(หลอดเก็บอสุจิ) seminal vesicle(ต่อมสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ) vas deferens(ท่อนำอสุจิ) prostate gland(ต่อมสร้างเบสอ่อนเพื่อสะเทินกรด)
เพศหญิงมีรังไข่ 2 ข้าง ทำหน้าที่ผลิตเซลล์สืบพันธ์เพศเมีย คือ เซลล์ไข่ และฮอร์โมนเพศหญิงที่ควบคุมลักษณะเพศหญิง เช่นการมีเสียงแหลมเล็ก เต้านมขยายใหญ่ สะโพกผาย รังไข่แต่ละข้างจะอยู่ใกล้กับปลายของท่อนำไข่ที่มีลักษณะเป็นปากแตร ส่วนปลายอีกข้างหนึ่งของท่อนำไข่เปิดเข้าสู่มดลูก ซึ่งมีผนังหนาประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื้อด้านในซึ่งสามารถแบ่งตัวได้เพื่อรอรับการฝังตัวของเอ็มบริโอ บริเวณที่มดลูกติดต่อกับช่องคลอด เรียกว่า และปากมดลูก ไข่กับสเปิร์มปฏิสนธืที่ท่อนำไข่
เมื่อเซลล์ไข่เจริญเต็มที่เรียกว่า ไข่สุก พร้อมที่จะได้รับการผสม เซลล์ไข่จะหลุดออกจากรังไข่เข้าสื่อนำไข่ เรียกกระบวนการนี้ว่า การตกไข่ โดยปกติเพศหญิงที่อยู่ในวัยที่สามารถสืบพันธุ์ได้หรือที่เรียกว่า วัยเจริญพันธุ์นั้น จะตกไข่เดือนละ 1 เซลล์ ในแต่ละเดือนขณะที่รังไข่สร้างไข่ และตกไข่ผนังด้านในของมดลูกจะมีการเปลี่ยนแปลง
เริ่มจากเซลล์เริ่มต้นที่เรียกว่า primary spermatocyte; 2n ที่เป็นเนื้อเยื่อเจริญในอัณฑะ เซลล์นี้เพิ่มจำนวนตัวเองโดยการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส เมื่อเซลล์นี้มีการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส จะได้เซลล์ที่เป็นแฮพลอยด์ เรียกว่า secondary spermatocyte เมื่อเซลล์นี้แบ่งเซลล์ต่อจนเสร็จสิ้นไมโอซิส จะได้สเปิร์มเริ่มต้น (developing sperm cell) ซึ่งจะพัฒนาต่อไปจนได้สเปิร์มที่สมบูรณ์
เป็นการสร้างเซลล์ไข่ เกิดในรังไข่ ซึ่งมีเซลล์เริ่มต้นเรียกprimary oocyte ซึ่งจะเพิ่มจำนวนตัวเองด้วยการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส เมื่อเซลล์นี้เริ่มแบ่งตัวแบบไมโอซิส จะค้างอยู่ที่ระยะโพรเฟส I จนกระทั่งได้รับฮอร์โมน FSH จึงแบ่งตัวต่อจนสิ้นสุดไมโอซิส I ได้ 2 เซลล์ขนาดไม่เท่ากัน เซลล์ที่มีขนาดใหญ่เรียกว่า secondary oocyte เซลล์ที่มีขนาดเล็กเรียกว่า first polar body secondary oocyte จะแบ่งตัวต่อไปจนถึงระยะเมตาเฟส II แล้วค้างไว้จนกระทั่งตกไข่ เมื่อไข่ตกแล้วถ้าไม่ได้รับการผสม เซลล์ไข่จะฝ่อไป ถ้าได้รับการผสม secondary oocyteจะแบ่งตัวต่อจนสิ้นสุดไมโอซิส II ได้เซลล์ไข่กับ second polar body หลังจากนั้นเซลล์ไข่จะปฏิสนธิกับสเปิร์มได้ไซโกต
- binary fission(การแบ่งตัวเป็น2ส่วน)
-
- budding(การแตกหน่อ) เช่นการแตกหน่อของไฮดรา
- regeneration(การงอกใหม่) เช่นการงอกหางใหม่ของจิ้งจก
- fragmentation(การขาดเป็นท่อน)เช่นการขาดเป็นท่อนของดาวทะเล พานาเรีย
- โพรโทซัว2เซลล์จับคู่กันเรียกว่าคอนจูเกชั่น เช่นการคอนจูเกชันของพารามีเซียม
- เป็นการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศโดยไม่มีการรวมตัวของเซลล์สืบพันธุ์ โดยเซลล์สืบพันธุ์เพศเมียจะเจริญไปเป็นไข่โดยตรงเรียกว่า parthenogenesis เช่น มด ต่อ แตน
- เป็นการปฏิสนธิของสัตว์น้ำ เช่น กบ เขียด จะออกลูกเป็นไข่
- มีอัณฑะสร้างเซลล์อสุจิ มีรังไข่สร้างเซลล์ไข่และอสุจิรวมกับไข่เกิดการปฏิสนธิได้ไซโกต ไซโกตพัฒนาเป็นเอ็มบริโอต่อไป
- การเพิ่มจำนวนเซลล์ โดยแบ่งเซลล์แบบไมโทซีส เช่น การแบ่งเซลล์ของเนื้อเยื่อร่างกาย
- การเติบโตหรือการเพิ่มขนาด
-
-
-
-
เป็นระยะที่เซลล์ยื่นเข้าไปข้างในเกิดเป็นเนื้อเยื่อ3ชั้นคือ เอคโตเดิร์ม
เอนโดเดิร์มและ มีโซเดิร์ม พร้อมกับเกิดช่องว่างใหม่เรียกว่า แกสโตรซีล
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
- การมีประจำเดือน
ประจําเดือน หมายถึงเลือดและเยื่อบุโพรงมดลูกที่ลอกหลุดออกมาทุกรอบเดือน เป็นเรื่องธรรมชาติของผู้หญิงเรา ประจำเดือนเกิดจากอิทธิพลของฮอร์โมน 4 ชนิดซึ่งมีหน้าที่ควบคุมระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง ระดับฮอร์โมนเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นและลดลงในแต่ละรอบเดือน เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมกับการตั้งครรภ์ หากไม่มีการปฏิสนธิระหว่างไข่และอสุจิ ร่างกายจะขับเลือดออกจากช่องคลอดทุกรอบเดือนค่ะ
- วิธีใช้ คือ ให้ถอดฝาครอบออกพร้อมกับถือแท่งทดสอบโดยให้หัวลูกศรชี้ลง จากนั้นให้ปัสสาวะผ่านบริเวณที่ดูดซับน้ำปัสสาวะซึ่งจะอยู่ต่ำกว่าลูกศร ปัสสาวะผ่านให้ชุ่มประมาณ 5 นาที จากนั้นให้ถือ หรือวางแท่งทดสอบการตั้งครรภ์ไว้ในแนวราบ รออ่านผลได้ตั้งแต่ประมาณ 30 วินาทีเป็นต้นไป เพื่อความแน่นอน แนะนำว่าให้รอเวลาประมาณ 3 - 5 นาที จะเห็นผลได้ชัดเจนมากที่สุด
-
-