Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

พยาธิสภาพของกล้ามเนื้อและกระดูก - Coggle Diagram

- - - - Osteocytes
        
        Osteoclast
        
        หน้าที่ดดูซึมและทำลากรดูก(resorption)ซึ่งosteoblastและosteoclastจะทำงานประสาร กันในขบวนการสรา้งกระดูก การทำลายและดดูซึมกระดูก
        อายุน้อยยกว่า30ปีจะมีการสร้าง มากกว่าทำลายและเมื่ออายุมากกว่า 40ปี จะเริ่มมีการทำลายมากกว่าการสร้าง
        
        มีบทบาทในการควบคมุระดับของแคลเซียมและฟอสฟอรัสในserum,
        osteocytesจะติดต่อกับ เซลล์อื่นๆ ผ่านทาง canaliculi ทำให้ สารต่าง ๆ และ surface membrane potentials สามารถ ส่งผ่านถึงกันได้
      - •พบอยู่บริเวณผิวของกระดูกหน้าที่สร้างขนส่งและจัดรูปสารพวกโปรตีนท่ีเป็นMetrixของ กระดกู มีreceptorsของฮอร์โมนที่จาเป็นต่อการสรา้งกระดูกและทำลายกระดกู ได้เเก่ parathyroid hormone, Vit D, estrogen, cytokines ang growth factors เมื่อสร้าง Metrix ล้อมกรอบ ไว้แล้วจะเรียกว่าosteocytes
- - - - ได้รับแรง กระแทก แตกหัก
      - ความเสื่อมจากพฤติกรรม
      - ความ เสื่อมตามวัย
  - - - ส่วนใหญ่เกิดจากการทางานท่ีผิดปกติของ Osteoclast (Diseases cause by osteoclast dysfunction)
      - Osteopetrosis หรือเรียกว่า Marble bone disease หรือ Albers -Schonberg disease เกิดจากการทำงานของ Osteoclast ผิดปกติทำให้กระดูกหนาทั่ว ๆ ไปทั้ง 2 ข้างของร่างกาย (diffuse symmetric skeleton sclerosis) กระดูกที่พบจะแข็งเหมือนหิน (Stone like quality) แต่เปราะและแตกง่ายเหมือนชอล์ค
      - สาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากการขาดเอนไซม์ carbonic anhydrase ll ของ osteoclast และเซลล์ท่อไต (Renal tubular cells) ในการขับ hydrogen ions ทำให้สิ่งแวดล้อมของเซลล์มีสภาพเป็นกรดการขาดเอนไซม์ carbonic anhydrase | ทำให้ osteoclast ไม่สามารถย่อยสลายและดูดซึม metrix ของกระดูกได้
      - ลักษณะกระดูกของผู้ป่วย Osteopetrosis จะเป็นกระดูกที่ไม่มีช่องไขกระดูกและผิดรูปร่าง
      - เริ่มเกิดโรคได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์เป็น autosomal recessive (อาการรุนแรง) ซึ่งส่วนใหญ่เด็กจะเสียชีวิตทันทีหลังคลอดเนื่องจากน้ำคั่งในช่องสมอง (Hydrocephalus) แต่ถ้าไม่เสียชีวิตมักจะมีปัญหากับ cranial nerve ก็จะพบว่ามีปัญหาการมองเห็นใบหน้าเป็นอัมพาตหูหนวก
      - หรืออาจเสียชีวิตจากการติดเชื้อเนื่องจากไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดไม่เพียงพอพบตับและม้ามโตจากการสร้างเม็ดเลือตนอกไขกระดูก
      - กรณีเป็น autosomal dominant จะตรวจพบตอนเป็นวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ซึ่งจะพบกระดูกหักหลายตำแหน่งซีดมีความผิดปกติของ cranial nerve
    - - Paget's disease (osteitis deformans) เป็นความผิดปกติของคอลลาเจนใน Metrix ของกระดูกโดยเริ่มต้นคือกระดูกมีการอักเสบ (Osteitis) โดยเฉพาะการติดเชื้อจากเชื้อไวรัสชนิด retrovirus ซึ่งจะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่ง IL-6 แล้ว Osteoblast จะหลั่ง cytokine อย่างมากจนเกิดกระบวนการทำลายกระดูกจาก Osteoclast อย่างรุนแรงมากและมีการสร้างกระดูกใหม่ที่มีโครงสร้างผิดปกติมาทดแทน (พบในคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป) พบในคนผิวขาวเป็นส่วนใหญ่
      - การตรวจทางห้องปฏิบัติการจะพบ alkaline phosphatase ในซีรั่มสูง
      - เอ็กเรย์มักจะพบกระดูกเป็น mosaic pattern ของ Jamellar bone คือมีลักษณะเป็นรูปต่อ (Jigsaw puzzle)
      - อาการเด่น ๆ ทางคลินิกคือปวดกระดูกอาจมีสาเหตุมาจากการเจริญของกระดูกมากไปจนไปกดทับเส้นประสาท spinal and cranial nerve roots
  - - - Rickets and Osteomalacta เป็นกลุ่มโรคที่มีสาเหตุแตกต่างกัน แต่มีลักษณะของโรคคล้ายกันคือมีความผิดปกติในสารอนินทรีย์ใน Metrix ของกระดูกซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับการขาดวิตามิน D
      - Rickets หมายถึงความผิดปกติของการเจริญเติบโตของกระดูกทำให้กระดูกผิดรูป แต่ถ้าเกิด luglnoj ten Osteomalacia
      - เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการ remodeling จะไม่มีการสะสมของสารอนินทรีย์ในกระดูกทำให้เนื้อกระดูกลดลง (Osteopenia) และหักง่าย
      - สาเหตุของโรคคือขาดวิตามิน D ขาตฟอสเฟตขาต Alkaline phosphatase และอื่น ๆ อีกหลายตัว
      - อาการเด่น ๆ ทางคลินิกคือปวดกระดูกเดินเหมือนเป็ตมีลักษณะ psuedofracture ภาพเหมือนกระดูกหัก แต่ไม่ใช่) เด็กที่เป็น Fickets จะมีขาโก่งกระดูกอ่อนที่ต่อกับ กระดูกซี่โครงจะขยายใหญ
      - การตรวจเลือดจะพบว่ามีฟอสเฟตในเลือดต่ำต่อมพาราไธรอยดท์างานมากกว่าปกติแคลเซี่ยมในเลือดต่ำแคลเซี่ยมในปัสสาวะต่ำมาก(<50mg/day)
- - - - เกิดจากการสึกหรอหรือการเสื่อมของข้อโดยไม่มีสาเหตุนำมาก่อนมักพบในคนอ้วนหรือคนที่ยกของหนักประจำนอกจากนี้ยังพบว่าอายุเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งโดยพบบ่อยในผู้สูงอายุและพบมากในเพศหญิง
    - - เกิดจากมีความผิดปกติของข้อมาก่อนเช่นมีความผิดปกติมา แต่กำเนิดการได้รับบาดเจ็บหรือมีการอักเสบของข้อเช่น hip dislocation, hip displasia, rheumatoid arthritis, และ gout เป็นต้นหรือเป็นผลจากโรคอื่น ๆ เช่น hemophilia และ agromegaly เป็นต้นซึ่งการเสื่อมสภาพของข้อชนิดนี้สามารถเกิดได้กับทุกคนทุกเพศและทุกวัย
  - - - Acute Osteomyelitis
        
        1.จัดให้อวัยวะส่วนที่มีพยาธิสภาพอยู่นิ่ง (immobilize) มากที่สุดเพื่อให้การอักเสบอยู่ในวง จำกัด ไม่ลุกลามไปที่ข้อใกล้เคียง
        
        การให้ยาปฏิชีวนะ
        
        ให้น้ำเกลือกรณีเกิดภาวะขาดดุลของน้ำและเกลือแร่
        
        ให้อาหารพวก high protein, high calories และ high vitamin c
        
        ทำการผ่าตัดเอาหนองออก
    - - การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเพียงอย่างเดียวไม่ได้ผลจึงมีการนำ antibiotic cement bead (Gentamycin PMMA) ซึ่งมีลักษณะโครงสร้างคล้ายลูกปัดร้อยเป็นพวงมาใช้ในการรักษาโดยทำการผ่าตัดใส่ไว้บริเวณกระดูกที่มีการอักเสบเรื้อรัง แต่ยังไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรจึงมีการทำผ่าตัดเพื่อเอากระดูกที่ตายออกให้หมดหรือที่เรียกว่า sequestrectomy และทำให้บริเวณที่มีการอักเสบเรื้อรังมีเลือดมาเลี้ยงอย่างทั่วถึงซึ่งนับเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด
- - - - เป็นแหล่งสะสมของ CALCIUM
      - ช่วยการ เคลื่อนไหว
      - สร้างเม็ดเลือด
      - ปกป้องอวัยวะที่ สาคัญภายใน
        ร่างกาย
      - เป็นที่ยึด เกาะของ เส้นเอ็น กล้ามเน้ือ