Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาล…
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2564
แบ่งเป็น ๔ หมวด
หมวดที่ ๑ บททั่วไป
หมวดที่ ๔ การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
ส่วนที่ ๒ ระยะคลอด
ส่วนที่ ๓ การพยาบาลมารดาและทารก ระยะหลังคลอด
ส่วนที่ ๑ ระยะก่อนตั้งครรภ์และระยะตั้งครรภ์
ส่วนที่ ๔ การวางแผนครอบครัวและคัดกรองมารดาและทารก
หมวดที่ ๓ การรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันฯ
หมวดที่ ๒ การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ส่วนที่ ๑ การพยาบาล
ส่วนที่ ๒ การหัตถการ
หมวดที่ ๑ บททั่วไป
ข้อ ๔ ในข้อบังคับนี้
การรักษาโรคเบื้องต้น หมายถึง กระบวนการประเมินภาวะสุขภาพ การตรวจร่างกาย การวินิจฉัยแยกโรค การรักษาโรคและการบาดเจ็บ การป้องกันโรค การปฐมพยาบาล
การเจ็บป่วยฉุกเฉิน หมายถึง การได้รับบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยกระทันหัน ซึ่งเป็นภยันตรายต่อการดำรงชีวิตจำเป็นต้องได้รับการประเมิน การบำบัดรักษาอย่างทันท่วงที
การให้ภูมิคุ้มกัน หมายความว่า กระบวนการที่ทำให้ร่างกายสร้าง หรือเกิดภูมิคุ้มกัน
การเจ็บป่วยวิกฤต หมายความว่า การเจ็บป่วยที่มีความรุนแรงถึงขั้นที่อาจทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิตหรือพิการได้
การปฐมพยาบาล หมายความว่า การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บ โดยดูแลเพื่อบรรเทาอาการ ส่งเสริมการฟื้นหาย
หมวดที่ ๒ การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ส่วนที่ ๒ การทำหัตถการ
ข้อ ๙ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง กระทำการพยาบาลโดยการทำหัตถการตามขอบเขตที่กำหนด ดังนี้
๙.๑ การทำแผล การตกแต่งบาดแผล การเย็บแผลขนาดลึกไม่เกินชั้นเนื้อเยื่อไขมันใต้ผิวหนัง และ ไม่อยู่ในตำแหน่งซึ่งเป็นอันตรายต่ออวัยวะสำคัญของร่างกายโดยใช้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะที่หรือการตัดไหมในตำแหน่งที่ไม่เป็นอันตราย การดูแลรักษาบาดแผลไหม้ แผลน้ำร้อนลวก หรือสารเคมีไม่เกินระดับ ๒ ของแผลไหม้
๙.๒ การผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอม การผ่าฝี การผ่าตัดตาปลา การเลาะก้อนใต้ผิวหนังในบริเวณที่อยุ่ในตำแหน่งซึ่งไม่เป็นอันตรายต่ออวัยวะที่สำคัญของร่างกาย โดยใช้ยาระงับความรู้สึก ทางผิวหนังหรือฉีดยาชาเฉพาะที่ ในการเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากอวัยวะ
๙.๔ การให้ออกซิเจน
๙.๓ การถอดเล็บ การจี้หูดหรือจี้ตาปลา โดยใช้ยาระงับความรู้สึกทางผิวหนัง หรือฉีดยาเฉพาะที่
๙.๕ การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ในผู้ป่วยที่มีภาวะวิกฤต ภาวะสูญเสียสมดุลของสารน้ำในร่างกาย ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อภาวะช็อค การปฐมพยาบาล หรือตามแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
๙.๖ การให้ยาทางปาก ทางผิวหนัง ทางหลอดเลือดดำ หรือ ช่องทางอื่นๆ ตามแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือตามที่สภาพการพยาบาลประกาศกำหนด
๙.๗ การให้เลือด ตามแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
๙.๘ การเปิดทางเดินหายใจโล่งด้วยการดูดเสมหะ การเคาะปอด
๙.๙ การช่วยฟื้นคืนชีพ เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตของผู้ป่วย
๙.๑๐ การเช็ดตา ล้างตา หยอดตา ป้ายตา ปิดตา หรือ การล้างจมูก
๙.๑๒ การสวนปัสสาวะ หรือการเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะ ในรายที่ไม่มีความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ
๙.๑๓ การสวนทางทวารหนักในรายที่ไม่มีข้อบ่งชี้อันตราย
๙.๑๕ การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
๙.๑๔ การดาม หรือ การใส่เฝือกชั่วคราว
๙.๑๗ หัตถการอื่นๆ ตามที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
๙.๑๖ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือดจากหลอดเลือดดำส่วนปลายหรือปลายนิ้วหรือสารคัดหลั่ง เพื่อตรวจทางห้องปฏิบัติการตามข้อบังคับหรือประกาศที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
๙.๑๑ การสอดใส่สายยางลงไปในกระเพาะอาหารเพื่อให้อาหาร ให้ยา หรือล้างกระเพาะอาหารในรายที่กินสารพิษ หรือตามแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
ส่วนที่ ๑ การพยาบาล
ข้อที่ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่งผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการพยุงครรภ์ ชั้นหนึ่งกระทำโดยใช้กระบวนการพยาบาล
๕.๑ การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของบุคคล การตรวจประเมินภาวะสุขภาพ การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคและการบาดเจ็บ การปฐมพยาบาล การบำบัดโรคเบื้องต้น และการฟื้นฟูสุขภาพ ทั้งรายทั่วไป รายที่ยุ่งยาก ซับซ้อน หรือการเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือวิกฤต
๕.๒ การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย
การวางแผนการดูแลต่อเนื่อง และการเสริมสร้างพลังอำนาจในการดูแลตนเองของประชาชน
๕.๓ การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อการส่งเสริมสุขภาพการป้องกัน การควบคุม และ การแก้ไขปัยหาความเจ็บป่วยหรือวิกฤต
๕.๔ การปฎิบัติการพยาบาลตามแผนการพยาบาลหรือแผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม การใช้เครื่องมือพิเศษ กาติดตามผลรวมทั้งการประสานทีมสุขภาพ
ในการจัดบริการ ให้เป็นไปตามมาตรฐานการพยาบาลที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
๕.๕ การให้การพยาบาลที่บ้านและการส่งเสริมความสามารถของบุคคล ครอบครัว และชุมชนเพื่อใช้ชีวิตอย่างปกติสุขหรือสามารถจัดการวิถีชีวิตให้อยู่กับความเจ็บป่วยและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตามศักยภาพ
ข้อ ๖ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการพดุงครรภ์
ชั้นหนึ่ง จะให้ยาผู้รับบริการได้เฉพาะที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งเป็นผู้บำบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษา หรือ เมื่อเป็นการรักษาโรคเบื้องต้น หรือ การการปฐมพยาบาล
๖.๑ ห้ามให้ยา หรือ สารละลายในช่องรอบเยื่อบุไขสันหลังหรือช่องไขสันหลัง หรือสวนทางหลอดเลือดดำส่วนกลางและช่องทางอื่น ตามที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
๖.๒ ห้ามให้ หรือสารละลาย หรือสายที่เกี่ยวข้องกับรังสีวินิจฉัย และยาอื่น ตามที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
ข้อ ๗ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นนสอง ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นนสอง ให้กระทำการพยาบาลที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนตามแผนการรักษาพยาบาล ในกรณีที่มีปัญหา ยุ่งยาก ซับซ้อน หรือเป็นการเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือวิกฤต
ข้อ ๘ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นสอง จะให้ยาผู้รับบริการได้เฉพาะการให้ยาทางปากและยาภายนอก ตามที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งผู้บำบัดโรคได้ระบุไว้ในการรักษาหรือเมื่อเป็นการปฐมพยาบาลและห้ามใช้ยาในชนิด และช่องทางตามที่สภาการพยาบาลประกาศตาม ข้อ๖.๑ และ ๖.๒
หมวดที่ ๓ การรักษาโรคเบื้องต้น
ข้อ ๑๐ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผุ้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ให้กระทำการประกอบวิชาชีพการพยาบาลตามข้อกำหนดของสภาการพยาบาลในการรักษาโรค เบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค ดังนี้
๑๐.๑ ไข้ตัวร้อน
๑๐.๒ ไข้และมีผื่นหรือจุด
๑๐.๓ ไข้จับสั่น
๑๐.๔ ไอ
๑๐.๕ ปวดศีรษะ
๑๐.๖ ปวดเมื่อย
๑๐.๗ ปวดหลัง
1 more item...
๑๐.๑๑ ท้องเดิน
๑๐.๑๒ คลื่นไส้อาเจียน
๑๐.๑๓ การอักเสบต่างๆ
๑๐.๑๔ โลหิตจาง
๑๐.๑๕ ดีซ่าน
๑๐.๑๖ โรคขาดสารอาหาร
๑๐.๑๗ อาหารเป็นพิษ
1 more item...
๑๐.๒๑ โรคหัด
๑๐.๒๒ โรคสุกใส
๑๐.๒๓ โรคคางทูม
๑๐.๒๔ โรคไอกรน
๑๐.๒๕ โรคผิวหนังเหน็บชา
๑๐.๒๖ ปวดฟัน
๑๐.๒๗ เหงือกอักเสบ
1 more item...
ข้อ ๑๑ ผู้ประกอบอาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
ข้อ ๑๑.๑ สาขาที่ศึกษาเฉพาะทาง
๑๑.๑.๔ สาขาเวชปฏิบัติการบำบัดทดแทนไต
๑๑.๑.๕ สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติการบำบัดทดแทนไต
๑๑.๑.๓ สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติฉุกเฉิน
๑๑.๑.๖ สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติผู้สูงอายุ
๑๑.๑.๒ สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติทางตา
๑๑.๑.๗ สาขาการพยาบาลผู้ป่วยวิกฤต
๑๑.๑.๑ สาขาเวชปฏิบัติทั่วไป
๑๑.๑.๘ สาขาการพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อและการควบคุมการติดเชื้อ
๑๑.๑.๙ สาขาการพยาบาลผู้ป่วยมะเร็ง
๑๑.๑.๑๐ สาขาการพยาบาลโรคหัวใจและหลอดเลือด
๑๑.๑.๑๑ สาขาการพยาบาลผู้ป่วยแบบประคับประคอง
๑๑.๑.๑๒ สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติครอบครัว
๑๑.๑.๑๓ สาขาการจัดการโรคเรื้องรัง
1 more item...
๑๑.๒ ผู้ผ่านการอบรมหลักสูตร และได้รับหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตร ที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด ในสาขาต่อไปนี้
๑๑.๒.๑ การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
๑๑.๒.๒ การพยาบาลเด็ก
๑๑.๒.๓ การพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต
๑๑.๒.๔ การพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อและการควบคุมการติดเชื้อ
๑๑.๒.๕ การพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน
๑๑.๒.๖ การผดุงครรภ์
1 more item...
๑๑.๓ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ตามข้อ ๑๑.๑ และ ข้อ ๑๑.๒ นอกจากปฏิบัติตามข้อ ๙ และ ข้อ ๑๐ ได้แล้ว สามารถทำการพยาบาล การรักษาโรคเบื้องต้น และ หัตถการ ในสาขาที่ผ่านการศึกษาฝึกอบรม ตามข้อบังคับหรือประกาศที่สภาการพยาบาลกำหนด
ข้อ ๑๒ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่งต้องกระทำการรักษาโรคเบื้องต้นตามข้อกำหนดของสภาการพยาบาลในการรักษาโรคเบื้องต้น และการให้ภูมิคุ้มกันโรคโดย
๑๒.๑ ตรวจวินิจฉัยและบำบัดรักษาโรค ตามมาตรฐานของการประกอบวิชาชีพการพยาบาลที่สภาการพยายาลประกาศกำหนด
๑๒.๒ ให้ส่งผู้ป่วยไปรับการบำบัดรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพอื่น เมื่อปรากฏตรวจพบหรือพิจารณาแล้วเห็นว่าอาการไม่บรรเทา อาการรุนแรงเพิ่มขึ้น มีโรคหรือภาวะแทรกซ้อน เป็นโรคติดต่อที่ต้องแจ้งความตามกฏหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือมีเหตุอันควรอื่นๆ เกี่ยวกับการบำบัดการรักษา
ข้อ ๑๓ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ถ้าจำเป็นต้องใช้ยาได้ตามคู่มือการใช้ยาที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
ข้อ ๑๕ ต้องมีบันทึกรายงานเกี่ยวกับประวัติของผู้ป่วย หรือผู้รับบริการ อาการ และ เจ็บป่วย โรค การพยาบาล การให้การรักษา หรือ การให้บริการ วันเวลาในการให้บริการ
ชื่อผู้ประกอบวิชาชีพ ตามความเป็นจริง ตามแบบของสภาการพยาบาล เก็บบันทึกและรายงาน ไว้เป็นหลักฐานเป็นเวลา ๕ ปี
หมวดที่ ๔ การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
ส่วนที่ ๑ การพยาบาลก่อนการตั้งครรภ์ ระยะตั้งครรภ์
ข้อ ๑๖ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ให้การผดุงครรภ์แก่หญิงและครอบครัว เมื่อต้องการมีบุตร ก่อนการตั้งตั้งครรภ์ ระยะตั้งครรภ์ ด้วยกระบวนการ ดังนั้น
๑๖.๑ การตรวจประเมินภาวะสุขภาพของหญิงและคู่สมรสเพื่อวางแผนการมีบุตร
๑๖.๒ การตรวจประเมินภาวะการตั้งครรภ์ด้วยเวชภัณฑ์ทดสอบการตั้งครรภ์
๑๖.๓ การรับฝากครรภ์
๑๖.๓.๑ การประเมินภาวะสุขภาพด้านร่างกายและจิตใจของหญิงมีครรภ์ การสอนการปฏิบัติตนของบิดาและมารดาในระหว่างตั้งครรภ์ การคลอดและหลังคลอด เพื่อการเตรียมการคลอด
๑๖.๓.๒ การประเมินการเจ็บป่วยในอดีตและปัจจุบันที่อาจมีผลกระทบกับการตั้งครรภ์ การคลอด การผ่าตัดอื่นที่นอกเหนือไปจากการผ่าตัดคลอด การใช้ยา การแพ้ยาและอาหาร
๑๖.๓.๓ การประเมิน ประวิตทางสูติกรรม จำนวนครั้งที่เคยตั้งครรภ์ ผลการตั้งครรภ์แต่ละครั้ง รายละเอียดการคลอด ภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์และการคลอดครั้งก่อน
๑๖.๓.๔ การตรวจร่างกายทั่วไปและการประเมินภาวะโภชนาการของหญิงมีครรภ์
๑๖.๓.๕ การตรวจสอบครรภ์และทารกในครรภ์ เพื่อประเมินภาวะของการตั้งครรภ์และตรวจเต้านมและหัวนม เพื่อเตรียมพร้อมให้นมมารดา
๑๖.๓.๖ ให้ยาเสริมธาตุเหล็กและโฟเลตแก่หญิงมีครรภ์
๑๖.๓.๗ การให้วัคซีนป้องกันบาดทะยัก และ วัคซีนอื่นตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด
ข้อ ๑๗ แนะนำและส่งต่อหญิงมีครรภ์ให้ได้รับการตรวจและการรักษากับผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตามเกณฑ์การฝากครรภ์ที่ครรภ์ที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด
ข้อ ๑๘ ส่งต่อหญิงมีครรภ์กลุ่มเสี่ยงตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขหรือการตรวจพบภาวะครรภ์เป็นพิษ
ส่วนที่ ๒ การพยาบาลระยะคลอด
ข้อ ๑๙ ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง จนกระทั่งการผดุงครรภ์ได้แต่เฉพาะรายที่ตั้งครรภ์ปกติและคลอดอย่างปกติ ตลอดจนการดูแลมารดาและทารกแรกเกิด
ข้อ ๒๐ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ให้การผดุงครรภ์หยฺงมีครรภ์ ระยะก่อนคลอด ดังนี้
๒๐.๑ การประเมินหญิงมีครรภ์
๒๐.๑.๑ การประเมินประวัติการตั้งครรภ์และประวัติการเจ็บป่วยอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์และการคลอด
๒๐.๑.๒ การตรวจทางหน้าท้องเพื่อประเมินความพร้อมในการคลอด
๒๐.๒ การตรวจประเมินทารกในครรภ์
๒๐.๒๑ การตรวจการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์
๒๐.๒.๒ ประมาณน้ำหนักทารกในครรภ์
๒๐.๒.๓ ส่วนน้ำและท่าทารกในครรภ์
๒๐.๓ การประเมินความก้าวหน้าของการคลอด
ข้อ ๒๑ การพยาบาล ระยะคลอด
๒๑.๑ การพยาบาลหญิงมีครรภ์ที่ได้รับการชักนำการคลอด
๒๑.๒ การทำคลอดในรายปกติเตรียมทำคลอดเมื่อปากมดลูกเปิดสมบูรณ์แล้วส่วนนำอยู่ในอุ้งเชิงกรานพร้อมคลอด ตัดฝีเย็บตามข้อบ่งชี้ การทำคลอดการดูแลทารกแรกเกิดทันที
๒๑.๓ ทำคลอดรก และ เยื่อหุ้มทารกโดยใช้วิธี Modified Crede Maneuver การตรวจรกและเยื่อหุ้มรก ในรายที่รกค้าง
๒๑.๔ การเย็บซ่อมแซมฝีเย็บ ในรายที่มีการฉีกขาดที่ไม่เกินระดับ ๒
๒๑.๕ การประเมินการเสียเลือด
1 more item...
ข้อ ๒๒ การช่วยเหลือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมทำคลอด ในรายที่มีการคลอดผิดปกติ เช่น การคลอดติอไหล่หน้า หรือการใช้เครื่องมือช่วยคลอดด้วยเครื่องสุญญากาศด้วยคีม หรือการทำผ่าตัดคลอด การช่วยทำหัตถการทางสูติกรรมที่มีความปลอดภัยต่อหญิงมีครรภ์
ข้อ ๒๔ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่งจะกระทำการการช่วยคลอดฉุกเฉินในรายที่มีการคลอดผิดปกติที่ไม่สามารถตรวจพบก่อนการทำคลอด และ ไม่สามารถหาผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมทำการคลอดได้ภายในเวลาอันสมควร และ เห็นประจักษ์ว่าถ้าละเลยไว้จะเป็นอันตรายต่อมารดาหรือทารกก็ให้ทำคลอดในรายเช่นนั้นได้แต่ห้ามใช้คีมสูงในการทำคลอด หรือใช้เครื่องดูดสุญญากาศในการทำคลอดหรือการผ่าตัดในการทำคลอด หรือ ให้ยารัดมดลูกก่อนคลอด
ข้อ ๒๕ ในรายที่มีการตกเลือดหลังคลอดถ้าปล่อยทิ้งไว้จะทิ้งไว้เป็นอันตรายต่อมารดาให้รักษาอาการตกเลือดเบื้องต้นตามความจำเป็น และ ส่งต่อทันที
ข้อ ๒๓ ห้ามผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง กระทำการที่เกี่ยวกับการคลอด
๒๓.๑ การเจาะน้ำคร่ำ เพื่อตรวจภาวะการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
๒๓.๒ การทำคลอดที่มีความผิดปกติ
๒๓.๓ การล้วงรก
๒๓.๔ การกลับท่าของทารกในครรภ์ทั้งภายในและภายนอกครรภ์
1 more item...
ส่วนที่ ๓ การพยาบาลมารดา และ ทารก ระยะหลังคลอด
ข้อ ๒๖ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ให้การพยาบาลกับมารดาหลังคลอดอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะภาวะตกเลือดหลังคลอด และ หรือ อาการอื่นที่อาจจะเกิดขึ้น
ข้อ ๒๗ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง จะต้องใช้ยาทำลาย และ ป้องกันการติดเชื้อสำหรับหยอดตา หรือ ป้ายตาทารกแรกเกิดทันที
ข้อ ๒๘ การพยาบาลทารกแรกเกิด โดยการประเมินสัญญาณชีพ ความผิดปกติ หรือความพิการที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน และให้มารดาได้สัมผัสโอบกอดทารกและเริ่มให้ดูดนมจากมารดาภายในชั้วโมงแรกหลังคลอด
ข้อ ๒๙ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง จะต้องบันทึก รายงานเกี่ยวกับประวัติของหญิงตั้งครรภ์ การพยาบาลระยะตั้งครรภ์ การคลอด การพยาบาลหลังคลอด และการให้การบริการตามความเป็นจริง ตามแบบของสภาการพยาบาล และ ต้องเก็บบันทึกรายงานไว้เป็นหลักฐาน เป็นระยะ ๕ ปี
ข้อ ๓๐ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง และผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ให้กระทำการพยาบาล ระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และ การพยาบาลหลังคลอดในรายตั้งครรภ์และการคลอดปกติ ในสถานการณ์พยาบาลและการเยี่ยมบ้านที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนตามแผนการพยาบาลมารดาและทารกแรกเกิด เมื่อเป็นการทำร่วมกับผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ห้ามไม่ให้กระทำในกรณีที่เป็นปัญหายุ่งยาก ซับซ้อน หรือตรวจพบความผิดปกติ
ส่วนที่ ๔ การวางแผนครอบครัวและการคัดกรองมารดาทารก
ข้อ ๓๑ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง สามารถกระทำการวางแผนครอบครัว แบบวิธีธรรมชาติ/การคุมกำเนิด ด้วยวิธีธรรมชาติไม่ต้องใช้ยาหรืออุปกรณ์
๓๑.๑การให้บริการวางแผนครอบครัวแบบใช้ยาหรืออุปกรณ์
๓๑.๒ การให้บริการวางแผนครอบครัวแบบใช้ยาหรืออุปกรณ์
๓๑.๒.๑ ยาเม็ดคุมกำเนิด
๓๑.๒.๒ ยาฉีดคุมกำเนิด
๓๑.๒.๓ ถุงยางอนามัย
๓๑.๒.๔ วงแหวนคุมกำเนิด
๓๑.๒.๕ แผ่นแปะคุมกำเนิด/ยาคุมกำเนิดชนิดแผ่นแปะผิวหนัง
๓๑.๒.๖ การฝังและถอดยาคุมกำเนิด
๓๑.๒.๗ อื่นๆ ตามประกาศสาธารณสุข
ข้อ ๓๒ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง สามารถทำการคัดกรองมารดาทารก
๓๒.๑ การทำ Pap smear
๓๒.๒ การประเมินภาวะสุขภาพ ความผิดปกติและความพิการของทารก
ข้อ ๓๓ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง การให้บริการวางแผนครอบครัวแบบใช้ยาหรือใช้อุปกรณ์
๓๓.๑ ยาเม็ดคุมกำเนิด
๓๓.๓ วงแหวนคุมกำเนิด
๓๓.๔ แผ่นแปะคุมกำเนิด/ยาคุมกำเนิดชนิดแผ่นแปะผิวหนัง
๓๓.๒ ถุงยางอนามัย
ส่วนที่ ๕ การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแก่มารดา มารก และเด็ก
ข้อ ๓๔ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง จะให้ภูมิคุ้มกันโรค ต้องปฏิบัติตามแนวทางการให้ภูมิคุ้มกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด
ข้อ ๓๕ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ผู้ประกอบการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ให้คำแนะนำเรื่องการเข้ารับภูมิคุ้มกันโรคและติดตามให้มารับภูมิคุ้มกันโรค