Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
4.3 ภาวะฉุกเฉิน ทางสูติศาสตร์ - Coggle Diagram
4.3 ภาวะฉุกเฉิน ทางสูติศาสตร์
Fetal distress ทารกในครรภ์มีภาวะคับขัน
สาเหตุ
ภาวะที่เลือดไหลเวียนไปที่รกไม่ดี/ไม่เพียงพอมี 2 สาเหตุใหญ่
แบบเฉียบพลัน
มดลูกหดรัดตัวมากหรือแรงเกินไป ภาวะ tetanic contraction
รกเกาะตํ่า vasa previa
แบบเรื้อรัง
ภาวะแทรกซ้อนทางอายุรกรรม
ภาวะที่สายสะดือมีความผิดปกติ
ภาวะสายสะดือย้อย
สายสะดือถูกกด
สายสะดือผูกเป็นปม
อาการและอาการแสดง
อัตราการเต้นของหัวใจทารกผิดปกติ (abnormal FHR pattern)
มีขี้เทาปนในน้ำคร่ำ แบ่งความรุนแรงออกเป็น 3 ระดับ
Mild meconium stained นํ้าครํ่ามีสีเหลือง
Moderate meconium stained น้ำครํ่ามีสีเขียวปนเหลือง
Thick meconium stained นํ้าครํ่ามีสีเขียวคลํ้าและข้น
ทารกดิ้นน้อยลง (ให้แม่นับลูกดิ้น)
ทารกมีภาวะเลือดเป็นกรด
การประเมินและวินิจฉัย
การซักประวัติ
การนับลูกดิ้น
การแตกของถุงน้ำคร่ำ ลักษณะ สี และปริมาณของน้ำคร่ำ
การตรวจร่างกาย
การตรวจครรภ์พบความผิดปกติของเสียงหัวใจทารก
การเจาะเลือดทารก
การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง(doppler ultrasound )
การประเมินสุขภาพทารกในครรภ์ ด้วยNST,CSTและBPP
ประเมินเสียงหัวใจทารกด้วยเครื่องElectronic fetal Monitoring
การพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะ fetal distress
ประเมินความเสี่ยงของภาวะในครรภ์
แนะนำ ญ ตั้งครรภ์นับการดิ้นของทารก
แนะนำ ญ ตั้งครรภ์สังเกตอาการผิดปกติที่ต้องรีบมาพบแพทย์
มีการแตกของถุงนํ้าครํ่า
นํ้าครํ่ามีขี้เทาปน
ภาวะรกลอกตัวก่อนกําหนด
สายสะดือพลัดตํ่าหรือตกเลือด
แนะนำ ญ ตั้งครรภ์มาตามแพทย์นัดสม่ำเสมอ
ระยะคลอด ดูแลให้ออกซิเจนให้เพียงพอ นอนศรีษะสูง
ประเมินเสียงหัวใจทารกตามระยะของการคลอด
ดูแลการได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกตามแผนการรักษา
การพยาบาลภาวะ fetal distress
จัดท่านอนตะแคงซ้าย
ดูแลให้ออกซิเจนและสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
หยุดยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
ประเมินอัตราการเต้นหัวใจทารกในครรภ์
เตรียมผู้คลอดสําหรับการช่วยคลอดด้วยสูติศาสตร์หัตถการ
รายงานกุมารแพทย์
อธิบายให้ผู้คลอดและครอบครัวทราบถึงภาวะที่เกิดขึ้นภาวะแทรกซ้อน แผนการรักษาเพื่อลดความวิตกกังวล
Umbilical
cord prolapse ภาวะสายสะดือย้อย
ชนิดของ Umbilical cord prolapse
ccult prolapsed cord
Forelying or Funic presentation
Overt prolapsed cord
ปัจจัยการเกิด
ด้านมารดา
ครรภ์หลัง
อุ้งเชิงกรานผิดปกติหรือแคบ
ด้านลูก
ส่วนนำผิดปกติ
ทารกน้ำหนักตัวน้อย
ครรภ์แฝด
แฝดน้ำ
สายสะดืยาวมากกว่า100 cm
ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด
ด้านอื่นๆ
เจาะถุงน้ำคร่ำ
การหมันกลับท่าทางรกทางหน้าท้อง
การวินิจฉัย
ตรวจภายใน อาจคลําได้ชีพจรเต้นเป็นจังหวะ
เห็นสายสะดือโผล่พ้นช่องคลอดออกมา
เสียงหัวใจทารกผิดปกติ
Ultrasound โดยเฉพาะชนิด color doppler
การพยาบาลเมื่อเกิดภาวะ Umbilical cord prolapse
หากพบภาวะสายสะดือพลัดตํ่าขณะตรวจภายใน
ลดการกดของสายสะดือและสิ้นสุดการตั้ง
ทํา bladder filling
กรณีได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก หยุดให้ยาทันที
IUR เพื่อลดภาวะ fetal distress: Oxygen mask with bag 10 LPM.,
ให้สารนํ้าทางหลอดเลือดดํา
กรณีสายสะดือยื่นออกมานอกชองทางคลอด ใช้ผ้าก๊อซชุบ NSS อุ่นหอไว้
สิ้นสุดการคลอดโดยเร่งด่วน
ดูแลภาวะจิตใจของผู้คลอดและครอบครัว โดยอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น การดูแลและการรักษา
ภาวะนํ้าครํ่าอุดตัน
(Amniotic fluid embolism; AFE)
ลักษะทางคลินิก
ระบบไหลเวียนโลหิต
ความดันโลหิตตํ่าเฉียบพลัน
ขาดออกซิเจน
ภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
สาเหตุ
การหดรัดตัวของมดลูกรุนแรงขึ้น
มีการแตกของถุงนํ้าคร่ำ
ทารกเสียชีวิตเป็นเวลานาน
ปัจจัยส่งเสริมอื่นๆ
อาการและอาการแสดงแบ่งเป็น 2 ระยะ
ระยะที่ 1 ภาวะไหลเวียนโลหิตล้มเหลว
กระสับกระส่าย หายใจลําบาก
-หลอดลมตีบ
-เขียวทั่วร่างกายเกิดจากนํ้าท่วมปอด
-ไอและเสมหะเป็นฟองชมพู
-ความดันโลหิตตํ่าเฉียบพลันเนื่องจากเส้นเลือดหัวใจตีบ
ระยะที่ 2 ภาวะไม่แข็งตัว
เกิดภาวะ DIC เลือดออกง่าย
Fibrinogen และ plt ต่ำ
PT, PTT ยาวนานขึ้น
มดลูกหดรัดตัวไม่ดี
การพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะ AFE
ประเมินปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะน้ำครํ่าอุดตันในผู้คลอด
ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้คลอดที่ได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
ประเมินสัญญาณชีพและอาการแสดงของภาวะนํ้าครํ่าอุดตัน
หลีกเลี่ยงการตรวจภายในในผู้ลอดที่มีภาวะรกเกาะตํ่าหรือรกลอกตัว
ก่อนกําหนด
การพยาบาลผู้คลอดที่เกิดภาวะ AFE
ดูแลให้ผู้คลอดนอนศีรษะสูง
ดูแลให้ได้รับ Oxygen รอยละ 100
NPO, ดูแลให้ได้รับสารนํ้าทางหลอดเลือดดํา
ประเมินสัญญาณชีพ บันทึกสารน้ำ และเลือดที่เข้าออกในร่างกาย
ดูแลผู้คลอดและทารกอย่างใกล้ชิด
ดูแลให้ได้รับยากลุ่มต่างๆ
ประเมินภาวะ DIC โดยส่งเลือดตรวจทางห้องปฏิบัติกา
กรณีทารกมีชีวิตอยู่เตรียมผ่าตัดคลอดอย่างรีบด่วน
เตรียมอุปกรณ์ช่วยฟื้นคืนชีพทั้งมารดาและทารกให้พร้อมใช้งาน
ระยะหลังคลอดเฝ้าระวังภาวะตกเลือด
ดูแลประคับประคองด้านจิตใจผู้คลอดและครอบครัว