Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ข้อบังคับสภาการพยาาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขนการประกอบวิชาชีพการพยาบาลแล…
ข้อบังคับสภาการพยาาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขนการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุลครรภ์
บททั่วไป ข้อ 4
การเจ็บป่วยวิกฤต
การเจ็บป่วยที่มีความรุนแรง
การปฐมพยาบาล
การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บ หรือผู้ป่วย บรรเทาอาการหรือป้องกันไม่ให้เกิดภาวะนั้นลดลง
การเจ็บป่วยฉุกเฉิน
การได้รับบาดเจ็บหรือการป่วยกะทันหัน เช่นเป็นลม เป็นลมชัก Heat skroke ชัก ลมบ้าหมู หอบหืด
การให้ภูมิคุ้มกัน
กระบวนการที่ทำให้ร่างกายสร้าง หรือเกิดภูมิคุ้มกัน หรือมีภูมิต้านทานโรค โดยการฉีดวัคซีน
การรักษาโรคเบื่องต้น
การประเมินภาวะสุขภาพ การซักประวัติ การตรวจร่างกาย การวินิจฉัยโรค การรักษาโรคและการบาดเจ็บ ารป้องกันรวมถึงการปฐมพยาบาล
การรักษาโรคเบื้อต้นและการให้ภูมิคุ้มกัน
ข้อ 12 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งต้องกระทำการรักษาโรคเบื่องต้นตามข้อกำหนดของสภาการพยาบาลในการรักษาโรคเบื่องต้นและการให้ภูมคุ้มกันโรค
ให้ผู้ป่วยไปรับการบำบัดรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพอื่น เมื่อปรากฎ ตรวจพบหรือพิจารณาแล้วเห็นว่าอาการไม่บรรเทา อาการรุนแร
เพิ่มขึ้น มีโรคหรือภาวะแทรกซ้อน
ตรวจวินิจฉัยและบำบัด ตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ ที่สภากำหนด
ข้อ 11 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
ผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรและได้รับหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
สาขาที่ศึกาาเฉพาะทาง
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและกรผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งตามข้อ 11.1 และ 11.2 นอกจากปฏิบัติตามข้อ 9และข้อ 10 ได้แล้ว
ข้อ 14 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลนหนึ่งผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งในการห้ภูมิคุ้มกันโรค ต้องปฏิบัติตามแนวทางการให้ภูมิคุ้มกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด
ข้อ 10ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ให้กระทำการประกอบวิชาชีการพยาบาลตามข้อกำหนดของสภาการพยาบาลในการรักษาโรค เบื้อต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค
คลื่นไส้อาเจียน การอักเสบต่าง ๆโลหิตจาง ดีซ่าน โรคขาดสารอาหาร อาหารเป็นพิษ โรคพยาธิลำไส้ โรคบิด
โรคไข้หัด โรคหัด โรคสุกใส โรคคางทูม โรคไอกรน โรคผิวหนังเหน็บชา ปวดฟัน เหงือกอักเสบ เจ็บตา เจ็บหู
ไข้ ตัวร้อน ไข้และมีผื่นหรือจุด ไข้จับสั่น ไอ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดเอว ปวดท้อง ท้องผูก ท้องเดิน
โรคติดต่อตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข การแท้งคุกคามหรือหลังแท้งแล้ว
ความเจ็บป่วยอื่น ๆตามสภาการพยาบาลประกาศกำหนด
ข้อ 13 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่งผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งอาจจำเป็นต้องใช้ยา ให้ยาได้ตามคู่มือการใช้ยาที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนด
ข้อ 15 ต้องมีบัญทึกรายงานเกี่ยวกับประวัติของผู้ป่วยหรือผู้รับบริการและการเจ็บป่วย โรค การพยาบาล การให้การรักษาหรือการให้บริการ วันเวลาในการให้บริการ ชื่อผู้ประกอบวิชาชีพ ตามความเป็นจริง ตามแบบของสภาการพยาบาลไว้เป็นหลักฐานเวลา 5 ปี
การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
ระยะคลอด
ข้อ 19 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งกระทำการผดุงครรภ์ได้แต่เฉพาะตั้งครรภ์ปกติ และคลอดปกติ
ข้อ 20 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ให้การผดุงครรภ์หญิงมีครรภ์ระยะก่อนคลอด
การตรวจประเมินทารกในครรภ์
การตรวจการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์
ประมาณน้ำหนักทารกในครรภ์
ส่วนนำและท่าของทารกในครรภ์
การประเมินความก้าวหน้าของการคลอด
การหดลัดตัวมดลูก การตรวจช่องคลอด pv เพื่อประเมินการปิดและความบางของปากมดลูก ท่าของทารก
การประเมินหญิงมีครรภ์
การประเมินประวัติการตั้งครรภ์และประวัติการเจ็บป่วยอื่น ๆ
การตรวจทางหน้าท้องเพื่อประเมินควมพร้อมใหการคลอด
ข้อ 21การพยาบาลระยะคลอด Intrapartum
การพยาบาลหญิงมีครรภ์ที่ได้รับการชักนำการคลอด
ทำคลอดในรายปกติ เตรียมทำคลอดเมื่อปากมดลูกเปิดสมบูรณ์แล้ว ส่วนนำอยู่ในอุ้งเชิงกรานพร้อมคลอด ตัดฝีเย็บตามข้อบ่งชี้ การทำคลอด การดูแลทารกแรกเกิดทันที
ทำคลอดรก และเยื่อหุ้มทารกโดยใช้วิธี Modified crede Maneuver การตรวจรกและเยื่อหุ้มรก ในรายที่รกค้างถ้าปล่อยทิ้งไว้จะเป็นอันตรายต่อมารดาให้ทำการคลอดรกด้วยวิธิดึงรั้งสายสะดือ ถ้ารกไม่คลอดให้ส่งต่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่มีความพร้อมทันที
การเย็บซ้อมซอมฝีเย็บ ในระยะที่มีการฉีกขาด ไม่เกินระดับ 2
การประเมินสัญญาณชีพ หลังคลอดทันทีและก่อนการย้ายออกจากห้องคลอด
การประเมินการเสียเลือด
การพยาบาลมารดาและทารก ระยะหลังคลอด
ข้อ 22 การช่วยเหลือผู้ประกอบวิชาเวชกรรม ทำคลอดในรายรายที่มีการคลอดผิดปกติ เช่น การคลอดติดไหลหน้าหรือการใช้เครื่องมือช่วยคลอดด้วยเครื่องสุญญากาศ
ข้อ 23 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งกระทำการที่เกี่ยวกับการคลอดดังนี้
การกลับท่าของทารกในครรภ์ ทั้งภายในและภายนอกครรภ์
การใช้มือกดท้องในขณะช่วยทำคลอด
การล้วงรก Manual remoral of placenta
การเย็บซ้อมฝีเย็บที่มีการฉีกขาดระดับ 3
การทำคลอดที่มีความผิดปกติ เช่น คลอดท่าก้น คลอดแฝด
การทำแท้ง
การเจาะน้ำคล่ำเพื่อตรวจภาวะการเจริญเติบโตในครรภ์
ข้อ 24ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งการะทำการช่วยคลอดฉุกเฉินในกรณีที่มีการคลอดผิดปกติที่ไม่สามารถตรวจพบก่อนการทำคลอดไม่สามรถหาผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมทำการคลอดได้ภายในเวลาอันควร ถ้าละเลยไว้อาจอาจเป็นอันตรย
ข้อ 29ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง บันทึกรายงานประวัติของหญิงตั้งครรภ์ การพยาบาลระยะตั้งครรภ์ การคลอดการพยาบาลหลังคลอดและการให้บริการตามความเป็นจริง ตามแบบสภาการพยาบาล ไว้เป็นหลักฐานเป็นเวลา 5ปี
ข้อ 25 ในรายที่มีการตกเลือดหลังคลอดถ้าปล่อยไว้จะเป็นอันตรายต่อมารดาให้รักษาอาการตกเลือดเบื้องต้นตามความจำเป็นและส่งต่อทันที
ข้อ 26 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ให้การพยาบาลมารดาหลังคลอดอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ข้อ 27 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งจะต้องใช้ยาทำรายและป้องกันการติดเชื้อสำหรับหยอดตาหรือป้ายตาทารกแรกเกิด
ข้อ 30 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นสอง กระทำการพยาบาลระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และการพยาบาลหลัง คลอดในรายตั้งครรภ์และคลอดปกติ ในสถานพยาบาลและการเยี่ยมบ้านที่ยุ่งยากซับซ้อนโดยการพยาบาฃลชั้นหนึ่งห้ามไม่ให้กระทำในรายที่เป็นปัญหายุ่งยาก
ข้อ 28 การประเมินสัญญาณชีพความผิดปกติหรือความพิการที่เห็นได้ชัดเจน
ระยะก่อนตั้งครรภ์และระยะตั้งครรภ์
ข้อ 16 ให้การผดุงครรภ์แก่หญิงและครอบครัว เมื่อต้องการมีบุตร ก่อนการตั้งครรภ์ ระยะตั้งครรภ์
การตรวจประเมินภาวะการตั้งครรภ์ด้วยเวชภัณฑ์ทดสอบการตั้งคครรภ์
การรับฝากครรภ์
การประเมินภาวะสุขภาพด้านร่างกายและจิตใจของหญิงมีครรภ์
การประเมินการเจ็บป่วยในอดีตและปัจจุบัน ที่อาจกระทบกับการตั้งครรภ์
การประเมินประวัติทางสูติกรรม จำนวนครั้งที่เคยตั้งครรภ์
การตรวจร่างกายทั่วไปและการประเมินภาวะโภชนาการของหญิงตั้งครรภ์
ให้ยาเสริมธาตุเหล็กและโฟเลตแก่หญิงมีครรภ์
การตรวจครรภ์และทารกในครรภ์ เพื่อประเมินภาวะของการตั้งครรภ์
การให้วัคซีนป้องกันบาดทะยักและวัคซีนอื่น ๆตามเกณฑ์
การตรวจประเมินภาวะสุขภาพของหญิงและคู่สมรสเมื่อวางแผนมีบุตร
ข้อ 17 แนะนำและส่งต่อหญิงมีครรภ์ ให้ได้รับการตรวจและการรักษา ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด
ข้อ 18 ส่งต่อหญิงมีครรภ์กลุ่มเสี่ยง ตามประกาศกระทรวงสาะารณสุขหรืการตรวจพบภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือส่วนนำหรือท่าของทารกในครรภ์ผิดปกติ หรือมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์และการคลอดอื่น ๆ ให้ได้รับการรักษาพยาบาลจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือส่งต่อไปสถานพยาบาลที่มีความพร้อมเพื่อความปลอดภัยของหญิงมีครรภ์และทารก
การวางแผนครอบครัวและการคัดกรองมารดาและทารก
ข้อ 31ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งสามารถกระทำการพยาบาลและการวางแผนครอบครัว
การให้คำปรึกษากับคู่สมรสในการวางแผนครอบครัวแบบวิธิธรรมชาติ/การคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติ
การให้บริการวางแผนครอบครัวแบบใช้ยาหรือใช้อุปกรณ์
ยาเม็ดคุมกำเนิด
ยาฉีดคุมกำเนิด
อื่น ๆตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ถุงยางอนามัย
วงแหวนคุมกำเนิด
การฝังและถอดยาคลุมกำเนิด
แผ่นแปะคุมกำเนิด/ยาคุมกำเนิดชนิดแผ่นแปะผิวหนัง
ข้อ 35ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นสอง ให้คำแนะนำเรื่องการเข้ารับภูมิคุ้มกันโรคและการติดตามาให้มารับภูมิคุ้มกับโรค
ข้อ 33ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นสองให้บริการวางแผนครอบครัวแบบใช้ยา เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ถุงยางอนามัย วงแหวนคุมกำเนิด แผ่นแปะคุมกำเนิด/ยาคุมกำเนิดชนิดแผ่นแปะผิวหนัง
ข้อ 34 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง จะให้ภูมิคุ้มกันโรคต้องปฏิบัตตามแนวทางการให้ภูมิคุ้มกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด
ข้อ 32 สามารถทำการคัดกรองมารดาทารก เช่นการทำ Pap smear การประเมินภาวะสุขภาพ ความผิดปกติและความพิการของทารก
การประกอบวิชาชีพพยาบาล
การพยาบาล
ข้อ 6
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง จะห้ยาผู้รับบริการได้เฉพาะที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมซึ่งผู้บำบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษา
6.1 ห้ามให้ยาหรือสารละลายในช่องรอบเยื่อบุไขสันหลัง หรอช่องไขสันหลัง หรือสานสวนทางหลอดเลือดำส่วนกลาง หรือช่องอื่น ๆตามสภาการพยาบาลกำหนด
6.2 ห้ามให้ยาหรือสารละลายที่เกี่ยวกับรังสีวิจฉัยและยาอื่น ๆตามที่สภาการพยาบาลกำหนด
ข้อ 7
ผู้ประกอบวิชาชีพการพาบาลชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นสอง ให้กระทำการพยาบาลที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนตามแผนการพยาบาล ในกรณีที่มีปัญหายุ่งยากซับซ้อนหรือเป็นการเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือวิกฤต จะทำการประกอบวิชาชีพการพยาบาลได้จะต้องทำร่วมกับผู้ประกอวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่งหรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง
ข้อ 5
ผู้ประกอวิชการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง กระทำการพยาบาลได้โดยช้กระบวนการพยาบาล
5.3จัดสภาพแวดล้อมเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกัน การควบคุมและการแก้ปัญหาความเจ็บป่วยหรือวิกฤต
5.4ปฏิบัติการพยาบาลตามแผนการพยาบาล แผนการรักษาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม การช้เครื่อมือพิเศษ การติดตามและการประสานทีมงาน
5.2สอน แนะนำ ใ้คำปรึกษาและการแก้ปัญหาทางสุขภาพอนามัย
5.5การให้การพยาบาลที่บ้านและการส่งเสรืิมความสามารถของบุคคล ครอบครัว และชุมชน เพื่อใช่ชีวิตอย่างปกติสุข
5.1การตรวจประเมินภาวะสุขภาพ การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคและการบาดเจ็บ การควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ
ข้อ 8
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นสอง จะให้ยาผู้รับบริการได้เฉพาะการให้ยาทางปากภายนอก ตามผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งเป็นผู้บำบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษาหรือเมื่อเป็นการปฐมพยาบาลและห้ามใช้ยาชนิด 6.1และ 6.2
การทำหัตการ
ข้อ 9 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง กระทำการพยาบาลโดยทำหัตการตามขอบเขตที่กำหนด
9.3 การถอดเล็บ การจี้หูดหรือจี้ตาปลา โดยใช้ยาระงับความรู้สึก
9.4 การใช้ออกซิเจน
9.2 การผ่าตัดสิ่งแปลกปลอม การผ่าฝี การผ่าตัดตาปลา การเลาะก้อนใต้ผิวหนัง ในตำแหน่งที่ไม่เป็นอันตรายต่ออวัยวะที่สำคัญต่อร่างกาย
9.5 การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำในผู้มีภาวะวิกฤต ภาวะสูญเสียสมดุลของสารน้ำในร่างกาย ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อภาวะช็อค
9.1 การทำแผลการตกแต่งแผลการเย็บแผลขนาดลึกไม่เกินชั้นเนื้อเยื่อไขมันใต้ผิวหนังและไม่อยู่ในตำแหน่งซึ่งเป็นอันตรายต่ออวัยวะโดยใช้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะที่หรือการตัดไหมในตำแหน่งที่ไม่เป็นอันตราย
9.6 การให้ยาทางปาก ทางผิวหนัง ทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษาผู้ประกอบวิชาเวชกรรม
9.7การให้เลือด ตามแผนการรักษา
9.8 การเปิดทางเดินหายใจให้โล่งด้วยการดูดเสมหะ การเคาะปอด
9.9 การช่วยเหลือฟื้นคืนชีพ เพื่อแก้ปัญหาภาวะวิกฤตของผู้ป่วย
9.10 การเช็ดตา การล้างตา หยอดตา ป้ายตา ปิดตา หรือการล้างจมุก
9.11 การสอดใส่สายยางลงไปในกระเพราะอาหารในรายที่กินสารพิษหรือตามแผนการรักษาของผู้ประกอวิชาชีพเวชกรรม
9.12 การสวนปัสสาวะหรือการเปลี่ยนสยสวนปัสสาวะในรายที่มีความผิดปกติของทางเดินปัสสาวะ
9.13 การสวนทางทวารหนัก ในรายที่ไม่มีข้อบ่งชี้้อันตราย
9.14 การดามหรือใส่เฝือกชั่วคราว
9.15 การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
การเจาะเก็บตัวอย่างเลือดจากหลอดเลือดดำ ส่วยปลายหรือปลายนิ้วหรือสารคัดคลั่ เพื่อส่งตรวจห้องปฏิบัติการ
9.17 หัตการอื่น ๆตามสภาการพยาบาลประการศกำหนด
นางสาวปฐวี กระจ่างศรี เลขที่ 38 รหัสนักศึกษา 63123301074