Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบหัวใจ หลอดเลือด เเละไต - Coggle Diagram
ยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบหัวใจ
หลอดเลือด เเละไต
การักษาโรคความดันโลหิตสูง
สาเหตุ
เกิดจากความผิดปกติ
ต่อมใต้สมอง
ต่อมหมวกไต
ต่อมไทรอยด์
ความผิดปกติของการนอนหลับ
การได้รับยาบางชนิด
Decongestants
Immunosuppressants
Angiogenesis
Tyrosine kinase inhibitors
การรักษาความดันโลหิตสูง
การปรับเปลี่ยนนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต
การใช้ยาลดความดันโลหิต
แนวทางการรักษา
ความดันโลหิตสูง Grade 1
ปรับวิถีการดำเนินชีวิต
ให้ยาลดความดันโลหิต
ผู้ที่มีความเสี่ยงไม่สูง
ให้ลดยาความดันโลหิต
ความดันโลหิตสูง Grade 2,3
ปรับวิถีการดำเนินชีวิต
ลดยาความดันโลหิตทันที หลังจากวินิจฉัยว่าเป็นความดันโลหิต
พยายามคุมความดันโลหิต
ลงมาสู่เป้าหมาย
ยาลดความดันโลหิต
1.Angiotensin Converting Enzyme Inhibitors (ACEIs)
นิยมใช้มาก
มีประสิทธิภาพดีในการลดความดัน
ป้องกันการเกิดภาวะหัวใจโต
ใช้ได้กับผู้ป่วย
ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ภาวะโรคไต
ผลข้างเคียง
ไอแห้งๆ
การรับรสเปลี่ยน
ระดับโปรแทสเซียมสูง
2.Angiotensin Receptor Blockers (ARBs)
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้ง angiotensin II ท่ี receptor AT1
ทำให้กล้ามเนื้อเรียบคลายตัว
หลอดเลือดขยายตัว
เพิ่มการขับ Sodium และน้ำ
ผลข้างเคียง
ให้เกิดความดันโลหิตต่ำได้
ให้ร่ววมกับยาขับปัสสาวะ เกิดภาวะ Hyperkalemia
คล้ายคลึงกับการใช้ACEIs แต่ไม่เกิดอาการไอเหมือนกับACEIs
3.Beta-blockers
กลไกการออกฤทธิ์
ลดการหลั่งสาร Norepinephrine และ Renin
ยับยั้งท่ีจำเพาะเจาะลงต่อ Beta-1 receptor ท่ีหัวใจทำให้หัวใจเต้น ช้าลง
ขยายหลอดเลือดผ่านการกระตุ้น การหลั่ง สาร Nitric oxide
ข้อห้าม
ผู้ที่มีภาวะ acute decompensated heart failure
ผู้ป่วยโรคหอบหืด
4.Calcium-Channel Blockers (CCBs)
ออกฤทธ์ิเป็นยาขยายหลอดเลือด
มีผลต่อการทำงานของหัวใจ
เท้าบวม ปวดศรีษะ หน้าแดง
5.Diureticsยาขับปัสสาวะ
รักษาความดันโลหิตสูง ท่ีไม่รุนแรง
ใช้ในการรักษาภาวะpotassiumในเลือดสูง
กลไกการออกฤทธิ์
ควบคุมความดันโลหิตได้ดีที่ขนาดยาตํ่าๆ
การเพิ่มขนาดยาให้สูงขึ้นไม่ทำให้ผลการรักษาดีขึ้น
กลุ่มยา
1.กล่มุ loop diuretics
อาการข้างเคียง
ผื่นคัน ความดันโลหิตต่ำ
ระดับ potassiumในเลือดต่ำ
ระดับ magnesium ในเลือดต่ำ
ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น
ภาวะขาดน้ำอย่างรุนเเรง
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้งการดูดซึมกลับของNaCl
ลดการดูดซึมกลับท่ีบริเวณ proximal tubule
2.กลุ่ม Thiazide Diuretics
กลไกการออกฤทธิ์
เพิ่มการขับ potassiumions ทำให้ร่างกายสูญเสีย
ช่วยกระตุ้นไตให้ตอบสนองต่อhormoneได้ดีขึ้น
อาการข้างเคียง
ระดับ K ในเลือดต่ำทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
ระดับกรดยูริกในเลือดสูง
ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
ร่างกายอยู่ในภาวะเป็นด่าง
3.กล่มุ potassium-sparingdiuretics
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้งการดูดซึมกลับ ของ sodium ions
ช่วยลดการสูญเสีย potassiumions
ยับยั้งการทางานของaldosterone
อาการข้างเคียง
ตะคริวที่ขา
คลื่นไส้ อาเจียน
ยูเรียในเลือดสูง
เต้านมโตในผู้ชาย
ภาวะไตวายเฉียบพลัน
4.กล่มุ Osmoticdiuretics
การนำไปใช้ทางคลินิค
ลดความดันในลูกตาก่อนและหลังผ่าตัด
ลดความดันในสมอง
ป้องกันและรักษาภาวะไตวายเฉียบพลัน
อาการข้างเคียง
ปวดศีรษะ
คลื่นไส้ อาเจียน
พบโซเดียมต่ำในเลือด
5.กล่มุ CarbonicAnhydraseinhibitors
การนำไปใช้ทางคลินิค
รักษาโรคต้อหิน
รักษาภาวะร่างกายอยู่ในภาวะเป็นด่างจากการทางานของไต
รักษาโรคแพ้ความดัน อากาศในท่ีสูง
อาการข้างเคียง
ปวดศีรษะ
ง่วงซึม
การรับรู้ความรู้สึกผิดไป
ร้อนวูบวาบ
เบื่ออาหาร
หูอื้อ
ยาที่ใช้ในการรักษาความผิดปกติของหัวใจ
ยาท่ีใช้รักษาภาวะ angina pectoris
1.ยากลุ่มไนเตรท(Nitrates)
และไนไตรท์(Nitrite)
กลไลกการออกฤทธิ์
แรงในการบีบตัวของหัวใจลดลง
ลดความต้องการออกซิเจนของร่างกาย
หลอดเลือดแดงคลายตัว
ความดันโลหิตลดลงลดการทำงานของหัวใจ
อาการข้างเคียง
หัวใจเต้นเร็ว
ความดันโลหิตลดลงเมื่อเปลี่ยนท่า
เป็นลม
หน้าแดง ปวดมึนหัว
2.ยาต้านแคลเซียม(Calciumchannelblockingagents)
กลไกการออกฤทธิ์
ออกฤทธ์ิลดการทำงาน
ของหัวใจได้ดี
ลดอัตราการเต้นของหัวใจNifedipine
ขยายหลอดเลือดได้ดี
3.ยาท่ีออกฤทธ์ิยับยั้งเบต้าอะดรีเนอร์จิกรีเซพเตอร์(beta-blockers)
กลไกการออกฤทธิ์
ลดอัตราการเต้นของหัวใจ
ลดความดันโลหิต
ลดความแรงในการบีบตัวของหัวใจ
ยารักษาภาวะหัวใจล้มเหลว
1.ยาขับปัสสาวะ(Diuretics)
รักษาภาวะหัวใจล้มเหลวเพื่อ
ลดภาวะบวมน้ำ
ปริมาตรเลือดกลับสู่ปกติ
ช่วยลด preload ได้โดยไม่มีผลต่อ cardiac output
การนำไปใช้ทางคลินิค
Loop diuretics
รักษาภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรังระดับรุนแรง
ภาวะหัวใจล้มเหลวชนิดเฉียบพลัน
ใช้ในผู้ป่วยท่ีมีการทำงานของไตบกพร่องได้
กลุ่มไธอะไซด์
ใช้รักษาภาวะหัวใจล้มเหลวระดับปานกลาง
2.ยาท่ีออกฤทธ์ิยับยั้งการทำงานของระบบเรนินแองจิโออเทนซิน
การนำไปใช้ทางคลินิค
ยากลุ่ม ACE Inhibitors
นิยมใช้เพื่อช่วยลดความรุนแรงของโรค
เพิ่มคุณภาพชีวิต
อัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยท่ีมี ภาวะหัวใจล้มเหลว
ยากลุ่ม ARBs
ใช้ในกรณีผู้ป่วยมีอาการข้างเคียงจากการใช้ยาในกลุ่ม
3.กลุ่มยาขยายหลอดเลือด(Vasodilators)
ลด preload, afterload
ลดการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ
การนำไปใช้ทางคลินิค
ยา Hydralazine และ Isosorbine dinitrate
นิยมใช้ในกรณีไม่สามารถใช้ยาในกลุ่มACEIs ได้
ลดอัตราการตายของผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวได้
ยา Glyceryl trinitrate
ใช้ในกรณีเกิดอาการหัวใจล้มเหลวชนิดเฉียบพลัน
มีอาการปวดร่วมด้วย
ช่วยลดความดันในช่องปอด
4.กล่มุ Blockers
ได้แก่ยาCarvedilol,Metropolol,Bisopolol
กลไกการออกฤทธิ์
ทำให้หัวใจเต้นช้าลง
ลดความรุนเเรงของโรค
ลดอัตราการตายของผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวได้
5.ยาท่ีออกฤทธ์ิกระตุ้นการบีบตัวของหัวใจ (Positive innotropics)
5.1 ยากล่มุ Cardiac glycosides
กลไกการออกฤทธิ์
ออกฤทธ์ิยับยั้ง Na+,K+-ATPase
ส่งผลลดการทำงาน Na+/Ca2+ exchanger
ลดการขับ calcium ions
มีผลเพิ่มความแรง ในการหดตัวของ
กล้ามมเน้ือหัวใจ
สารสกัดจากใบของ foxglove
ใช้ในการรักษาภาวะหัวใจล้มเหลว
อาการข้างเคียง
ยาdigitalisมีความเป็นพิษค่อนข้างสูง
การเต้นของหัวใจผิดจังหวะ
พบการระคายเคืองทางเดินอาหาร
ความจำเสื่อม. เห็นภาพหลอน
5.2ยาออกฤทธ์ิกระตุ้นอะดรีเนอจิกรีเซฟเตอร์
(Adrenergicagonists)
การนำไปใช้ทางคลินิค
หัวใจล้มเหลวชนิดเฉียบพลัน
ใช้ยาชนิดรับประทานไม่ได้ผล
อาการข้างเคียง
อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น
ความต้องการO2ของกล้ามเนื้อหัวใจเพิ่มขึ้น
เกิดอาการเจ็บหน้าอก
5.3 ยาออกฤทธ์ิยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ฟอสโฟไดเอสเทอเรส (Phosphodiesterase inhibitors)
การนำไปใช้ทางคลินิค
โรคหัวใจล้มเหลวระดับรุนแรง
ใช่ยาตัวอื่นที่ไม่ได้ผล
ใช้ในกรณีใช้ dobutamineไม่ได้ผล(ดื้อยา)
อาการข้างเคียง
หัวใจเต้นผิดจังหวะ
ความดันโลหิตต่ำ
ปวดศีรษะ
เจ็บอก
การพยาบาล
ประเมินสัญญาณชีพ
ประเมินและติดตามการตรวจ electrolyte
ประเมินน้ำหนักตัว การบวม เช่น แขน ขา
ประเมิน/บันทึกความสมดุลของสารน้ำ
ประเมินอาการข้างเคียงหลังการให้ยาแต่ละชนิด
ยารักษาภาวะหัวใจเต้น ผิดจังหวะ
(drug used for cardiac arrhythmia)
Class I sodium channel-blockers
Class I subgroup 1A
ใช้รักษาภาวะventriculararrhythmia
quinidine
procainamide
disopyramide
ผลข้างเคียง
ท้องเสีย
เบื่ออาหาร
ขมในปาก
วิงเวียน. ปวดศีรษะ
Class I subgroup 1B
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
ภาวะกล้ามเนื้อตายเฉียบพลัน
ผลข้างเคียง
ความดันโลหิตลดลง
อาการใจสั่น
คลื่นไส้
การได้ยินผิดปกติ
Class I subgroup 1C
flecainide,propafenone
Class II blockers
ช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจEsmolol
ใช้ในการรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะเฉียบพลัน
Class III Potassium channel blocker
ผลข้างเคียง
ทำให้เกินหัวใจเต้นช้าลงเกิด heartblockได้
การทำงานของตับ ไต ผิด ปกติ
ผิวหนังอักเสบจากการรับสัมผัสแสงแดด
ความดันโลหิดลดลงเมื่อเปลี่ยนท่า
ClassIVกลุ่มยาต้านแคลเซียม
กลไกการออกฤทธิ์
ทำให้หัวใจเต้นช้าลง
ภาวะ supraventricular tachycardia
ลดอัตราการทำงานของ ventricular
รักษาภาวะventriculararrhythmia
ผลข้างเคียง
การเต้นของหัวใจช้าลง
ความดันโลหิตลดลง
ปวดศีรษะ มึนงง
ท้องผูก
อาการบวมของอวัยวะส่วนปลาย
ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulant drugs)
ยาที่มีผลต่อระบบการแข็งตัว ของเลือด
anticoagulant
ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด
ยับยั้งไม่ให้ clot ขยายตัวใหญ่ขึ้น
ยาที่กระตุ้นให้เกิดการละลายของ thrombus
ยาในกล่มุ thrombolytic drugs
ยาจะช่วยละลาย clot ท่ีเกิดขึ้น
ผู้ป่วยที่มีภาวะ pulmonary embolism, deep vein thrombosis
antiplatelet drug
ยาที่ยับยั้งการจับกลุ่มกันของเกล็ดเลือด
ASA,
Clipidogrel
Ticlopidine
ยาละลายลิ่มเลือด (Thrombolytic drugs)
Streptokinase
โปรตีนสร้างจากβ-hemolyticstreptococci
สารประกอบStreptokinase-plasminogen
ค่าคคึ่งชีวิตของ Streptokinase ประมาณ 80 นาที
อาการไม่พึงประสงค์
เลือดออก
เกิดอาการแพ้และมีไข้
ยาต้านการจับกลุ่ม กันของเกล็ดเลือด (Antiplatelet drug)
Aspirin (ASA)
อาการข้างเคียง
ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
เกิดภาวะเลือดออกง่ายหยุดยาก
Clopidogrel, Ticlopidine
อาการไม่พึงประสงค์
ระคายเคืองระบบทางเดินอาหาร
ทำให้เกิดภาวะagranulocutosis
คลื่นไส้ อาเจียน
ขนาดของยาที่ใช้
Clopidogrel ขนาด 75 mg
Ticlopidine รับประทาน
ครั้งละ 250 mg วันละครั้ง
ข้อห้ามใช้
active bleeding
GI bleeding
platelet ต่ำ
leukopenia
หญิงตั้งครรภ์,ให้นมบุตร