Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Schizophrenia (โรคจิตเภท), นางสาวภาวิตา ทิพย์ญาณ รหัสนักศึกษา 62122301062 …
Schizophrenia (โรคจิตเภท)
โรคจิตเภท คือ โรคที่มีกลุ่มอาการทางคลินิกที่หลากหลาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของกระบวนการคิด อารมณ์ การรับรู้ และพฤติกรรม
อาการที่แสดงออก 2 ด้านหลักๆ คือ 1.อาการด้านบวก เช่น อาการหลงผิด ประสาทหลอน 2.อาการด้านลบ พูดน้อยลง ไม่แสดงสีหน้าหรืออารมณ์ ขาดแรงกระตุ้นในการเข้าสังคม
สาเหตุ
จากการศึกษาด้านพันธุศาสตร์ พบว่า พันธุกรรมมีผล หากมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคจิตเภทจะมีโอกาสเป็นได้มาก
พบว่าฝาแฝดเหมือนแม้จะมีโอกาสเกิด schizophrenia เหมือนกันแต่หากถูกรับไปเลี้ยงดูในครอบครัวที่ต่างกันอาจทำให้การเกิดโรคแตกต่างกัน
การศึกษาจากผล CT scan พบว่าสมองของผู้ป่ วย schizophrenia มี lateral และ third ventricle ที่โต
มีหลักฐานที่สนับสนุนว่าน่าจะมีความผิดปกติทางระบบประสาท
ลิมบิกและเบซัล แกงเกลีย
ระบาดวิทยา
เท่ากันทั้งเพศหญิงและเพศชาย โดยผู้ชายมักเริ่มป่วยก่อนผู้หญิง จะเริ่มเป็นในช่วงวัยรุ่นตอนปลาย วัยผู้ใหญ่ตอนต้น
อาการทางคลินิก
1.อาการด้านบวก
1) Psychotic dimension ได้แก่ อาการหลงผิด
และอาการประสาทหลอน โดยเฉพาะอาการหูแว่ว auditory hallucination
2) Disorganization dimension ผู้ป่วยจะไม่สามารถรวบรวมความคิดให้ไปทิศทางเดียวกันได้ตลอด จนทำให้ไม่สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจมีพฤติกรรมการดูแลตนเองที่พร่องไป ทำให้แต่กงายสกปรกและแปลก
2.อาการด้านลบ
ขาดความสนใจในสิ่งรอบๆตัว เช่น ความรู้สึกในการแสดงออกถึงสิ่งที่ต้องการ
การรักษา
รับผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาลเมื่อผู้ป่วยมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น ต้องการเฝ้าระวังอาการข้างเคียงที่รุนแรงของยา และเพื่อควบคุมการรับประทานยา
การรักษาด้วยยา แบ่งเป็น 2 ช่วง
1.ระยะควบคุมอาการ เป้าหมายคือควบคุมอาการให้สงบลงโดยเร็ว
2.ระยะให้ยาต่อเนื่อง หลังจากอาการสงบแล้ว ผู้ป่วยยังคงจำเป็นที่จะต้องรับยาต่อเนื่องเพื่อป้องกันอาการกำเริบโดยขนาดยาจะต่ำกว่ายาในระยะแรก
การรักษาด้วยไฟฟ้า เมื่อรักษาด้วยยาแล้วไม่ตอบสนอง
การรักษาด้านจิตสังคม เช่น การทำจิตบำบัด การให้คำแนะนำเกี่ยวกับครอบครัวในการดูแลและเข้าใจผู้ป่วย การทำกลุ่มบำบัด และนิเวศน์บำบัด
การช่วยเหลือเมื่อผู้ป่วยเกดความหลงผิดคือ การสร้างสัมพันะภาพเพื่อให้ผู้ป่วยเกิดความไว้วางใจ ให้ผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึกและความหลงผิดของตนเองออกมา หลีกเลี่ยงการโต้แย้งเพียงรับฟังแต่ไม่เชื่อ มุ่งเน้นที่ความรู้สึกของผู้ป่วยเป็นหลัก และต้องนำผู้ป่วยมาอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงให้เร็วที่สุด โดยเบี่ยงเบนความสนใจอย่าให้ผู้ป่วยอยู่กับความหลงผิดนานๆ สิ่งแวดล้อมต้องไม่กระตุ้นอาการหลงผิด
นางสาวภาวิตา ทิพย์ญาณ รหัสนักศึกษา 62122301062