Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่ 6 การพยาบาลแบบองค์รวมบนพื้นฐานทฤษฎีการดูแลด้วยความเอื้ออาทรแก่บุคคล…

- - - - ยารักษาโรคจิตในกลุ่ม Atypicals antipsychotics ตัวอย่างเช่น Abilify, Geodon, Clozapine
      - ยาในกลุ่ม Typical Neuroleptics ตัวอย่างเช่น Chlorpromazine, Thioridazine, Mesoridazine
  - - - Psychotic dimension ได้แก่ อาการหลงผิด และอาการประสาทหลอน
      - Disorganization dimension ได้แก่ Disorganized behavior and speech
    - - Avolition ขาดความกระตือรือร้น เฉื่อยชาลง ไม่สนใจเรื่องแต่งกาย ผู้ป่วยอาจนั่งอยู่เฉย ๆ ทั้งวันโดยไม่ทำอะไร
      - Asociality เก็บตัวเฉย ๆ ไม่ค่อยแสดงออก หรือไม่มีกิจกรรมที่สนุกสนาน
      - Affective flattening การแสดงออกทางอารมณ์ลดลงมาก หน้าตาเฉยเมย ไม่ค่อยสบตา แม้ว่าบางครั้งอาจยิ้มหรือมีอารมณ์ดีบ้าง
      - Anhedonia เป็นอาการไม่ยินดียินร้าย ไม่สนุก หรือไม่อยากทำสิ่งที่เคยรู้สึกว่าเคยสนุกและอยากทำ
      - Alogia พูดน้อย เนื้อหาที่พูดมีน้อย ใช้เวลานานกว่าจะตอบ
  - - - C. มีอาการต่อเนื่องนาน 6 เดือนขึ้นไป โดยต้องมี Active phase (ตามข้อ A) อย่างน้อยนาน 1
        เดือน (อาจน้อยกว่านี้หากรักษาได้ผล) และอาจรวมถึง Prodomal หรือ Residual phase โดยในช่วง Prodromal หรือ Residual อาการที่พบอาจเป็นเพียงอาการด้านลบ หรืออาการตามข้อ A ตั้งแต่ 2 อาการแต่แสดงออกแบบเล็กน้อย
      - D. ต้องแยกโรคจิตอารมณ์ โรคซึมเศร้า หรือโรคอารมณ์สองขั้วออก
      - B. ระดับความสามารถในด้านสำคัญ ๆ เช่น ด้านการทำงาน การมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น หรือการ
        ดูแลตนเอง ลดลงไปจากเดิมอย่างชัดเจนอย่างน้อย 1 ด้าน
      - E. ต้องแยกอาการโรคจิตที่เกิดจากสาเหตุทางร่างกายและสารสารเสพติดออก
      - A. มีอาการนี้ตั้งแต่ 2 อาการขึ้นไปนาน 1 เดือน โดยอย่างน้อยต้องมีอาการในข้อ 1-3 อยู่ 1 อาการ 1. อาการหลงผิด 1. อาการหลงผิด 2. อาการประสาทหลอน 3. การพูดอย่างไม่มีระเบียบแบบแผน 4. พฤติกรรมที่ไม่มีระเบียบแบบแผน 5. อาการด้านลบ เช่น สีหน้าทื่อ เฉยเมย
      - F. ผู้ป่วยที่มีประวัติกลุ่มโรคออทิสติก หรือโรคเกี่ยวกับการสื่อสารตั้งแต่วัยเด็ก จะวินิจฉัยโรคจิตเภทก็ต่อเมื่อมีอาการหลงผิดหรืออาการประสาทหลอนที่เด่นชัดเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน ร่วมด้วย
  - - - อาการประสาทหลอน (Hallucination) ซึ่งเป็นอาการที่มีการรับรู้ทั้ง ๆ ที่ไม่มีสิ่งกระตุ้น ซึ่งเป็นไปได้ทั้งทางรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส อาการประสาทหลอนที่พบบ่อย คือ หูแว่ว
      - อาการด้านความคิด (Disorganized of thought) ผู้ป่วยมักมีความคิดในลักษณะที่มีเหตุผลแปลก ๆ ไม่เหมาะสม
      - อาการหลงผิด (Delusion) พบมีหลายรูปแบบ เช่น หวาดระแวง
        หลงผิดว่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวล้วนแต่เกี่ยวโยงกับตนเอง หลงผิดคิดว่าตนเองเป็นเทพเจ้า
      - ด้านพฤติกรรม (Disorganized of behavior) พฤติกรรมอาจเปลี่ยนไปอยjางเห็นไดhชัด ซึ่งอาจเกิดจากอาการหลงผิด ประสาทหลอน หรือเป็นจากความคิดแปลก ๆ ของผู้ป่วย บางรายเก็บตัวมากขึ้น อยู่แต่ในห้อง
      - อาการทางด้านลบ (Negative symptoms) ผู้ป่วยขาดในสิ่งที่ควรจะมีในคนทั่ว ๆ ไป ได้แก่ ไม่อยากได้ ไม่กระตือรือร้น เฉื่อยชาลง ไม่สนใจเรื่องแต่งกาย แต่งตัวมอซอ ผู้ป่วยอาจนั่งอยู่เฉย ๆ ทั้งวันโดยไม่ทำอะไร
  - - - ระบบสารชีวเคมีในสมอง ได้เเก่ โดปามีน (Dopaminergic hypothesis) Serotonin
      - กายวิภาคของสมอง ได้แก่ มีปริมาณเนื้อสมองน้อยกว่าปกติ โดยเฉพาะในส่วนของ Cortical gray matter และมี
        Venticle โตกว่าปกติ
      - พันธุกรรม
      - ประสาทสรีรวิทยา พบว่า Cerebral blood flow และ Glucose metabolism ลดลง
- - - - ลักษณะของคำพูด (Pattern
        of speech)
      - การรับรู (Perception) โดยเฉพาะอาการประสาทหลอน (Hallucination)
      - อารมณ์และความรู้สึกที่
        แสดงออก (Mood and affect)
      - ความคิด (Thought)
      - ลักษณะทั่วไปของผู้ป่วย
        (General appearance)
      - ความสามารถในการควบคุม
        ตนเอง (Impulsive control)
      - ความสามารถในการรับรู้ กาลเวลา สถานที่ บุคคล (Orientation)
      - ความคิด และพฤติกรรม
        พยายามฆ่าตัวตาย (Attempted
        suicide)
    - - ประวัติในครอบครัว และ
        การเจ็บป่วยทางการ/ทางจิต
      - ประวัติการใช้ยา (Drug)
        และสารเสพติด
      - ลักษณะการดำเนินโรค
        (Course) และระยะเวลาที่
        ผิดปกติ (Duration)
      - ความผิดปกติของ Activity of Daily Living (ADLs) หน้าที่ งานประจำ
      - อาการสำคัญ (Chief
        complain)