Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Idiopathic Thrombocytopenic Purpura (ITP) - Coggle Diagram
Idiopathic Thrombocytopenic Purpura (ITP)
พยาธิสรีรภาพ
กลไกการเกิดโรคเชื่อว่าเกิดจากมีการเพิ่มการทำลายของเกล็ดเลือด ซึ่งเกิดได้จากการที่มีการสร้างแอนติบอดีต่อเกล็ดเลือดของตัวเองซึ่งมักจะเป็น IgG นอกจากนี้ยังมีกลไกอื่นได้แก่ การเกิดภาวะ dysregulation ของ regulatory T cells ทำให้เกิด platelet autoantibodies และเกิด direct cytotoxic effect บนผิวของเกล็ดเลือด ส่งผลให้เกล็ดเลือดถูกทำลาย นอกจากนี้ยังพบได้ว่าผู้ป่วย ITP จะมีการสร้างเกล็ดเลือดลดลงด้วย
อาการ
ส่วนใหญ่มีอาการเลือดออกตามผิวหนังและอวัยวะต่างๆ โดยไม่มีสาเหตุใดๆนำมาก่อนเช่น petechiae, purpuric spot, echymosis, epistaxis, abnormal menstrual bleeding หรือ เสียเลือดอย่างรวดเร็วและรุนแรงจาก GI bleeding, ตับม้ามและต่อมน้ำเหลืองไม่โต บางรายมีการติดเชื้อ URI นำมาก่อน ภาวะแทรกซ้อนที่น่ากลัวที่สุดคือ intracranial hemorrhage
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
เกล็ดเลือดต่ำกว่า hemostatic level คือ 60,000 เซลล์/ลบ.มม. รายที่มีอาการรุนแรงมักจะต่ำกว่า 20,000 เซลล์/ลบ.มม.
hematrocrit อยู่ในเกณฑ์ปกติ ยกเว้นในรายที่มีเลือดออกรุนแรง หรือเลือดเรื้อรังอาจมีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กร่วมด้วย
WBC ปกติ บางรายพบ lymphocyte สูง
bone marrow พบตัวอ่อนของเกล็ดเลือดเพิ่มขึ้น
platelet antibody ได้ผลบวกร้อยละ 38 - 76 % 6. platelet อายุสั้นไม่เกิน 1 วัน ( ปกติ 9 - 11 วัน )
การรักษา
1.การให้เกร็ดเลือด ให้เกล็ดเลือดเฉพาะในรายที่มีเลือดออกรุนแรง หรือออกในอวัยวะที่สำคัญๆ เช่นสมอง หรือในการผ่าตัด
การรักษาด้วยยากลุ่ม Corticosteroid ยาจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหลอดเลือด สกัดไม่ให้ ระบบ reticuloendotherium ทำลายเกล็ดเลือด และออกฤทธิ์ลดการสร้าง antibody ต่อเกล็ดเลือด ได้แก่
2.1 Dexamethasone ขนาด 40 mg/day เป็นเวลา 4 วันให้ทุก 2-4 สัปดาห์ จำนวน 1-4 ครั้ง
2.2 Methylprednisolone ขนาด 30 mg/kg/day เป็นเวลา 7 วัน
2.3 Prednisolone ขนาด 0.5-2 mg/kg/day เป็นเวลา 2-4 สัปดาห์
Intravenous immunoglobulin (IVIg) ขนาด 400 mg/kg/day เป็นเวลา 5 วัน
Intravenous anti-D ขนาด 50-75 Mg/ kg ซึ่งสามารถให้ได้ในผู้ป่วยที่มีหมู่เลือด Rh+ เท่านั้น สำหรับผู้ป่วยที่มีหมู่เลือด Rh-จะไม่สามารถรักษาด้วยการให้ยานี้ได้ ผลข้างเคียงที่พบบ่อยจากการให้ anit-D คือ ภาวะเม็ดเลือดแดงแตก ไข้/ หนาวสั่น ดังนั้นควรให้ในกรณีที่มีข้อห้ามในการให้ยา corticosteroids
5.ทำผ่าตัดเอาม้ามออก ( splenectomy ) ในรายที่รักษาด้วย Pednisolone ไม่ได้ผล เนื่องจากม้ามเป็นแหล่งที่สำคัญในการทำลายเกล็ดเลือด ดังนั้นการตัดม้ามออกจึงเป็นการแก้ปัญหาเกล็ดเลือดต่ำได้
การรักษาตามอาการ
หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เลือดออก เช่นเดียวกับผู้ป่วยเลือดออกง่ายทั่วไป
การห้ามเลือดที่ออกในจมูกด้วยการทำ anterior nasal packing ถ้ายังออกไม่หยุด ทำ posterior nasal packing
ให้เกล็ดเลือดเฉพาะในรายที่มีเลือดออกรุนแรง หรือออกในอวัยวะที่สำคัญๆ เช่นสมอง หรือในการผ่าตัด
การพยาบาล
กลุ่มที่มีความเสี่ยงน้อย (100,000 < platelet > 50,000)
สังเกตอาการ/อาการแสดงของภาวะเลือดออกเช่น เลือดออกภายในร่างกาย โดยสังเกตได้จากจุดเลือดออกใต้ผิวหนัง (petechiae) จุดจ้ำเลือด (ecchymosis) มีเลือดออกในเนื้อเยื่อ (hematoma)
งดอาหารสีดำ สีแดง
บ้วนปาก งดแปรงฟัน
กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง (platelet s 20,000)
ดูแลให้ผู้ป่วย Absolute bed rest
สังเกตจุดเลือดออกใต้ผิวหนัง (petechiae) จุดจ้ำเลือด (ecchymosis) มีเลือดออกในเนื้อเยื่อ(hematoma) เลือดออกในทางเดินอาหาร เช่น อาเจียนเป็นเลือดสด ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสด มูกเลือด หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำเหมือนถ่านมีกลิ่นเหม็น (melenaเลือดออกในทางเดินปัสสาวะ ปัสสาวะเป็นเลือด หรือเป็นสีน้ำล้างเนื้อ
สังเกตอาการทางระบบประสาท ได้แก่ การมองเห็นเปลี่ยนแปลง อาการปวดร่วมกับอาการชา (numbness) คล้ายเข็มทิ่ม(tingling) และอาการอ่อนแรง (weakness) ปวดศีรษะ ซึมลง อาเจียนพุ่ง ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง
ประเมินสัญญาณชีพผู้ป่วย (vital signs) และสัญญาณทางระบบประสาท (neuro signs) ทุก 1 ชั่วโมง หากมีอาการเปลี่ยนแปลง
เพื่อช่วยให้เลือดหยุดและป้องกันไม่ให้เลือดออกโดยการ Stop bleeding
-บาดแผล ทำ pressure dressing นานประมาณ 10 - 15 นาที หรือจนเลือดหยุด งดการเคลื่อนไหวบริเวณนั้นและยกบริเวณที่มีเลือดออกให้สูงเหนือกว่าระดับหัวใจ
Purpura ให้ผู้ป่วยนอนพักบนเตียง
Epistaxis ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้บีบปีกจมูกทั้งสองข้าง และวางกระเป๋าน้ำแข็งหรือ cold pack ที่บริเวณหน้าผาก จัดให้นั่งอยู่ในท่าโยกตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย หรือนอนศีรษะสูงตะแคงหน้าไปด้านที่มีเลือดออก เพื่อให้ผู้ป่วยคายเลือดที่ไหลลงคอได้สะดวก ถ้าเลือดออกมากและไม่หยุดไหล แพทย์จะทำ anterior nasal packing ด้วย gel foam หรือ gauze drain ชุบ Adrenalin 1 : 1000
ป้องกัน bleeding โดยไม่ให้เกิด trauma
ให้การพยาบาลอย่างนุ่มนวล การอาบน้ำผู้ป่วยต้องทำอย่างเบามือ ใช้แปรงสีฟันชนิดขนอ่อน ขณะที่มีเลือดออกต้องงดแปรงฟันทำความสะอาดปากฟันโดยการ บ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก เช็ดเบาๆด้วยไม้พันสำลี ห้ามดึงลิ่มเลือดออก
ขณะที่ผู้ป่วยหลับหรือสลึมสลือ ให้ยกไม้กั้นเตียงขึ้นทุกครั้งป้องกันตกเตียง
ห้ามฉีดยาทางกล้ามเนื้อ ถ้า platelets น้อยกว่า 50,000 เซลล์/ลบ.มม.
การเจาะเลือด การแทงเข็มให้สารน้ำควรให้ผู้ที่มีความชำนาญเป็นผู้ทำ ภายหลังเอาเข็มออกจากตัวผู้ป่วยต้องกดรอยเข็มไว้นานๆประมาณ 5 - 10 นาทีและต้องแน่ใจว่าเลือดหยุดจริง
ถ้า IV leakaged ต้องหยุดการให้ทันที เพราะอาจทำให้เลือดออกมาใต้ชั้นผิวหนังนอกเส้นเลือด ทำให้เกิด tissue necrosis ได้