Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Leukemia (มะเร็งเม็ดเลือดขาว), นางสาวภัชชา กฤษณะชัยยะ เลขที่46 …
Leukemia (มะเร็งเม็ดเลือดขาว)
ความหมาย
โรคมะเร็งที่เกิดขึ้นในไขกระดูกเนื่องจากไขกระดูกมีการสร้างเม็ดเลือดขาวผิดปกติ
พยาธิสภาพ
การเพิ่มจํานวนของเม็ดเลือดขาวในไขกระดูกอย่างผิดปกติเป็นจํานวน มากและควบคมุ ไม่ได้ ทําให้เกิดการสะสมของเม็ดเลือดขาวตัวอ่อนซึ่งทําหน้าที่ไม่ได้ (“blast” cell) จนเต็มไขกระดูก แล้ว ปล่อยเข้าสู่กระแสเลือดทําให้มีปริมาณเม็ดเลือดขาวในกระแสเลือดสูงขึ้น
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน (acute leukemia) เป็นโรคที่มีการเพิ่มจํานวนของเม็ดเลือดขาวตัวอ่อนที่ไม่ สามารถเจริญเป็นเม็ดเลือดขาวตัวแก่ปกติได้
อาการและอาการแสดง
การอ่อนเพลีย ซีด มีไข้เนื่องจากการติดเชื้อเนื่องจากเม็ดเลือดขาวตัวแก่ที่มีหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อมีปริมาณลดลงและเลือดออกง่าย
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง เป็นโรคที่มีการเพิ่มจํานวนของเม็ดเลือดขาวอย่างผิดปกติ แต่ยังสามารถเจริญเติบโต เป็นเม็ดเลือดขาวตัวแก่ได้ ทําให้อาการของโรคค่อยเป็นค่อยไป
อาการและอาการแสดง
ระยะแรกผู้ป่วยมักไม่มีอาการ จนกระทั่งปริมาณ เม็ดเลือดขาวในกระแสเลือดสูงขึ้นมาก จนทําให้อ่อนเพลียหรือโลหิตจาง หรือไปสะสมในม้ามทําให้ม้ามโต ท้องอืด หรือคลําได้ก้อนในท้อง
สาเหตุและปัจจัยที่ก่อให้เกิด
พันธุกรรม สารรังสี สารเคมี การได้รับสารเคมีบางอย่างเป็นเวลานาน
การวินิจฉัย
พบปริมาณเม็ดเลือดขาวสูงขึ้นในกระแสเลือด ร่วมกับการตรวจไขกระดูก หาก เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันจะพบปริมาณเม็ดเลือดขาวตัวอ่อนมากกว่าร้อยละ 20 ของเซลล์ในไขกระดูกทั้งหมด หากเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังจะพบปริมาณเม็ดเลือดขาวทั้งตัวอ่อนและตัวแก่ปริมาณสูงขึ้นในไขกระดูก
นอกจากนี้มี การตรวจพิเศษทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการวินิจฉัย ทั้งการตรวจความผิดปกติของหน่วยพันธุกรรม เช่นพบ Philadelphia chromosome ใน chronic myelogenous leukemia
การตรวจลักษณะการแสดงออกบนผิวเซลล์ ของมะเร็งเม็ดเลือดขาว เช่น T11 protein, terminal deoxynucleotidyl transferase (TDT), หรอื CD33
การตรวจพิเศษที่มีความเฉพาะเจาะจงต่อมะเร็งเม็ดเลือดขาวคือการเจาะไข กระดูก (bone marrow aspiration) และส่งชิ้นเนื้อตรวจ (bone marrow biopsy) เพื่อดู leukemic blast phase cell(เซลล์ตัวอ่อนที่กําลังแบ่งตัว)
การรักษา
เคมีบำบัด
ปลูกถ่ายไขกระดูก
ให้ยายับยั้งความผิดปกติของพันธุกรรม
การพยาบาล
ดูแลผุ้ป่วยด้วยหลัก aseptic technique
ผู้ที่มีการติดเชื้อทางเดินหายใจไม่ควรใกล้ชิดผู้ป่วย
ประเมินสัญญชีพทุก4ชม
ดูแลความสะอาดปากฟัน
ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ CBC เพื่อประเมิน ANC
ประเมินอาการที่เเสดงถึงการมีเลือดออก จุดตามร่างกาย ลักษณะปัสสาวะ อุจจาระ
สังเกตลักษณะหน้าท้อง เพื่อประเมินการมีเลือดในช่องท้องโดยการวัด
หลีกเลี่ยงการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ หากน้องเจาะให้ใช้เข็มที่เล็กที่สุด
เกล็ดเลือด <10000ให้เกล็ดเลือดทางหลอดเลือดดำ
ให้เลือดตามแผนการรักษา
ดูแลให้ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ
ดูแลปฏิบัติกิจกรรมให้เหมาะสม
ประเมินความอิ่มตัวของออกซิเจน การหายใจสั้น
นางสาวภัชชา กฤษณะชัยยะ เลขที่46
รหัสนักศึกษา 62129301523