•Class I sodium channel-blockers
•Class I subgroup 1A : quinidine,procainamide,disopyramide ใช้รักษาภาวะ ventricular arrhythmia
•ผลข้างเคียง
ท้องเสีย เบื่ออาหาร ขมในปาก วิงเวียน ปวดศรีษะ
•Class I subgroup 1B: lidocaine,tocainide,mexiletine
ใช้รักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ร่วมกับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย เฉียบพลัน
•ผลข้างเคียง
-ความดันโลหิตลดลง อาการใจสั่น คลื่นไส้ การได้ยินผิดปกติ
•Class I subgroup 1C: flecainide,propafenone
•Class II blockers: Propanolol,Esmolol
ช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ Esmolol ใช้ในการรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะเฉียบพลัน
•Class III Potassium channel blocker: amiodarone,bretylium (IV), sotalol ทำให้มีระยะ action potential ยาวนาน
Amiodarone ใช้ในภาวะ ventricular arrhythmia รุนแรงและภาวะ Supraventricular arrhythmia
•ผลข้างเคียง
-ทำให้เกิดหัวใจเต้นช้าลงเกิด heart block ได้
-การทำงานของตับ ไต ผิดปกติ
-ผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสแสงแดด
-ความดันโลหิตลดลงเมื่อเปลี่ยนท่า
•Class IV กลุ่มยาต้านแคลเซียม: verapamil
•กลไกการออกฤทธิ์
-ทำให้หัวใจเต้นช้าลง
-ภาวะ supraventricular tachycardia
-ลดอัตราการทำงานของ ventricular
รักษาภาวะ ventricular arrhythmia
•ผลข้างเคียง
-การเต้นหัวใจช้าลง หัวใจหยุดเต้น หัวใจล้มเหลว
-ความดันโลหิตลดลง ปวดศรีษะ มึนงง เวียนศรีษะ ท้องผูก
-อาการบวมของอวัยวะส่วนปลาย เช่น ขา เท้า
•การพยาบาลผุ้ที่ได้รับยารักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
-ประเมินสัญญาณชีพ ประเมินจังหวะ ความแรง การเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต ก่อนและหลังการให้ยา อัตราการเต้นของหัวใจไม่ควรเกิน 120ครั้ง/นาที หรือ ไม่ควรต่ำกว่า 60ครั้ง/นาที
-การให้ยาชนิดฉีดเข้าหลอดเลือดำควรให้ผู้รับยานอนหลับพักจนกว่าสัญญาณอยู่ในระดับปกติ
-ควรจัดเตรียม อุปกรณ์และยาในการช่วยชีวิต ให้พร้อมใช้อยู่เสมอและจัดวางไว้ให้หยิบใช้ได้สะดวก