Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่4 การพยาบาลแบบองค์รวมตามอาการทางจิตที่สำคัญ - Coggle Diagram
หน่วยที่4
การพยาบาลแบบองค์รวมตามอาการทางจิตที่สำคัญ
ความผิดปกติด้านความคิด
ความผิดปกติของกระแสและรูปแบบความคิด
ความผิดปกติในเน้ือหาความคิด
อาการหลงผิด (Delusion)
ความหมาย
เป็นความคิดหรือความเชื่อที่ผิดๆไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเป็นความเชื่อที่ฝังแน่น ไม่สามารถลบล้างหรือเปลี่ยนความเชื่อนั้นได
เป็นความเชื่อที่ผิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่งทั้งๆที่ไม่เป็นความจริงเป็นความเชื่อมั่นของผู้ป่วยและจะไม่เปลี่ยนความเชื่อนั้น
เป็นอาการที่เกิดจากความคิดแปลกๆเข้าใจยากและเป็นสถานการณ์ที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง มักเริ่มมีอาการในวัยผู้ใหญ่ตอนปลายระหว่างอายุ 40-55 ปี และในผู้สูงอายุ
แนวคิดการเกิดอาการหลงผิด
แนวคิดจิตวิเคราะห์
อาการหลงผิดเกิดจากพัฒนาการด้านอารมณ์ล่าช้า จากการขาดการกระตุ้นหรือขาดความสนใจจากพ่อแม่ ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย และไม่สามารถสร้างความไว้วางใจผู้อื่นได้ ความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ
การใช้กลไกป้องกันตนเองทางจิตใช้การโยนความผิดให้ผู้อื่น(Projection)
เกิดอาการหลงผิดต่างๆกันไป ได้แก่อาการหลงผิดที่คิดว่าคนอื่นมารัก (Erotomanic Delusions) อาการหลงผิดแบบมีพลังอานาจ (Delusional Grandiosity) อาการหลงผิดแบบหึงหวง (Delusions of Jealousy)
แนวคิดชีววิทยา
โอกาสเสี่ยงของบุคคลในครอบครัวที่มีสมาชิกมีอาการหลงผิดโดยเฉพาะในฝาแฝด
ความผิดปกติของสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องคือ DopamineSerotoninและNor-epinephrine
แนวคิดด้านสังคม
บุคคลที่มีอาการหลงผิดและหวาดระแวง มักมีพ่อแม่ที่เข้มงวด บังคับและสมบูรณ์แบบมากเกินไป มีความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ
สาเหตุของความหลงผิด
ทางด้านร่างกาย
เป็นโรคที่ทำให้มีการสูญเสียหน้าที่ของอวัยวะของร่างกายที่เกี่ยวข้องกับ
การคิดหรือการรับรู้
ทางด้านจิตใจ
เป็นการใช้กลไกทางจิต (Defense Mechanism)ในการป้องกันตนเองเกินไปและในระดับที่เป็นพยาธิสภาพ
ทางด้านสังคม
จากการเลี้ยงดูในวัยเด็กเลี้ยงดูอย่างไม่มีความสม่ำเสมอเกิดความคิด สงสัยมองโลกในแงร่้ายจนกลายเป็นความคิดหวาดระแวงและหลงผิด
ลักษณะทางคลินิกของผู้ที่มีความหลงผิด
อารมณ์
มีอาการหลงผิดคิดว่าตนเองเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ก็จะรู้สึกยินดีมีความสุขหรือผู้รับบริการที่มีอาการหลงผิด คิดว่าจะมีคนมาปองร้ายมักขี้สงสัย
การรับรู้
มีอาการประสาทหลอนเกี่ยวกับกลิ่น หรือการสัมผัส
สภาวะแห่งตนและการตระหนักรู้
ไม่มีความผิดปกติของการรับรู้วัน เวลา และสถานที่ ยกเว้นอาการหลงผิดที่เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเวลา ส่วนความจามักไม่เปลี่ยนแปลง
ความคิด
ผู้รับบริการมีเนื้อหาความคิดผิดปกติเป็นอาการสำคัญ อาการหลงผิด มัก เป็นระบบ เช่นหลงผิดคิดว่าถูกปองร้าย หรือติดเชื้อ
การควบคุมตนเอง
มีอาการหลงผิดด้านความคิด หรือการวางแผนในการดำเนินการใดๆ เช่น การฆ่าตัวตาย การฆ่าผู้อื่น หรือการก่อความรุนแรง
การตัดสินใจและการหยั่งรู้ตนเอง
มักถูกนำส่งโรงพยาบาลโดยตำรวจ ครอบครัวหรือนายจ้าง
กระบวนการวางแผนการพยาบาล
การประเมินปัญหา
ควรประเมินอาการแสดงออกทางภาษากาย ซึ่งบ่งชี้ถึงความไม่ไว้วางใจบุคคลอื่น
ข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ซักประวัติ
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
รู้สึกไม่ปลอดภัยจากความคิดหลงผิดว่าถูกปองร้าย
มีพฤติกรรมแยกตัว จากการไม่ไว้ใจผู้อื่น
การประเมินผลการพยาบาล
ผู้รับบริการสามารถเผชิญความกลัวจากอาการหลงผิด โดยไม่มีพฤติกรรม
ก้าวร้าวหรือคุกคาม
ผู้รับบริการตระหนักถึงความเป็นจรงิไม่มีอาการหลงผิดหรอืแปลความหมายผิด
การปฏิบัติการพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพเชิงบาบัดกับผู้รับบริการ เพื่อสร้างความไว้วางใจ
ยอมรับอาการหลงผิดของผู้รับบริการ เพื่อสร้างความไว้วางใจ และให้ความช่วยเหลือ
การหวาดระแวง(Paranoid)
บุคคลที่มีความผิดปกติมักจะไม่ไว้วางใจไม่เชื่อใจผู้อื่นระแวงสงสัยโดยขาดหลักฐานหรือข้อมูลสนับสนุนที่เพียงพอ
สาเหตุ
ด้านพันธุกรรม มีประวัติบุคคลในครอบครัว
ด้านการเลี้ยงขาดความอบอุ่นและความรักในครอบครัว
ประสบการณ์ชีวิตประจำวัน เกิดการรับรู้ไปในทางร้าย รู้สึกถูกคุกคาม
การได้รับสารพิษต่างๆ
การเจ็บป่วยด้วยโรคทางจิตเวช
อาการและอาการแสดง
การรับรู้
มักระแวงหรือมองผู้ใกล้ชิดว่าคิดแอบทำร้าย มีเจตนาร้าย ประสงค์ร้าย คอยคุกคาม ทำร้าย ทำอันตราย
มักใช้กลไกป้องกันตนเองแบบโทษผู้อื่น วิธีการปฏิเสธ
อารมณ์
มีความรู้สึกสงสัย คลางแคลงใจ อิจฉาริษยา ขุ่นเคือง โกรธ ระแวดระวัง แบบไม่เป็นมิตรตลอดเวลาอารมณ์อ่อนไหว
พฤติกรรม
มีท่าทีป้องกันตัวเองตลอดเวลาไม่ไว้วางใจผู้อื่น สายตาระแวดระวัง ชอบแอบ มองผู้อื่นด้วยความสงสัย
กลไกการเกิดอาการหวาดระแวง
อาการหวาดระแวงเริ่มก่อตัวขึ้นเทื่อบุคคลเกิดความรู้สึกไม่เชื่อมั่น(Inconsistency)ต่อบุคคลและสิ่งแวดล้อม รู้สึกไม่ไว้วางใจ (Mistrust) รู้สึกไม่เป็นมิตรกับบุคคลทั่วไป (Hostile)
ประเภทของอาการหวาดระแวง
SimpleParanoidState เป็นสภาวะหวาดระแวงซึ่งมีความหลงผิดว่าตนถูกควบคุมบังคับ ถูกปองร้าย หรือถูกกระทำโดยวิธีการพิเศษบางอย่าง
Paranoidเป็นความหวาดระแวงที่เป็นเรื่องราวเกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลานานฝังแน่นโดยไม่มีอาการประสาทหลอนร่วมด้วย
Paraphrenia เป็นอาการหวาดระแวงของจิตเภท (Paranoid Schizophrenia)
Induced Psychosis เป็นอาการหวาดระแวงชนิดเรื้อรังและไม่มีลักษณะชัดเจน
การรักษา
การใช้ยา
จิตบำบัด
พฤติกรรมบำบัด
กระบวนการวางแผนทางการพยาบาล
การประเมินปัญหา
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
การปฏิบัติการพยาบาล
การประเมินผลการพยาบาล
ความผิดปกติด้านการรับรู้
ประสาทลวง (Illusion)
เป็นความผิดปกติของการรับรู้ที่มีสิ่งเร้ากระตุ้นต่อประสาทสัมผัส แต่บุคคลรับรู้หรือแปลผิด เช่นเห็นสายน้าเกลือหรือเห็นเชือกเป็นงู
ประสาทหลอน (Hallucination)
สาเหตุ
เกิดในผู้รับบริการที่มีความผิดปกติทางจิต เช่น จิตเภท ซึมเศร้า เพ้อ สับสน ความจำเสื่อม และอาการที่เกี่ยวข้องกับสุราและสารเสพติด
พยาธิสภาพทางจิต
พยาธิสภาพทางจิตของประสาทหลอนไม่เป็นที่แน่ชัด หลายทฤษฎีหรือแนวคิดพยายาม อธิบายปัจจัยที่สำคัญ ด้านจิตวิทยา สรีรวิทยา และปัจจัยอื่น ๆ มาอธิบาย
อาการและอาการแสดง
มีอาการประสาทหลอนมักอยู่คนเดียว นั่งและจ้องไปที่ใดที่หนึ่งโดยเฉพาะ ยิ้ม และพูดกับตนเอง
การจำแนก
ประสาทหลอนทางหู หรือเสียงแว่ว
ประสาทตาหลอนหรือภาพหลอน
ประสาทหลอนด้านการรับรส
ประสาทหลอนด้านการรับกลิ่น
ประสาทหลอนทางผิวสัมผัส
Superficial Hallucination คือ อาการประสาทหลอนทางผิวกาย
Kinaesthetic Hallucination เป็นอาการประสาทหลอนที่เกิดกับข้อและกล้ามเน้ือ อาการน้ีมักเกิดรว่มกับSomaticDelusion
Visceral Hallucination เป็นอาการประสาทหลอนที่เกิดกับอวัยวะภายใน
กระบวนการวางแผนการพยาบาล
การประเมินสภาพ
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
การประเมินผล
การปฏิบัติการพยาบาล
เป็นการรับรู้แบบผิดๆผ่านประสาทการรับรู้ทั้ง 5 แสดงออกในเรื่องของรูป รส กลิ่น เสียงและสัมผัส
เป็นความผิดปกติของการรับรู้โดยปราศจากสิ่งเร้าภายนอกเป็นไปตามอวัยวะรับรู้ของคนเรา
ความผิดปกติด้านพฤติกรรมและบุคลิกภาพ
บุคลิกภาพผิดปกติ หมายถึงบุคคลที่มีลักษณะและการดำเนินชีวิตซึ่ง แสดงออกทางอารมณ์ ความคิดและเจตคติ ตลอดจนพฤติกรรมแตกต่างไปอย่างมากจากวัฒนธรรมของตนและจะส่งผลกระทบต่ออาชีพและกิจกรรมเกี่ยวกับสังคมของผู้นั้น
บุคลิกภาพแปรปรวนหมายถึงรูปแบบของพฤติกรรมและการดำเนินวิถีชีวิตของบุคคลที่เบี่ยงเบนไปจากสังคมหรือวัฒนธรรมนั้นๆและมักปรับหรือเปลี่ยนได้ยาก
แนวคิดเกี่ยวกับบุคลิกภาพ
แบบชอบแสดงตัวมีลักษณะเปิดเผย กล้าแสดงออก ชอบเป็นจุดเด่น แต่งตัวดี ร่าเริงแจ่มใส ชอบความสนุกสนาน มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือ ชอบเข้าสังคม การสังสรรค์
แบบชอบเก็บตัวมีลักษณะเงียบเฉย ขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก ไม่ค่อย พูด ถ้าจะพูดก็มักจะพูดเรื่องของตัวเอง ชอบเขียนมากกว่าพูด ชอบความเงียบสงบ ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบสังสรรค์
แบบกลางๆมีชีวิตเรียบง่าย ไม่ชอบเก็บตัวมากไปและไม่ชอบ แสดงออกมากไปอยู่คนเดียวก็มีความสุขคบหากับคนทั่วไปได้ดีไม่พูดมากเกินไปไม่น้อยเกินไป
พฤติกรรมแยกตัว /บุคลิกภาพแบบเก็บตัว
ลักษณะทางคลินิก
จะมีลักษณะเย็นชา ห่างเหิน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้อื่น เป็นคนเงียบที่คนเข้าไม่ถึง แยกตัว ไม่เข้าสังคม มีชีวิตอยู่อย่างเงียบ ๆ
ลักษณะเด่น
Out of Reality อยู่ในโลกของความฝัน (Fantasy)
Autistic Thinking ความคิดจะวกวนอยู่แต่เรื่องของตนเอง
เกณฑ์การวินิจฉัย
ชอบทำกิจกรรมที่ต้องทำคนเดียว
ไม่สนใจจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้อื่นหรือใกล้ชิดกับคนในครอบครัว
กลไกการเกิดซึ่งมักเกิดจากการเลี้ยงดู
ครอบครัวที่บิดามารดาหรือบุคคลในครอบครัวมีความขัดแย้งกัน
ครอบครัวมีปัญหาร้าวฉาน ยุ่งยาก บิดามารดาทะเลาะวิวาทกันเสมอ บิดามารดาหย่าร้าง บุคคลในครอบครัวไม่สนใจซึ่งกันและกัน
หมายถึงผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมแยกตนเองจากการพบปะติดต่อกับบุคคล และความกดดันต่างๆหนีจากสิ่งแวดล้อมและความเป็นจริงในชีวิตเพราะทนต่อปัญหาและความกังวลไม่ได้
พฤติกรรมเจ้ากี้เจ้าการ
พฤติกรรมที่มีอิทธิพลควบคุมบุคคลอื่น โดยใช้อพนาจหรืออิทธิพลเหนือผู้อื่น พยายามให้ผู้อื่นทำตามความต้องการของตนเอง โดยไม่คำนึงถึงความต้องการของผู้อื่น
สาเหตุการเกิดพฤติกรรม มักพบในบุคคลมีความวิตกกังวล ความต้องการไม่สมหวัง มีความต้องการโดยไม่คำนึงถึงความต้องการของผู้อื่น การปรับตัวไม่สมดุล
ลักษณะเด่น
ต่อต้านกระบวนการบาบัดรักษา พยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญปัญหา
แสดงพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ
กระบวนการวางแผนการพยาบาล
การประเมินสภาพ
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
การประเมินผล
การปฏิบัติการพยาบาล
นางสาวธัญญารัตน์ ไพเมือง
รหัสนักศึกษา116212201138-7