Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะการคั่งของเลือดที่แผลฝีเย็บ (Hematoma), sss - Coggle Diagram
ภาวะการคั่งของเลือดที่แผลฝีเย็บ
(Hematoma)
ความหมาย
การฉีกขาดของหลอดเลือดดำบริเวณช่องคลอดและอวัยวะสืบพันธ์ภายนอกทำให้เลือดคั่งค้างรวมเป็นถุงโปร่งเห็นได้ชัดพบในรายที่การเย็บแผลฝีเย็บบกพร่อง ทำให้มีเลือดออกบริเวณแผลฝีเย็บ
ถ้าจำนวนลือดที่คั่งค้างมีจำนวนน้อยจะทำให้เกิดอาการปวดบริเวณแผล แผลจะไม่ติดกันเกิดการอักเสบเป็นหนอง
ถ้าตำแหน่งที่เลือดครั่งอยู่ต่ำกว่า Urogenital diapgragmก้อนเลือดที่คั่งค้างจะดันแผลฝีเย็บนุนโป่งไปที่ทวารหนักและก้นกบใารดาหลังคลอดจะเจ็บมากเมื่อแตะบางรายมีความรุ้สึกปวดถ่วงคล้ายกับความรู้สึกต้องการถ่ายอุจาระ
สาเหตุ
บีบคลึงมดลูกรุนแรง ทำให้เลือดคั่งที่ Connective tissue
เย็บซ่อมแซมแผลไม่ดี เช่น เย็บไม่ถึงก้อนแผล
ช่องคลอดได้รับบาจเจ็บ
ตัดฝีเย็บไม่ดี
heemoglobin H disease
ทำให้เลือดแข็งตัวได้ค่อยข้างยากจากภาวะโลหิตจาง
เลือดออกที่ฝีเย็บจำนวนมาก
Hematoma ในที่สุด
การวินิฉัย
จากกการซักประวัติ
เอามือสัมผัสขอบแผล / รอบๆแผลรู้สึกปวดมาก
ปวดฝีเย็บร้าวไปที่ทวารหนัก
ปวดหน่วงลงก้น
จากการตรวจร่างกาย
ฝีเย็บบวม มีสีที่ผิดปกติ มีสีม่งคล้ำ
คลำก้อนใต้ผิวหนัง บริวณใต้เย็บ
ผบกระทบ / ภาวะแทรกซ้อน
Postartum infection : ติดเชื้อหลังคลอด
Hyovolemic shock : ซ็อคจากการเสียเลือด
Anemia : ภาวะโลหิตจาง
การรักษา
Small vuiva Hematoma สามารถซึมซับได้เองโดยไม่ต้องผ่าตัดให้ใช้น้ำแข็งหรือการใช้ความร้อนจะช่วยลดอาการบวมและความไม่สุขสะบายได้
การรักษาทำได้โดยการตัดไหมที่เย็บใว้เพื่อเอาก้อนเลือดที่คั่งอยู่ออก ค้นหาและเบ็บซ้อมแซมจุดที่เลือดออกก่อนจะเย็บปิดแผลฝีเย็บ หากไม่สามารถห้ามเลือดให้หยุดสนิดได้อาจใส่ท่อระบยคาใว้ร่วมด้วย
หากตำแหน่งที่คั่งค้างอยู่เหนือ Urogenital diaphragm ก้อนเลือดจะคั้งค้างบริเวณปากมลูกและดันมดลุกให้ลอยสุงขึ้นไปช่องท้อง เลือดจะเซาะแทรกได้มากกว่ากรณีแรก มารดาอาจมีภาวะซ็อคซีดจากการเสียเลือดมาก การรักาาต้องผ่าตัดเปิดช่องท้องเพื่อระบายเลือดและหาจุดเลือดออก
การพบาบาล
มารดามีภาวะเลือดคั่งบริเวณแผลฝีเย็บ
(Hematoma)
1.ประเมินฝีเย็บซ้ำ(REEDA)ซ้ำทุก 4 hr
Redness แดง
Edema บวม
Ecchymosis ห้องเลือด
Apprximation การชิดของขอบแผล
2.แนะนำประคบเย็นในก้อนมีขนาดน้อยกว่า 3 cm แต่ถ้ายังเพิ่มขนาดให้รายางานแพทย์
3.V/Sเพื่อประเมินภาวะShock
4.ดูแลให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ 5%D/2 1000 cc
5.จัดท่านอน/นั่ง ป้องกันการกดทับบริเวณที่มี Hematoma
6.แนะนำแช่น้ำอุ่นผสมด่างทับทิมเช้าเย็นเพื่อลดอาการปวด และลดอาการบวม
มารดาเสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอด
ประเมินสภาพทั่วไปสัญญาณชีพทุก 5 นาที 2 ครั้งทุก 15 นาที 2 ครั้งทุก 30 นาที 2 ครั้งและทุก 1 ชั่วโมงตามลำดับจนกว่าสัญญาณชีพจะอยู่ในระดับปกติเพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงอาการอาการแสดงภาวะตกเลือดเช่นหน้าซีดเพลียความรู้สึกตัวลดลงชีพจรเบาเร็วความดันโลหิตต่ำ
ดูแลให้สารน้ำสารอาหารสารเลือตทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษาของแพทย์เพื่อทดแทนปริมาณเลือดและสารน้ำที่สูญเสียไปคือ5%D/W/2 1000 cc + syntocinon 20 unit rate 30/min
ให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกตามแผนการรักษาเพื่อเพิ่มการหดรัดตัวของมดลูกส่งผลให้การเสียเลือดลงคือ 5%D/W/2 1000 cc + syntocinon 20 unit rate 30/min
ตรวจคลึงมดลูกด้วยท่าที่นุ่มนวลเพื่อกระตุ้นให้กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวเป็นระยะๆ เส้นเลือดส่วนปลายปิดลดการเสียเลือด
ไล่ก้อนเลือดหรือลิ่มเลือดเศษรกและเยื่อหุ้มทารกที่ข้างค้างในโพรงมดลูกออกเพื่อลดสิ่งขัดขวางการหดตัวของมดลูกสังเกตปริมาณลักษณะเลือดที่ออกจากช่องคลอดและตรวจลักษณะแผลฝีเย็บ
6.จัดให้มารดานอนพักบนเตียงเพื่อลดการใช้พลังงานถ้าเลือดออกมากจัดให้นอนในท่าศีรษะต่ำเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองอย่างเพียงพอเป็นการป้องกันสมองขาดเลือด
ตวงสารน้ำเข้าสารน้ำออกจากร่างกายตลอด 24 ชั่วโมงตามแผนการรักษาเพื่อประเมินการเสียเลือดและภาวะขาดน้ำ
8.ถ้าเลือดยังออกมากมีการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพอาการอาการแสดงที่ยงบอกอาการตกเลือดที่ลงรายงานแพทย์
มารดามีภาวะซีด
สังเกตจำนวนและลักษณะเลือตที่ออกจากช่องคลอดเพื่อประเมินการสูญเสียเลือด 2. แนะนำการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ประเภทโปรตีนวิตามินและธาตุเหล็กสูง ได้แก่ ผักใบเขียวเครื่องในสัตว์
3.ดูแลและเน้นให้เห็นความสำคัญในการรับประทานยาบำรุงตามที่แพทย์ให้รับประทาน
4.ดูแลให้เลือดตามแผนการรักษา PRC 2 unit
ติดตามผลฮีโมโกลบินและฮีมาโตคริต
6.ยกไม้กันเตียงขึ้นและเฝ้าระวังอุบัติเหตุเนื่องจากอ่อนเพลียจากการเสียเลือด
มารดาไม่สุขสบายเนื่องจากปวดฝีเย็บ
ประเมินอาการปวดโดย pain score
อธิบายให้เข้าใจว่าอาการปวดของหญิงหลังคลอดทุกรายเนื่องจากการฉีกขาดของมดลูกตามธรรมชาติ เพื่อให้ลูกเข้าสู่อุ้งเชิงกราน
ช่วยเหลือกิจกรรมบางอย่างที่มารดาหลังคลอดยังไม่สามารถทำได้
พูดคุย เบี่ยงเบนความสนใจอาจทำให้ลดอาการเจ็บปวดได้
ดูแลใช้ห่วงยางฟองน้ำรองเวลานั่งให้นมบุตร เพื่อบรรเทาอาการปวดแผลฝีเย็บ
6.แนะนนำแช่น้ำอุ่นผสมด่างทับทิม เช้าเย็นเพื่อลดอาการปวดและลดอาการบวมบริเวณแผลฝีเย็บ
มารดาขาดความรู้ความเข้าใจใน
การเกิดภาวะ (Hematoma)
1.สร้างสัมพันธภาพและประเมินความรู้ความต้องการในการดูแลสุขภาพองตนเองอย่างไร
2.อธิบายสาเหตุแหละพยาธิของการเกิด Hematoma ให้มารดาเข้าใจ
3.ให้มารดาสักถามข้อสงสัยที่ตนเองสงสัยเกียวกับภาวะที่เกิดขึ้นเกียวกับภาวะที่มารดาเป็น (Hematoma)
4.ให้มารดาปรึกษาและระบายความรู้สึกเกียวกับโรคที่ตนเองเป็นเพื่อให้มารดาได้ระบายความรู้สึกความคับข้อใจ
5.ให้กำลังใจอธิบายว่าภาวะที่เกิดขึ้นนั้นสามารถหายได้และไม่มีผลกระทบที่อาจส่งผลต่อการผิดรูปของอวัยวะเพศสามารถมีบุตรต่อได้โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นกับมารดาจากสาเหตุนี้
6.แนะนำอาการที่ควรจะเรียกเจ้าหน้าที่ เช่น ปวดมาก บวมมาก
มีโอกาสติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายเนื่องจาก
มีแผลในโพรงมดลูกและแผลฝีเย็บ
1.ประเมินอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อบริเวณแผลฝีเย็บ ได้แก่ ปวด บวม แดง ร้อน แผลไม่ติดสนิท มี bleed หรือ discharge ซึม
2.ประเมินอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อในโพรงมดลูก เช่น น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น มีก้อนเลือด
3.ประเมินอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อ ได้แก่ มีไข้ หนาวสั่น หัวใจเต้นเร็ว
4.ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมงเพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
5.แนะนำให้มารดาดูแลทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์ โดยล้างทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง และซับให้แห้ง เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการอับชื้น
6.แนะนำการรับประทานอาหารจำพวกโปรตีน เช่น ไข่ เนื้อสัตว์ นมถั่วเหลือง ผักใบเขียว เพื่อช่วยในการ สร้าง ซ่อมแซมเนื้อเยื่อช่วยในการหายของแผล
ส่งเสริมความรู้ในการดูแลตน
เองหลังจากกลับบ้าน
ให้ความรู้ในเรื่องการดูแลตนเองหลังคลอดดังนี้
1.1 การพักผ่อนและการเริ่มทำงาน ควรพักผ่อนให้มากจนกว่าจะรู้สึกแข็งแรง เหมือนก่อนตั้งครรภ์ การนอนพักผ่อนควรนอนตอนกลางวัน ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ไม่ควรขึ้นบันไดสูงๆ ทำงานบ้านเบาๆไต้ แล้วค่อยเพิ่มขึ้นตามลำตับ อย่าหักโหม ไม่ควรยกของหนัก หรือทำงานที่ต้องออกแรง หลังจาก 6 สัปดาห์ จึงจะทำงานไต้ตามปกติ
1.2 การรับประทานอาหาร รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตามความต้องการของร่างกายอาหารที่ควรรับประทาน เช่นเนื้อสัตว์ต่างๆ ไข่ นมสต ผักทุกชนิด ผลไม้ ดื่มน้ำให้เพียงพออาหารที่ควรงดได้แก่ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ยาดอง เหล้า อาหารหมักดอง น้ำชา กาแฟ เพราะสมารถผ่านทางน้ำนมและไม่ควรซื้อยารับประทานเอง
1.3. ออกกำลังกายหลังคลอด อย่างน้อย 6 สัปดาห์หลังคลอด เช่น
1.3.1 ฝึกการหายใจ เพื่อส่งเสริมการทางานของปอดให้มีประสิทธิภาพ
1.3.2 ฝึกบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อพื้นเชิงกรานกล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอด เอ็นยืดมดลูกแข็งแรงและกระชับขึ้น
13.3 ฝึกการพักผ่อนที่สมบูรณ์ ในระยะหลังคลอด คือการนอนคว่ำ ใช้หมอนรองบริเวณหน้าท้อง เพื่อช่วยให้น้ำคาวปลาไหลสะดวก
1.4 การทำความสะอาตของร่างกาย อาบน้ำวันละ 2 ครั้งไม่ควรแช่ในอ่างจะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ช่องคลอดได้ สามารถสระผมได้ตามปกติ บริเวณอวัยวะสืบพันธ์ภายนอก ควรทำความสะอาดด้วยสบู่และน้ำสะอาดและล้างทุกครั้งหลังถ่ายปัสสาวะอุจจาระ เช็ตให้แห้งถ้ายังมีน้ำดาวปลาอยู่ หมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ ในช่วง 24 ชั่วโมงรกไห้เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4 ชั่วโมง หรือเปลี่ยนก่อนเมื่อเปียกซุ่ม
1.5แนะนำอาการผิตปกติที่ต้องมาพบแพทย์ก่อนครบกำหนดนัดตรวจหลังคลอด ไต้แก่ ไข้สูงติดต่อกันสองวัน ปวดแผลฝีเย็บมากนั่งหรือเดินไม่ไต้ ปัสสาวะแสบขัด น้ำดาวปลาที่เคยออกมาเป็นสีจางแล้วกลับออกมาเป็นเลือด ปริมาณเลือดออกมากขึ้น และมีกลิ่นเหม็น
2.อธิบายและสาธิต และให้ความรู้ในเรื่องทักษะการตูแลบุตรตังนี้
2.1. การเช็ดตา การสระผม การเช็ดตัว
2.2. การทำความสะอาดสะตือ
2.3. การทำความสะอาดของร่างกายของบุตรหลังการขับถ่าย
2.4. การไล่ลมหลังให้นมบุตร
การเช็ดทำความสะอาดหลังการขับถ่าย
2.6. การดูแลผิวหนัง
2.7. การห่อตัวบุตร
2.8. การให้ทารกได้รับอากาศบริสุทธิ์
2.9. การได้รับภูมิคุ้มกัน ในช่วงอายุต่างๆ และการดูแลหลังฉีดวัคซีน
ประเมินความเรื่องการตูแลตนเองหลังคลอดและทวนทักษะการดูแลบุตร ไต้แก่ การอาบน้ำเข็ดตา เช็ดสะดือบุตร การห่อตัว การอุ้ม การจับเรอ
ส่งเสริมการเลี้ยงบุตรด้วยนมแม่อย่างเดียว อย่างน้อย 6 เดือน
1.ประเมินความรู้และทักษะของมารดาต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
เปิดโอกาสให้มารดาได้ซักถามข้อสงสัยต่างๆ ให้ความสนใจพร้อมที่จะตอบคำถาม ด้วยความเต็มใจและชัดเจนเพื่อให้มารดาเข้าใจ
สอนแนะนำและฝึกปฏิบัติ วิธีการให้ทารกดูดนมแม่อย่างถูกวิธี โดยแนะนำเทคนิคการจัดท่ามารดา และทารก อย่างถูกต้องเหมาะสม เทคนิคการเอานมเข้าเต้าและแนะนำวิธีประเมินว่าทารกอมหัวนมและดูดนมได้ถูกต้องหรือไม่ คือทารกต้องอมได้ลึกจนแนวเหงือกของทารกอยู่บนลานหัวนมของ มารดา ลิ้นวางใต้ลานนมขณะที่ริมฝีปากทั้ง2ด้านคือด้านบนและด้านล่างบานออกอยู่รอบเต้านม
เปิดโอกาสให้มารดาระบายความรู้สึกและสอบถามในสิ่งที่สงสัย
ให้กำลังใจชื่นชมเพื่อสร้ามความมั่นให้มารดา