Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โภชนาการของบุคคลในภาวะปกต - Coggle Diagram
โภชนาการของบุคคลในภาวะปกต
โภชนาการสำหรับหญิงตั้งครรภ
การตั้งครรภ์เป็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในภาวะปกติตามธรรมชาติ ไม่ใช่การเจ็บป่วย
มีการสร้างเนื้อเยื่อต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ท าให้ร่างกายต้องการสารอาหารมากขึ้น
หากได้รับอาหารไม่เพียงพอจะมีผลเสียต่อมารดาและทารกในครรภ
การขาดอาหารในทารกที่อยู่ในครรภ์และวัยทารกมีผลต่อการเจริญเติบโตของสมอง
ในเด็กขวบปีแรกถ้ามีการขาดอาหารจะท าให้การเจริญเติบโตของสมองช้ากว่าปกต
การเปลี่ยนแปลงด้านสรีระของหญิงตั้งครรภ์
มดลูกเพิ่มความจ
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงของการไหลเวียนของเลือด
การเปลี่ยนแปลงระบบทางเดินอาหาร
อาการคลื่นไส้อาเจียน
น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
ความต้องการสารอาหารขณะตั้งครรภ์
สารอาหารที่ให้พลังงาน
ควรหลีกเลี่ยงขนมหวานจัด น้ำอัดลม อาหารที่มีไขมัน
โปรตีน ควรได้จากสัตว์ประมาณ 2 ใน 3 ของโปรตีนที่ได้ทั้งหมด
แคลเซียม หญิงตั้งครรภ์ต้องการแคลเซียมเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการสร้างกระดูกและฟันของทารก
เหล็ก ควรกินอาหารที่มีเหล็ก ได้แก่ ตับ ม้าม ไต เลือด ไข่ แดง เนื้อแดงและผักใบเขียวต่างๆ
ไอโอดีน อาหารที่มีไอโอดีนสูง ได้แก่ อาหารทะเลต่างๆ ควรใช้เกลือชนิดที่มีไอโอดีนในการปรุงอาหาร
ทุกวัน จะช่วยป้องกันการขาดไอโอดีน
โฟเลท อาหารที่มีโฟเลทสูง ได้แก่ ผลไม้และผักใบเขียว ถั่วต่างๆ
วิตามินบี6 ช่วยในการเผาผลาญและสังเคราะห์กรดอะมิโน ช่วยสังเคราะห์ heme ซึ่งเป็น
ส่วนประกอบของ Heamoglobin
วิตามินซี
หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับวิตามินซี เพิ่มเป็นวันละ 80 มก.
วิตามินเอ
หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับวิตามินเอวันละ 800 มคก.RE
วิตามินดี มารดาที่ขาดวิตามินดีจะมีผลทำให้ทารกในครรภ์เกิดภาวะแคลเซียมใน
เลือดต่ำ(neonatal hypocacemia)
แนวทางการบริโภคอาหารของหญิงตั้งครรภ์
เนื้อสัตว์ต่างๆ
ควรได้รับเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น เนื้อ หมู ปลา กุ้ง หอย ไก่หรือเป็ด
นม
เป็นอาหารที่ให้โปรตีนคุณภาพดีและมีแคลเซียมที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดี
ไข่
เป็นอาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง คือ ให้โปรตีนที่มีคุณภาพดี
ผลไม้
ควรกินผลไม้ทุกวันๆ ละ 2-4 ครั้ง เพื่อให้ได้รับวิตามินและเกลือแร
ผักชนิดต่างๆ
หญิงตั้งครรภ์ควรกินผักใบเขียวทุกวัน ในปริมาณไม่จ ากัด
ถั่วเมล็ดต่างๆ
เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วด า และถั่วลิสง ซึ่งให้โปรตีนสูง
ไขมันหรือน้ำมัน
เป็นอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย และให้กรดไขมันที่จำเป็น
น้ า
ควรดื่มน้ าวันละ 1,500-2,000 มล. หรือ 6-8 แก้ว
โภชนาการสำหรับหญิงหลังคลอดและให้นมบุตร
อาหารของแม่ในระยะให้นมบุตร คล้ายกับระยะตั้งครรภ์ แต่เพิ่มปริมาณขึ้นเพราะทารก
ต้องการสารอาหารมากกว่าตอนอยู่ในท้อง
ความต้องการวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดเพิ่มขึ้น
การหลั่งน้ำนมของแม่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ
การให้ลูกดูดนม เป็นการกระตุ้นให้มีการหลั่งของน้ านม ควรให้นมลูกทุกๆ 2 ถึง 3 ชม. เพราะ
เป็นช่วงที่เต้านมสร้างน้ านมได้เต็มท
การทำงานหนัก เหนื่อย หรืออดนอน ทำให้มีน้ำนมน้อย น้ำนมในตอนเช้าหลังจากที่ได้พักผ่อน
ทั้งคืนจะมีคุณภาพดีกว่าน้ำนมตอนเย็น
อารมณ์มีผลต่อการหลั่งของน้ำนม ความวิตกกังวลมีผลต่อการหลั่งน้ำนม ความสุข ความรักจะ
กระตุ้นให้น้ำนมออกมาก
ชนิดของน้ำนมแม่หลังคลอด
น้ำนมเหลือง(Colostrum) เป็นน้ำนมที่ออกมาในช่วง 2-4 วันหลังคลอด ช่วงแรกจะมี
ลักษณะใส ต่อมาจะเป็นสีเหลือง น้ านมชนิดนี้มีแร่ธาตุและโปรตีนมาก
น้ำนมระยะปรับเปลี่ยน(Transitional milk) เป็นน้ำนมที่ออกมาในช่วง 7-10 วันหลัง
คลอดไปจนถึง 2 สัปดาห์หลังคลอด
น้ำนมแท้(Mature milk) เป็นน้ำนมที่ออกในวันที่ 10 หลังคลอดหรือ 2 สัปดาห์หลัง
คลอดเป็นต้นไป
ความต้องการสารอาหารในระยะให้นมบุตร
พลังงาน คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ร่างกายต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการผลิต
น้ านมส าหรับทารก
โปรตีน หญิงให้นมบุตรควรได้รับโปรตีนเพิ่มขึ้น 25 กรัม/วัน เพื่อนำไปใช้ผลิตน้ำนมและซ่อมแซม
เซลล์ต่างๆ
แคลเซียม
แม่จะต้องการแคลเซียมมากเพื่อใช้ในการสร้างน้ำนมสำหรับทารก
ธาตุเหล็ก
ระยะให้นมบุตรแม่จะต้องการธาตุเหล็กจากอาหารวันละ 15 มก.
ไอโอดีน
แม่ควรได้รับไอโอดีนให้เพียงพอ เพื่อป้องกันการขาดและให้ทารกได้รับไอโอดีนที่เพียงพอ
วิตามินชนิดต่างๆ วิตามินเอ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของน้ำนม วิตามินดี ควรได้รับในปริมาณที่ปกติเท่ากับก่อนตั้งครรภ์ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินซี
โฟเลท ระยะให้นมบุตรแม่จะต้องการโฟเลทวันละ 500 มคก. โฟเลทช่วยในการสังเคราะห์โปรตีนและ
สารพันธุกรรม
น้ำ แม่ควรดื่มน้ าให้มากขึ้น วันละ 8-10 แก้ว เพื่อให้การหลั่งน้ านมมากขึ้น
ปัญหาโภชนาการในหญิงให้นมบุตร
ความเชื่อเกี่ยวกับอาหารแสลง หญิงให้นมบุตรโดยเฉพาะในเขตชนบท จะมีความเชื่อเรื่องอาหาร
แสลงมากซึ่งเป็นสาเหตุท าให้เกิดการขาดสารอาหาร
ความยากจน ป็นสาเหตุที่ท าให้หญิงหลังคลอดให้นมบุตรขาดโปรตีน เนื่องจากอาหารโปรตีนที่มี
คุณภาพ ได้แก่ เนื้อสัตว์ นม มีราคาแพง
นิสัยการบริโภคไม่ดี หญิงที่มีนิสัยการบริโภคที่ไม่ดีมาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ ท าให้ได้รับสารอาหารที่ไม่
ครบ
ขาดความรู้ด้านโภชนาการการขาดความรู้ด้านโภชนาการท าให้แม่ไม่สามารถเลือกซื้ออาหารที่มี
คุณค่าทางโภชนาการ
โภชนาการสำหรับวัยทารก
อาหารที่เหมาะสมส าหรับทารกทั้งชนิดและปริมาณ เป็นปัจจัยส าคัญต่อการพัฒนาและการ
เจริญเติบโตของร่างกายและสมองเพราะทารกเป็นระยะที่ร่างกายเติบโตอย่างรวดเร็ว
เมื่ออายุ 4-5 เดือนควรมีน้ าหนักตัวเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าของน้ าหนักแรกเกิด และเมื่ออายุ 1 ปี
น้ าหนักควรเพิ่มเป็น 3 เท่าของน้ าหนักแรกเกิด
รับอาหารที่เหมาะสมจึงมีความส าคัญต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของ
ทารก
แรกเกิด-6 เดือนแรก ทารกได้พลังงานและสารอาหารจากนมแม่อย่างเดียว
หลังจาก 6 เดือนไปจนถึงขวบปีแรกทารกจะได้รับพลังงานและสารอาหารจากอาหารอื่นร่วมกับนม
แม่
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
มีคุณค่าทางโภชนาการ
สร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
ทำให้ทารกเจริญเติบโตอย่างเต็มที่
มีผลดีต่อจิตใจแม่และลูก
ช่วยสร้างเสริมพัฒนาการทางสมองและสติปัญญา
ทำให้มดลูกของแม่เข้าอู่เร็ว
ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ช่วยให้ประหยัด
ความพร้อมในการให้อาหารสำหรับทารก
ความพร้อมของระบบทางเดินอาหาร ทารกแรกเกิดจะมี extrusion reflex โดยจะห่อปากเอา
ลิ้นดันอาหารออกมาเมื่อได้รับอาหารกึ่งแข็งกึ่งเหลว
น้ำย่อยต่างๆในกระเพาะอาหารของทารกแรกเกิดถึง 6 เดือน ยังมีปริมาณน้อยมาก
ความพร้อมของไต อัตราการกรองของไตของทารกร้อยละ 15 ของผู้ใหญ่ และจะเพิ่มขึ้นเมื่ออายุ
เพิ่มขึ้นและจะเท่ากับผู้ใหญ่เมื่ออายุ 2 ป
ความพร้อมของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทารก 4-6 เดือน มีความพร้อมในการกินอาหารกึ่ง
แข็งกึ่งเหลว ทารกสามารถควบคุมการทรงตัวของศีรษะและล าตัวได้ด
ข้อแนะนำการให้อาหารสำหรับทารก
ให้นมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน
เริ่มให้อาหารเสริมเมื่ออายุครบ 6 เดือนเต็มควบคู่ไปกับนมแม
เพิ่มจ านวนมื้ออาหารเมื่ออายุลูกเพิ่มขึ้น จนครบ 3 มื้อเมื่อลูกอายุ 10-12 เดือน
ให้อาหารที่มีคุณภาพและครบ 5 หมู่ทุกวัน
เริ่มให้อาหารทีละน้อยในระยะแรก เพื่อให้ทารกฝึกการใช้ลิ้น ริมฝีปาก และการกลืน แ
เริ่มให้ทีละอย่างและเว้นระยะ 1-2 สัปดาห์ ก่อนเริ่มให้อาหารชนิดใหม่ เพื่อสังเกตอาการแพ
เนื้อสัมผัสอาหารจัดให้เหมาะสมกับพัฒนาการของทารก เริ่มจากอาหารเหลว กึ่งเหลว กึ่งแข็ง
อ่อนนิ่มและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
ให้อาหารรสธรรมชาติหลีกเลี่ยงการปรุงแต่งรส
อาหารต้องสะอาดและปลอดภัย
ให้ดื่มน้ำสะอาด งดเครื่องดื่มรสหวานและน้ำอัดลม
เล่นกับลูกสร้างความผูกพัน หมั่นติดตามการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูก
การเลือกอาหารสำหรับทารก
ให้ทารกได้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและหลากหลาย
กินผักผลไม้ทุกวันและกินให้หลากหลายชนิด
กินเนื้อสัตว์ทุกวัน
ให้นมแม่ต่อเนื่องถึงอายุ 2 ปี
ใช้น้ำมันพืชในการประกอบอาหาร
ให้กินอาหารรสธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งรสอาหาร
หลีกเลี่ยงขนม
ที่มีรสหวานจัด มันจัดเค็มจัด และขนมที่เหนียวติดฟัน
โภชนาการสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน
การสร้างนิสัยการรับประทานอาหารที่ดีแก่เด็กก่อนวัยเรียน
เด็กมีการเจริญเติบโตของร่างกาย และมีการเล่นออกกำลังกาย ทำให้สูญเสียพลังงานไป จึงต้อง
จัดอาหารให้เพียงพอ
ควรฝึกให้รับประทานอาหารหลักวันละ 3 มื้อ ให้มีอาหารว่างระหว่างมื้อเช้าและบ่าย
เด็กวัยนี้ต้องการอาหารเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ แต่ควรเพิ่มปริมาณสารอาหารให้มากกว่าเดิม
ควรหัดให้เด็กรับประทานอาหารทุกชนิด ผักและผลไม้สดทุกวัน โดยอาจเริ่มจาก แตงกวา
มะละกอสุก
ให้เด็กลองรับประทานอาหารใหม่ๆ ควรให้ครั้งละน้อยๆ ปรุงรส และสีสันให้น่ากิน
ไม่ควรให้รางวัลจูงใจให้เด็กรับประทานอาหารเป็นการสร้างนิสัยที่ไม่ถูกต้อง
หาเทคนิคหรือวิธีการจูงใจให้เด็กรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
จัดอาหารให้น่ารับประทานเพื่อกระตุ้นให้เกิดความสนใจในการรับประทานอาหาร
ลักษณะและรสชาติต้องจืดอร่อยไม่เค็มจัดหรือหวานจัดเกินไป
สร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดีมีผลต่อการรับประทานอาหาร ไม่ควรรีบเร่ง
เปิดโอกาสให้เด็กมีส่วนร่วมในการเตรียมโต๊ะอาหาร
พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีโดยกินอาหารที่มีคุณค่า พร้อมฝึกมารยาทในการรับประทานอาหาร
โภชนาการสำหรับเด็กวัยเรียน
ข้อปฏิบัติในการจัดอาหารเด็กวัยเรียน
เป็นวัยที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากเด็กก่อนวัยเรียน
พศหญิง เริ่มเข้าสู่วัยแรกรุ่น เมื่ออายุ 10 ปี เร็วกว่าเพศชายประมาณ 2 ปี
การเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ สมองและระบบประสาทจะไม่มีการเจริญเติบโตเพิ่มขนาด
พฤติกรรมการกินที่เป็นปัญหาของเด็กวัยนี้คือ จะไม่ลองกินอาหารที่ไม่เคยกิน
จัดอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในแต่ละวันโดยมีปริมาณพอเหมาะกับความต้องการ
ควรให้เด็กเป็นผู้เสนอรายการอาหารบ้าง เพื่อให้รู้สึกถึงการมีส่วนร่วม
ฝึกวินัยในการรับประทานอาหารให้เป็นเวลา ไม่รับประทานอาหารจุบจิบ
ฝึกให้เด็กรู้จักความพอดีในการรับประทานอาหารแต่ละประเภท
ควรมีอาหารสำรองไว้บ้าง เป็นอาหารที่เตรียมได้ง่ายๆ
โภชนาการสำหรับผู้ใหญ
ความต้องการสารอาหารในวัยผู้ใหญ
พลังงาน ผู้ชายต้องการพลังงานมากกว่าผู้หญิงเพราะในผู้หญิงมีน้ าหนักตัวน้อยกว่าและท ากิจกรรม
น้อยกว่าผู้ชาย พลังงานทั้งหมดควรมาจากคาร์โบไฮเดรตร้อยละ 55 โปรตีนร้อยละ 15 และไขมันร้อยละ
30
โปรตีน วัยนี้ต้องการโปรตีนเพื่อเสริมสร้างเซลล์ต่างๆ ให้ท างานปกติ ควรได้รับโปรตีนวันละ 1 กรัม
ต่อน้ าหนักตัว 1 กก.
วิตามินและเกลือแร่ ัยนี้มีความต้องการพอๆ กับวัยรุ่น ยกเว้นแคลเซียมและฟอสฟอรัสต้องการน้อยลงเหลือ
800 มิลลิกรัมต่อวันผู้ชายต้องการเหล็กลดลงเหลือ 10.4 ในขณะที่ผู้หญิงต้องการเท่าเดิมจนกว่าจะถึงวัยหมด
ประจ าเดือน
อาหารของสตรีวัยทอง
ควรรับประทานอาหารประเภทถั่วต่างๆ ถั่วเหลือง เมล็ดธัญพืช ข้าวซ้อมมือ ปลา ผักและผลไม้
สด
ถั่วเหลืองมีไฟโตเอสโตรเจน(phytoestrogen) ช่วยบรรเทาอาการช่องคลอด
แห้งและโรคกระดูกพรุนได้
ถั่วเป็นแหล่งโปรตีน แคลเซียม แมกนีเซียม โปตัสเซียม
วิตามินบีคอมเพล็กซ์สังกะสีและเหล็ก
บรรเทาอาการประจ าเดือนมาผิดปกติได
เมล็ดธัญพืชทั้งเปลือก มีไฟโตเอสโตรเจน เส้นใยสูง ช่วยควบคุมระดับ cholesterol และ estrogen ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ให้แก่ผิวหนัง
ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาเฟอีน
แอลกอฮอล์ จะไปกดประสาทส่วนกลาง ท าให้เหนื่อยล้า และซึมเศร้า
น้ าตาลจะไปลดการกักเก็บวิตามินบีคอมเพล็กซ์และแร่ธาตุที่จ าเป็นท าให้เกิดการตึงเครียดของ
ประสาท
เนื้อสัตว์ติดมันทำให้อ้วน เครื่องในสัตว์ทำให้เกิดโรคข้ออักเสบ
อาหารที่มีเกลือ และอาหารที่มีโซเดียมสูง จะทำให้เกิดอาการบวมและความดันโลหิตสูง
โภชนาการสำหรับวัยรุ่น
ความต้องการสารอาหารของวัยรุ่น
พลังงาน วัยรุ่นชายควรได้รับพลังงาน 2,300-2,400 kcal/วัน วัยรุ่นหญิงควรได้รับพลังงาน 1,850-2,000 kcal/วัน
โปรตีนควรได้รับโปรตีนอย่างน้อยวันละ 1-2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กก
วิตามินและเกลือแร่ แคลเซียมและฟอสฟอรัส เหล็ก ไอโอดีน วิตามินเอ ิตามินบี2 ิตามินซี น้ า ต้องการ 6-8 แก้วต่อวัน
โภชนาการสำหรับผู้สูงอาย
การเปลี่ยนแปลงของผู้สูงอายุที่มีผลต่อภาวะโภชนาการ
การทำงานของประสาทสัมผัสทั้ง 5 ลดลงนั้นผู้สูงอายุจะมีความไวต่อการรับรสขมและเปรี้ยวเพิ่มขึ้น และการรับรสหวาน
และเค็มลดลง ผู้สูงอายุจึงมักชอบอาหารรสหวานและเค็ม
ภาวะสุขภาพปากและฟัน ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะมีปัญหาฟันผุหรือไม่มีฟัน
การเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหารและลำไส้ลดลง
ประสิทธิภาพการเผาผลาญกลูโคสลดลง
การทำงานของระบบไหลเวียนและไตลดลง
เนื้อเยื่อที่ปราศไขมันลดลง
เนื้อกระดูกลดลงเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป
ปัจจัยด้านเศรษฐกิจและจิตสังคม พบว่าผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวจะรับประทานอาหารได้น้อยลง
ความต้องการสารอาหารในผู้สูงอาย
พลังงาน
ผู้สูงอายุมีความต้องการพลังงานน้อยกว่าวัยหนุ่มสาว
โปรตีนผู้สูงอายุควรได้รับโปรตีน 1 กรัมต่อน้ าหนักตัว 1 กก.ต่อวัน จึงจะเพียงพอ
ไขมัน ผู้สูงอายุควรลดปริมาณไขมันที่บริโภคโดยเฉพาะกรดไขมันอิ่มตัว และโคเลสเตอรอล เพื่อลด
ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
วิตามินดี วิตามินอี วิตามินเควิตามินซี วิตามินบี6
วิตามินบี12 โฟเลต โฟเลต แคลเซียม เหล็ก สังกะสี คาร์โบไฮเดรต วิตามินเอ