Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวคิดและทฤษฎีความเป็นผู้นำ - Coggle Diagram
แนวคิดและทฤษฎีความเป็นผู้นำ
ความหมายของภาวะผู้นำ
ความสามารถของบุคคลหนึ่งที่จะจูงใจหรือใช้อิทธิพลต่อผู้อื่นไม่ว่าจะเป็น ผู้ร่วมงานหรือผู้ใต้บังคับบัญชาในสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อปฏิบัติการและอำนวยการโดยใช้กระบวนการสื่อ ความหมายหรือการติดต่อกันและกันให้ร่วมมือ ร่วมใจกับตนดำเนินการจนกระทั่งบรรลุผลสำเร็จตาม วัตถุประสงค์ของเป้าหมายที่กำหนดไว้
ทฤษฎีความเป็นผู้นำ
ทฤษฎีคุณลักษณะผู้นำหรือทฤษฎีอุปนิสัยผู้นำ (Trait Theories)
The tasks of Leadership
ผู้นำจำเป็นต้องมี 9 อย่าง ได้แก่ มีการกำหนดเป้าหมายของกลุ่ม มี บรรทัดฐานและค่านิยมของกลุ่ม รู้จักสร้างและใช้แรงจูงใจ มีการบริหารจัดการ มีความสามารถในการปฏิบัติการ สามารถอธิบาย ได้ เป็นตัวแทนของกลุ่ม แสดงถึงสัญลักษณ์ของกลุ่ม และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค
Leader – constituent interaction
ผู้นำต้องมีพลังวิเศษเหนือบุคคลอื่นหรือมีอิทธิพลเหนือ
บุคคลอื่นๆ เพื่อที่สนองตอบความต้องการขั้นพื้นฐาน ความคาดหวังของบุคคล และผู้นำต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง สามารถพัฒนาตนเองและพัฒนาให้ผู้ตามมีความแข็งแกร่ง
หลักการของทฤษฎีคุณลักษณะผู้นำหรือทฤษฎีอุปนิสัยผู้นำ
• มีความรู้ความสามารถในการงาน
• เข้าร่วมกิจกรรมด้วยใจรัก
ได้รับการยอมรับจากสมาชิก และสมาชิกเต็มใจทำงานร่วม
ทฤษฎีพฤติกรรมผู้นำ (Behavioral Theories)
Kurt Lewin’s Studies แบ่งลักษณะผู้นำเป็น 3 แบบ
ผู้นำแบบประชาธิปไตย (Democratic Leaders)
ผู้นำแบบตามสบายหรือเสรีนิยม (Laissez- Faire Leaders)
ผู้นำแบบอัตถนิยมหรืออัตตา (Autocratic Leaders)
Likert’s Michigan Studies
แบบใช้อำนาจ (Explorative – Authoritative)
แบบใช้อำนาจเชิงเมตตา (Benevolent – Authoritative)
แบบปรึกษาหารือ (Consultative – Democratic)
แบบมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง (Participative – Democratic)
Blake and Mouton’s managerial Grid กำหนดคุณภาพและลักษณะสัมพันธภาพของคนเป็น 1 – 9 และกำหนดผลผลิตเป็น 1 – 9 เช่นกัน เรียกรูปแบบนี้ว่า Nine-Nine Style (9, 9 style)
แบบมุ่งคนสูง (Country Club Management)
แบบมุ่งงานต่ำมุ่งคนต่ำ (Impoverished)
แบบมุ่งงาน (Task–Oriented/Authority Compliance)
แบบทางสายกลาง ( Middle of The Road Management)
แบบทำงานเป็นทีม (Team Management )
McGregor’s: Theory X and Theory Y
การทำงานกับคนจะต้องคำนึงถึง ธรรมชาติของมนุษย์และ พฤติกรรมของมนุษย
Theory X พื้นฐานของคน พื้นฐานคนขี้เกียจ และต้องมีการลงโทษมีกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
Theory Y เป็นกลุ่มที่มองในแง่ดี มีความตระหนักในหน้าที่ความรับผิดชอบ และมีศักยภาพในตนเอง
ทฤษฎีผู้นำตามสถานการณ์ (Situational or Contingency Leadership Theories)
แนวคิดทฤษฎี 3 – D Management Style
Reddin ได้เพิ่มมิติประสิทธิผลเข้ากับมิติพฤติกรรมด้านงาน และมิติพฤติกรรมด้านมนุษยสัมพันธ์
Theory Z Organization
มนุษย์ทุกคนมีความคิดสร้างสรรค์และความดีอยู่ในตัว ควรเปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติงาน ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนางาน
Life – Cycle Theories
ปริมาณการออกคำสั่ง คำแนะนำต่างๆหรือพฤติกรรมด้านงาน
ปริมาณการสนับสนุนทางอารมณ์ สังคม หรือพฤติกรรมด้านมนุษยสัมพันธ์
ความพร้อมของผู้ตามหรือกลุ่มผู้ตาม
เฮอร์เซย์และบลันชาร์ด (Hersey and Blanchand)
แบ่งความเป็นผู้นำออกเป็น 4 แบบ
ผู้นำแบบมอบหมายงานให้ทำ (Delegation)
ผู้นำแบบเน้นการทำงานแบบมีส่วนร่วม (Participation)
ผู้นำแบบขายความคิด (Selling)
ผู้นำแบบบอกทุกอย่าง (Telling)
Fiedler’s Contingency Model of Leadership Effectiveness
อำนาจของผู้นำ ผู้นำที่ดีที่สุด คือ ผู้ที่เห็นงานสำคัญที่สุด
โครงสร้างของงาน งานที่ให้ความสำคัญ เกี่ยวกับโครงสร้างของงานอำนาจของผู้นำจะลดลง
1) ความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำและผู้ตาม บุคลิกภาพของผู้นำ มีส่วนสำคัญที่จะทำให้กลุ่มยอมรับ
ทฤษฎีผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Transformational Leadership Theories)
เบิร์นส์ (Burns) สรุปลักษณะผู้นำเป็น 3 แบบ
ความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Transformational Leadership)
ผู้นำจริยธรรม (Moral Leadership)
ความเป็นผู้นำเชิงแลกเปลี่ยน หรือเป้าหมาย (Transactional Leadership)
แบสส์ (Bass)
คุณลักษณะส่วนตัวของผู้นำเอง ได้แก่ บุคลิกภาพ ความสามารถเฉพาะบุคคล และความสนใจของแต่ละบุคคล
สิ่งแวดล้อมภายในองค์กร ได้แก่ งาน เพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา และวัฒนธรรมองค์กร
สิ่งแวดล้อมภายนอกองค์กร ได้แก่ เศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในสังคม วัฒนธรรม และประเพณีของแต่ละท้องถิ่น
ความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Transformational Leadership)
การยอมรับความแตกต่างของบุคคล (Individualized consideration)
การกระตุ้นให้ใช้สติปัญญา (Intellectual stimulation)
บุคลิกภาพที่น่านับถือ (Charisma)
ความเป็นผู้นำเชิงเป้าหมาย (Transactional Leadership)
1) การให้รางวัลตามสถานการณ์ (contingent reward)
การจัดการโดยยึดกฎระเบียบ (management by exception)
การแยกผู้นำการเปลี่ยนแปลง และผู้นำเชิงเป้าหมาย
แยกที่ความสามารถในการกระตุ้นให้ผู้ตามเกิดสติปัญญา รู้จักคิดแก้ปัญหาเก่าในแนวทางใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์ มีโลกทัศน์ที่กว้างไกลในการทำงาน