Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โภชนาการของบุคคลในภาวะปกติ, โฟเลท, แคลเซียม, โปรตีน, เหล็ก, ไอโอดีน,…
-
โฟเลท
- การขาดโฟเลทจะท าให้การเจริญเติบโตของเซลล์และการแบ่งเซลล์บกพร่อง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ท า
ให้ทารกมีความผิดปกติแต่ก าเนิด
- โฟเลทยังจ าเป็นในการสร้างเม็ดเลือดแดง
- อาหารที่มีโฟเลทสูง ได้แก่ ผลไม้และผักใบเขียว ถั่วต่างๆ
- ควรได้รับโฟเลทวันละ 500 มคก. เพิ่มจากปกติซึ่งได้รับ 150 มคก.
- หญิงตั้งครรภ์ที่สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้ที่ใช้ยากันชัก
ควรได้รับโฟเลทเสริมอีก 300 มคก
แคลเซียม
- หญิงตั้งครรภ์ต้องการแคลเซียมเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการสร้างกระดูกและฟันของทารก
- ถ้าหญิงตั้งครรภ์ได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ จะมีการดึงแคลเซียมจากกระดูกแม่เพื่อน าไปสร้าง
กระดูกและฟันของทารก
- หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับแคลเซียม วันละ 1,200 มก.
- อาหารที่ให้แคลเซียมสูง ได้แก่ นม กุ้งแห้ง ปลาเล็กปลาน้อย นมถั่วเหลือง เต้าหู้
โปรตีน
- การได้รับโปรตีนเพียงพอมีผลต่อการเจริญเติบโตของสมองทารก โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนก่อน
คลอดถึง 6 เดือนหลังคลอด
- แนะนำให้กินอาหารโปรตีนเพิ่มขึ้นจากภาวะปกติ 10-14 กรัมต่อวัน
- โปรตีนควรได้จากสัตว์ประมาณ 2 ใน 3 ของโปรตีนที่ได้ทั้งหมด
เหล็ก
- หญิงตั้งครรภ์ต้องการเหล็กเพิ่มมากขึ้นเพื่อใช้ในการสร้างเม็ดเลือดแดงและสะสมไว้ใช้ส าหรับ
แม่ในระยะคลอด ถ
- ควรกินอาหารที่มีเหล็ก ได้แก่ ตับ ม้าม ไต เลือด ไข่แดง เนื้อแดงและผักใบเขียวต่างๆ ใ
- ส่วนใหญ่แพทย์จะให้กินยาที่มีธาตุเหล็กร่วมด้วย โดยเฉพาะ 3 เดือนก่อนคลอด
ไอโอดีน
- ระหว่างตั้งครรภ์ต่อมไทรอยด์จะท างานมากขึ้นท าให้ความต้องการไอโอดีนเพิ่มขึ้น
- ถ้าได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอจะท าให้แม่เป็นโรคคอพอก และมีผลให้ทารกขาดไอโอดีนด้วยซึ่งมี
ผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ท าให้ทารกที่เกิดมาตัวเล็กแกร็นและมีสติปัญญาต่ า
- หญิงมีครรภ์ควรได้รับไอโอดีนวันละ 175 ไมโครกรัม
วิตามินบี6
- หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับวิตามินบี6 เพิ่มจากเดิมวันละ 0.6 มก. เป็นวันละ 2.6 มก.
- วิตามินบี6 ช่วยในการเผาผลาญและสังเคราะห์กรดอะมิโน
- ควรหลีกเลี่ยงขนมหวานจัด น้ าอัดลม อาหารที่มีไขมันมาก
- ตลอดการตั้งครรภ์หญิงมีครรภ์ต้องการพลังงานเพิ่ม 80,000 กิโลแคลอร
วิตามินซี
- การขาดวิตามินซีมีความสัมพันธ์กับการเกิดครรภ์เป็นพิษ(pre-eclamsia) และน้ าเดินก่อน
ก าหนด
วิตามินเอ
- การได้รับมากเกินไปอาจทำให้ทารกมีความผิดปกติแต่กำเนิด จึงควรหลีกเลี่ยงการเสริมวิตามิน
เอในระยะ 3 แรกของการตั้งครรภ์
วิตามินดี
- มารดาที่ขาดวิตามินดีจะมีผลทำให้ทารกในครรภ์เกิดภาวะแคลเซียมใน
เลือดต่ า(neonatal hypocacemia)
- เพื่อใช้ในการเสริมสร้างอวัยวะต่างๆ ของทารก เนื้อเยื่อต่างๆ ของแม่ และการท างานของอวัยวะ
ต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น
-