Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่12 การพยาบาลผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่นที่มีปัญหาสุขภาพในระบบทางเดินปัสสาว…
บทที่12
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่นที่มีปัญหาสุขภาพในระบบทางเดินปัสสาวะ
12.1 การพยาบาลผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่นที่มีปัญหาระบบทางเดินปัสสาวะในระยะเฉียบพลัน และเรื้อรัง
12.1.1 การติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ (Urinary tract infection: UTI)
พยาธิสรีรวิทยา
เมื่อเชื้อจุลชีพผ่านเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ จะเกาะติดกับผนังเยื่อบุเซลล์ แล้วแบ่งตัวเจริญเติบโต ทําให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อและเกิดการระคายเคือง ปริมาณความจุของ กระเพาะปัสสาวะจะผิดปกติและสูญเสียความยืดหยุ่น หากยังมีการอักเสบต่อไปทําให้กระเพาะปัสสาวะยืด ขยาย ทําให้ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่ได้ อาจมีการคั่งค้างของปัสสาวะ ทําให้เชื้อโรคแบ่งตัวได้มากขึ้น และหากเชื้อผ่านจากระเพาะปัสสาวะเข้าสู่ท่อไต จะเกาะติดผนังท่อไต แล้วปล่อยสารที่ออกฤทธิ์ต่อ กล้ามเนื้อเรียบของท่อไต ทําให้ท่อไตขยายตัว และเกิดการอุดตัน ทําให้รูปร่างกรวยไตเปลี่ยนแปลง
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล 1
เสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะเพิ่ม เนื่องจากมีปัสสาวะไหลย้อน หรือกลั้นปัสสาวะ
วัตถุประสงค์
ไม่มีการติดเชื้อเพิ่ม
เกณฑ์การประเมินผล
ไม่แสดงอาการ การติดเชื้อ เช่น มีไข้ ปัสสาวะขุ่น มีเลือดปน
สัญญาณชีพปกติ
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง
กระตุ้นให้เด็กดื่มน้ํา 2,000-3,000 ซีซี เพื่อให้ปัสสาวะเจือจางและกําจัดเชื้อโรคออก จากระบบทางเดินปัสสาวะ
กระตุ้นให้ขับถ่ายปัสสาวะทุก 2-3 ชั่วโมง ไม่ไห้กลั้นปัสสาวะเพื่อไม่ให้ปัสสาวะคั่งค้าง
ดูแลการทําความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ หลังการถ่ายปัสสาวะ รวมทั้งแนะนําไม่ให้กลั้น ปัสสาวะนาน ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อเพิ่ม
12.1.2 ไตอักเสบเฉียบพลัน (Acute glomerulonephritis)
สาเหตุ
ผู้ป่วยโรคไตอักเสบเฉียบพลันส่วนใหญ่จะเคยได้รับการติดเชื้อบริเวณอื่นมาก่อน ได้แก่ การติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น ทอนซิลอักเสบ ไข้หวัด คอหอย อักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ
พยาธิสรีรวิทยา
เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกาย จะเกิดจากกลไกของภูมิต้านทานเชิงซ้อน
(Immune complex mechanism) ต่อการติดเชื้อ โดยเฉพาะเชื้อ Group A - hemolytic streptococcus ทําให้มีการเปลี่ยนแปลงที่บริเวณ Glomeruli เกิดการอักเสบ บวม และมีเซลล์เพิ่มขึ้นทํา ให้ Capillary lumen ของหลอดเลือดฝอยในไตตีบแคบลง บางส่วนขาดเลือดไปเลี้ยงและทําให้การทํางาน ของ Glomerular filtration rate ลดลง
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล 1
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะชักเนื่องจากมีความดันโลหิตสูง จาก การเพิ่มปริมาตรของน้ําและเกลือในร่างกาย และการไหลเวียนของ GFR ลดลง
วัตถุประสงค์
ไม่มีภาวะชัก
เกณฑ์การประเมินผล
ไม่มีภาวะชัก
ปัสสาวะเองได้ ปริมาณปัสสาวะออกปกติ
กิจกรรมการพยาบาล
ดูแลให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนบนเตียง จัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบสงบ เพื่อให้เด็กพักผ่อนอย่างเพียงพอ
เฝ้าระวังอาการชัก สังเกตอาการเตือนก่อนชัก เช่น ตามัว มองเห็นภาพไม่ชัด สับสน พูด ไม่ค่อยรู้เรื่อง เป็นต้น ป้องกันอุบัติเหตุขณะชัก เช่น ตกเตียง เป็นต้น
จํากัดกิจกรรม การเคลื่อนไหว หรือการออกกําลังกาย
ดูแลการได้รับยาลดความดันโลหิต ยาขับปัสสาวะ ตามแผนการรักษา และสังเกต อาการแทรกซ้อนของยา
12.1.3 กลุ่มอาการโรคไตเนโฟรติก (Nephrotic syndrome: NS)
สาเหตุ
ความผิดปกติที่พยาธิสภาพโดยตรง (Primary nephritic syndrome) เช่น เป็นแต่ กําเนิด เกิดความเสียหายที่หน่วยไต (Glomerular injury) หรือ ไม่ทราบสาเหตุ พบในเด็กร้อยละ 90
ภาวะแทรกซ้อน
การติดเชื้อ พบบ่อย คือ ปอดบวม UTI Sepsis Peritonitis
ภาวะทุพโภชนาการ มีการสูญเสียโปรตีนปริมาณมากและนาน เด็กจะเจริญเติบโตไม่สมวัย
ภาวะเลือดแข็งตัวในหลอดเลือด
12.1.4 ภาวะไตวายเฉียบพลัน (Acute renal failure: ARF)
สาเหตุ
Prerenal cause เกิดจากภาวะต่าง ๆ ที่มีผลต่อการกรองที่ไต เช่น ภาวะขาดน้ํารุนแรงเสียเลือดมาก แผลไฟไหม้รุนแรง septic shock เป็นต้น ภาวะเหล่านี้ทําให้หัวใจวาย และเกิด Hypoperfusion ของไต ซึ่งทําให้ปัสสาวะออกน้อย มีความถ่วงจําเพาะและความเข้มข้นสูงขึ้น ถ้าแก้ภาวะ Hypoperfusion ของไตได้ในเวลาไม่นานการทํางานของไตจะฟื้นกลับเป็นปกติในเวลาอันรวดเร็ว
Intrinsic renal cause (true renal cause) โรคหรือการบาดเจ็บของไตมีพยาธิสภาพ เช่น การอักเสบ (AGN) อุดกั้นของหลอดเลือดที่หลอดเลือดแดงและดําของไต โกลเมอรูลัสทิวบูลและ Interstitium การได้รับสารพิษต่อไต ภาวะที่มีปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อของร่างกายและยาบางตัว
Postrenal cause สาเหตุเกิดจาก การอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะ เช่น นิ่ว เนื้องอก ผลึก ยูริค ซึ่งจะทําให้เกิด ARF จะต้องเป็นที่ท่อไตทั้ง 2 ข้าง หรือเป็นที่ทางออกของกระเพาะปัสสาวะ
ระยะของไตวายเฉียบพลัน
ระยะ Onset ระยะเริ่มต้นของการเกิดปัญหา
ระยะ Oliguria เป็นระยะที่ปัสสาวะออกน้อยหรือไม่มีเลย เกิดภาวะน้ําเกิน บวม ความดัน-โลหิตสูง น้ําท่วมปอด หัวใจวาย มีความไม่สมดุลของ Electrolyte กรดด่าง มีการคั่งของของเสียและภูมิ ต้านทานในร่างกายลดลง
ระยะ Diuresis เป็นระยะที่ไตเริ่มฟื้นคืนสู่สภาพเดิม แต่ยังไม่อยู่ในภาวะปกติจะมีการขับ ปัสสาวะออกมาจํานวนมาก จนอาจเกิดภาวะขาดน้ําได้ เกิดภาวะโซเดียมและโปแตสเซียมในเลือดต่ำ ยังมีการ คั่งของของเสียในร่างกาย
ระยะ Post-diuresis (Recovery) ไตเริ่มฟื้นคืนสู่สภาพปกติ
การรักษา
รักษาแบบประคับประคอง เพื่อรอให้ฟื้นจากภาวะ ARF
12.2 บทบาทของครอบครัวและชุมชนในการดูแลผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่นที่มีปัญหาระบบทางเดิน ปัสสาวะในระยะเฉียบพลันและเรื้อรัง
การดูแลภาวะโภชนาการ อาหารสําหรับผู้ป่วยเด็ก
การจัดกิจกรรมการเล่น กิจกรรมการเล่นต้องเหมาะสมกับวัยและสภาพอาการของเด็กเด็กที่มีไข้ ความดันโลหิตสูงและบวม ควรจํากัดกิจกรรมก่อนจนกว่าอาการจะดีขึ้น
การป้องกันอุบัติเหตุ ระวังอุบัติเหตุที่เกิดจากพัฒนาการตามวัยของเด็กและอุบัติเหตุที่เกิดจาก อาการของโรค เช่นเด็กที่มีอาการอ่อนเพลียหรือความดันโลหิตสูงจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคตามวัย พิจารณาจากอาการหรือข้อยกเว้น เช่น เด็กมีไข้ หรือได้รับยาที่ กดการสร้างภูมิคุ้มกันโรคอยู่
การกระตุ้นให้ครอบครัวเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่นที่มีปัญหาในระบบทางเดิน ปัสสาวะ