Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โภชนาการของบุคคลในภาวะปกติ - Coggle Diagram
โภชนาการของบุคคลในภาวะปกติ
โภชนาการทำสำหรับหญิงตั้งครรภ์
การเปลี่ยนแปลงด้านสรีระของหญิงตั้งครรภ์
มดลูกเพิ่มความจุ
กล้ามเนื้อขยายตัว
จำนวนของหลอดเลือดเพิ่มขึ้น
น้ำเหลืองและเส้นประสาทที่มาเลี้ยงมดลูก
การเปลี่ยนแปลงเรื่องฮอร์โมน
ฮอร์โมน estrogen และ progesterone
ช่วยให้ผนังมดลูกแข็งแรงเพิ่มขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของการไหลเวียนของเลือด
ปริมาณของเลือดจะมีการเพิ่มประมาณร้อยละ 45
plasma เพิ่มขึ้น ทำให้ความเข้มข้นของเลือดลงลด
การเปลี่ยนแปลงระบบทางเดินอาหาร
กระเพาะอาหารและลำไส้เคลื่อนไหวน้อยลง น้ำย่อยหลั่งน้อยลง
อาจมีอาการท้องผูกเนื่องจากทารกในครรภ์มีขนาดใหญ่
อาการคลื่นไส้อาเจียน
อาการแพ้ท้อง (morning sickness)
น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
เกณฑ์การเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวที่เหมาะสมในหญิงตั้งครรภ์
หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคอ้วน ควรมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นตลอดการตั้งครรภ์ 7-8 กิโลกรัม
หญิงตั้งครรภ์ที่มีน้ำหนักเกิน ควรน้ำหนักตัวตลอดการตั้งครรภ์
10 กิโลกรัม
หญิงที่ตั้งครรภ์ที่มีน้ำหนักตัวปกติ ควรน้ำหนักตัวตลอดการตั้งครรภ์ 12 กิโลกรัม
หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นวัยรุ่น (อายุ น้อยกว่า 18 ปี) ควรน้ำหนักตลอดการตั้งครรภ์ 14-15 กิโลกรัม
หญิงตั้งครรภ์ที่มีลูกแฝด ควรน้ำหนักตัวตลอดการตั้งครรภ์ 18 kg
ความต้องการสารอาหารขณะตั้งครรภ์
สารอาหารที่ควรได้รับ
ตลอดการตั้งครรภ์ควรได้รับพลังงานเพิ่ม 80,000 kcal
โปรตีน
ส่งผลต่อสติปัญญาลูก
เพิ่มขึ้นจากภาวะปกติ 10-14 กรัมต่อวัน
แคลเซียม
เสริมสร้างกระดูกและฟันของทารก
เหล็ก
การสร้างเม็ดเลือดแดงและสะสมไว้ใช้สำหรับแม่ในระยะคลอด
ไอโอดีน
ถ้ารับไอโอดีนไม่เพียงพอ แม่จะทำให้แม่เป็นโรคคอพอก
ทารกขาดไอโอดีน ทำให้ทารกเกิดมาตัวเล็กแกร็นและสติปัญญาต่ำ
หญิงมีครรภ์ควรได้รับไอโอดีนวันละ175 ไมโครกรัม
โฟเลท
การเจริญเติบโตของโตของเซลล์และการแบ่งเซลล์และการแบ่งเซลล์บกพร่อง
ควรได้รับโฟเลทวันละ 500 มคก.
วิตามินบี 6
ควรได้รับวิตามินซี เพิ่มวันละ 80 มิลลิกรัม
ควรได้รับวิตามินเอวันละ 800 ไมโครกรัม
วิตามินดีหญิงตั้งครรภ์ร่างกายต้องวันละ10 มิลลิลิตร
ปัจจัยอื่นๆที่มีผลต่อการตั้งครรภ์
การดื่มแอลกฮอลอล์ในหญิงตั้งครรภ์มีผลทำให้เกิดความผิดปกติที่เรียกว่า fetal alcholic syndrome
การเจริญเติบโตของสมองช้า :
ทำลายระบบภูมิคุ้มกัน
มีความผิดปกติของกระดูก ใบหน้า และกะโหลกศีรษะ
แนวทางการบริโภคอาหารของหญิงตั้งครรภ์
เนื้อสัตว์ต่างๆ
ผลไม้
ผักชนิดต่างๆ
ไขมันหรือน้ำมัน
น้ำ
โภชนาการสำหรับหญิงหลังคลอดระยะให้นมบุตร
การหลั่งน้ำนมของแม่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ
การทำงานหนัก เหนื่อย พักผ่อนไม่เพียงพอ
ทำให้มีน้ำนมน้อย
อารมณ์มีผลต่อการหลั่งของน้ำนม
ชนิดของน้ำนมแม่หลังคลอด
น้ำนมเหลือง
ระยะน้ำนมปรับเปลี่ยน
น้ำนมแท้
ข้อดีของการให้ลูกดูดนมมารดา
จะไม่มีประจำเดือน 8-12 เดือน
มดลูกเข้าอู่ไวกว่าปกติ
ความต้องการสารอาหารในระยะให้นมบุตร
พลังงาน
โปรตีน
แคลเซียม
ธาตุเหล็ก
ไอโอดีน
วิตามินชนิดต่างๆ
A
D
B1
B2
C
โฟเลท
น้ำ
ปัญหาโภชนาการในการให้นมบุตร
งดรับประทานเนื้อวัว หอย กบและปลาบางชนิด
โภชนาการสำหรับวัยทารก
ความต้องการสารอาหาร
พลังงาน 800 kcal
โปรตีน 16 กรัมต่อวัน
แคลเซียม270 มิลลิกรัมต่อวัน
ไอโอดีน 90 ไมโครกรัมต่อวัน
เหล็ก 9.3 มิลลิกรัมต่อวัน
ฟอสฟอรัส 275 มิลลิกรัมต่อวัน
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
ควรให้นมแม่อย่างเดียว 6เดือน
ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองและสติปัญญา
มดลูกเข้าอู่ไว
นมสำหรับทารก
นมผงสูตร 1
ใช้แทนนมแม่ได้ สำหรับทารก 6เดือนแรก
นมผงสูตร 2
สำหรับเด็กอายุ 6เดือน ถึง 3ปี
นมผงสูตร 3 และสูตร 4
สูตร 3 สำหรับเด็กอายุ 1ปี
สูตร 4 สำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป
โภชนาการสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มอาการและปริมาณอาหารที่ควรบริโภคใน 1วัน
เด็กอายุ 1-3ปี
ข้าว-แป้ง 3 ทัพพี
ผัก 2ทัพพี
เนื้อสัตว์ 3ช้อนกินข้าว
ผลไม้ 3 ส่วน
นม 2แก้ว
น้ำตาล น้อยกว่า 2ช้อนชา
เด็กอายุ 4-5 ปี
ข้าว-แป้ง 5ทัพพี
ผัก 3ทัพพี
ผลไม้ 3ส่วน
เนื้อสัตว์ 3ช้อนกินข้าว
นม2-3แก้ว
น้ำตาล น้อยกว่า 3ช้อนช้า
โภชนาการสำหรับเด็กวัยเรียน
เป็นวัยที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เพศหญิง เริ่มเข้าสู่วันแรกรุ่น เมื่ออายุ 10ปี
เร็วกว่าเพศชายประมาณ 2ปี
พฤติกรรมการกินที่เป็นปัญหา คือจะไม่ลองกินอาหารที่ไม่เคยกิน กินอาหารไม่เป็นเวลา
จัดอาหารให้ครบ 5หมู่
วัยรุ่น
ความต้องการของการของวัยรุ่น
วัยรุ่นชายควรได้รับ 2300-2400 kcal/day
วัยรุ่นหญิงควรพลังงาน 1850-2400 kacl/day
ควรได้รับโปรตีน อย่างน้อยวันละ 1-2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
วิตามินและเกลือแร่
ร่างกายต้องการแคลเซียมและฟอสฟอรัส 1200-1500 มิลลิกรัมต่อวัน
ควรได้รับไอโอดีนวันละ 150 ไมโครกรัม
วิตามินเอ ควรได้รับ 600-700 mcg.RE
วิตามินบี2 1.3-1.7 มิลลิกรัม
วิตามินซี ควรได้รับวันละ 50 มิลลิกรัม
น้ำ
ผู้หญิงต้องการธาตุเหล็กมากกว่าผู้ชาย
โภชนาการสำหรับผู้ใหญ่
วัยนี้ร่างกายจะไม่มีการเสริมสร้างการเจริญเติบโต
พลังงานทั้งหมดควรมาจากคาร์โบไฮเดรตร้อยละ 55 โปรตีนร้อยละ 15 และไขมันร้อยละ 30
ควรได้รับโปรตีนวันละ 1 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
วิตามินและเกลือแร่
ผู้ชายต้องการธาตุเหล็กลดลงเหลือ 10.4
ผู้หญิงต้องการเท่าเดิมจนกว่าจะถึงวัยหมดประจำเดือน
น้ำ
1500-2000 มิลลิลิตร ต่อวัน
วัยทอง
วัยหมดประจำเดือน
กระดูกพรุน กระดูกเปราะ
ขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน
มีอาการหงุดหงิด : วิตกกังวล
โภชนาการสำหรับวัยทอง
พลังงาน
เพศชายควรได้รับพลังงานจากอาหารไม่เกินวันละ 2250 แคล
เพศหญิงควรได้รับพลังงานจากอาหารไม่เกินวันละ 1850 แคล
ผู้สูงอายุควรได้รับโปรตีน 1 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ต่อวัน
ลดปริมาณไขมันที่บริโภคโดยเฉพาะกรดไขมันอิ่มตัว
คาร์โบไฮเดรต
มีโอกาสเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและโรคเบาหวาน
ควรได้รับพลังงานร้อยละ55 ของพลังงานทั้งหมด
วิตามินเอ
ผู้สูงอายุชายควรได้รับ 700 ไมโครกรัม
ผู้สูงอายุหญิงควรได้รับ 600 ไมโครกรัม
วิตามินดี
ผู้สูงอายุชาบและผู้สูงอายุหญิงควรได้รับวันละ 5 มิลลิกรัม
วิตามินอี
ผู้สูงอายุชายและหญิงควรได้รับวันละ 10 และ 8 มิลลิกรัม
วิตามินเค
เพศชายวันละ 80 ไมโครกรัม
เพศหญิงวันละ 65 ไมโครกรัม
วิตามินบี6
ถ้าขาดจะเกิดอาการชาและซีด
วิตามินบี12
ต้องการวันละ 2 ไมโครกรัม
โฟเลต
หากขาดจะเกิดภาวะซีด
แคลเซียม
แคลเซียมสำหรับวัยหมดประจำเดือนวันละ1000-1500 มก.
เหล็ก
เพศชายชายและเพศหญิงต้องการวันละ 10 มิลลิกรัม
สังกะสี
เพศชายและเพศหญิงต้องการวันละ 15 มิลลิกรัม