Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เทคนิควิธีการในการสร้างงานทัศนศิลป์ของศิลปิน, ฟินเชนต์ วิลเลียม ฟานก็อกฮ์…
เทคนิควิธีการในการสร้างงานทัศนศิลป์ของศิลปิน
ศิลปินทัสนศิลป์สาขาจิตรกรรม
ศิลปินต่างประเทศ
ผลงาน
ประวัติ
ฟินเซนต์ ฟาน ก็อกฮ์ ( Vincent van Gogh ) หรือรู้จักในไทยในชื่อ วินเซ้นต์ แวน โก๊ะ (30 มีนาคม ค.ศ. 1853 — 29 กรกฎาคม ค.ศ. 1890) เป็นจิตรกรยุคอิมเพรสชันนิสม์สมัยหลังชาวเนเธอร์แลนด์ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อศิลปะสมัยใหม่ด้วยผลงานที่สีสันสดใสและมีผลกระทบทางอารมณ์ เขามีอาการของโรควิตกกังวลและต้องต่อสู้กับอาการป่วยทางจิตมากขึ้นเรื่อย
เทคนิค
ใน ค.ศ. 1885 เขาเขียนรูป “คนกินมันฝรั่ง” ซึ่งเป็นผลงานสำคัญชิ้นแรกของเขา
ในช่วงเวลานั้นส่วนใหญ่เขาใช้โทนสีทึมและไม่มีวี่แววของการใช้สีสดใส
ที่ทำให้ผลงานในภายหลังของเขาโดดเด่นเลย
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1886 เขาย้ายไปปารีสและได้รู้จักกับศิลปะอิมเพรสชันนิสม์
ภายหลังเขาย้ายไปอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสและประทับใจอากาศอบอุ่นกับแดดแรง ๆ
ที่เขาพบที่นั่น ผลงานของเขาก็เริ่มมีสีสันสว่างมากขึ้นและพัฒนาไปในรูปแบบที่มีความเฉพาะตัว
และเป็นที่รับรู้เมื่อเขาอยู่ที่อาร์เลอ ในปี 1888
ศิลปินต่างประเทศ
ผลงาน
เทคนิค
แนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานของเขาชิ้นนี้ คือ ต้องการถ่ายทอดสภาพความเป็นตริงของธรรมชาติตามที่ตนได้เห็นและสัมผัสผลงานเป็นรูปแบบเสมือนจริง เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากการมองเห็น ทั้งรูปทรง สีสัน และบรรยากาศ เนื้อหาของภาพและสะท้อนให้เห็นโรงนาที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ ท้องฟ้ายามเย็นที่ดวงอาทิตย์เพิ่งตกลับขอบฟ้าไป มีแสงสีส้มอมเทาสาดส่องเงาโรงนาที่ทาบทับลงบนท้องน้ำที่สงบนิ่ง สะท้อนเงาภาพอีกมิติหนึ่งในหน้ำ ยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรอบมีแต่ความเวิ้งว้าง ดูแล้วทำให้เกิดอารมณ์ ความรู้สึกเหมือนมีความอ้างว้างเดียวดาย
ประวัติ
พิต มอนดรีอัน (ค.ศ.1872- 1944) ศิลปินชาวดัตช์ ผู้นำการวาดภาพแบบนามธรรม โดยใช้รูปทรงเรขาคณิต การสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ของตนเอง ซึ่งผลงานในระยะแรกมีลักษณะเป็นธรรมชาตินิยม (Naturalim) เช่นเดียวกับศิลปินร่วมสมัยคนอื่นๆ ต่อมาเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นจึงได้พัฒนารูปแบบและคลี่คลายมาเป็นศิลปะแบบนามธรรม (Abstract) ซึ่งเขาเรียกแนวทางการสร้างสรรค์ผลงานตนเองว่า ลัทธินีโอพลา
ศิลปินไทย
ประวัติ
ประเทือง เอมเจริญ (พ.ศ.2478 - ปัจจุบัน) ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปีพุทธศุกราช 2548 ผู้มีชีวประวัติบนเส้นทางศิลปะที่ได้รับการยอมรับและยกย่องอย่างมากคนหนึ่งของไทย ศิลปินผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างในการสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมรุ่นน้อง ท่านได้ศึกษาหาความรู้ทางด้านศิลปะด้วยตนเองอย่างหนัก รวมทั้งศึกษาถึงความเป็นจริงของธรรมชาติอย่างล่มลึกและจริงจริง จนเกิดมุมมองในการสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นลักษณะเฉพาะตนเอง ซึ่งแรงบันดาลใจพื้นฐานสำคัญที่ท่านนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน คือ ดวงอาทิตย์ที่เป็นต้นกำเนิดของพลังแสงสว่าง
ผลงาน
เทคนิค
รุ้งแม่โพสพ หมายเลข 2 เป็นภาพวาดสีน้ำมันบนผืนผ้าใบ โดยเน้นที่องค์ประกอบของทัศนธาตุที่เป็นสี ซึ่งสีที่ปรากฏในภาพเป็นสีวรรณะอุ่นและสีวรรณะเย็น แต่มีความกลมกลืนเป็นเอกภาพ สื่ออารมณ์ ความรู้สึกที่สดใส ร่าเริง และแสดงสภาวะของการเจริญเติบโต ท่านใช้วิธีการสร้างสรรค์ผลงานโดยเริ่มจากการเขียนขึ้นรูปโดยรวมก่อน จากนั้นจึงระบายสีด้วยทีแปรงเล็กและทีแปรงใหญ่ซ้อนทับกัน โดยเน้นรายละเอียดของรูปทรง คือรวงข้าวที่เขียวชอุ่มให้เด่นชัด โดยการลงสีอ่อน เช่น สีเหลือง สีส้ม เป็นต้น แล้วจึงทับด้วยสีเข้มลงไปตามลำดับสลับกับการซ้อนทับด้วยสีอ่อนในบางส่วน เพื่อให้ภาพมีความหมายและโดดเด่นชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ศิลปินทัศนศิลป์สาขาประติมากรรม
ศิลปืนไทย
ผลงาน
ประวัติ
อาจารย์เฉลิมชัยเป็นจิตรกรที่มีฝีมือเป็นที่ยอมรับคนหนึ่งของประเทศไทย เป็นชาวหมู่บ้านร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย เกิดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 เป็นบุตรคนที่ 3 ของนายฮั่วชิว แซ่โค้ว (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นนายไพศาล) และนางพรศรี อยู่สุข ทำคลอดด้วยหมอตำแยชื่อยายตุ่น ชีวิตตอนเด็ก ๆ เป็นคนเกเร ไม่ตั้งใจเรียน แต่มีความชอบวาดรูป จึงพยายามเข้าเรียนที่เพาะช่างและมหาวิทยาลัยศิลปากร ภาควิชาศิลปไทยรุ่นแรก 2521 เคยได้รับเหรียญทองจากการประกวดผลงานระดับชาติ ในตอนที่เรียนอยู่ตอนปีที่ 4 มีผลงานรูปวาดตามผนังของวัดไทยมากมาย ผลงานปัจจุบัน เฉลิมชัยสร้างวัดร่องขุ่น ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของเขา ด้วยศิลปะไทยประยุกต์ หรือศิลปะสมัยใหม่ .
เทคนิค
“วัดร่องขุ่น” ที่จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยว เมื่อเกือบ 2 ปีก่อนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 18,000 คน ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในปีที่แล้ว
โดยคาดว่าปริมาณคนที่แห่เข้ามาชมผลงานจะมากขึ้นและเหยียบหลักแสนได้ภายในไม่ กี่ปี ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะชาวไทยที่ตั้งใจ
มาเยี่ยมชมผลงานของเฉลิมชัย ซึ่งสิ่งที่เขากล่าวถึงเสมอก็คือต้องการที่จะสร้างงานตลอดชีวิต เขาบอกว่าเกิดจากความต้องการที่จะสร้างงานระดับโลก
ไม่ได้มีปัญหาเรื่องขาดเงิน
ศิลปินต่างชาติ
ประวัติ
6 มีนาคม 1475 - 18 กุมภาพันธ์ 1564) เป็นที่รู้จักก็เป็นเกลันเจโล ( อังกฤษ: / ˌ เมตรaɪ k əl æ n dʒ ə ลิตรoʊ , ˌ เมตรɪ k -/ [1] ) เป็นประติมากรชาวอิตาลีจิตรกร สถาปนิก และกวีแห่งยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาชั้นสูงที่เกิดในสาธารณรัฐฟลอเรนซ์ผู้มีอิทธิพลอย่างหาตัวจับยากในการพัฒนาศิลปะตะวันตก. ความเก่งกาจของเขาคือศิลปะเช่นการสั่งซื้อสูงที่เขามักจะถือว่าเป็นคู่แข่งสำหรับชื่อของเทพที่คนยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาพร้อมกับคู่แข่งของเขาและพี่ร่วมสมัย, เลโอนาร์โดดาวินชี [2]นักวิชาการหลายคนอธิบายว่ามีเกลันเจโลเป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเขา และแม้กระทั่งในฐานะศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล [3] [4]
ผลงาน
เทคนิค
มันถูกแกะสลักด้วยความโล่งอกตื้นเทคนิคที่มักจะจ้างมาจากต้นแบบประติมากรของช่วงต้นศตวรรษที่ 15 Donatello, และอื่น ๆ เช่นDesiderio ดา Settignano [84]ขณะที่พระแม่มารีอยู่ในโปรไฟล์ ลักษณะที่ง่ายที่สุดสำหรับการผ่อนปรนตื้น เด็กแสดงท่าทางบิดเบี้ยวที่จะกลายเป็นลักษณะเฉพาะของงานของมีเกลันเจโล Taddei Tondoของ 1502 แสดงให้เห็นว่าเด็กคริสต์กลัวโดยฟินช์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของตรึงกางเขน [43]รูปแบบที่มีชีวิตชีวาของเด็กต่อมาถูกดัดแปลงโดยราฟาเอลในบริดจ์วอเตอร์มาดอนน่า Bruges มาดอนน่าในช่วงเวลาของการสร้างนั้น ไม่เหมือนกับรูปปั้นอื่นๆ ที่แสดงถึงพระแม่มารีที่มอบลูกชายของเธออย่างภาคภูมิใจ ที่นี่ พระกุมารคริสต์ซึ่งถูกจับมือของมารดาจับไว้ กำลังจะก้าวออกไปสู่โลก [85] พระแม่มารีในกรอบกลม , ภาพวาดครอบครัวศักดิ์สิทธิ์มีองค์ประกอบของทั้งสามงานก่อนหน้านี้: ผ้าสักหลาดของตัวเลขในพื้นหลังมีลักษณะของการบรรเทาต่ำในขณะที่รูปร่างกลมและรูปแบบไดนามิกสะท้อน Taddeo Tondo การเคลื่อนไหวบิดเบี้ยวที่มีอยู่ในBruges Madonnaถูกเน้นในภาพวาด ภาพวาดดังกล่าวบ่งบอกถึงรูปแบบ การเคลื่อนไหว และสีที่ไมเคิลแองเจโลใช้บนเพดานโบสถ์น้อยซิสทีน [43]
ศิลปินทัศนศิลป์สาขาปัตยกรรม
ศิลปินต่างชาติ
ประวิติ
Antoni Gaudi i Cornet หรือ อันตอนี เกาดี อี กูรเนต เกิดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1852 ในประเทศสเปน เขาเป็นนักสถาปนิกที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในประเทศสเปน ด้วยผลงานศิลปะแนว Art Nouveau อีกด้วย
ผลงาน
เทคนิค
นอกเหนือรูปทรงจากธรรมชาติอันเป็นซิกเนเจอร์ของเกาดีแล้ว Sagrada Família ยังประกอบไปด้วยฟาซาด (façade) ที่เล่าเรื่องราวของการประสูติของพระเยซู (Nativity), การตรึงกางเขน (Crucifixion) และการคืนพระชนม์ของพระเยซู (Resurrection of Christ) ส่วนหอคอยทั้ง 18 นั้นสื่อถึงสาวกทั้ง 12, ผู้นิพนธ์พระวรสารทั้ง 4, พระนางมารีย์พรหมจารี และพระผู้เป็นเจ้า
ศินปินไทย
ผลงาน
ประวัติ
องอาจ สาตรพันธุ์ เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2487 กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรคนสุดท้อง ในจำนวนพี่น้อง 4 คน บิดาชื่อนายอัญ สาตรพันธุ์ มารดาชื่อนางลำเจียก สาตรพันธุ์ สมรสกับนางรุจิรัตน์ วิจิตรานนท์ จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนปานะพันธุ์วิทยา จากนั้นจึงได้ไปศึกษาด้านสถาปัตยกรรม ในระดับปริญญาตรี ณ มหาวิทยาลัยคอร์เนล และระดับปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยเยล[5] ภายหลังจบการศึกษาองอาจได้ทำงานกับบริษัท Glen Paulsen & Associates Architects, Bloomfield Hills, รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา จนต่อมาในปี พ.ศ. 2512 ได้ก่อตั้งสำนักงาน ”องอาจสถาปนิก” ขึ้นที่ถนนศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร
ฟินเชนต์ วิลเลียม ฟานก็อกฮ์
The potato Eaters
พิต มอนดรีอัน
Farm near Duivendrecht
ประเทือง เอมเจริญ
รุ้งแม่โพสพ หมายเลข 2
เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
ไมเคิลแองเจโล
มาดอนน่าและลูก
Antoni Gaudi
ด้านใน Sagrada Família via pulse.ng
Sammakorn sales office
องอาจ สาตรพันธุ์